Floats Exhibition Hall and Goodbye Takayama
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ทะคะยาม่า แต่ก่อนกลับ ยังไง ๆ ก็ต้องไปดูในสิ่งที่อยากดูให้ได้ ตาอ้วนไม่เคยห่วงว่าจะต้องรีบกลับบ้านก่อนค่ำ ไม่งั้นหลังพระอาทิตย์ตกดินถนนหนทางจะมืดค่ำ ไม่เคยห่วงว่าปลายสัปดาห์ทองผู้คนจะหลั่งไหลกันกลับสู่เมืองหลวง รถจะติดบนทางด่วนยาวเหยียดเป็นสิบกิโล เพราะตาอ้วนยึดคติ my pace
ตาอ้วนซื้อบัตรเข้าชม Floats Exhibitaion Hall ส่งบัตรใหนึ่งมาให้ฉัน จำราคาไม่ค่อยได้ รู้สึกจะคนละ 820 เยน แต่เข้าดูได้สองที่ ปกติตามศาลเจ้าชินโต จะมีสาวในชุดชิฮายะ(chihaya) คือฮากามะสีแดงเสื้อท่อนบนสีขาวแขนเสื้อยาว ใส่ถุงเท้าแบบtabi ใช้ริบบิ้น/โบว์สีขาว หรือสีแดงผูกผม เรียกในภาษาญปว่า Miko ประจำอยู่
ในสมัยอดีตกาล ผู้หญิงที่นั่งทางใน (ไม่รู้ศัพท์ทางนี้ ขออภัยจ้า) และถ่ายทอดคำพยากรณ์ของพระเจ้าออกมาเป็นคำพูด ญปเรียกว่า Miko ซึ่งต่อมามิโกะเป็นเพียงสาวน้อยที่ประจำทำงานอยู่ในศาลเจ้าชินโตเท่านั้น
สมัยก่อนมิโกะส่วนใหญ่จะเป็นลูกสาวของนักบวชที่ดูแลศาลเจ้า หน้าที่ของมิโกะรวมถึงการต้องฟ้อนรำในพิธีที่เกี่ยวกับทางศาสนา และช่วยนักบวช/พระในพิธีต่าง ๆ เช่น พิธีแต่งงาน ปัจจุบันนี้มิโกะส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างที่ได้ค่าจ้าง หรือเป็นอาสาสมัคร หน้าที่งานก็ยังคงเหมือนในอดีต แต่จะรวมถึงดูแลความเรียบร้อยศาลเจ้า รวมถึงขายเครื่องราง(o-mamori) และบอกใบเซียมซี(o-mikuji)ด้วย...ทำนองว่า กาลเวลาเปลี่ยนไป มิโกะต้องเล่นหลายบทบาท รวมถึงช่วยทำงานหาเงินเข้าศาลเจ้า
ในTakayama Yatai Kaikan(Festival Floats Exhibition Hall)ติดแอร์เย็นสบายแห่งนี้ ใช้เป็นที่เก็บยาไตยามที่ไม่มีงานเทศกาล ปกติเทศกาลขบวนแห่ยาไตจะถูกจัดให้มีปีละ 2 ครั้ง คือในฤดูใบไม้ผลิ(14-15เมษา) และฤดูใบไม้ร่วง(9-10 ตุลา) ซึ่งเป็นงานแห่ยาไตที่สำคัญของทางเมือง มีนักท่องเที่ยวแห่แหนกันมาเยือนมาชมมากมาย
ยาไตที่ถูกตั้งแสดงไว้ในExhibition Hallแห่งนี้มีเพียงครั้งละ 4 ยาไตจาก 11 ยาไตที่ใช้แห่ในฤดูใบไม้ร่วง และถูกเปลี่ยนหมุนเวียนมาตั้งโชว์แบบนี้ตลอดปี แต่ละยาไตจะถูกสร้าง แกะสลัก ทาสีไว้อย่างวิจิตรศิลป์ แต่ละยาไตมีสไตล์แตกต่างกันสะท้อนให้เห็นถึงประเพณีของแต่ละตำบลของเมืองทาคายาม่า ว่ากันว่าเทศกาลงานแห่ขบวนยาไตของทาคายาม่านี้ เป็นเทศกาลที่ถูกจัดว่าสวยงาม ยิ่งใหญ่ตระการตา ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเทศกาลญี่ปุ่น อีก 2 แห่งคืองานGion Matsuriของเกียวโต และChichibu Matsuri
ยาไตทั้งหมดมี 25 ยาไต 12ยาไตจะถูกใช้ในเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ 11 ยาไตจะถูกใช้ในเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง และอีก 2 ยาไตจะถูกใช้ในพิธีอื่น แต่ละยาไตจะถูกเก็บดูแลรักษาเป็นอย่างดี จัดว่าเป็นทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติเลยทีเดียว ยาไตที่ถูกใช้ในงานแห่ทั้ง 23 ยาไตนี้มีชื่อเรียกต่างกันออกไป
ยาไตฤดูใบไม้ผลิ Kugura Tai จะถูกจัดให้นำหน้าขบวนแห่ เรียกว่าThe Way Opener Sanboso ว่ากันว่ายาไตนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ 200 ปีก่อน เมื่อเทศกาลงานแห่เจริญรุ่งเรือง หุ่นกระบอกชัก(marionettes - Karakuri)ก็ได้รับความนิยม และมีการประกวดประขันระหว่างผู้สนับสนุน/สปอนเซอร์ยาไต Kirin Tai งานแกะสลักส่วนล่างของยาไตนี้ถือว่าเป็น1 ในศิลปะชิ้นเอกที่สุดของทางเมืองทาคายาม่า ที่เรียกว่าKirin เพราะมีสิ่งประดับเป็นรูปยีราฟอยู่ Shakkyo Tai Godaisan Hoo Tai ของเก่าถูกไฟไหม้เมื่อปี 1832 และถูกสร้างใหม่ 3 ปีต่อมา โฮไตนี้มีชื่อเสียงตรงรายละเอียดในการสร้างประกอบ โดยเฉพาะส่วนบนสุดที่มีลักษณะเป็นเหมือนหอก+ขวานนักรบโบราณ ว่าละม้ายคล้ายกับ Gion Floatsของเกียวโต Ebisu Tai Ryujin Tai Kongo Tai Kinko Tai ปลาคาร์ปทองบนยาไตนี้มูลค่าประมาณ 10 ล้านเยน Daikoku Tai ตั้งชื่อตามตุ๊กตาเซียนไดโคคุ (เป็น 1 ใน 7 เซียนของญป) Seiryu Tai ยาไตฤดูใบไม้ร่วง Kagurai Tai Hotei Tai Kinpo Tai Daihachi Tai Kyuhosha Jinma Tai Sennin Tai Gyojin Tai Hojyu Tai Homei Tai Hoo Tai
ใครสนใจใคร่รู้ประวัติของยาไตไต่ละคัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ ในexhibition hallนี้มีห้องสำหรับนั่งฟังบรรยาย ดูงานเทศกาลแห่ยาไตด้วย
ใกล้ ๆ กัน มีส่วนจำลองขนาดย่อ 1 ใน 10ของ Nikko Toshogu Shrineด้วย เรียกว่า Sakurayama Nikko Kan ของจริงอยู่ในจังหวัดโทชิกิ ส่วนจำลองนี้ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้าง 28 อย่าง ศาลเจ้าหลัก เจดีย์ 5 ชั้น ฯลฯ ถ้าจะให้บรรยายอย่างละเอียดคงจะไม่ได้ เพราะฉันก็ลืมไปแล้วว่าอะไรเป็นอะไร (ไปมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ความจำหดหายหมด) แถมของจริงที่จ.โทชิกิ ฉันก็เคยไปมาเมื่อ 4 ปีก่อน จำอะไรไม่ได้เลย รู้แต่เพียงว่ามีnemuri nekko(อยากแปลว่าแมวนอนหวดจัง...ถึงความหมายจะผิดไป แต่ฟังดูน่าร๊าก) ลิงปิดตาปิดปากปิดหู (แบบไม่ฟัง ไม่พูด ไม่เห็นไม่นำพาซึ่งความเดือดร้อนมาสู่ตัว) บรรยากาศภายในHallนี้มันมืด ๆ ทึม ๆ สลัว ๆ ถ่ายรูปยากชะมัด เพราะแสงน้อย เรียกได้ว่าแทบจะต้องกลั้นหายใจ แขม่วพุง เกือบขาดอากาศกันเลยทีเดียว ตอนแรกสองจิตสองใจว่าจะปิดฉากการเที่ยวทาคายาม่าอย่างดื้อ ๆ แล้วเขียนเรื่องใหม่เลยดีกว่า เพราะค้างดองเป็นกะปิขึ้นหนอนมาเป็นปีแล้ว แต่จะให้จบห้วน ๆ ไม่มีหางอย่างนี้ก็ไม่ใช่วิสัยฉันเสียด้วย เอาเป็นว่าดูรูปกันสบาย ๆ ไร้คำบรรยาย แฮ่ๆๆ โกเมน
จริง ๆ เราเช็คเอ้าท์ออกจากเรียวคังตั้งแต่ก่อนไปดูยาไตแล้ว หอบสัมภาระทั้งหมดใส่ไว้หลังรถ แล้วฝากรถจอดไว้หน้าเรียวคังอย่างเดิม
เมื่อเสร็จจากดูยาไต ตาอ้วนก็เกิดอาการอยากกินเนื้อฮิดะทิ้งทวนก่อนกลับบ้าน ชวนฉันยิก ๆ ให้ไปกินเนื้อย่างกันอีกรอบ แต่ฉันขอบาย...ไม่ไหวแล้ว รู้สึกโปรตีนจะพุ่งกระฉูด แต่ก็ทนการรบเร้าของตาอ้วนไม่ไหว ยอมไปนั่งกินข้าวแกงกะหรี่ดำเป็นเพื่อน ร้านนี้หาง่าย เพราะตั้งอยู่ริมถนนเส้นใหญ่ของเมือง เดินผ่านไปผ่านมาอยู่หลายรอบ เพิ่งจะตกลงปลงใจก็วันสุดท้าย ดูจากข้างนอกร้านก็ธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากติดป้ายว่าเนื้อที่ใช้เป็นเนื้อฮิดะเท่านั้น (แค่นี้ก็เรียกความสนใจจากตาอ้วนได้อักโขแล้ว)
บรรยากาศในร้านดูกึ่ง ๆ log cabin กึ่ง ๆ ยุค 70's โต๊ะเก้าอี้เหมือนใช้ไม้ซุงมาทำ ทั้งร้านมีที่นั่งอยู่ 3 โต๊ะเท่านั้น คือโต๊ะเล็ก ๆ ริมหน้าต่าง และโต๊ะกลางห้องหน้าเคาน์เตอร์ ฉันว่าดู ๆ ไปมันกึ่ง ๆ ร้านกาแฟ ร้านfast foodยังไงก็บอกไม่ถูก มีเครื่องเล่นแผ่นเสียง และแผ่นเสียงเพลงฝรั่งย้อนยุคเรียงเป็นตับ เข้าใจว่าเป็นรสนิยมของเจ้าของร้าน เมนูอาหารมีให้เลือกไม่มาก ก็แค่แกงกระหรี่เนื้อฮิดะ แล้วก็ฮอทดอกเนื้อฮิดะ
ช่วงหลัง ๆ ฉันว่าแกงกะหรี่ดำเป็นที่นิยมในญปพอสมควร รสชาติจัดจ้าน นุ่มลึกกว่าแกงกะหรี่สีเหลืองทั่ว ๆ ไป เอาไว้ฉันจะลองหาสูตรมาทำกินบ้าง มีร้านดังอยู่แถว ๆ เอโนะชิม่า เป็นร้านที่ทีวีมาออกรายการ ฉันเคยขับรถผ่านไป หูย...คนต่อคิวยาวตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด แหม...จะอร่อยอะไรกันนักหนา ร้านนี้แกงกะหรี่อร่อยทีเดียว เสียดายที่เนื้อน้อยไปนิด ตาอ้วนเบิ้ล 2 จานแบบเบรคแตก พี่แกกินหมดจานแรกตั้งแต่ฉันกินไปได้ 3 คำ แค่นั้นยังไม่พอ ขออนุญาตสั่งฮอทดอกมากินอีก...ต้องใช้คำว่าขออนุญาตจริง ๆ เพราะแกจะต้องถามว่า ขอกินนี่/นั่นได้ไหม ทำเป็นขอไปอย่างนั้นแหล่ะ เพราะสุดท้ายแล้ว หากพี่แกอยากกินจริง ๆ ยังไงฉันก็ทัดทานไม่ได้ เมื่ออิ่มหนำสำราญดีแล้ว ก็ได้เวลาหมุนล้อ กล่าวอำลากับเมืองทากาายาม่าอย่างเป็นทางการเสียที
แวะซุปเปอร์รายทาง ร้านสะดวกซื้อรายทาง ซื้อของฝากกลับบ้าน รวมถึงmasu sushi ซึ่งเป็นซูชิของทางจ.โทยาม่า เป็นซูชิแบบกดหน้าปลาmasu (trout) แล้วห่อด้วยใบไผ่ (sasa) ฉันชอบจังเลย
ถึงแม้ปีนี้จะไม่ได้เห็นธงปลาคาร์ปของจริงปลิวไสวในวันเด็กเหมือนปีก่อน ๆ ย้อนกลับมาดูรูปที่ถ่ายไว้เมื่อ 2 ปีก่อน อืม...Golden Weekผ่านไปอีก 2 ปี ลาก่อนทากายาม่า แล้วจะกลับมาอีกเมื่อชาติต้องการ
mahalo
Create Date : 05 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2550 9:41:33 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1240 Pageviews. |
|
|