" I tried my hardest just to forget everything -- Because of you ... "
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
1 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 

Simultaneous & Sequential Framework

แนวคิดที่เรียกว่า Simultaneous & Sequential Framework
เป็นแนวคิดที่อธิบายไว้เป็นระบบ
โดยเจตนาที่มุ่งต้องการจะ manage จิตใจคนเป็นหลัก!

อาจารย์ผู้บรรยาย อธิบายโดยใช้บางตอนของ "สามก๊ก" เป็น case study
จริง ๆ ดู ๆ ไปก็คล้ายการวางหมากกล ในการเล่นหมากรุกหรือหมากล้อม
ไม่ว่าจะเป็น ...ยั่ว ยุ แหย่ ขุดหลุมพราง ฯลฯ
ต้องใช้หลาย ๆ แผนประกอบกัน...ไม่ใช่เพียงแผนเดียวก็ใช้ได้!

บางครั้งอาจถอยเพื่อรุก..ก็เป็นได้

หลายหนเหมือนกันในช่วงหลัง ๆ ที่มีการใช้เทคนิคจากการฉายหนังให้ชม
และเน้นเฉพาะจุดที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่ต้องการสอน
ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจ และชวนให้ติดตาม หาคำตอบ...
"หนัง" จึงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการบรรยายในยุคหลัง ๆ นี้ไป!!

"สามก๊ก" คงมีหลายตอนที่สอดคล้องกับเรื่องนี้
แต่ที่น่าสนใจ และคิดว่าใกล้เคียงมากก็คือ ตอน ขงเบ้งเมืองเปล่า

กล่าวถึงตอนที่ขงเบ้งจำต้องถอยทัพ ด้วยคำสั่งของฮ่องเต้
แต่การถอยทัพโดยไม่วางแผนอะไรไว้ อาจถูกสุมาอี้ตีตลบหลังได้
โดยเฉพาะเมืองที่เก็บเสบียงของกองทัพ!!

ขงเบ้ง จัดแบ่งกำลังทหารสำคัญไปตามจุดต่าง ๆ จนหมดสิ้น
ตนเองและขุนนางฝ่ายบุ๋นเท่านั้นที่ไปจัดการเรื่องเสบียง
โชคร้ายที่สุมาอี้ ก็คิดจะตีเมืองนี้...
ขงเบ้งไม่มีกำลังทหารในมือพอสู้รบได้ จะหนีก็หนีไม่ทัน..และไม่พ้น
ใจดีสู้เสือ ก็คงต้องใช้อุบาย...

กลอุบายของขงเบ้งนี่ล่ะ...ที่ใช้ในการโจมตีจิตใจของสุมาอี้โดยเฉพาะ
หรือที่เรียกว่า Simultaneous & Sequential Framework

เมื่อกองทัพสุมาอี้ถึงหน้ากำแพงเมือง
สภาพบนกำแพงที่ไร้ทหารรักษาการณ์ เป็นอยู่อย่างสบาย ๆ ไม่วางเวรยาม
ประตูเมืองก็เปิดออกให้ชาวบ้านปล่อยฝูงวัว สัตว์เลี้ยงเข้า-ออก
ไม่ได้วิตกกังวลกับภยันตรายของกองทัพสุมาอี้ข้างหน้าแม้นแต่น้อย

ความสงสัยในเล่ห์กลอุบายที่สุมาอี้ถูกขงเบ้งหลอกมาหลายครั้ง
ทำให้ต้องระวังตัว...มากเป็นพิเศษ
เมื่อมองไปบนกำแพงเมือง...ก็เห็นขงเบ้งนั่งเล่นขิมอย่างสบายอารมณ์
สุมาอี้ เป็นคนมีความรู้ทางดนตรีพอควร...
เมื่อนิ่งฟังกระแสเสียงของขิม ก็คิดว่าพอจะรู้ว่า คนเล่นมีสภาพจิตใจหวั่นไหวแค่ไหน?

เมื่อฟังได้ครู่หนึ่ง ก็มั่นใจว่าขงเบ้งวางกลอุบายให้ตนเองตกหลุมพรางเป็นแน่
ก่อนจะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง...
จิตใจของขงเบ้งก็พังทลายเสียก่อน...ทำให้เส้นขิมขาดไปทันที 1 เส้น!!
แทนที่จะเป็นการเสียแผน..

สุมาอี้กลับคิดว่าเป็นสัญญาณโจมตีของขงเบ้ง
จึงสั่งถอยทัพทันที!!

ตั้งแต่ต้นจนจบ...
ตั้งแต่สุมาอี้ยกทัพถึงหน้ากำแพงเมือง
เป็นการโจมตีจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ..ตามหลักการของ psychology of..
ซึ่งทำให้สุมาอี้เชื่อ...

นั่นคือแนวคิดของ Simultaneous & Sequential Framework
ที่พยายามไม่ให้เบี่ยงเบนจากที่ได้รับฟังมา...




 

Create Date : 01 มีนาคม 2551
3 comments
Last Update : 1 มีนาคม 2551 22:20:07 น.
Counter : 705 Pageviews.

 

น่าสนใจค่ะ แต่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

 

โดย: Chulapinan 3 มีนาคม 2551 15:55:59 น.  

 

ตามมาอ่านต่อจากเรื่อง Ego centric

พอดีใน entry นั้น พูดเรื่องลูกน้องในสังกัดที่ ego สูง เลยต้องมีวิธีจัดการโดยใช้แนวคิด Simultaneous & Sequential Framework

เนื่องจากไม่รู้ว่า Simultaneous & Sequential Framework คืออะไร แต่ถ้าจะให้ต่อเนื่องกับ ego centric คิดว่า สามก๊กตอนนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่เข้ากับ blog ตอนที่แล้ว

คือ สุมาอี้ ego สูงจริง แต่ว่า ที่จริงแล้ว เค้าก็ระวังตัวอยู่มาก คือ คิดเสมอว่าขงเบ้งเก่งจริง ๆ (เพราะรบกันมาหลายครั้งจนรู้) เลยระแวงตลอด ทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังจนคิดมากไป ก็เลยถอยทัพอย่างในเรื่อง เอาเป็นว่าสุมาอี้ไม่ได้ ego สูงเกินจนคิดว่าคนอื่นโง่ไปหมด เค้าให้เกียรติคนอื่น ยอมรับความสามารถคนอื่น

อันที่จริง ที่ขงเบ้ง ใช้วิธีเล่นพิณนี้ ก็เพราะว่า รู้อยู้แล้วว่าสุมาอี้ฟังดนตรีเป็น รู้อยู่แล้วว่า สุมาอี้คิดมาก และ รู้ว่าสุมาอี้ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งอยู่คนเดียว

อืม ถ้าจะเอาคนที่คิดว่าตัวเองเก่งมาก ๆ น่าจะพูดถึง จิวยี่ มากกว่า

แต่เอาว่าถ้า Simultaneous & Sequential Framework คือ แนวคิดที่มุ่งจะ manage จิดใจคน ก็ อืม.. พอเห็นภาพ แต่คงไม่เข้ากับ entry ที่แล้ว

ปล ขอนอกเรื่องอีกแล้ว ego ที่แปลว่า self เนี่ย เป็นภาษาละติน อันทีจริงผมชอบเล่นมุข ego กับเพื่อน ๆ คือ ego เนี่ยในภาษากรีกแปลว่า goat หรือ แพะ ล่ะ มุขที่ว่าเล่นกับเพื่อน ๆ คือ คนที่ ego สูงมาก ๆ แบบคิดว่าตัวเองฉลาดแต่ไม่รู้ว่าทีจริงโง่น่ะ บางทีก็จะตกเป็นแพะรับบาปโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน

 

โดย: Plin, :-p 4 มีนาคม 2551 18:46:03 น.  

 

ต้องขอโทษด้วย ที่สื่อออกมาไม่ชัดเจนอย่างที่ได้รับฟังมา..

การใช้ Simultaneous & Sequential Framework เป็นแนวคิดที่ใช้ในการ manage ใจคน มี scope ที่ต้องได้ผลตามที่ต้องการ โดยใช้กิจกรรม หรือ Action หลาย ๆ อย่าง พร้อม ๆ กัน ในลักษณะที่เรียกว่า Synchronization

Synchronization ความหมายในที่นี้เปรียบเหมือนการผสมผสาน คล้าย ๆ การเล่นดนตรีหลายชิ้น หลายลักษณะของวงออเคสต้า ที่ต่างคน ต่างเล่นของใคร ของมัน แต่ฟังออกมาเป็นเพลงที่ไพเราะได้

พื้นฐานของการทำ Synchronization มาจาก psychology of evil ที่เป็นศาสตร์หนึ่งบอกไว้ว่า...
ความเชื่อ (Beleif) จะก่อให้เกิด Action
Action จะก่อให้เกิด output
และ output จะเป็นcycle รอบที่หนึ่งที่ทำให้ เกิดความเชื่อเพิ่มขึ้น
ซึ่งหากหมุนตั้งแต่ สามรอบขึ้นไป นั่นก็คือความเชื่อที่ฝังแน่นจนตัดสินใจทำอะไร หรือไม่ทำอะไรก็ได้

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด จากความเชื่อของกลุ่มคนที่วิปลาส ตามลัทธิต่าง ๆ ล้วนเกิดขึ้นจาก psychology of evil ทั้งนั้น

คนที่เป็น ego centric เป็นคนในลักษณะหนึ่งที่หากถูกยกย่อง ว่าเก่ง ว่าเลิศอยู่เรื่อย ๆ หาก Action ของทุก ๆ คนยังยกย่อง เชิดชูอยู่อย่างนี้ output ที่ออกมาก็คือพฤติกรรมที่ทำให้ตัวเขาเอง "มีความเชื่อ" มากขึ้น ๆ ปรอทก็คงพุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อย ๆ

การ manage จิตใจของคนที่ ego centric ที่ทำได้เพียงให้เขา calm down เท่านั้น
หากใช้แนวทาง Simultaneous & Sequential Framework ก็ต้องทำหลาย ๆ อย่าง พร้อมกัน เช่น ยั่ว ยุ ยอ แหย่ และ ขุดหลุม เพื่อลด degree ของความเชื่อให้ลดลงไปเรื่อย ๆ

ตัวอย่างของสามก๊ก ก็เป็นเพียงการสื่อให้เห็นว่า ขงเบ้งต้องทำหลาย ๆ อย่างคล้าย ๆ ในหลักการของ Simultaneous & Sequential Framework จึงจะทำให้สุมาอี้ที่ฉลาดหลักแหลม หลงเชื่อ "ทำในสิ่งที่ขงเบ้งต้องการ"

 

โดย: icechick 4 มีนาคม 2551 21:59:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


icechick
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพลง “ Because Of You ”

นักร้อง “ Kelly Clarkson ”



เนื้อเพลง


I will not make the same mistakes that you did

will not let myself cause my heart so much misery

I will not break the way you did You fell so hard

I learned the hard way, to never let it get that far

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

I lose my way

And it's not too long before you point it out

I cannot cry

Because I know that's weakness in your eyes

I'm forced to fake a smile, a laugh

Every day of my life

My heart can't possibly break

To take your heart away

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

I watched you die

I heard you cry

Every night in your sleep

I was so young

You should have known better than to lean on me

You never thought of anyone else

You just saw your pain

And now I cry

In the middle of the night

Over the same damn thing

Because of you

I never stray too far from the sidewalk

Because of you

I learned to play on the safe side So I don't get hurt

Because of you

I find it hard to trust

Not only me, but everyone around me

Because of you

I am afraid

-------

ขอขอบคุณ:: http://www.esnips.com, Blog ป้ามด

________________

________________

________________

________________


LifE MessageS '' Zz ~~*

----

>> 1st Day : ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา ปัญหามีมาให้แก้ ไม่ใช่มีมาให้กลัดกลุ้ม...

---

>> 2nd Day : อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก อย่าโกรธไม่เป็นเวลา และอย่าโกรธมาก จะเสียสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

---

>> 3rd Day : ควรหัดพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า “จะเอายังไง”

---

>> 4th Day : นึกไว้เสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเธอ 3 ชั่วโมง

---

>> 5th Day : ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ

---

>> 6th Day : ชม เกินจริง = เป็นโทษ || ติ เกินเหตุ = เสียน้ำใจ

---

>> 7th Day : ยิ่งงานหนักเท่าไร ยิ่งเป็นกำไรของชีวิต

---

>> 8th Day : การทำงาน ย่อมต้องมี "อุปสรรค" ทุกคนจึงกลัวอุปสรรค แต่อุปสรรค... กลัว "คนทำจริง"

---

>> 9th Day : ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และ ยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

---

>> 10th Day : อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้

---

>> 11st Day : หัดทำสิ่งดีๆให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัย โดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้

---

>> 12nd Day : จิตใจของคุณก็เหมือนกับไข่ 1 ฟอง ที่ดูภายนอกแล้วแข็งแกร่ง. . . . . แต่เมื่อคุณลองกระเทาะ เปลือกออกมา ก็จะเห็นว่าคนๆนั้นๆ. . . . . . ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าคุณเลย

---

>> 13rd Day : เขียนชื่อคนที่เราเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้งความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ

---

>> 14th Day : พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่

---

>> 15th Day : ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรรอยยิ้มช่วยแก้สถานการณ์ได้

---

>> 16th Day : แค่.. "ซื่อสัตย์" และ "เก่ง" คงไม่พอ (อยู่ไม่ได้) ต้อง.. "ทันเกม" และ "มีปฏิภาณไหวพริบรอบคอบ" ด้วย

---

>> 17th Day : อย่ากลัวที่จะลงโทษคนที่ทำผิด...

---

>> 18th Day : อย่าขีดเส้นวงกลมรอบตัวเอง...

---

>> 19th Day : มันเป็นกรรม.. ที่เราต้องทำใจให้ได้ว่า.. "ไม่มีใครเข้าใจอะไรใครได้ง่ายๆ ..."

---

>> 20th Day : ความจริงย่อมคือความจริง ไม่มีวันตายจาก..

---

>> 21st Day : จะอยู่ช้าอยู่เร็วก็ยังไม่รู้ แต่ที่รู้ตอนนี้ก็ใช้เวลาทำในสิ่งที่อยาก

---

>> 22nd Day : เงินไม่มาก ...แต่บั่นทอนกำลังใจ

---

>> 23rd Day : นโยบายอยู่เหนือเหตุผล...

---

>> 24th Day : ทิฐิ..อยู่คนละฝั่งกับเหตุผล

---

>> 25th Day : จุดประสงค์จริง ๆ คือ...ความราบรื่นของการทำงานไม่ใช่หรือ?

---

>> 26th Day : ยศ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีความเพียร มีสติ มีการงานสะอาด

---

>> 27th Day : ใคร่ครวญก่อน แล้วจึงทำ!

---

>> 28th Day : ..เป็นผู้สำรวม มีชีวิตอันประกอบด้วย เมตตาธรรม คุณธรรม และ..ไม่ประมาท

---

>> 29th Day : หากคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ นั่นคือต้นทุนที่เราปล่อยให้มันเกิดขึ้นเรื่อย ๆ

---

>> 30th Day : มีบางคน ยอมตายอย่างพร้อมใจ ก็ไม่ปรารถนาทำเรื่องต่ำช้าให้เป็นที่อัปยศ อดสู นั่นจึงเป็นวีระบุรุษที่ยอมตาย โดยไม่ยอมถูกเหยียดหยาม ย่ำยี

---

>> 31st Day : จงเคารพ บูชา พระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จงอย่า อ้อนวอน ขอร้องให้ท่านช่วย!

---

>> 32nd Day : จิตใจ มิใช่สิ่งที่ฝึกฝนได้ด้วย "ตำรา" แต่จะต้องฝึกฝนโดยผ่านการต่อสู้จริง ๆ โดยผ่านการปฏิบัติที่เป็นจริง

---

>> 33rd Day : การลำเอียง เข้าข้างตัวเอง เป็นอุปสรรคของการพัฒนาจิตใจ

---

>> 34th Day : ศัตรู มักอยู่ในพวกเดียวกัน

---

>> 35th Day : จงอย่ากลัว การมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว

---

>> 36th Day : หัดวางตัวเอง ให้อยู่ในฐานะ "คู่ต่อสู้" และสร้างความหวั่นไหวให้กับจิตใจคู่ต่อสู้

---

>> 37th Day : ก้าวหน้าไปอีกขั้น ยิ่งทำให้ชีวิตลำบากไปกว่าเดิมหรือเปล่า? ...แต่ไม่ว่าทางข้างหน้าจะวิบากแค่ไหน ก็ต้องเดินไปอยู่ดี!!

---

>> 38th Day : ปัญหา...ที่ได้ยินมักจะบอกว่า..."ไม่รู้" ถ้าไม่รู้ แล้วจะจัดการได้อย่างไร? โดยเฉพาะ ภายใต้ทรัพยากรจำกัด และพลิกผันตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

---

>> 39th Day : แผน ไม่เคยหยุดนิ่ง กลยุทธ์ต้องเท่าทัน หรือดักหน้าด้วยซ้ำ คำว่า "พอ" เท่ากับ "ไม่มี" มีแต่ว่า "แค่นี้" จะทำให้ดีได้อย่างไร!

---

>> 40th Day : มองปัญหาต่างกัน ผูกไปถึงการมองสาเหตุ และการแก้ไขที่ต่างกัน หลักวินิจฉัยเหมือนกัน หรือต่างกันไม่มาก ผลออกมาก็จะต่างกันไม่มาก แต่ถ้าหลักวินิจฉัยต่างกัน + มีอัตตา ก็จะทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคได้ในองค์กร

---

>> 41st Day : ความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่การครอบครอง

---

>> 42nd Day : น้ำที่ลึกและใสจึงจะมีปลา ป่าที่รกและทึบจึงจะมีสัตว์ คนที่มีคุณธรรม ความมั่งคั่งถึงจะมาเยือน

---

~~ To Be Continue ...

From Me...

-----------

CrediT For Every Good Msg. :: Everywhere, Fw Mails & Some Person


Seconds

Friends' blogs
[Add icechick's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.