space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
space
space
23 กุมภาพันธ์ 2561
space
space
space

หัวตะเข้...เนเวอร์ดาย


หัวตะเข้...เนเวอร์ดาย

โดย ชาคริตเพชรอินทร์ (นายสามเหลี่ยม)


วันหนึ่งขณะกำลังเพลิดเพลินกับการนั่งทำงานจู่ๆก็มีเสียงไลน์ดังขึ้น หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาดู ก็เป็นเจ๊หลาบเจ้าเก่าทักทายมาว่า

“นี่เธอ…ไปทำเรื่องหัวตะเข้มาหน่อยซิเจ๊เกี๊ยก พี่สาวเราบอกว่า เป็นตลาดที่น่าสนใจนะ เพราะเคยเฟื่องฟูมาแล้วก็ฟุบเพราะไฟไหม้ แต่ตอนนี้กำลังจะฟูใหม่…”

เออน่าสนใจเหมือนกันไม่เคยไปเลย มีแต่คนพูดถึงบ่อยเหมือนกันในระยะหลัง อยากลองไปดูสักหน่อย

แต่เสียดายวันเสาร์-อาทิตย์ไม่ว่าง ลองไปวันธรรมดาดูดีกว่า คนไม่เยอะด้วย

ว่าแต่ไปยังไงหว่า…นั่งรถไฟไปสะดวกดี ชมบรรยากาศข้างทางไปด้วย… ไลน์เจ๊หลาบบอกมาเสร็จสรรพ์

ดีเหมือนกันเพราะผมไม่ได้นั่งรถไฟมานานมาแล้ว เป็นสิบปีมั้ง ครั้งสุดท้ายจำได้ว่านั่งไปเชียงใหม่โน่น….

ผมนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงหัวลำโพงต่อรถไฟสายตะวันออก (กบินทร์บุรี) ที่จะผ่านสถานี รถไฟหัวตะเข้ ค่าโดยสารถูกมากแค่ 7 บาท 


บรรยากาศหัวลำโพง


ผมใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงเศษก็มาถึงสถานีรถไฟหัวตะเข้ เพื่อนๆที่ไม่เคยมา ให้ลองสังเกตดูว่าถ้าผ่านสถานีรถไฟพระจอมเกล้าแล้ว สถานีต่อไปก็จะเป็นสถานีหัวตะเข้แล้วครับ…ผมถามน้องนักศึกษาที่นั่งใกล้ๆมาอีกทีนะครับ…


ลงจากรถไฟแล้วก็ใช้ปากต่อไป เพราะไม่เคยมา เจอใครก็ถามไปหมด คนไทยใจดีอย่างนี้ แหละครับถามอะไรก็บอกหมด

ผมเดินลัดเลาะริมคลองไปเรื่อยๆก็จะเจอบ้านเรือนโบราณที่มีสีสันสวยงามอยู่หลายหลัง ก่อนจะเจอป้ายทางเข้าตลาดเก่าหัวตะเข้



เจอแล้วทางเข้าตลาดเก่าหัวตะเข้


พอเดินเข้าตลาดก็ต้องใช้โทรศัพท์ตามหาคนที่เพื่อนของเพื่อนแนะนำมาว่าถ้าอยากรู้เรื่องตลาดโบราณร้อยปีหัวตะเข้ ต้องถามคนนี้....

พี่อ้อย หรือ ป้าอ้อย.... อำภา บุณยเกตุประธานกลุ่มชุมชนคนรักหัวตะเข้...


เจอพี่อ้อยครั้งแรก ผมก็เกรงๆอยู่บ้าง เพราะดูเหมือนจะดุแต่พอได้พูดคุยแล้ว ก็ต้องยอม รับเลยครับว่า พี่อ้อยเป็นคนที่น่ารักมากและมีอุดมการณ์เต็มเปี่ยมที่จะมุ่งมั่นพัฒนา ตลาดหัวตะเข้แห่งนี้ที่พี่อ้อยอยู่มาตั้งแต่อายุ10 ขวบ

พี่อ้อยเล่าให้ฟังว่า…ตลาดน้ำหัวตะเข้มีมาเป็นร้อยปีแล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เคยรุ่งเรืองมาก แต่เมื่อราวปี 2551 พี่ยืนมองตั้งแต่หัวตลาดยันท้ายตลาดไม่เห็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน แม้แต่คนเดียว นอกจากหมาตัวหนึ่งเท่านั้น....เห็นแต่ความทรุดโทรมของตลาดแห่งนี้ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่เน่าสุดๆ....

หลังจากนั้น ตลาดก็ยังมาถูกไฟไหม้ไปอีกหลายครั้งครั้งล่าสุดเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมานี้เอง และก็มีหลายครอบครัว อพยพไปหาที่อยู่ใหม่ในเมืองทิ้งหัวตะเข้ไว้ให้อยู่กับความทรงจำที่เคยรุ่งเรืองเมื่อในอดีต

ดูเหมือนว่าตลาดหัวตะเข้แห่งนี้ตายไปแล้วจริงๆ แต่ศพยังฝังอยู่ในหัวใจ...


ช่วงหนึ่งที่ตลาดน้ำในที่ต่างๆเริ่มบูมมากขึ้นทำให้เจ๊ๆป้าๆในชุมชนเริ่มมีความ หวังขึ้นมาอีกครั้งแต่จะทำอย่างไรเพื่อพลิกฟื้นตลาดหัวตะเข้กลับมาให้ได้

“เราก็มีการคุยกันหลายครั้งว่า จะทำอย่างไรเพราะหัวตะเข้แม้จะมีศักยภาพเป็น แหล่งท่องเที่ยวได้แต่ก็ต้องมีจุดขายเป็นของตัวเอง...เราก็คิดกันว่า ชุมชนของเราแวดล้อมไปด้วยสถาบันการศึกษาที่สำคัญ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหาร วิทยาเขตลาดกระบัง โรงเรียนพรตพิทยพยัตโรงเรียนเชิดเจิมศิลป์

โรงเรียนศึกษาพัฒนา โรงเรียนมาเรียลัย และวิทยาลัยช่างศิลป์เพราะฉะนั้น ชุมชนเรามีต้นทุนเป็นศิลปะ เราจึงนำศิลปะเข้ามาประยุกต์เพื่อเป็น“จุดขาย” ในชุมชนเรา โดยร่วมมือกับสถาบัน การศึกษาต่างๆเหล่านั้นเป็นภาคีเครือข่ายร่วมกัน และนี่จึงเป็นที่มาของตลาดน้ำศิลปะ...


พี่อ้อยเล่าต่ออีกว่า เมื่อเรามีจุดขายของตัวเราเองแล้วต่อไปก็ต้องหากิจกรรม หรืออีเว้นท์ที่เกี่ยวกับงานศิลปะมาทำกันทุกสัปดาห์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เอาไว้กับตลาด

จริงๆจะเรียกว่า อีเว้นท์ ก็คงไม่ถูกนัก เพราะไม่ได้เว้นเลยมีกิจกรรมเสริมอยู่ตลอด เช่น สอนเด็กวาดการ์ตูน การทำว่าวโบราณหรือว่าวใบไม้ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน การทำขนมสายบัวแดง ขนมใบไม้ การสอนถ่ายรูป เป็นต้น

สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้ชุมชนหัวตะเข้ค่อยๆเริ่มฟื้นคืนกลับมาเป็นที่สนใจและรู้จักของ นักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ในหลายๆเรื่องอีกด้วย









อนาคตต่อไปหัวตะเข้จะมีจุดเด่นอะไรที่จะมาดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกหรือไม่ … “ชุมชน เรากำลังปรับปรุงสถานที่ให้เป็นโฮมสเตย์เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาพักและชมความงาม ของพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่ตลาดน้ำแห่งนี้…และกำลังจะทำสถานที่แสดงงานศิลปะอีกด้วย”

มีดาราคือ คุณเรย์แมคโดนัลด์ มาเซ้งร้านค้าไว้ 2 คูหา เพื่อทำเป็นโฮมสเตย์ เช่นกัน ตอนนี้กำลังปรับปรุงอยู่ คุณเรย์บอกว่า จะทำที่พักให้นักท่องเที่ยวอย่างเดียวอาหารการกินแกไม่ทำ ถ้าอยากกินก็ให้ไปกินที่ชาวบ้านชุมชน ทำขายกันเอง...”เป็นความน่ารักของแกอย่างหนึ่ง

โฮมสเตย์ของเรย์แมคโดนัลด์ กำลังปรับปรุงอยู่


ถ้าหากตลาดน้ำที่อื่นๆอยากจะบูมกลับมาเหมือนตลาดน้ำหัวตะเข้ พี่อ้อยจะแนะนำ เขาอย่างไร…. “พี่คิดว่าตลาดน้ำแต่ละแห่ง ก็แตกต่างกันในหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สภาพแวดล้อม สถานที่ชุมชน ฯลฯ สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำก็คือ ต้องหาความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนของตนเองให้เจอก่อน แต่ถ้าไม่มีอัตลักษณ์หรือจุดขายแล้วก็ต้องหาสิ่งอื่นเข้ามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชุมชนตลาดน้ำของตน ดังเช่นที่หัวตะเข้นำเอาศิลปะเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างทุกวันนี้

สุดท้ายก่อนจะลาจากกันพี่อ้อยฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างหนึ่งก็คือ ชุมชนหัวตะเข้เป็นชุมชนเก่าแก่อายุร้อยกว่าปีมีสิ่งหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นและดับไปพร้อมกับผู้คน อยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอนุรักษ์หรือให้การช่วยเหลืออะไรที่ช่วยได้ 

กับฐานการเรียนรู้ที่ยังมีสีชีวิตเช่น โรงกลึงท่อสูบน้ำ เตาเผาเคียวเกี่ยวข้าว เพราะคนรุ่นนี้ตายไปแล้วจะไม่มีใครมาสืบทอดสิ่งต่างๆเหล่านี้


ตลาดน้ำหัวตะเข้ ที่กลับมาได้ในวันนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ ขาดไม่ได้เลยก็คือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชุมชนที่เล็งเห็น คุณค่าและความสำคัญของชุมชนของตน เพราะว่าถ้าเรามีกิจกรรมหรือจุดขายที่ดีเพียงใด ก็ตามแต่ถ้าไม่ได้ความร่วมมือจากชุมชนแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ ตลาดน้ำหัวตะเข้ ก็ไม่มีวันกลับฟื้นคืนมาได้อีก

หัวตะเข้…เนเวอร์ดายจริงๆครับ…..














Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 2 มีนาคม 2561 12:52:25 น. 5 comments
Counter : 2335 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96


 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:3:46:55 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ


โดย: nin (สมาชิกหมายเลข 2442340 ) วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:16:55:13 น.  

 
ขออภัยภาพไม่ขึ้น แก้ไขให้ใหม่แล้วครับ


โดย: นายสามเหลี่ยม วันที่: 2 มีนาคม 2561 เวลา:12:53:13 น.  

 
บรรยายได้เห็นภาพเลยครับ ชอบๆครับ


โดย: ดุรงค์ฤทธิ์ สุดสงวน IP: 1.46.238.242 วันที่: 3 มีนาคม 2561 เวลา:16:30:10 น.  

 
ขอบคุณมากครับ @ดุรงค์ฤทธิ์ สุดสงวน


โดย: นายสามเหลี่ยม วันที่: 7 มีนาคม 2561 เวลา:16:36:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

นายสามเหลี่ยม
Location :
สุพรรณบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เกิดกรุงเทพฯ ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เคยทำงานบริษัทเอกชน อาชีพปัจจุบันเป็นเกษตรกรไร่อ้อย และเป็นนักเขียนอิสระ

space
space
[Add นายสามเหลี่ยม's blog to your web]
space
space
space
space
space