Entertainment blog . . . ชีวิตก็คือความบันเทิง
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
25 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 

“ มองหน้าหาพ่อเหรอ !? “ & “ รู้มั้ยผมลูกใคร !? “

ชาย 2 คน … วัยต่างกัน ประชันหน้ากันอยู่ …

กล้องจับภาพเปรียบเทียบ 2 ใบหน้า แล้วแสดงขึ้นบนจอ แบบแบ่งครึ่งซ้าย – ขวา ให้เห็นชัดถึงความแตกต่างทางรอยย่นบนใบหน้า แต่ทว่ามีความเหมือนอย่างประหลาด … ซึ่งก็คือ ความเครียดที่แทรกอยู่ทุกรูขุมขน, สายตาที่บ่งบอกความสงสัยในแววตา, สติสัมปชัญญะ และสัญชาติญาณที่ตื่นตัว พร้อมจะตอบโต้ … ทั้งทางวาจา และ การกระทำ …

ผู้คนที่รายรอบอยู่ทั่วไป ได้ฉายาโดยดุษฎีว่าเป็นไทยมุง … แม้พี่ที่ใส่เสื้อแดงจะแย้งว่าเขาเป็นญวน อาแปะที่ลุ้นให้มีมวยบอกใคร ๆ ว่าเขาเป็นจีน … แต่เอาเถอะน่า … อยู่บนแผ่นดินไทย ใต้ร่มโพธิ์ไทรด้วยกัน … พวกคุณนั่นแหละ … ไทยมุง !!! … ภาพมุมกว้างแสดงให้เห็นจำนวนกลุ่มคนโดยคร่าว ๆ ราว 1,206 คน

ชายแก่เอื้อนเอ่ยวาจามาก่อน … ทำให้ความเงียบถูกทำลายลง … หลายคนเตรียมลุ้นตั้งแต่กลางประโยค
ภาพจับใกล้ที่ริมฝีปาก
“ … มองหน้าหาพ่อเหรอ !!? “

ชายหนุ่มคนนั้น สะกดอารมณ์ นึกทบทวนประโยคโต้ตอบในใจโดยไม่มองกล้อง
“ …. “

เอาใหม่ ! Wireless เสีย … ขอเทคอีกที !!
5 – 4 – 3 – 2 … เทปไป !!!

( ระหว่างนั้นเด็กยกไฟนึกขำ เมื่อทบทวนอดีตไปถึงเด็กฝึกงานจากสถาบันรัฐบาลมีชื่อแห่งหนึ่ง … เขามาฝึกงานเมื่อปลายปีที่แล้ว ด้วยความไฟแรง เขาอาสาปล่อยคิวเทป … วันแรกที่นักศึกษาปีสุดท้ายเริ่มงาน เป็นวันออกกองพอดี เขาลั่นวาจาสั่งช่างกล้องทำการถ่ายทำ …
“ กล้องพร้อมนะครับ ? “
“ พร้อม “
“ พิธีกรพร้อม ? “
“ พร้อมค่ะ “
“ โอเคครับ เทปไป … นึง … ส่อง … ซ่ำ !!? “

ผู้กำกับตาเหลือก กลั้นหัวเราะ … พยายามไม่ทำลายความมั่นใจรุ่นน้องสถาบันเดียวกัน … รีบแก้ไขสถานการณ์ด้วยการหันไปขยิบตาให้ทีมงาน หมายจะให้ทุกคนทำเป็นไม่รู้เรื่อง

สายเกินไป … เด็กยกไฟทำลายความมั่นใจนักศึกษาผู้เรียนสูงกว่าเขาไม่รู้กี่ขั้น ด้วยประโยคที่ไม่ต้องกลั่นกรองอะไรมากมาย
“ … โหพี่ !! … นับคิวกล้องนะ ไม่ใช่ปล่อยตัวนักวิ่ง มีอย่างที่ไหน นึง – ส่อง - ซ่ำ ! มุขเด็ดว่ะพี่ .. กร๊ากกก ฮ่า ๆๆๆ !!! “

วันรุ่งขึ้น นักศึกษาคนนั้นไม่มาฝึกงาน !!? และแน่นอน วันต่อ ๆ ไปด้วย เด็กยกไฟไม่แน่ใจว่าเขาไม่สบายมากอะไรขนาดนั้น ถามผู้กำกับ เขาบอกอย่างเรียบ ๆ ว่าน้องเขาไปฝึกงานอยู่ห้องตัดต่อแทน )
…
..
.

( เริ่มกันใหม่ หลังเปลี่ยน Wireless เป็นไมค์ถือแบบมีสาย เกะกะหน่อยแต่ชัดเจนดี ดูทะแม่ง ๆ นิดหน่อย แต่เดี๋ยวก็ชินไปเอง … ยังไงก็ไม่เห็นจะต่างจากมี Wireless แต่เอามาจุกอยู่ที่กางเกง หรือหลังเสื้อตรงไหน … ละครไทยก็มีเอกลักษณ์ตรงนี้นี่เอง )
…..
….
…
..
.

ชายแก่เอื้อนเอ่ยวาจามาก่อน … ทำให้ความเงียบถูกทำลายลง … หลายคนเตรียมลุ้นตั้งแต่กลางประโยค
ภาพจับใกล้ที่ริมฝีปาก
“ … มองหน้าหาพ่อเหรอ !!? “

ชายหนุ่มคนนั้น สะกดอารมณ์ นึกทบทวนประโยคโต้ตอบในใจโดยไม่มองกล้อง
“ คุณรู้มั้ยพ่อผมเป็นใคร ? “

สิ้นประโยคฝูงชนขยับถอยกันคนละหลายก้าว ราวกับจะรู้ว่าต้องมีลูกหลงหากอยู่ในระยะการออกอาวุธ
“ กรี๊ดดดด !! “
หนูน้อยร้องเสียงหลง เรียกสายตาทุกคู่ให้จับจ้อง ผู้เป็นแม่เอารีบเอามืออุดปาก ส่งเสียงกระซิบ … เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นบนใบหน้า ส่งสายตาวอนให้ลูกเงียบเสียง
“ เงียบนะลูก “
หนูน้อยชักปลายเท้าออกจากส้นสูงคุณน้าคนข้างหน้า … เบ้ปากหันหน้ากอดขาคุณแม่ … แต่ไม่วายค้อนวงใหญ่ให้กับหญิงผู้ถอยมาเหยียบ …

ภาพตัดกลับมาที่ 2 ชายต่างวัย
ทั้งคู่กำมือแน่น ท่อนแขนเกร็งจนเห็นเส้นเลือดขึ้นเป็นแนว … เสียงบรรยายลอยขึ้นมาพร้อมเสียงดนตรีของ Kitaro เน้นบรรยากาศอบอุ่น แฝงความเศร้า เคล้ากับความปั่นป่วน

“ โชคชะตาเป็นเรื่องตลก ซึ่งบางครั้งก็เป็นตลกร้าย … “

ภาพจับที่ ชายทั้งคู่ กล้องเคลื่อนที่หมุนรอบตัว 2 หนุ่มต่างวัย ที่ยังคงใช้สายตาจับอีกฝ่ายให้หยุดอยู่กับที่ … นาทีนี้ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา … เสียงบรรยาย ทำลายความเงียบอีกครั้ง …

“ 8 ปีที่แล้ว 2 คนนี้มีชะตาร่วมกัน เขาทั้ง 2 นั่งรถคันเดียวกัน ชายแก่ที่สมัยนั้นยังหนุ่มแน่น ทะยานรถไปในความมืด โดยมีเด็กน้อยที่เติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มคนนั้น นั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ … “

ภาพจากหน้ารถเผยให้เห็นถึง เด็กและผู้ใหญ่ ที่ต่างฝ่ายต่างดูมีความสุข ทั้งคนขับ คนนั่ง ร้องเพลงร่วมกัน สบตากันเป็นระยะ หัวเราะให้กันเมื่อเพลงจบ ก่อนจะเริ่มร้องเพลงใหม่ … เจริญปุระ
“ เดินเรื่อยเปื่อย … ม่ายมีจุดหมายยย … โหมดแรงฟาย … ไร้ฟามซาหว่างงงงง ….. เอิ๊ก ๆๆ !! “

มุมกล้องจากในรถจับให้เห็นความเร็วที่พุ่งไปข้างหน้าว่าพอสมควร ไฟส่องถนนทำหน้าที่ได้ไม่ไกลมากนัก เมื่อถึงโค้งผู้ขับต้องลดความเร็วลงเล็กน้อย แต่เนื่องจากความเมา ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะจึงลดลง ชายผู้กุมพวงมาลัยคิดในใจ
“ เมาไม่ขับ แล้วจะกลับยังไง ? “

โดยไม่บอกกล่าว … แมวดำตัวหนึ่งกระโจนพรวดพราดออกมาตัดหน้ารถ !!
รถยนต์คันนั้นชนโดยไม่ลดความเร็ว และทิ้งร่างไร้วิญญาณนั้นไว้เบื้องหลัง

ไม่กี่อึดใจ เปลือกกล้วยเจ้ากรรม ทำหน้าที่โดยไม่ได้ตั้งใจ มันสะบัดตัวเต็มที่เมื่อถูกล้อรถเหยียบ … ส่งผลให้รถยนต์คันนั้นหมุนคว้าง … !!! มันหมุนส่ายไปทางซ้าย วนไปรอบแล้วรอบเล่า พุ่งเข้าหาข้างทาง

แต่ไม่ชนอะไร !!!

รถหยุด … ประตูรถเปิดอ้าซ่าทั้ง 2 ฝั่ง … กล้อง Zoom In เข้าไป … ไม่มีใครอยู่ในรถซะแล้ว !!?

“ ทั้ง 2 คนถูกเหวี่ยงออกไปคนละทางระหว่างที่รถหมุนอยู่ด้วยแรงขนาด G6 ความทรงจำของทั้งคู่ ถูกสลัดหลุดไปเสียสิ้น !!? โอวววว โชคชะตา “ … เสียงบรรยายยังคงทำหน้าที่อย่างไม่หยุดยั้ง

“ วันนี้ทั้ง 2 คนมาเจอกันอีกในผับแห่งหนึ่ง ด้วยความบังเอิญ … ไม่รู้อะไรดลใจให้ทั้งคู่ลุกลี้ลุกลนทะลึ่งตัวขึ้นจากเก้าอี้ … และยิงคำถามใส่อีกฝ่าย “
…
..
.

ย้อนกลับมาที่ฉากแรกอีกครั้ง …

ชาย 2 คน … วัยต่างกัน ประชันหน้ากันอยู่ …

กล้องจับภาพเปรียบเทียบ 2 ใบหน้า แล้วแสดงขึ้นบนจอ แบบแบ่งครึ่งซ้าย – ขวา ให้เห็นชัดถึงความแตกต่างทางรอยย่นบนใบหน้า แต่ทว่ามีความเหมือนอย่างประหลาด … ซึ่งก็คือ ความเครียดที่แทรกอยู่ทุกรูขุมขน, สายตาที่บ่งบอกความสงสัยในแววตา, สติสัมปชัญญะ และสัญชาติญาณที่ตื่นตัว พร้อมจะตอบโต้ … ทั้งทางวาจา และ การกระทำ …

ผู้คนที่รายรอบอยู่ทั่วไป ได้ฉายาโดยดุษฎีว่าเป็นไทยมุง … แม้พี่ที่ใส่เสื้อแดงจะแย้งว่าเขาเป็นญวน อาแปะที่ลุ้นให้มีมวยบอกใคร ๆ ว่าเขาเป็นจีน … แต่เอาเถอะน่า … อยู่บนแผ่นดินไทย ใต้ร่มโพธิ์ไทรด้วยกัน … พวกคุณนั่นแหละ … ไทยมุง !!! … ภาพมุมกว้างแสดงให้เห็นจำนวนกลุ่มคนโดยคร่าว ๆ ราว 1,206 คน

ชายแก่เอื้อนเอ่ยวาจามาก่อน … ทำให้ความเงียบถูกทำลายลง … หลายคนเตรียมลุ้นตั้งแต่กลางประโยค
ภาพจับใกล้ที่ริมฝีปาก
“ … มองหน้าหาพ่อเหรอ !!? “
( ผมถามคุณเผื่อคุณจะเป็นลูกผม ผมความจำเสื่อม บางทีลูกผมอาจจะตามหาผมอยู่ )

ชายหนุ่มคนนั้น สะกดอารมณ์ นึกทบทวนประโยคโต้ตอบในใจโดยไม่มองกล้อง
“ คุณรู้มั้ยพ่อผมเป็นใคร ? “
( ถ้าคุณรู้ช่วยบอกผมหน่อยนะ ผมตามหาพ่อผมอยู่ ผมความจำเสื่อม )

เวลาผ่านไป … นาทีแล้วนาทีเล่า …
ไทยมุงเหนื่อยใจ ทยอยกลับไปด้วยความผิดหวังทีละคน ทีละคน … รวมทั้งแม่หนูที่กระเผลกตามคุณแม่ออกไปเป็นรายสุดท้าย

ชายต่างวัย 2 คน ยังคงจด ๆ จ้อง ๆ สลับกันพ่นคำถามเดิม ๆ
“ … มองหน้าหาพ่อเหรอ !!? “
“ คุณรู้มั้ยพ่อผมเป็นใคร ? “
“ … มองหน้าหาพ่อเหรอ !!? “
“ คุณรู้มั้ยพ่อผมเป็นใคร ? “
“ … มองหน้าหาพ่อเหรอ !!? “
“ คุณรู้มั้ยพ่อผมเป็นใคร ? “
.
.
.

“ เอ่อ … ร้านปิดแล้วครับ “

“ ทั้ง 2 คน สั่งเช็คบิล แล้วแยกย้ายกันไปคนละทางด้วยความผิดหวัง แต่ยังคงไม่ละความพยายามที่จะตามหาคนที่หายไปจากความทรงจำของเขาทั้งคู่ต่อไป … แม้ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม “

- - - ให้เสียงภาษาไทย และบรรยายเรื่องโดย พัน ทะ มิด - - -




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549
3 comments
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 14:06:38 น.
Counter : 617 Pageviews.

 

 

โดย: LooKPat 25 กุมภาพันธ์ 2549 15:53:54 น.  

 

ข้าน้อยขอคาราวะ พี่ท่าน

 

โดย: ae IP: 58.11.14.127 28 กุมภาพันธ์ 2549 11:02:55 น.  

 

สนุกจัง แต่ถ้าเปนเรื่องจริง คงมะขำว่ะ
อยากให้ช่วย เขียนเรื่องตามหาคู่หัยมั่งค่ะ
เผื่อจะขำ แบบคุง แบบเหน็บแนม เชิงประชันเยี่ยงนี้น่ะค่ะ
ถ้ามีเวลานะ รออ่านอยู่
อิ อิ

 

โดย: JaePueng IP: 58.9.189.81 21 เมษายน 2549 0:56:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เบื่อจัง ... เบื่อคุง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เบื่อจัง ... เบื่อคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.