รำลึกอดีตกับรายการเจาะสนาม จูเนียร์

ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 โซนกรุงเทพฯและปริมณฑล
25 มี.ค.54 สนามเดอะ แพค สเตเดียม
อัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพค 0-1 บีซีซี

6 ปีก่อนเคยมีรายการ “เจาะสนาม จูเนียร์” ออกอากาศทางช่อง 7 สี เวลา 5 โมงเย็นวันพฤหัสฯ

โจทย์ของรายการก็คือช่วงเวลา 5 โมงเย็นวันจันทร์-ศุกร์นั้น ทางช่องจำกัดไว้ให้เป็นรายการสำหรับเด็กและเยาวชนเท่านั้น แล้วบังเอิญทีมขายโฆษณาของรายการเจาะสนามที่เพิ่งสูญสลายไปเกิดอยากทำรายการทีวีขึ้นมา โดยยังรู้สึกเสียดายหัวรายการสุดคลาสสิก “เจาะสนาม” อยู่

นั่นทำให้เกิดเป็นรายการนี้ขึ้นมา โดยมีคอนเซ็ปต์ว่า “รายการกีฬาสำหรับเด็กและเยาวชน”

ผมรับบทบาทเป็นโปรดิวเซอร์ (^-^)V

รายการแบ่งเป็น 3 ช่วงครับ เปิดด้วยช่วง “เรื่องเล่าจากดาวดัง” ที่เชิญนักกีฬาดัง ๆ มาพูดคุย, ช่วงที่ 2 จำชื่อช่วงไม่ได้ แต่เป็นช่วงที่สอนกลเม็ดเคล็ดลับการเล่นกีฬาต่าง ๆ ก่อนจะไปปิดท้ายที่ช่วง “เจาะสนาม ตามดาว” ซึ่งรายการจะจัดอีเวนท์กีฬาขึ้นมาเพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสมาแข่งขันกัน

ครั้งหนึ่งรายการคิดอีเวนท์ขึ้นมาโดยตั้งทีมแชมป์รุ่น 16 ปีของสพก.ทั้งบาสเก็ตบอล, วอลเลย์บอลและฟุตบอลเป็นตัวตั้ง จากนั้นก็ให้โรงเรียนอื่น ๆ ท้าเข้ามาเพื่อล้มแชมป์

แต่การ “ล้มแชมป์” ไม่ได้แข่งแค่เกมการแข่งขันเท่านั้น แต่จะคิดเกมที่ดัดแปลงทักษะของกีฬาชนิดนั้น ๆ มาให้ผู้เล่นในทีมแข่งกันด้วย

ครั้งแรกที่คิดคอนเซ็ปต์นี้ขึ้นมา เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีการ “จัดตั้ง” ขึ้นมาก่อน โดยรายการเชิญทั้งทีมแชมป์และทีมท้าชิงมาแข่งกันนั่นแหละ

แชมป์ฟุตบอลปีนั้นคือจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรีซึ่ง “พี่ณพ” คุณอรรณพ สิงห์โตทองดูแลอยู่ พอโทรไปติดต่อปุ๊บ พี่เค้าบอกแค่ว่า “เดี๋ยวพี่จัดให้”

ว่าแล้วก็เชิญโรงเรียนราชวินิตบางแก้วมาเป็นคู่แข่งให้เสร็จสรรพ

แข่งทักษะ เป็นทีมเยือนครับที่ชนะไป

ส่วนเกมการแข่งขันนั้น “ฉลาดแสด” เอาชนะไปขาดลอย 4-0

รวมคะแนนแล้ว จุฬาภรณฯเป็นแชมป์ของรายการไป

ผมชอบช่วงนี้ในรายการที่สุดเลยครับเพราะรู้สึกมีความสุขที่จะได้เห็นการเติบโตของนักกีฬาเยาวชน ยิ่งถ้ารู้ว่าวันนึงพวกเค้าดังขึ้นมา มันรู้สึกปลื้มอย่างบอกไม่ถูก (ทั้ง ๆ ที่น้อง ๆ พวกนี้ดังขึ้นมาได้ ไม่เกี่ยวกะรายการที่ผมทำหรอก :-P)

นักเตะจุฬาภรณฯชุดนั้น ผมจำชื่อยอดรัก นาเมืองรักษ์, สุจริต จันทกลและสุภภรณ์ พรหมพินิจได้แม่น ตอนนี้ทั้ง 3 เป็นขุนพลหลักของศรีราชา ซูซูกิเรียบร้อย

น่าเสียดายที่ผมจำชื่อน้องหมายเลข 7 ซึ่งเปรียบเสมือนซุป’ตาร์ประจำทีมไม่ได้ แต่เชื่อว่าน่าจะเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกแล้วเหมือนกันมั้ง?

ส่วนราชวินิตบางแก้วที่จำได้ก็มีฉัตรชัย นาควิจิตรซึ่งตอนนี้สังกัดเชียงราย ยูไนเต็ด อีกคนก็คือพงษ์พีระ ประจงไสยซึ่งตอนนี้สังกัดราชนาวีสโมสร

จำได้ว่าคนหลังเป็นเด็กฮา ๆ ให้ทำอะไรก็ทำ ให้ฮามันก็ฮา

ช่วงที่ดูไม่ค่อยลงตัวที่สุดก็คือช่วงแรกนั่นแหละ

รายการเด็ก แต่เอานักกีฬามานั่งคุย มันออกจะน่าเบื่อ ๆ - -"

พยายามปรับ พยามเปลี่ยนอยู่หลายครั้งเหมือนกัน เช่น ปรับให้รายการดูวัยรุ่นขึ้น, เชิญเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ มานั่งดูในสตูดิโอแล้วให้ประลองฝีมือกับนักกีฬา ฯลฯ ก็ดูลงตัวขึ้นนิดนึง

ครั้งนึงเคยเชิญ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัยมา

เผอิญช่วงนั้นทีมชาติไทยมีโปรแกรมจะเตะกับเอฟเวอร์ตัน, โบลตัน, แมนฯ ซิตี้ในศึกพรีเมียร์ลีก อิน เอเชียหรือยังไงนี่แหละ ก็เลยใส่มุกให้น้อง ๆ ในสตูดิโอ 3 คนมาเดาะบอลโต้กับลีซอโดยใส่หน้ากากเดวิด มอยส์, เอล ฮัดจิ ดุฟ ส่วนของทีมเรือใบสีฟ้าจำไม่ได้ว่าทำหน้ากากใครขึ้นมา

ใครทำเสียก่อนตกรอบ

เด็ก ๆ พวกนี้แสบครับ กะจะฉีกหน้าศูนย์หน้าทีมชาติไทยเหมือนกัน พยายามเดาะยัดใส่ตัวลีซอ ดีที่เจ้าซอยังเก๋าพอที่จะเอาชนะไปได้ในที่สุด

นักบอลคนอื่นที่เคยเชิญมาก็คือไพฑูรย์ เทียบมาที่ตอนนั้นอยู่โอสถสภา-เอ็ม 150

และอีกคนก็คือ...ศักรินทร์ จันทร์โยธา

เอ่อ...เอ่อ...ขอบอกว่าที่เกริ่นมาซะยาว (มาก) เพราะต้องการเขียนถึงดาวเตะฝีเท้าเยี่ยม ที่ตอนนี้หายสาบสูญไปจากวงการแล้วคนนี้นี่แหละ

ด้านหน้าสนามเดอะ แพค สเตเดียม

มุมขายของที่ระลึกของอัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพค

เจ้าโก้มาพูดเรื่องที่ได้ไปฝึกฟุตบอลกับเอฟเวอร์ตัน ส่วนช่วงแสดงความสามารถ ดาวเตะตีนระเบิดแห่งอัสสัมชัญธนบุรีบอกว่า

“สตูดิโอมันเล็กอ่ะพี่ ไม่ค่อยถนัด”

ก็เลยต้องนัดไปถ่ายเป็นสกู๊ปกันที่สนามซ้อมของโรงเรียน

ผมให้เจ้าโก้โชว์ลีลาการเลี้ยงบอลหลบคู่แข่ง, การวางบอลที่แสนแม่นยำ, การยิงประตูที่สุดเฉียบคม

แม้จะพรสวรรค์สูงขนาดไหน แต่กว่าจะได้ภาพที่ดูแล้ว “เหนือ ๆ” ก็ล่อไปหลายเทคเหมือนกัน

เสร็จแล้วก็สัมภาษณ์เพื่อน ๆ ให้พูดชมเจ้าโก้สักหน่อย จำได้ว่ามีภีรชาติ ยิ้มทองซึ่งตอนนี้เป็นผู้รักษาประตูของราชประชา ไทยแลนด์ แล้วก็มีกรพรหม จรูญพงศ์ซึ่งย้ายลงใต้ไปอยู่ภูเก็ตเรียบร้อย

เพราะมันผ่านมาหลายปีแล้ว ผมเลยจำไม่ได้ว่าในโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรีนั้นมีสนามฟุตบอลไหม? ส่วนสนามซ้อมแห่งนั้นซึ่งโรงเรียนยังใช้ซ้อมมาถึงทุกวันนี้น่ะ ไม่เหมาะกับการใช้แข่งฟุตบอลลีกแน่ ๆ

ตอนที่อัสสัมชัญธนบุรีเอาชนะจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในรอบรองฯฟุตบอลถ้วย ข พร้อมกับคว้าสิทธิ์ในการลงเล่นดิวิชัน 2 ได้ ผมจึงสงสัยว่าจะใช้สนามเหย้าที่ไหน?

คำตอบคือเดอะ แพค สเตเดียมครับ

อ่านรายละเอียดแล้วพบว่าเป็นสนามฟุตบอลให้เช่า ผมสงสัยว่าสามารถใช้แข่งได้จริงหรอ?

“พรุ่งนี้พี่ว่าจะไปดูเกมดิวิชัน 2 แถว ๆ บ้านที่เดอะแพคสักหน่อย” ธงชัย สุขโกกี หนึ่งในโค้ชคนคู่แห่งจามจุรี ยูไนเต็ดเกริ่นขึ้นมาหลังพาทีมบุกไปแบ่งแต้มจาก “ปีศาจแดงแห่งปากน้ำ” สมุทรปราการ ยูไนเต็ดได้สำเร็จเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน “ไปดูว่าจะแข่งกันยังไง พี่ว่าสนามมันเล็กนะ เล่น 9 คนยังแคบเลย”

เกมประเดิมโครงการ “Friday Night” ระหว่างอัสสัมชัญธนบุรี เดอะแพคกับบีซีซีที่คุณสุเมต สุวรรณพรหมประธานจัดการแข่งขันลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 โซนกรุงเทพฯและปริมณฑลตั้งขึ้นมาให้เป็นอีกขั้นหนึ่งในการพัฒนาลีก โดยจัดให้มีการถ่ายทอดเกมในทุกวันศุกร์นัดนี้ถือเป็นฤกษ์ดีที่ผมจะได้เข้าไปสัมผัสกับสนามที่เค้าเมาท์กันว่า ”เล็ก” กว่ามาตรฐานแห่งนี้

เรียกว่าไป “เจาะสนาม (ขนาด) จูเนียร์” ดูให้เห็นกะตานั่นแหละ

กองเชียร์เจ้าบ้านมาให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก

ด้านหน้าสนามมีขายสินค้าที่ระลึก เจ้าหน้าที่ทีมบอกว่าคุณแม่ของตอง กวิน ธรรมสัจจานันท์มาช่วยขายของด้วย เสื้อเชียร์ไม่แพงนัก ราคา 200 บาทเท่านั้น

สนามมีอัฒจันทร์ขนาดย่อม ๆ แต่โครงสร้างถือว่าใช้ได้ แบ่งเป็นของกองเชียร์ทีมเยือนและทีมเหย้าคนละฝั่ง ตรงกลางเป็นบล็อกนักข่าวซึ่งเป็นมุมอับที่ทำให้มองไม่เห็นเกมบริเวณริมเส้น

ส่วนขนาดของสนามนั้นต้องยอมรับว่าดูเล็กกว่ามาตรฐานจริง ๆ แถมเส้นข้างยังแทบจะชิดกับขอบอัฒจันทร์เลย ดีที่เขากั้นตาข่ายเอาไว้ทำให้แฟนบอลไม่สามารถลงสนามได้

ผมกระซิบถาม “เจ้าโจ๊ก” อิทธิพล แก้วเขียว นักเตะหมายเลข 10 แห่งทีมม่วง-ทอง บีซีซี แต่สายเลือดเป็นสีชมพู-ฟ้า สวนกุหลาบฯว่าถ้าเทียบกับขนาดสนามที่โรงเรียนแล้วเป็นอย่างไร?

OSK 125 คิดซะนานก่อนจะตอบเบา ๆ ว่า “ขนาดสนามก็น่าจะพอ ๆ กันกับสนามโรงเรียนเราครับ”

ส่วนคุณสุเมต ท่านประธานจัดการแข่งขันนั้นตอบตรง ๆ แบบไม่มีอ้อมค้อมเมื่อโดนผมยิงคำถามว่าสนามเล็กไปไหม?

“เล็ก!...แต่ทำยังไงได้ล่ะ ถ้าไปแข่งที่อัสสัมฯธนฯจะมีคนไปดูมั้ย? ต้องยอมรับว่าในกรุงเทพฯมันมีข้อจำกัดของสนาม ถ้ามันพอได้ก็ต้องอนุโลมไปก่อน”

แต่พอไปถามโค้ชบัง สุวิทย์ หวัดแท่นของทางฝั่งทีมเยือนแล้ว โดนสับเละเลยครับ

“สนาม...พูดกันตรง ๆ ว่าไม่รู้ผ่านได้ยังไงครับ ทั้งเรื่องไฟ ขนาดของสนามมันเหมาะกับสอนระดับอะคาเดมีมากกว่า! เราจะเป็นบอลอาชีพแล้ว น่าจะทำเรื่องสนามเป็นอันดับแรก”

ก่อนเกม มีพิธีกรคู่ชาย-หญิงมาสร้างความเฮฮา เล่นเกมแจกรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ

เล่นเกมเสร็จ พิธีกรชายเดินมาทักทายผม

“มีคนเคยทักพี่ไหมครับว่าหน้าเหมือนพงษ์พัฒน์เลย?”

“ไม่รู้นี่หว่า ไม่มีใครบอก...” เอ้ย! ไม่ใช่ ผมตอบแบบนี้ตะหาก “ก็เยอะนะครับ”

ผมค้นพบเรื่องนี้ตอนกำลังจะจบมหาวิทยาลัย รุ่นน้องปี 2 ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ช่วยผู้กำกับอยู่เอ็กแซกท์บอกกับผมว่า

“เดี๋ยวบายเนียร์ ผมจะทำเอ็มวีนะ ให้พี่เล่นเป็นพระเอก...คือผมจะทำเพลงพงษ์พัฒน์น่ะ”

ปีนั้นพี่อ็อฟออกอัลบัมชุด “2542 อันธพาลร้องเพลง” ให้ตายเถอะ เป็นอัลบัมเดียวที่ผมไม่รู้ว่ามีเพลงอะไรบ้างจริง ๆ

วันนี้มีถ่ายทอดออกทางช่องสยามกีฬาทีวี นักฟุตบอลทั้งสองทีมพอเดินลงสนามแล้วก็ต้องหันหลังให้คนดูเพื่อให้รับกับไลน์กล้อง

ผู้เล่นของอัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพคส่วนใหญ่เป็นนักเตะวัยรุ่น อายุ 16-17 ปี คาดว่าจะเป็นผู้เล่นชุดใหญ่ของโรงเรียนในปีการศึกษาหน้า เหลือบมองรายชื่อแล้วผมคุ้นชื่อกิตติศักดิ์ โฮชินหรือเจ้าทอมมี่มากที่สุด

เจ้าทอมมี่ติดทีมชาติไทยมาทุกชุดจนถึงรุ่น 16 ปี ในทีมน้องใหม่แห่งดิวิชัน 2 ทีมนี้เขาคือเจ้าของเสื้อหมายเลข 10 บ่งบอกได้ถึงความเป็นซุป’ตาร์ที่สุดในทีม

อารมณ์หวลรำลึกถึงอดีตสตาร์ของอัสสัมชัญธนบุรีอย่างศักรินทร์ จันทร์โยธา ผมคิดไปว่าเจ้าทอมมี่อาจจะเป็นทายาทลูกหนังของเจ้าโก้ก็เป็นได้

“ทอมมี่ดีกว่าโก้แน่นอน” คอมเมนท์สั้น ๆ จากคุณอมร นันทวะกุล ผู้จัดการทีมอัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพคถึงข้อเปรียบเทียบประเด็นนี้

เจ้าทอมมี่เกิดเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 37 ที่กรุงเทพฯ เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาล 3 ก่อนจะมาคัดตัวกับโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี แล้วก็ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ ป.6 จนกระทั่งปัจจุบันซึ่งเขาเรียนอยู่ ม.6 แล้ว

“กับพี่โก้ รู้สึกจะเรียนทันกันนะ ตอนผมเข้ามาที่นี่ พี่เค้าก็เรียนประมาณม.4-5 แล้ว ผมเป็นรุ่นน้องก็ชื่นชอบเค้าครับ พี่เค้าเป็นคนที่ยิงบอลคมและเฉียบขาดมาก” ความในใจของรุ่นน้องที่ชื่อทอมมี่ถึงรุ่นพี่ “ถามว่าจะไปได้ขนาดพี่เค้าไหม...มันอยู่ที่คนดูจะดู แต่การเล่นบอลมันไม่มีที่สิ้นสุด เราต้องหาความรู้ใหม่ ๆ มาพัฒนาตัวเองตลอด”

แต่กับเกมวันนี้ คนดูจะยังไม่ได้ยลฝีเท้าของดาวเตะหมายเลข 10 คนนี้หรอกนะเพราะเขามีชื่อเป็นแค่ผู้เล่นสำรองเท่านั้น

11 นักเตะอัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพคในระบบ 4-4-2 มีประพัฒน์ ยศไกรเป็นผู้รักษาประตู แผงหลังไล่จากขวามาซ้ายมีเจษฎายุทธ บัวแพง, อิสเรศ อินทร์ลักษณ์ กัปตันทีม, เธียร์รี เอ็นกวยต์ชูและสุพรรณ ทองสงค์

แดนกลางประกอบไปด้วยสรรเสริญ นันทะแสนคุมเกมคู่กับพลวัต ทองขาว ริมเส้นซ้าย-ขวาใช้บริการของเทวเดช อุ่นทองและปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ตามลำดับ แดนหน้ามีจาคอบ กิงเกจับคู่ล่าประตูกับปกรณ์ นวลละออง

ส่วนบีซีซี ทีมเยือนนั้น มาในระบบ 4-4-2 เช่นกัน นพดล สุขดีเป็นด่านสุดท้าย ไลน์ดีเฟนซ์ข้างหน้าจากขวามาซ้ายประกอบไปด้วยวัชเรนทร์ ชูพันธ์, วรรธน์วิฏ บำรุงนานิธิชนม์, การ์ริยง บูอักบาและดนัย ว่าโระ

แดนกลางมีกัปตันทีมจอมเก๋า พิทักษ์ พิทักษ์โกศลคุมเกมคู่กับวิศรุต พลพาล ริมเส้นใช้ศรณย์ พัฑฒนะประจำการด้านขวา โยสึเกะ ทาชิโยกทางด้านซ้าย

คู่หน้าในวันนี้ ผมชอบด้วยเหตุผลส่วนตัวล้วน ๆ อิทธิพล แก้วเขียวนั่นรุ่นน้องโรงเรียน ส่วนเอเซเกียล อาวาลอสนั่นก็เป็นอาร์เฆนติโน ชาติที่ผมชื่นชอบ

เจ้าโจ๊ก อิทธิพลอาจจะไม่ใช่นักเตะที่โด่งดังเท่าศักรินทร์สมัยยังเป็นนักเรียนทั้ง ๆ ที่เตะทันกัน แต่มีเหรอที่เจ้าโจ๊กจะมองว่าตนเองด้อยกว่า “อัจฉริยะของชาวอัสสัมฯธนฯ”

“ผมเล่นทันกันนะเพราะรุ่น ๆ เดียวกัน...ผมว่าธรรมดาเพราะมองว่ามันสู้กันได้หมดแหละครับ อยู่ที่โอกาสมากกว่า ซึ่งเค้ามีโอกาสไปมากกว่าเท่านั้นเอง เรื่องฝีเท้าก็ดีในระดับนึง”

ผู้เล่นทั้งสองทีมเดินลงสู่สนาม

เจ้าบ้านเกือบขึ้นนำก่อนตั้งแต่ 5 นาทีแรกเมื่อได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา แต่นพดล ผู้รักษาประตูจอมเก๋าสามารถหยุดลูกที่จาคอบยิงเอาไว้ได้

ถัดมาอีกนาทีเดียวกลับเป็นทีมเยือนที่นำไปก่อนเมื่อได้ลูกเตะมุม แล้วก็เป็นดาวเตะญี่ปุ่น ทาชิที่เผด็จศึกได้สำเร็จ

ทั้งสองทีมเล่นกันเร็ว เกมแทบไม่มีหยุดเลย รวมทั้งมีการปะทะกันหลายหน สะใจคอบอลซาดิสม์ไม่น้อย

ผมยืนดูอยู่ใกล้ ๆ กองเชียร์อัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพคคนหนึ่ง เขาแนะนำตัวเองว่า

“ตอนไปไนกี้โลก ชุดที่ติด 8 ทีมสุดท้าย ผมไปด้วย แต่ตอนนี้เป็นแค่กองเชียร์ธรรมดาคนหนึ่ง”

เพราะกลัวเสียมารยาท ผมเลยไม่กล้าถามชื่อของเขา สุดท้ายก็เลยไม่รู้ว่าเป็นใคร? เขาตะโกนสอนนักบอลเจ้าบ้าน บางคราก็แอบเมาท์ทีมเยือน

“เชียร์เหมือนเชียร์มวยเลย แต่นี่แหละสไตล์การเชียร์ของกรุงเทพคริสเตียน”

นาทีที่ 15 คู่หน้าบีซีซีสายเลือดชมพู-ฟ้าและฟ้า-ขาวประสานงานกันได้ดี อิทธิพลเปิดจากฝั่งซ้ายมาให้อาวาลอสยิง แต่ก็ติดมือประพัฒน์

เล่นไป เล่นมา อัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพคเหมือนจะหันมาเล่นกลาง 5 คน โดยถอยจาคอบลงมาช่วยคุมเกมในแดนกลาง

ปกรณ์มีโอกาสตีเสมอให้เจ้าบ้านถึง 2 ครั้งติด ๆ ใน 2 นาที แต่ครั้งแรกโหม่งเข้ามือนพดล ครั้งที่ 2 ยิงไกลข้ามคาน

อาวาลอส ศูนย์หน้าอาร์เจนตินาดันไปเล่นจังหวะ 2 ใส่ผู้เล่นอัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพคทำเอากองเชียร์เจ้าบ้านโห่ลั่น ส่วนสต๊าฟโค้ชของทีมก็ถึงกับเดินมาโวยกับคุณรุ่งโรจน์ ปฐมทัศน์ ผู้ตัดสินที่ 4

“เล่นจังหวะ 2 ตลอดเลย”

ท้ายเกม ใบเหลืองเริ่มทยอยออกจากมือของคุณภัทรพงศ์ กิจสถิตย์ ผู้ตัดสิน แต่สกอร์นั้นไม่มีเปลี่ยนแปลง (โอ๊ เย่) จึงจบ 45 นาทีแรกลงที่ 0-1

นพดลหยุดลูกยิงของจาคอบได้ในช่วงต้นเกม

ทาชิเฮฮาหลังกดประตูขึ้นนำให้บีซีซี

อาวาลอส ศูนย์หน้าสายเลือดฟ้า-ขาวขอบอลจากเพื่อน

เจ้าโจ๊ก อิทธิพลวิ่งนำหน้า โดยมีสรรเสริญประกบตามหลัง

เทวเดชปั่นฟรีคิกให้อัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพค

ลีลาการสั่งการของจอมทัพตัวเก๋า พิทักษ์ของบีซีซี

อ.สาธิต วิโรจนะ เฮดโค้ชเจ้าบ้านปรับเกมให้ลูกทีมใหม่ในครึ่งหลัง ส่งธีรายุทธ สือเจริญลงมาแทนเจษฎายุทธ โดยให้เล่นหน้าเป้า แล้วปรับเปลี่ยนแผงหลังใหม่หมด เหมือนจะถอยจาคอบลงมาเล่นแบ็กซ้าย แต่ดูดาวเตะต่างชาติคนเก่งจะชอบลอยขึ้นสูงอยู่บ่อย ๆ แค่ 8 นาทีเท่านั้น จาคอบก็สบโอกาสยิง แต่ไม่ตรงกรอบ

ผ่านไปสิบนาที สุวิทย์ หวัดแท่น เฮดโค้ชทีมเยือนทำการปรับทีมบ้างเรียก “ลูกระเบิดฟ้า-ขาว” อาวาลอสเข้ามานั่งพัก แล้วส่งชญาวัต ศรีนาวงศ์ลงไปแทน

รูปเกมยังไม่ต่างไปจากครึ่งแรกมาก เพียงแต่อัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพคดูจะเป็นฝ่ายโหมมากขึ้น แต่บีซีซีก็โต้กลับได้ดี นาทีที่ 58 สุพรรณ แผงหลังเจ้าบ้านก็มารับใบเหลืองจากการสกัดฟาวล์อิทธิพลในจังหวะโต้กลับ

ในสถานการณ์ที่ต้องการประตูสุด ๆ สุดท้ายแล้วกิตติศักดิ์ โฮชินก็ต้องถูกส่งลงมาเพื่อล่าตาข่าย โดยอ.สาธิตถอดปกรณ์ออกในนาทีที่ 65

เจ้าทอมมี่ช่วยพักบอลแล้วพาบอลไปได้ดี แต่ยังทำอะไรไม่ถนัดมากเพราะแผงหลังบีซีซี โดยเฉพาะบูอักกานั้นเหนียวแน่นจริง ๆ

สิบนาทีสุดท้าย อ.สาธิตก็ส่งไพ่ใบสุดท้ายลงมาลุ้น เปลี่ยนชุติพันธ์ นบนอบลงมาแทนปฐมพล

นาทีที่ 86 กองเชียร์เจ้าบ้านเฮกันลั่นเพราะนึกว่าได้จุดโทษจากการที่เธียร์รีโดนสกัดล้มในเขตโทษ แต่คุณภัทรพงศ์มองว่า “ม่ายช่าย”

สองนาทีสุดท้าย ทีมเยือนปรับทัพอีกครั้ง ส่งชนินทร์ธร โพธิ์หิรัญลงมาคุมทัพแทนกัปตันทีมตัวเก๋าอย่างพิทักษ์ แล้วก็มีโอกาสส่องฟรีคิกเลยในนาทีถัดมา แต่ก็ข้ามคานไป ซึ่งที่มาของฟรีคิกลูกนี้ทำให้เทวเดชของเจ้าบ้านรับใบเหลืองไปด้วย

ช่วงทดเวลาเจ็บ 4 นาที เจ้าทอมมี่มีโอกาสยิงฟรีคิก 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ระคายเคืองผู้รักษาประตูม่วง-ทองอย่างนพดล ที่ดูจากนามสกุลก็บอกแล้วว่าสุขดีได้

นาทีสุดท้าย บีซีซีใช้โควต้าเปลี่ยนตัวโควต้าสุดท้ายให้หมดไป เรียกเจ้าโจ๊กเข้ามานั่งพักแล้วส่งรณชัย พงพุทธาลงไปบู๊แทน

ครบ 90 นาที เป็นอันว่าอัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพคแพ้บีซีซีไป 0-1 ทำสถิติแพ้ในบ้าน 2 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว ในขณะที่เกมนอกบ้านนั้น ทีมพลังวัยรุ่นทีมนี้กลับสอยไปแล้ว 4 แต้ม!

อิสเรศเปิดบอลยาวให้เพื่อน

บูอักกาประกบธีรายุทธ ศูนย์หน้าตัวสำรองของเจ้าบ้าน แต่ไหงมาอยู่ข้างหน้า

กิตติศักดิ์ โฮชินลงมาเป็นตัวสำรอง

ทาชิผู้เป็นฮีโร่ของชาวม่วง-ทองวันนี้

เจ้าบ้านพยายามโหมบุก ส่วนบูอักกานำทัพต้านรับให้บีซีซี

เจ้าทอมมี่ปั่นฟรีคิก แต่ไม่ตรงกรอบ

“เกมวันนี้แม้เราจะแพ้ 0-1 แต่ผมก็ยังดีใจที่เด็กเราเล่นได้ดี มีการต่อบอล มีการเคาะบอล เกมวันนี้เป็นเกมที่เร็วมาก แล้วเด็กของเราดันไปเล่นเร็วตามเค้า ความแน่นอนเลยหายไป เด็กของเราเล่นเกมเร็วไม่ค่อยดีเพราะมันเป็นเกมที่ปะทะ เป็นเกมที่แรง ซึ่งเด็กเราจะกลัวนิดนึง แล้วก็แพ้ความเก๋าไป แต่ว่าลูกฮึด การต่อบอล การเก็บอารมณ์ เด็ก ๆ ก็ทำได้ดี ยอมรับว่าทางบีซีซีก็เล่นได้ดีด้วย ได้สกอร์เร็วทำให้เล่นได้ง่ายขึ้น” คือคำสารภาพของยอดผู้จัดการทีม คุณอมร นันทวะกุล

ในขณะที่ลูกทีมอย่างเจ้าทอมมี่ กิตติศักดิ์ โฮชินซึ่งลงมาสัมผัสเกมประมาณ 25 นาทีมองว่า “เค้ามีโอกาสแล้วทำได้ ส่วนเรามีโอกาสแต่ทำไม่ได้ รูปเกมก็ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ ผมว่าเรามีโอกาสมากกว่า น่าจะชนะด้วย”

ข้ามไปที่ฝั่งทีมเยือน โค้ชบัง สุวิทย์ หวัดแท่นเปิดใจให้ฟังว่า “เป็นอีกเกมนึงที่เราปลดล็อกได้ เรามาเยือนเค้าซึ่งมีความกดดันค่อนข้างเยอะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสนามที่นักเตะของเค้าค่อนข้างจะชินกว่า แล้วก็เรื่องกรรมการ ฉะนั้นเราได้ 3 แต้มในวันนี้จึงถือเป็นของขวัญให้กับทีม และเราจะกลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้งนึง”

ส่วนเจ้าโจ๊ก อิทธิพล แก้วเขียว ศูนย์หน้าตัวเก่งบอกว่า “เกมวันนี้มันอึดอัดเพราะสนามมันเล็กกว่าสนามปรกติ แต่เราก็ช่วยกันเต็มที่ แม้จะไม่คุ้นกับสนามเพราะมันเป็นหญ้าเทียมก็ตาม”

ปีที่แล้วผมมีโอกาสดูบีซีซีแค่แม็ทช์เดียวคือวันที่เปิดบ้านแพ้ม.รังสิต เจดับลิวไป ฟอร์มการเล่นวันนั้นดูไม่เป็นทรงเลย...อ้อ! เกือบลืม มีอีกแม็ทช์นึงที่ได้ดูด้วย นั่นก็คือในศึกเอฟเอคัพที่พวกเขาต้องเจอกับจุฬา ยูไนเต็ดนั่นเอง

สำหรับฟอร์มการเล่นในปีนี้ ต้องยอมรับว่านี่คือทีมที่ชาวม่วง-ทองทุกคนสามารถคาดหวังไปให้ถึงฝันได้จริง ๆ ซึ่งโค้ชบังก็ช่วยคอนเฟิร์มตรงนี้

“ถ้าเล่นได้อย่างนี้...เราก็จะสามารถเก็บได้ทีละเกม ๆ พร้อมกับเป็นแชมป์โซนได้ ถ้าเล่นได้แบบนี้อยู่นะครับ”

นักเตะบีซีซีขอบคุณแฟน ๆ ที่ตามมาให้กำลังใจ

ส่วนฝั่งอัสสัมชัญธนบุรี เดอะ แพคนั้น ด้วยนักเตะอายุเพียงเท่านี้ ผมมองว่าฟอร์มการเล่นโอเคเลยแหละ มีจุดเด่นที่ทีมเวิร์คและหัวจิตหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้ ส่วนนักเตะที่ประทับใจ...ยอมรับว่าวันนี้ไม่มีใครโดดเด่นออกมาเกินเพื่อนนัก แม้กระทั่งกิตติศักดิ์ โฮชินที่คุณอมร ผู้จัดการทีมคอนเฟิร์มว่า “เจ๋งกว่าศักรินทร์” ก็ตาม

“กิตติศักดิ์ดีกว่าศักรินทร์ครับ ส่วนอีกคน...กษิติ์เดช (เวทยาวงศ์) เบอร์ 7 ก็ดีกว่า ปลายเดือนหน้าจะบินไปอัตเลติโก มาดริดด้วย ไปเป็นนักเตะฝึกหัดที่นั่นเพราะเขาเป็นนักเตะแลกเปลี่ยนของทางเมืองทองฯ”

ได้ฟังแบบนี้ผมก็เลยอยากกลับมาเยือนสนามแห่งนี้อีกครั้ง...แต่ต้องก่อนสิ้นเมษานะเพราะอยากเห็นฝีเท้าของเจ้ากษิติ์เดชที่ว่านี่จริง ๆ ว่าจะแจ๋วกว่าศักรินทร์ นักฟุตบอลโลกลืมคนนั้นขนาดไหน อ้อ! รวมถึงกิตติศักดิ์ โฮชินด้วยอีกคน

อ้าว! แล้วศักรินทร์ ดาวเด่นคนเดิมนั่นล่ะ ตอนนี้ไปอยู่ ณ หนใด?

“ผมไม่ได้ตามข่าวศักรินทร์เลย” คุณอมรตอบ

“ตอนนี้ก็ไม่ได้ข่าวพี่เค้าเลยนะ แต่เค้าเป็นนักบอลที่ฝีเท้าดี ถ้าอยากกลับมาเล่น ผมว่าปรับสภาพร่างกายนิดหน่อยก็น่าจะกลับมาได้” เจ้าทอมมี่ให้ความเห็น

ส่วนพี่ที่ยืนเชียร์ข้างผม คนที่เคยไปไนกี้คัพ รอบชิงแชมป์โลกแล้วตอนนี้ผันมาเป็นกองเชียร์เต็มตัวคนนั้นนั่นแหละบอกว่า

“ตอนนี้มันรับราชการตำรวจอยู่ แต่เล่นบอลไม่ได้แล้วแหละ เจ็บเข่าเรื้อรัง ต้นสังกัดไม่ดูแลให้ดีด้วย แล้วอีกส่วนหนึ่งต้องบอกว่าไอ้โก้มันทำตัวเองด้วย”

ผมไม่ขยายความคำว่า “ทำตัวเอง” นะครับ...แต่นั่นแหละจุดจบของอดีตนักเตะเยาวชนฝีเท้าเยี่ยมคนนั้น

“ไอ้โก้มันไม่เหมือนไอ้มุ้ย” พี่เขาพูดต่อสั้น ๆ ราวกับไฮกุที่แฝงปรัชญาเอาไว้ ก่อนจะให้ความเห็นต่อว่า “ที่นี่เราจะปั้นนักบอลฝีเท้าดีขึ้นมาเรื่อย ๆ คอยดู อีก 5 ปี อัสสัมฯธนฯจะครองทีมชาติไทย!”

ผมพยายามลิงค์ความสัมพันธ์ของอัสสัมฯธนฯกับทีมชาติในปัจจุบันก็มีแค่หน้าของธีรศิลป์ แดงดา, กวิน ธรรมสัจจานันท์ แล้วอาจจะเลยไปถึงธีระทร บุญมาทันนั่นอีกคนที่ลอยขึ้นมา ส่วนคนอื่น ๆ ผมคิดไม่ออก (นฤพล อารมย์สวะยังไม่ถือว่าเป็นตัวหลัก)

ถึงกระนั้น ผมก็ยังรู้สึกว่าคำพูดนี้แม้อาจจะไม่จริงก็ได้ แต่ก็ไม่เกินเลยไปหรอก

การมา “เจาะสนาม (ขนาด) จูเนียร์” ในวันนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตอนที่ทำช่วง “เจาะสนามตามดาว” ไม่น้อย

เพราะผมได้เมียงมองดาวเด่นระดับเยาวชน แล้วคอยติดตามดูการเติบโตของเขา

รวมทั้งคอยยิ้มปลาบปลื้มในวันที่เจ้าหนูเหล่านั้นก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จบนถนนสายลูกหนัง!

Create Date : 27 มีนาคม 2554		1 comments
Last Update : 27 มีนาคม 2554 16:09:59 น.
Counter : 2538 Pageviews.
Share Tweet