|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ทริปเวียดนาม ต่อเนื่อง เชียงใหม่ พร้อมมิตรภาพใหม่ๆ
หายจากบล็อกไปนานครับ นึกว่าเค้าจะไม่ให้ผมเข้ามาเขียนอีกแล้วซะอีก แต่เข้าไปเข้ามา สนิมเกาะอยู่นานกว่าจะหาทางเข้ามาเขียนบล็อกเจอ
กลับมาใหม่ เพราะมีเรื่องไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ อยากบันทึกใส่ไว้ในบล็อก เผื่อวันหลังกลับมาอ่านเอง จะได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ณ ตอนนั้น
ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวมาหลายที่มาก ส่วนมากไปกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน รวมทั้งเพื่อนใหม่ด้วย แต่กาลกลับว่าผมเสียเพื่อนใหม่ไป 2 คน แล้วก็ยังมีอีกคน แม้จะยังไม่ได้เสียไป แต่ความรู้สึกก็ยังไม่กลับมา 100% เหมือนก่อนหน้า
คือเรื่องของเรื่องแต่ละกรณีก็มีความแตกต่างในตัวของมันไปตามเรื่อง เริ่มจากเพื่อนคนที่ 1 ก่อน
เพื่อนคนนี้ทำงานอยู่ที่เวียดนาม รู้จักกันเพราะเค้าทักเข้ามาใน hi5 ผม แล้วก็ได้คุยกันเป็นระยะๆ ผ่านทาง hi5 นั่นล่ะ
จนผมมีแผนจะไปเที่ยวเวียดนาม ผมมีเพื่อนผมคอยอยู่ก่อนแล้ว เค้าก็จะมาเจอผมเป็นครั้งแรกที่โฮจิมินท์ซิตี้
ทริปแรกตอนนั้นอยู่ในช่วงคริสมาสต์ ผมจำได้ดี เพราะได้ยินเสียงร่ำลือว่าช่วงคริสมาสต์ที่โฮฯ จะสวยมาก เพราะที่นั่นมีคนนับถือศาสนาคริสต์กันเยอะเหมือนกัน
แต่ปรากฏว่าช่วงที่ผมไปเที่ยว ที่เขมรอากาศสดใสดี แต่พอเข้าเขตเวียดนาม ฝนตกกระจายเลย เป็นการเดินทางคนเดียวของผม ซึ่งไปด้วยรถประจำทางข้ามประเทศเขมร เวียดนาม
ทริปนั้นก็สนุกดี แม้ว่าจะเฉอะแฉะไปหน่อย กลุ่มเรามีสามคน มีเพื่อนเก่าผม (ชาวเวียดนามเลย) และก็คนใหม่ที่ผมเพิ่งได้คุยทาง hi5 (คนไทย)
ผมใช้เวลาไป 3 วัน 2 คืนในโฮฯ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของผม แต่ผมชอบที่นี่ เพราะดูเป็นเมืองที่มีสีสันสวยงามดี มอเตอร์ไซค์เยอะดีด้วย
เราไปเที่ยวกันค่อนข้างหลายที่ กลางวันเดินเที่ยว ถ่ายรูป กินข้าวร้านที่อยากไปกินมานาน ตลอดจนไปเที่ยวผับ บาร์ นวด ไปคราวนี้เก็บได้หมด เพราะเพื่อนที่อยู่เวียดนามจัดการให้หมด
สรุปว่าเที่ยวโฮฯรอบนี้คุ้มและรู้สึกโอเคมากๆ ที่สำคัญได้มิตรภาพจากเพื่อนใหม่มาอีก 1 คน แล้วทั้งสองคนก็สัญญาว่าจะมาเที่ยวเขมร โดยให้ผมเป็นไกด์ และผมก็ยินดีมาก เข้าทำนอง มาไม่กลัว กลัวไม่มา
จบทริปที่ 1
เข้าสู่ทริปที่ 2
หลังจากไปเที่ยวเวียดนามกลับมา ก็ต้องทำงานต่อ เพราะแอบหนีลูกน้องเที่ยวไปแล้ว ทีนี้ก็เลยทำงานจนถึง 30 มกราคมเลย เพราะว่าที่เขมรหยุดเทศกาลปีใหม่แค่วันเดียว คือ 1 มกราคม ขนาดวันที่ 31 ยังทำงานกันอยู่เลย แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ให้ความสำคัญ รู้สึกเฉยๆกับการเข้ามาของปีใหม่มากๆ แต่ที่พนมเปญก็เงียบมาก เพราะชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะกลับประเทศกันหมด
แล้วช่วงปีใหม่ ก็มีเพื่อนคนนึงเป็นคนไทยทำงานที่เขมรด้วยกัน แกมีแผนไปเชียงใหม่ ซึ่ง ณ วันที่ 30 ที่ผมอยู่เขมร แกก็ล่วงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว และก็ชวนให้ผมไปกับแกด้วย
ที่จริงเชียงใหม่ก็ไปบ่อยนะ ประมาณเฉลี่ยปีเว้นปีเลยทีเดียว แต่การไปแต่ละครั้งไปกับเพื่อนที่ต่างกัน ก็จะได้ประสบการณ์ใหม่ๆตลอด คิดๆแล้วว่ากลับไปบ้านที่สงขลา คงเหมือนทุกๆปี เคาท์ดาวน์กับครอบครัว ก็เลยหาอะไรแปลกใหม่บ้างดีกว่า สรุปว่าผมก็ตอบตกลงเพื่อนไป
ที่เชียงใหม่ ทริปนี้เพื่อนผมเค้าเช่ารถขับ ซึ่งก็สะดวกดี เที่ยวในเมือง ส่วนมากจะเป็นการนั่งชิวร้านกาแฟ กินข้าว เที่ยวผับ พอดีเจอเพื่อนชาวจีนที่เคยรู้จักกัน มาเที่ยวพอดีเลยจอยกันไปเลย
ที่เชียงใหม่ช่วงปีใหม่ก็เป็นธรรมดาที่คนจะล้นหลาม มีแต่รถทะเบียนกรุงเทพเต็มเมือง แต่สำหรับผมคิดว่าก็ไม่ถึงกับเยอะมากอย่างที่คิดเท่าไหร่ พอได้แย่งกันซื้อแย่งกันกินนิดหน่อย พอหอมปากหอมคอ
นอกจากนี้ก็ได้เที่ยวดอยด้วย ไปดอยอ่างขางมา ทีแรกกะว่าไปแม่ฮ่องสอน แต่กลัวว่าเวลาไม่พอ เอาแค่ดอยอ่างขางก็พอ ซึ่งผมยังไม่เคยไปมาก่อนเลย
บนดอยอากาศหนาวมาก ประมาณ 4 องศาเห็นจะได้ แล้วก็ไม่ได้เตรียมตัวพร้อมมากด้วย เพราะพอคิดจะไปตอนนั้น ก็หายืมจากญาติๆในเชียงใหม่ ที่พักอะไรก็ไม่ได้จอง
ทำให้การมาเที่ยวดอยอ่างขางของผม เหมือนว่าสักแต่มาถึง แต่นอนหนาว หลับไม่ค่อยดี ทำให้ไม่ได้รู้สึกสนุกอะไรมากมาย กลับรู้สึกว่าทีหลังไม่เอาแล้ว ถ้าจะมาก็ขอเตรียมตัวล่วงหน้าหน่อยดีกว่า
Create Date : 07 มีนาคม 2552 |
Last Update : 9 มีนาคม 2552 5:51:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 523 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
อนุรักษ์นิยม |
|
|
|
|