<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
20 มิถุนายน 2552
 

นิวซีแลนด์.... ดินแดนแห่งฝัน ตอน ออกเดินทางสู่ Fox Glacier

มารีวิวทริปต่อครับ หลังๆนี่เริ่มทิ้งช่วงไปทีละหลายๆวัน เผอิญเผชิญกับภาวะงานยุ่ง และบางครั้งก็ขี้เกียจเองด้วย

วันที่เดินทางของวันนี้ตรงกับวันที่ 16 เมษายน 2552

เช้าวันต่อมาใน Queenstown พวกเราตื่นมาพร้อมกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจกับการเที่ยวสักเท่าไหร่ เพราะฝนยังคงตกต่อเนื่อง เข้าใจว่าตกต่อเนื่องมาจากเมื่อคืนเลย

พวกเราก็เลยใช้เวลานั้นไปกับการจัดเตรียมอาหารเช้าที่ครัว เราแบ่งทีมกันทำงาน ผมไปช่วยในครัว ส่วนบางคนไปจัดการเรื่องกิจกรรมที่เราจะไปทำกันวันนี้ ต้องบอกว่าวันนี้ที่ Queenstown ตามแผนของเรามีกิจกรรมที่เราจะต้องทำมากมาย เช่น ขึ้นกระเช้า Gondola เล่น Jet Over หรือแม้แต่กระโดด Bungy Jump ก็อยู่ที่นี่แหละ ต้องบอกว่านิวซีแลนด์คือ "ตัวพ่อ" ของการกระโดดบันจี้เลย

ในห้องครัวมีบางคนมาเดี่ยว แต่นั่งโต๊ะใหญ่ แต่พอเค้าเห็นกลุ่มเราแล้ว ไม่ลุกให้ทางก็ต้องลุกล่ะครับ เพราะโต๊ะเล็กอื่นๆ พวกเรานั่งไม่พอแน่ ก็ดีนะ ดูเค้ามีมารยาทดี ขอขอบคุณด้วยนะครับ

จัดการอาหารเช้ากันเสร็จก็ซัดไปเกือบเก้าโมงแล้ว แต่ดีตรงที่แดดออกพอดีเลย พวกเราไม่ได้เข้าเมืองอีกเลย แต่ต้องออกเดินทางต่อไปยังจุดกิจกรรมจุดแรก ซึ่งแน่นอนเราอาศัย GPS ตามเคย คราวนี้ไม่ยากเท่าไหร่เราก็มาถึงเนินเขาที่จะขึ้นไปชมวิวเมือง พร้อมกับเล่น LUGE

การเล่น LUGE เป็นกิจกรรมประกอบการขึ้นกระเช้า Gondola ซึ่งเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ขนคนขึ้นไปเพื่อไปชมวิวเมือง Queenstown กระเช้านึงนั่งได้ 4 คน พอพวกเราขึ้นไปรู้สึกอึดอัดอยู่พักนึง มีเพื่อนคนนึงช่างสังเกตซะ เปิดหน้าต่างลง เพราะไม่มีใครนึกว่าหน้าต่างจะเปิดได้ แต่มันเปิดได้จริงๆ รู้สึกดีขึ้นเยอะ

หลังจากขึ้นไปข้างบนก็เป็นจุดชมวิว มีคนถ่ายรูปเยอะแยะ วิวเมืองสวยมากจริงๆ ทั้งภูเขาและแม่น้ำตลอดจนแผ่นดินที่เป็นที่ตั้งของเมือง มันช่างผสมผสานกันได้อย่างลงตัว แล้วอากาศตอนนั้นก็ดีมากๆ พวกเราเก็บภาพสวยๆมาได้เยอะแยะเลย

ด้านในตัวอาคารก็มีร้านขายของที่ระลึก ซึ่งก็แน่นอนพวกแกะกะนกกีวีจะเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกนำมาทำเป็นสินค้าที่ระลึกมากที่สุด แต่ราคาที่นั่นก็ค่อนข้างสูง คงเป็นต้นทุนของการนำสินค้าขึ้นมาขายน่ะ

หลังจากชมวิวเมืองแล้วต้องไปเล่น LUGE พวกเราต้องเร่งหน่อยเพราะเสียเวลากับการถ่ายรูปไปมาก เดี๋ยวจะไปไม่ทันกิจกรรมต่อไป ทางเดินไปเล่น LUGE นั้นค่อนข้างงงๆ เดินไปเดินมา ออกตรงไหนก็ไม่รู้ งง แต่สุดท้ายก็ได้เล่นจนได้

ที่ LUGE ทุกคนต้องสวมหมวกกันกระแทก ซึ่งเค้าจัดให้ 2-3 สี เป็นกระบะใหญ่ๆ ลักษณะของ LUGE คือรถที่แบนราบติดกับพื้น เวลาคนลงไปขับจะคล้ายๆกับนอนขับ

ที่แม่น้ำสำหรับเล่น LUGE นั้น เป็นลำธารขนาดกว้างพอสมควรดูแล้วน้ำไม่ลึกมากนัก ก่อนลงเค้าจะมีให้ใส่เสื้อคลุมกับเสื้อชูชีพก่อนทุกคน ตอนเราเข้าไปรับเสื้อ เห็นคนที่เค้าเล่นเสร็จหัวเปียกกันเป็นแถวๆ ชักน่าสนุก แล้วแดดตอนนี้ก็ดีมากด้วย

พอได้เสื้อกันครบทั้งทีมแล้ว ทีนี้เจ้าหน้าที่ฝรั่งเค้าก็มาจัดพวกเราให้เป็นกลุ่มๆ จัดลำดับให้เสร็จเรียบร้อย เรานึกว่าจะมีการเทรนการเล่น ที่ไหนได้ จัดเพื่อถ่ายรูป แล้วตอนขึ้นมาก็มารับ แป่ววววว แต่เสียตังค์ด้วยนะ ไม่ได้ให้ฟรี

ก่อนลงเล่นพวกเรายืนรออยู่ริมแม่น้ำ ก็มีเรือลำที่พวกเราจะต้องขึ้นก็ผาดโผนมาแต่ไกล ประมาณว่าโชว์ให้เห็นว่าน่าหวาดเสียว น่าสนุกแค่ไหน เราว่ามันก็คือสปีดโบทบ้านเราดีๆนี่เอง ลำใหญ่หน่อย บ้านเราหวาดเสียวกว่าอีก เพราะพี่เล่นขับสปีดโบทกันในมหาสมุทร ทะเลอันดามันหรืออ่าวไทยกันเลย (ตอนเข้าค่ายสมัยมหาวิทยาลัย ยังเคยเกือบได้นั่งเรือหางยาวข้ามอันดามันเลย ฮี่ๆ แรงกว่า Jet Over นี้มากนัก)

ที่จริงจะบอกคนขับว่าไม่ต้องแสดงให้ดูก็ได้ เพราะยังไงพวกเราก็เปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว จ่ายตังค์ไปแล้วนี่ ฮี่ๆ แต่ว่าไหนๆมาแล้วก็ลองๆไป พอได้เวลาลงเรือ พวกเราก็จับจองกันไป ของผมขอนั่งติดริม ซึ่งเป็นพวกขึ้นก่อน อยู่หลังคนขับเลย ลำของเรา แค่พวกเราก็เกินครึ่งลำแล้ว มีฝรั่งลุงหลานมาอีกคู่ แล้วก็ใครต่อใครอีกนิดหน่อย

พอเริ่มออกเรือ ก็พาไปเวียนเสียว มันก็เสียวดีอะนะ ไม่อันตรายสักเท่าไหร่ เพราะคนควบคุมเรือเค้าท่าทางประสบการณ์เยอะมาก มีกล้องติดอยู่ระหว่างทางด้วย ทีแรกนึกว่าตรวจสอบความปลอดภัย ที่ไหนได้ ตามเคย ถ่ายรูปแล้วมาขายต่อ ฮี่ๆ เป็นธุรกิจไปหมดเจงๆ

พูดถึงเล่น Jet Over นอกจากความสนุก ความตื่นเต้นระคนหวาดเสียว(ที่ได้นั่งและเสียตังค์) แล้วก็ยังมีอีกสิ่งที่ต้องกล่าวถึงคือวิวทิวทัศน์สองข้างทาง เนื่องจากแม่น้ำที่ว่าเป็นเหมือนลำธารมากกว่า เพราะความกว้างไม่มากนัก บางช่วงตื้นๆ น่าลงเล่นน้ำมาก แต่น้ำคงเย็นจับใจ และไหลแรงพอสมควร เผอิญโชคดีว่าวันที่พวกเราไปนั้น อากาศเป็นใจสุดๆ หลังจากเมื่อวานเย็นฝนตกต่อเนื่องจนกระทั่งถึงเช้า แต่ตอนที่เราเล่น Jet Over เป็นช่วงที่แดดเป็นใจสุดๆ

สองข้างทางก็จะเป็นทั้งโขดหินและต้นไม้ตามธรรมชาติสีสันสวยมาก มีเพื่อนคนนึงบอกว่ามันเหมือนเค้าจัดทำโดยมนุษย์ เพราะมันช่างสวยเกินไปกว่าที่จะบรรยายได้ แล้วธรรมชาติทำไมถึงได้จัดให้แต่นิวซีแลนด์อ่ะ ไม่เห็นจัดให้ที่อื่นๆบ้างเลย ไม่บาลานซ์

สรุปว่าพวกเราได้รับความประทับใจจากการเล่น Jet Over มากทีเดียว พอขึ้นมาก็ได้โปสการ์ดกันคนละใบสองใบ เค้ามีฟรีให้ 1 ใบเป็นโปรโมชั่น ซึ่งก็เป็นรูปพวกเราใน Jet Over นั่นเอง ดูเหมือนจะมี 3 แบบ นอกจากนั้นมีวีดีโอด้วย ซึ่งก็ต้องอีกนั่นล่ะ ต้องซื้อซีดีอีก แหม ช่างเชิงพานิชย์ได้ใจมากนะนั่น

เปียกปอนกันจนได้ที่แล้ว ก็ออกเดินทางต่อไปยังเป้าหมายต่อไปคือกิจกรรมท้ามฤตยู "บันจี้จัมพ์" ขับรถกันเป็นทางผ่านไปยังเมืองต่อไปอยู่แล้ว ออกจากตัวเมืองไปไม่ไกลนัก ก็จะพบจุดแวะอยู่ข้างทาง เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ ความกว้างของแม่น้ำ ผมว่าเกือบสักร้อยเมตรเห็นจะได้ ทางเข้าก็เป็นอาคารที่ทำเป็นบันไดเวียนขึ้นไป ค่อนข้างมีการจัดการที่ดีทีเดียว

เริ่มต้นในกลุ่มผมมีคนที่โดดแน่ๆ แสดงเจตนารมย์ตั้งแต่ก่อนมานิวซีแลนด์ แล้ว 2 คน ก็มีอีก 5 คน บอกยังไงก็ไม่โดด ส่วนผมเหลือคนสุดท้าย แบบว่าเหมือนสองจิตสองใจ แต่สุดท้ายดูๆไป ก็ไม่ค่อยอยากเล่นเท่าไหร่ เพราะผมเป็นคนกลัวความสูง แล้วก็รู้สึกว่าช่วงเวลาแห่งความเสียวมันช่างน้อยนิด ไม่คุ้มกับเงินที่เสีย คิดอย่างนี้เลยตัดสินใจไม่โดด เพื่อนที่โดดก็พยายามโน้มน้าวให้เปลี่ยนใจ แต่ผมก็ตัดสินใจ ขอเป็นคนดูดีกว่า

จุดที่กระโดดจะอยู่ตรงกลางสะพาน กลางแม่น้ำเลย ความสูงดูเหมือนจะแค่ 43 เมตร โดดทีละคน พอแกว่งไปแกว่งมาจนมึนได้ที่แล้ว ก็จะมีเรือที่รออยู่ด้านล่างพายเข้ามารับ

คนที่ไม่โดดก็จะมีจุดให้ยืนลุ้น ยืนดูคนโดดหลายจุดเหมือนกัน สังเกตว่าบางคนโดดก็ไม่มีเสียงกรีดร้อง ผมว่าแบบนี้มันน่าจะไม่สนุกนา น่าจะต้องตะโกนแหกปากร้องให้ดังๆ ให้สมกับเป็นการท้ามฤตยู

คนที่เล่นส่วนมากอายุก็ประมาณ 20-40 ปีน่าจะได้ มีทุกชนชาติ ฝรั่ง เอเชีย แขก พุทธ มีหมด สรุปว่าทุกชนชาติต่างก็ล้วนอยากเสียวด้วยกันทั้งนั้น สงสัยจะเป็นสัญชาติญานเดิมของมนุษย์

ก่อนโดดจะมีการชั่งน้ำหนักด้วย และที่แน่นอน ระหว่างโดดก็มีการเก็บภาพ ไว้ให้เป็นที่ระลึกและจำหน่ายหากต้องการหลายๆมุม ช่วงเวลาที่โดดกินเวลาสั้นมากคนละประมาณ 3 นาทีได้ผมว่า เพราะมันแกว่งไปแกว่งมาไม่นานก็หยุดแล้ว

อ้อ มีอีกอย่างคือเค้าจะให้เราเลือกว่าโดดแบบหัวถูกน้ำรึป่าว ถ้าถูกน้ำก็จะปล่อยให้ยาวหน่อย แต่เพื่อนผมคนนึงบอกเอาหัวถูกน้ำ แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ถึง ไม่รู้ว่ามันสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ถูก หรือว่าไอ้คนผูกเชือกมันคำนวณระยะผิด ไอ้กรณีหลังนี้น่ากลัวนะ ถ้ามันผิดแล้วทำให้เกิดอันตรายล่ะ บรื๋อส์ส์ ไม่อยากคิด

พวกผมเสร็จจากบันจี้จัมพ์ก็เข้าไปบ่ายสองแล้วเห็นจะได้ ก็น่าจะได้เวลาหาอะไรกินกันอีก ออกเดินทางกันต่อมุ่งหน้าไปทะเลสาปวานากะ ซึ่งเป็นจุดหมายที่จะนอนในคืนนี้ เพราะมีการปรับแผนใหม่ แทนที่จะไปนอน Fox Glacier ดูจะไกลไปหน่อย กลัวจะชะโงกทัวร์กันเกินกว่าเหตุ

ขับไปเรื่อยๆ จะมีเมืองที่เหมือนเป็นของเล่น ลักษณะเมือง บ้านเรือนที่สร้างเหมือนเป็นเมืองของเล่น บ้านน่ารัก ถนนหนทาง สิ่งแวดล้อม สวน น่ารักไปหมด ชื่อเมือง Arrow Town ที่นี่เราจอดรถกันเสร็จรีบเก็บรูปกันใหญ่ ขณะเดียวกันก็เดินหาอาหารกลางวันกินกัน เจอร้านอาหารไทยอยู่ร้านนึง ดูเหมือนจะชื่อร้าน Thai art หรืออะไรสักอย่าง เจ้าของเป็นคนเกาหลี ดูสิอาหารไทยแต่เกาหลีมาสวมรอยซะ

ไม่ต้องบอกเลยว่ามันเป็นอาหารไทยที่ห่วยแตกมากๆ มีเด็กพนักงานอยู่สองคน เป็นคนไทยทั้งคู่ เป็นทั้งพนักงานเสริฟและพ่อครัวไปด้วย พวกเราสั่งเมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วง ไก่ผัดกะเพรา ไก่ผัดอะไรอีกสักอย่างจำไม่ได้ ที่สั่งแต่ไก่เพราะไม่มีหมู

แต่สิ่งที่ได้คือเหมือนเค้าผัดกระทะเดียวกันหมด แล้วตักขึ้น ผัดต่ออีกหน่อย ใส่ผักให้มันแตกต่างแล้วตักขึ้น ได้อีกเมนู แล้วผัดต่อ ใส่ผักอื่นอีก ตักขึ้น ได้อีกเมนู กินและดูก็รู้ว่ามาจากกระทะเดียวกันหมดเลย แต่เอาเถอะ พวกเราก็ไม่ได้บ่นอะไรกัน ตั้งหน้าตั้งตากินกันเพราะหิวกัน

กินเสร็จเดินเล่นต่อสักพัก อ้อ แล้วก็ที่นี่เป็นที่ๆผมได้ใช้บริการไปรษณีย์ ส่ง postcard ให้เพื่อนและให้ตัวเองด้วย (เห็นเพื่อนผู้หญิงชอบทำกันจัง เลยเอาบ้างก็ได้) ผมเลือกโปสการ์ดรูปแกะส่งให้ตัวเอง เพื่อนแซวว่าน่ารักไปรึป่าว ไม่เหมาะกับตัวผม เอ๊ะ ยังไง

นอกจากนั้นก็ส่งกุญแจของ Youth Hostel Mt.Cook ที่ผมลืมติดมาในกระเป๋ากางเกงด้วย ถือโอกาสส่งจากที่นี่ซะเลย เพราะกลัวเค้ามาปรับเงินตามหลังล่ะยุ่งเลย

ออกจาก Arrow Town (เมืองของเล่น) แล้วก็มุ่งหน้าต่อไปทะเลสาปวานากะ ระหว่างทางก็ผ่านเมืองดูเหมือนจะชื่อ ครอมเวลส์ เป็นเมืองที่มีผลไม้เยอะ (ตามข้อมูลในหนังสือ) พวกผมขับรถเวียนไปเวียนมาอยู่แป๊บนึง ก็ผ่าน เพราะเป็นเมืองสวย เงียบ คนน้อยตามเคย นี่คือเอกลักษณ์ของประเทศนี้จริงๆ ถ้ามาอยู่คนเดียวคงบ้าตายแน่

ระหว่างทางเจอฝรั่งคนนึงยืนโบกรถ ก่อนเข้าเมืองครอมเวลส์ ใจนึงก็อยากช่วย แต่ว่าช้าก่อน เราไปตามทางเราก่อน ผมคิดว่าถ้าแวะเข้าครอมเวลส์แล้วกลับออกมายังไม่ไปไหน ก็ยินดีจะรับไปด้วย ปรากฎว่ายังอยู่จริงๆ ไม่มีรถไหนรับเค้าเลย เราก็เอ้า ที่ว่างก็ยังมี อีกอย่างเค้าก็มีจุดหมายเดียวกับเรา

พวกเรามาถึงทะเลสาบวานากะกันก็เกือบมืดแล้ว ที่จริงยังมีอีกโปรแกรมคือ Puzzle world คือว่าเป็นคล้ายๆพิพิธภัณฑ์ที่แสดงพวกปริศนาทางวิทยาศาสตร์ไว้ข้างใน แต่ตอนเราไปถึงมันปิดซะแล้ว เสียดายจัง แล้วก็บึ่งรถต่อไปที่ทะเลสาป ร่ำลาฝรั่งเสร็จ พวกเราแวะถ่ายรูป ขับรถชมวิว จนเริ่มมืด

พวกเรายังไม่ได้จองที่พักกัน ก็เลยเวียนหาจนได้ที่พักที่นึงสวยดี สไตล์เดิมคือ Back Pack ราคาก็ย่อมเยาว์ดี เมืองนี้ก็เหมือนเมืองอื่นๆ เล็กๆ สวยๆ คนน้อยๆ มันช่างเป็นเอกลักษณ์ของนิวซีแลนด์จริงๆ ประชากรน้อย แต่เมืองสวยมากนะ

ถึงเวลาอาหารเย็นวันนี้เป็นคิวของอาหารอินเดีย สั่งแป้งนานกินกับแกงเผ็ดไก่ แบ่งๆกัน สั่งกันก็ไม่ค่อยเป็น ก็พยายามถามเค้าว่าอันนี้เป็นยังไงๆ กินๆก็พอไหวนะ แต่อืดตรงแป้งนานนี่แหละ แป้งโรตีอืดเชียะ ย่อยยาก แต่ร้านนี้คนเยอะ อยู่ชั้นสองของอาคาร

กินเสร็จก็กลับเข้าที่พัก เพราะดูไม่มีอะไรให้ทำเลย ไปนั่งเตรียมทริปพรุ่งนี้ต่อ Fox Glacier ที่จะต้องอาศัยร่างกายแข็งแรงหน่อย เพราะต้องเดินๆ และเดิน

ตกดึกหน่อย ผมอยากโทรติดต่อบ้านที่เมืองไทยมาก จึงเดินหาตู้สาธารณะหยอดเหรียญโทร ตู้ก็หาไม่ยาก สามทุ่มผมออกมาเดินหา โหเงียบมาก แทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่บนถนนแล้ว พอได้โทรก็ดีใจ เช็คว่าที่บ้านโอเค เราโอเค แค่นั้นก็สบายใจแล้ว เที่ยวต่อได้ อ้อ ที่เป็นห่วงคือแม่ผม แกไปเที่ยวเขมรช่วงนี้พอดี ก็เลยโทรไปถามด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ได้รับข่าวว่ากลับมาถึงไทยแล้ว และกำลังจะไปทำธุระอื่นต่ออีก อย่างนั้นแล้วก็สบายใจล่ะ

ระหว่างทางกลับก็ผ่านเธคผับ ก็มีให้เที่ยวนะ แม้ว่าเมืองในภาพรวมมันเหมือนเล็กๆ แต่ก็มีที่สำหรับคนกลางคืน แต่ผมว่าคนที่นี่เค้าน่าจะเจอกันหมด ไปตรงไหนก็รู้จักกัน เพราะเหมือนต่างจังหวัดบ้านเรา ไปกินข้าวร้านไหนก็เจอคนรู้จักเสมอๆ เพราะงั้นทำอะไรรุ่มร่ามไม่ได้เลย แต่เราแบบนักท่องเที่ยวก็ลุยเต็มที่ ไม่มีใครรู้จัก น่าเสียดายเพื่อนกลุ่มผมไม่มีใครยอมออกมาเที่ยวเลย ห่วงนอนกันหมด

ผมกลับไปห้องก็จัดแจงข้าวของอาบน้ำ นอน หมดไปอีกวัน นอนพักผ่อนเอาแรงเพื่อพรุ่งนี้จะต้องไปต่อกัน ... Fox Glacier เราเจอกันแน่ พรุ่งนี้



วิว Queenstown หลังฝนตก ก่อนออกเดินทาง



วิวจากสถานีกระเช้า Gondola เมือง Queenstown



LUGE เครื่องเล่นบน Gondola เด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นดี



วิว Qeenstown จากสถานีกระเช้า Gondola อีกมุมนึง



มือ LUGE



Jet Over อย่างเปียก



สะพานกระโดดบันจี้จัมพ์ อย่างสูง



เหินแล้ว เหินเวหา ท้ามฤตยู 3,000 กว่าบาทต่อครั้ง ได้เสียวประมาณ 10 วินาที



Arrow Town เมืองเหมือนของเล่น น่ารักน่าชัง วิวสวยอีกตามเคย



ยืนยันความสวยของเมืองด้วยต้นไม้ในสวนสาธารณะ เหลืองอร่ามได้ใจมากๆ



ต้นไม้ระหว่างทางก็แข่งกันเหลืองอร่าม สวยงาม



และสุดท้ายด้วยทะเลสาปวานากะ จุดหมายปลายทางของวัน

และก็ขอจบวันนี้ไว้เพียงเท่านี้ครับ วันต่อไป 17 เม.ย. 52 ไม่รู้จะใช้เวลาเขียนอีกกี่วัน แต่ยังไงก็จะเอาให้จบให้ได้


Create Date : 20 มิถุนายน 2552
Last Update : 20 มิถุนายน 2552 10:29:56 น. 2 comments
Counter : 591 Pageviews.  
 
 
 
 
แวะมาทักทายค่ะ
 
 

โดย: CrackyDong วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:22:43:55 น.  

 
 
 
แวะมาชมค่ะ

ชอบรูปต้นไม่สวยจังค่ะ
 
 

โดย: ชวนชมนะ วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:19:45:40 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

อนุรักษ์นิยม
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add อนุรักษ์นิยม's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com