ชื่อนี้ ไม่ใช่ชื่อนักมวย หรือขุนโจรชื่อดังที่ไหนหรอกครับ แต่เป็นชื่อเรียก นักเลง ก็ไม่ผิดเท่าใดนัก เพราะนิสัยของมัน นักเลงชัดๆ...แต่เป็นนักเลงไก่แจ้น่ะครับ
อีกประการหนึ่ง คำกล่าวที่ว่า เจ้าชู้ไก่แจ้ ก็ใช้กับไอ้แจ้ตัวนี้ไม่ได้
ไม่ใช่เพราะมันเจ้าชู้มากกว่าคน เอ๊ย มากกว่าไก่แจ้ตัวอื่นๆ ก็เปล่า แต่เป็นเพราะมันไม่มีไก่สาวๆให้เจ้าชู้ต่างหาก
ไอ้แจ้ตัวนี้ มันเป็นไก่ของใครไม่รู้ รู้แต่ว่า วันดีคืนดี มันเดินออกมากจากไร่อ้อย ตัวคนเดียวโดดๆ เจ้าของบ้านเขาเห็น ก็เลยให้ข้าวให้น้ำกิน จากนั้นมันก็ไม่ไปไหนอีก เขาเลยเลี้ยงมันไว้
แถมละแวกบ้านใกล้เรือนเคียงกันนั้นเล่า ก็มิมีใครเขาเลี้ยงไก่เสียด้วย ไอ้แจ้มันจึงครองโสดโดดเดี่ยวเดียวดายมาหลายปีแล้วครับ
ทุกเช้าเวลาประมาณตี 5 ไม่เกิน 6 โมงเช้า ไอ้แจ้มันก็จะทำหน้าที่ขันปลุกเจ้าของบ้านเป็นประจำเช่นนี้ทุกวัน
ด้วยความที่มันเป็นไก่ตัวเดียว เดือยแหลมเปี๊ยบของมัน ทำให้มันอหังการอยู่ไม่น้อย ทุกๆวัน มันก็จะทดสอบคมเดือยของมันอยู่เรื่อยๆ
มันหาคู่ต่อกรเป็นสัตว์ที่ใหญ่กว่าเสมอ โดยเฉพาะหมาที่เจ้าของบ้านเลี้ยงไว้มีประมาณ ๘ ตัว มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ หมาฝรั่งหมาไทย ไอ้แจ้ไม่เคยกลัว มันไล่ตีเขาไปเสียทั้งหมด
หมาบางตัวโชคร้าย ถูกมันตีถึงขั้นตาบอดไปข้างหนึ่งก็ยังมี
แต่บางวันไอ้แจ้ก็ไม่ได้ท็อปฟอร์มเช่นนั้นไปตลอดหรอกนะครับ เมื่อใดที่เผลอก็เคยโดนหมางับคอพับคออ่อนมาเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ยักกะตาย
แถมยังหาโอกาสเอาคืนหมาตัวที่ทำมันเจ็บเสียด้วย เจ้าของบ้านต้องคอยกันอยู่เป็นประจำ
ทุกวันนี้ ไอ้แจ้ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม อหังการกับเดือยแหลมคมของมัน
นี่แหละครับที่มาของไอ้แจ้แห่งหนองมะค่าโมง
ชาคริต เพชรอินทร์
บ้านโป่งค่า
ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
facebook : ข้าวคำน้ำขัน