Entertainment blog . . . ชีวิตก็คือความบันเทิง
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
23 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
Fun with Dick and Jane : อยากมีภรรยาจัง !

ไฮ ! หวัดดีครับผม ...

ไปดูหนังมาอีกแล้ว เรื่องนี้ที่รอคอย .. นั่นก็คือ
“ Fun with Dick and Jane “

เรื่องของเรื่องก็คือ ผมน่ะเป็นบิ๊กแฟนของนายจิม แคร์รี่ย์ เค้านั่นเอง
วันนี้ก็เลยขออนุญาต มาทำตัวเป็นอัศวพักตร์ ( หน้าม้า ) ให้กับหนังเรื่องนี้ซะหน่อย

สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบ จิม แคร์รี่ย์ ผมบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ ไม่ควรค่าแก่การชม
สำหรับคนที่คาดหวังความฮาแบบมุขกระจาย คล้าย ๆ หนังของ เบน สติลเลอร์ ก็บอกได้เลยว่าเชิญผ่าน
แล้วหนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร ?

ก็พอจะบอกได้ว่า มันเหมาะกับคนที่อยากดูหนังสบาย ๆ ขำ ๆ ( ไม่ใช่ฮาขี้แตกขี้แตน ) อารมณ์ดี ไม่มีอคติ หรือการตั้งความหวังไว้ล่วงหน้าอย่างสูงส่ง ..

ดูแล้วเหมือนกับว่าหนังมันไม่น่าจะมีอะไรดีเลยเน๊อะ !? ก็ใช่ล่ะนะ ! แต่ผมว่าในแง่ความบันเทิง มันก็รับใช้เงิน 120 บาทค่าตั๋วหนังได้อย่างไม่เคอะเขินละกันล่ะ .. ถึงแม้ว่าผมจะไปอ่านมาจากในเวปไซต์ของต่างประเทศแล้วมีบางคนวิจารณ์ว่าอยากส่งบิลค่าเสียเวลาไปเก็บกับนายจิม ก็ตามทีเถอะ ... แต่ผมว่าหนังมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกนะ ว่ากันตามตรง ส่วนตัวผมออกจะมีจุดที่ชอบอยู่หลายจุดด้วยซ้ำ

ว่ากันตามความคิดเห็นส่วนตัวล้วน ๆ เลยนะครับ นี่คือหนังประเภทที่ผมมักจะติดตามดูเป็นประจำมานานแล้ว ( Liar Liar, Cable Guy, Mr.Deed etc. ) ประเภทที่ตัวเอกมีคาแรกเตอร์ของ “Loser” แต่ด้วยความเก่ง+เฮง+ดวง และความีจิตใจดี ทำให้ตัวเอกได้รับผลดีในตอนท้าย อย่างที่เรามักเห็นเป็นประจำในหนังของ “ดาราตลก” อาทิ แจ็ค แบล็ค, เบน สติลเลอร์, อดัม แซนด์เลอร์ และจิม แคร์รี่ย์

เรื่องย่อของหนังเรื่องนี้มีอยู่ว่า นายดิ๊ค ฮาร์เปอร์ ( จิม แคร์รี่ย์ ) เป็นพนักงานที่ถูกผู้บริหารระดับสูงหลอกให้มารับตำแหน่งแพะรับบาปของบริษัทที่กำลังจะล้มละลาย ดิ๊ค เลยต้องตกงาน และจนลง ๆ ทุกวัน ลูกชายก็กำลังโต ภรรยาชื่อ เจน ฮาร์เปอร์ ( เทีย ลิโอนี ) ก็กังวลทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้าน และอนาคตของลูกชาย เมื่อหางานทำไม่ได้ซักทีสองศรีสามีภรรยาจึงหันหน้าเข้าสู่โลกมืด ด้วยการปล้นเขากิน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาก่อน เหตุการณ์ณ์จะโหด มันส์ ฮา อย่างไร ไปติดตามกันเอาในโรงภาพยนตร์ก็แล้วกันครับ สำหรับเนื้อเรื่อง

ส่วนที่อยากจะมาเล่าในวันนี้ก็คือเรื่องของตัวภาพยนตร์ที่ผมว่า ถ้าไม่คาดหวังว่าดาราใหญ่ขนาดจิม และ อเล็ค ( บอลวิน ) จะต้องมาแสดงพลังการแสดงให้เปล่งประกายอะไรขนาดนั้น ผมก็ว่าเค้าก็ทำได้ดีในระดับนึงนะ คือไม่เกินฟอร์มของหนังไง เหมือนอย่างใน Liar Liar หรือ Trueman Show กับ Man on the Moon ซึ่งมันก็เหมาะสมกันดีแล้วกับการแสดงที่ออกท่าทางมา “แค่นั้น” เนื่องจากมันไม่ใช่หนังที่เปิดโอกาสให้แสดงความบ้าอย่าง “Cable Guy”, “ The Mask” หรือ “ Ace Ventura the Pet Detective” ซึ่งผมว่า แต่ละเรื่องก็แสดงได้ สมบทบาทดีออก ( ความเห็นส่วนตัว ) เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าเสียหายนะครับ สำหรับจิม แคร์รี่ย์ หรือแม้แต่ อเล็ค บอลวิน ก็ตามที ถ้าเราจะมองซะว่าเป็นหนังอารมณ์ดี ดาราเล่นสบาย ๆ เพราะมันเป็นหนัง คอมิดี้ ก็น่าจะเป็นหนังที่ “ดูได้” อีกเรื่องหนึ่ง ( อย่าลืมนะครับ ว่าผมกำลังทำหน้าที่ เชลียร์อยู่ )

ตัวจิม แคร์รี่ย์ และอเล็ค ก็ทำหน้าทีได้ดี เหมือนเป็นการแสดงพักเบรกจากเรื่องเครียด ๆ มายืดเส้นยืดสายในเรื่องนี้ แต่ที่ผมชอบจริง ๆ น่าจะเป็นตัว เทีย ลิโอนี มากกว่า เธอทั้งสวย และเล่นได้น่ารักมากในเรื่องนี้ สำหรับบทภรรยาคู่ทรหดของสามีไม่เอาไหน แม้จะปล้นธนาคารยังชักปืนออกจากกระเป๋าเสื้อไม่ได้ .. !

อย่างที่บอกครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรน่าประทับใจเท่าไหร่ นอกจากตัวเรื่อง และภาพรวมที่แสดงให้เห็นถึงความเป็น สามี-ภรรยา ที่จะอยู่คู่กัน ทั้งในเวลาที่ทุกข์ และสุข

“ผม” ในฐานะที่ยังไม่มีภรรยา .. ไม่รู้สินะ ดูหนังเรื่องนี้แล้วอยากมีภรรยา “แบบนี้” บ้างจัง แม้เราจะทำอะไรก็คอยซัพพอร์ตเราตลอด และเป็นกำลังใจให้ ลองไปดูในหนังเอาเองละกัน ฉากที่ฝ่ายภรรยาต้องไปเป็นหนูทดลองเครื่องสำอางเพื่อแลกเงิน แล้วหน้าบวมฉึ่งกลับบ้าน ทำโน่นทำนี่ จนเหนื่อยและผล็อยหลับไป ฝ่ายสามีมาเห็นเข้ายังพูดได้ว่าภรรยาตัวเองน่ารัก ซึ่งผมคิดว่า ถ้าเรามีภรรยาแบบนี้ซักคน ก็คงพูดได้เต็มปากเหมือนกันว่าเขา “น่ารัก” จริง ๆ ( สวยรึเปล่า หน้าตาดีมั้ย นั่นอีกเรื่องนะครับ )

จริงอยู่ว่าหนังเรื่องนี้มัน “โม้”, “เกินจริง” และ พล็อตหละหลวม แต่ที่ผมได้ และเอ็นจอยไปกับการชมภาพยนตร์เรื่องนี้คือ เรื่องของความรัก สามัคคี และเชื่อใจ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันของสองสามีภรรยาคู่นี้มากกว่า .. นั่นแหละที่ประทับใจ

นอกเหนือไปจากนั้น หนังยังเป็นเจ้าของ ( เบื่อจริง ๆ คำนี้ ยืมมาประชดซะหน่อย .. หนังมันจะเป็นเจ้าของอะไรได้ฟะ !? ) บทสนทนาที่ไม่โดดเด่นอะไร ดนตรีประกอบไม่น่าจดจำ มุขขำ ๆ ที่เอามายำรวมกัน ขำบ้างไม่ขำบ้างแล้วแต่ภูมิหลัง และความชอบของแต่ละคน ตลอดจนการคลี่คลายที่แฮปปี้เอ็นดิ้งตามสูตรหนังคอมิดี้ ฮอลลีวู้ดทั่วไป .. หนังไม่มีอะไรใหม่น่าจดจำ เดินออกจากโรงแล้วก็ลืม ๆ มันไป ... แต่ในความ “ไม่มีอะไร” ที่บอกมาทั้งหมด มันถูกทดแทนด้วยเรื่องของชีวิตคู่ ที่บอกกับคนดูว่า .. สำหรับชีวิตคู่ ไม่ว่าเส้นทางจะยากเย็นแสนเข็ญ หรือสุขสบายเพียงไร ที่ที่พึงพอใจในการอยู่อาศัยมากที่สุดอยู่ที่ตัวบุคคลที่เคียงข้างเรา หาใช่ตัวบ้านที่มีสนามหญ้า สระน้ำอุ่น ทีวีจอยักษ์ แต่อย่างใด

สรุปจากสายตา และความคิดของคนที่ยังไม่มีภรรยา และไม่เคยมีประสบการณ์ในการมีชีวิตคู่ .. คือ .. ดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า เออ .. ไอ้คู่นี้มันน่ารักดีนะ มันดูรักกันดี .. ดูแล้วอยากมีภรรยาจัง !

เก็บตกจากอารมณ์เหงาในวันที่ต้องดูหนังคนเดียวครับ


Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2549 17:16:25 น. 11 comments
Counter : 1814 Pageviews.

 
กำลังจะไปดูวันจันทร์หน้าพอดีเลยฮะพี่
แบบวส่าวันเกิดหาหนังขำๆดูหน่อย
ขอบคุณมากฮะที่เขียนมาให้อ่าน


โดย: queer IP: 58.10.20.16 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:21:05:12 น.  

 
สำหรับจิม แครีย์
โดยส่วนตัวชอบ Eternal sunshineฯ มากที่สุดค่ะ
เรื่องนี้ก็ขำๆ
แต่เหมือนคัดตอนที่ตลกมาเป็นtrailer หมดแล้ว


โดย: akoraphobia IP: 202.139.223.18 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:27:33 น.  

 
อะยังไม่ได้ดูค่ะ ไม่รู้จะมีเวลาไปดูหรือเปล่า


โดย: IP: 58.8.69.139 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:2:16:29 น.  

 
สำหรับ จิม แคร์รี่ย์ อ่ะ . . . เค้ามีอะไรมากกว่าความตลกนะ .. ตอนเด็กๆ เคยดู Trueman Show แล้วน้ำตาไหลพลากๆๆๆๆๆๆ เลยอ่ะ . . . สุดยอดมากๆๆ .. หรือเพราะความเป็นเด็กหรือป่าวไม่รุ . . . เลยอินกับอะไรได้ง่ายๆ อ่ะ .. แต่สุดยอดมากเลยนะ Trueman Show มันตลกๆ และก็เศร้าๆ บนกันอ่ะ . . .


โดย: ae IP: 58.11.14.33 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:22:24 น.  

 
เล่าแบบนี้ น้องถิน ก็ไม่ไปดู แล้ว หละค่ะ พี่ x

เฉยๆ กะ ตาจิม นี่นะ ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ แต่ซื้อ เอซเวนทูร่าเก็บไว้ 2 ภาคเลย แปลกมากนะ ดูครั้งแรก ขำตกเก้าอี้เลย พอซื้อมาดูอีกที มันก็ งั้นๆ เหมือนหนังหลายเรื่องๆ ที่ดูตอนเด็กๆ เลยเนาะ


โดย: กระถิน IP: 58.9.175.201 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:9:40:47 น.  

 
จ้ะ พี่หนึ่ง


โดย: เบื่อจัง ... เบื่อคุง วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:46:30 น.  

 
ชอบจิม แค่รี่ จากเรื่อง เอช เวนทูร่า 1 ที่สุด


โดย: คุณ IP: 202.28.62.245 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:53:58 น.  

 
หนังเรื่องนี้เค้าโครงดีครับ ทำออกมาได้สนุกดี ขำๆ สอดแทรก ไม่ต้องปวดหัวมานั่งแปลอีกที แล้วให้แง่คิดดีอีกด้วย
หากแต่ชีวิตจริง คงตลกไม่ออก ถ้าต้องตกงานเพราะบริษัทซุกหนี้ สุดท้ายต้องไปเป็นขโมย แต่ตอนจบดีครับ


โดย: เอก IP: 202.149.127.107 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:22:49 น.  

 
เด็กหอ หน่อยสิ เอารูป น้องเคิล มาแปะ ด้วยนะ
อยากอ่าน ในมุมมอง ของ เธอ


โดย: กถ. IP: 203.144.187.62 วันที่: 6 มีนาคม 2549 เวลา:16:21:52 น.  

 
สวัสดีค่ะ


โดย: โสมรัศมี วันที่: 8 มีนาคม 2549 เวลา:15:48:59 น.  

 
มันยังงงๆอยู่เข้าเว็บตลกๆแล้วมีแต่บอกเรื่องว่าให้ไปดูที่หนังเองเฉยเย้ย-.-*


โดย: นุ่น IP: 222.123.199.135 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:19:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เบื่อจัง ... เบื่อคุง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เบื่อจัง ... เบื่อคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.