พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
17 พฤศจิกายน 2551
 

เขมรบุกกรุง...ร่วมงานแต่งเพื่อนรัก.....

12 พฤศจิกายน 2551

ต่อครับ ต่อ....
ตอนนี้ผมกลับมาอยู่เมืองไทย นั่งพิมพ์ไดอยู่ที่คอนโดเมืองทองธานี สถานที่ซึ่งเก่ามาก แถมเครื่องอำนวยความสะดวกก็ไม่ค่อยมี (ทีวี วิทยุ เครื่องเสียง ไม่มีสักอย่าง) มีอยู่อย่างเดียวที่ขาดไม่ได้จริงๆ ก็คือคอมพิวเตอร์เครื่องนี้แหละ ดูเหมือนมันจะมีความสำคัญมากขึ้นทุกทีกับชีวิตผมนะ เจ้าคอมพิวเตอร์นะ

จะว่าไปแล้วช่วงเวลาที่ไม่มีคอมพิวเตอร์หรือไม่สามารถออนไลน์ได้เนี่ย ชีวิตก็ดูเหมือนจะเงียบสงบดี และมีโอกาสไปข้างนอกบ้าง เจอผู้เจอคน ค่อยรู้สึกเป็นสัตว์สังคมหน่อย ไม่เป็นสัตว์หน้าจอคอมที่วันๆเอาแต่เก็บเนื้อเก็บตัวจนเกินไป สรุปว่าคอมมันดีหรือไม่ดีกันเนี่ย!!!!!!

ผมกลับมาไทยตั้งแต่เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากร่วมงานแต่งงานของเล้งที่มอนดรีออล พนมเปญแล้วล่ะ ทั้งนี้ต้องรีบกลับ flight เช้า เนื่องจากมีอีกงานแต่งรอให้ไปร่วมอยู่ คืองานของบีบี๋ เพื่อนสมัยเรียน ป.โท โชคดีเครื่องบินตรงเวลามาก ผมจับแท็กซี่ต่อไปที่โรงแรมดิเอมเมอรัลทันที เพียงแค่ไม่เกิน 30 นาที ผมก็หอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังมาถึงล็อบบี้โรงแรม

ในงาน....

ผม : เฮ้ย หวัดดีๆ เป็นไงกันบ้าง สบายดีมั้ย (แก้เขินด้วยการรี่เข้าไปทักทายทุกคนแบบมืออาชีพก่อน)
เพื่อนๆ : อ้าว มาแล้วเหรอ หวัดดีเว้ย หวัดดีค่ะพี่ หวัดดีเว้ย อืม ไปเรื่อยๆ แล้วแต่สถานภาพว่าเป็นเพื่อน พี่ หรือน้อง
ผม : โห นี่มีตัวเล็กๆมากันเพียบเลย ลูกหลานใครบ้างเนี่ย (ในใจเริ่มเครียด เพราะเด็กๆมันโตเร็วมากๆ)
เพื่อน : ก็มี.....หวัดดีคุณลุง หวัดดีคุณน้าสิลูก เฮ้อ เริ่มเป็นลุงคนจริงๆแล้วสิเรา
เพื่อนๆ MBA สมัย ป.โทนี่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่่าไหร่ จะเจอกันก็ต่อเมื่อมีงานแต่งงานแบบนี้แหละ นอกนั้น ก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะมาจัดเลี้ยงมาเจอกันเลย คงเป็นเพราะต่างคนต่างมีภาระงานที่ต้องรับผิดชอบ

เวลาเจอกันทีงี้ก็เป็นไง ยังทำงานที่เดิมรึป่าว ยังทำอยู่เขมรรึป่าว อ้วนขึ้นนะ ผอมลงมั้ย ตามประสาคนเคยคุ้นเคย แต่ไม่ได้เจอกันซะนาน สำหรับเพื่อนๆ MBA ที่ไปกันวันนั้นเท่าที่นึกออกก็มี ป๊อด ลุลา(น่ารักเหมือนเดิม) ชัย ย้อย(พร้อมลูกและน้องชาย) ปุ๊กกี้(พร้อมลูก) พี่กุ๊ก(พร้อมสามีและลูก) หลี(พร้อมสามี) มูน แอ๊ด(สวยขึ้นมาก) ปลา ฯลฯ ขอโทษด้วยสำหรับคนที่นึกไม่ออกล่ะ เพราะนับวันเซลสมองคงตายลงๆไปเรื่อยๆ

มาถึงบ่าวสาวบ้าง เจ้าสาวนั้นคุ้นเคยดี เพราะวันนี้เรามาในฐานะเพื่อนของเจ้าสาว เป็นเพื่อนเรียน MBA ที่ค่อนข้างสนิทกันมาก ถึงขนาดมีบางคนเค้าลุ้นให้เราเป็นแฟนกัน แต่ผมก็ยอมรับนะว่าผมสนิทกับเค้าเป็นพิเศษ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ในที่สุดที่จะร่วมหอลงโลงกัน

สาวเจ้าก็เป็นคนไม่เรื่องมาก แต่อาจจะติดขี้วีนไปบ้างตามประสาผู้หญิง หากมีอะไรไม่ถูกใจ หรือคิดว่าทำไมแค่นี้ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ ก็จะบอกว่าถ้าุคุณเธอลดๆลงมาได้จะดูอ่อนหวานน่ารักขึ้นอีกมากเลยทีเดียว วันนั้นในงานผมดันไปปากไม่ดีไปทักเธอว่าสะบึ้มจัง เพราะว่าที่จริงแขนเธอใหญ่ขึ้นมาก ไม่รู้จากการตีแบด เทนนิส หรือว่าการกิน แต่คิดว่ามาจากอันสุดท้ายมากกว่า 5555

มาถึงฝ่ายเจ้าบ่าว ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน มาถึงตอนให้ซองหน้างานมีรูปถ่ายหน้างาน เออ หน้าตาก็เข้าท่านี่หว่า สไตล์ตี๋ๆ ไม่หนีผมสักเท่าไหร่หรอก แต่ไปดูตัวจริงเป็นๆปรากฎว่าตัวเล็ก ป้อมๆ นี่ว่าไปนั่น จะได้เสียความมั่นใจ ทำไมผมเป็นคนอย่างนี้เนี่ย แต่เค้าก็ดูจริงใจและที่สำคัญคงรักเพื่อนผมจริงๆ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก

ในงานมีการแบบว่าเต้นรำโชว์ด้วยคือ บ่าวสาวก่อนขึ้นเวที ตอนกำลังเข้าสู่พิธีการก็มีการเต้นโชว์ แบบว่าคงซ้อมกันมาอย่างดี แล้วก็เป็นงานแรกเลยมั้งที่ผมเห็นว่าบ่าวสาวมีการเต้นโชว์กันด้วย... แปลกดี

เช้าวันรุ่งขึ้นผมเข้าออฟฟิศที่เมืองไทย ทำงานตามปกติ ทั้งที่จริงๆแล้วผมจะต้องได้หยุดยาว เนื่องจากช่วงนี้ที่เขมรเป็นวันหยุดเทศกาล Water Festival หรืออมตุ๊ก หรือแข่งเรือและลอยกระทง คนที่เขมรถือว่าเป็นงานสำคัญมาก คนตามต่างจังหวัดจะเข้ามาที่พนมเปญเพื่อร่วมเทศกาลแข่งเรือ ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ก็ลองคิดดูว่าทางราชการกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการอย่างเป็นทางการ 4 วันรวด

ถือซะว่าผมเข้ามาทำงาน แถมให้บริษัท แต่ที่จริงในใจผมคิดว่าผมจะเอาคืนวันศุกร์ คือที่จริงมันหยุดตั้งแต่จันทร์ถึงพฤหัส แต่ผมว่าจะต่อเนื่องวันศุกร์ไปด้วยและก็จะรวมเสาร์ อาทิตย์ไปด้วยอีก 2 วัน ในวันนั้นที่บริษัท ผมก็ได้ทำเรื่องติดต่อประสานงานอยู่หลายเรื่อง แบบว่าได้งานมากพอควร งานของผมมันจะเรียกว่าเบ๊ก็ได้ แต่ผมมีอำนาจตัดสินใจมากพอควร และอิสระพอที่จะครีเอทอะไรใหม่ๆก็ได้ตามที่เห็นว่าเหมาะสม แต่ก็อีกนั่นล่ะไม่ถูกใจนายก็ตายได้ง่ายเหมือนกัน มนุษย์เงินเดือนนี่นาทำไงได้ (ใครอยากอ่านละเอียดเรื่องมนุษย์เงินเดือน แนะนำให้ไปหาหนังสือ เลทซะโก ซารารี่มัง โดย บองเต่า) ที่น้องณัฐของผมเป็นคนเขียน วางจำหน่ายแล้วตามแผงหนังสือทั่วไป นี่ไม่ได้คิดค่าโฆษณาเลยนะนั่น

ช่วงนี้ตั้งแต่ผมกลับมาไทย อากาศที่กรุงเทพดีมาก คือไม่ร้อนเกินและอากาศหนาวเริ่มปกคลุม ทำให้อากาศรู้สึกแห้งๆ ทำให้ผมเกิดความรู้สึกอยากไปเที่ยวเชียงใหม่มาก อยากไปร่วมงานลอยกระทงที่นั่นสักครั้ง (เกิดมายังไม่เคยไปร่วมงานเลย).....



Create Date : 17 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2551 22:55:48 น. 2 comments
Counter : 463 Pageviews.  
 
 
 
 
Sawadee ka.
 
 

โดย: CrackyDong วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:14:45 น.  

 
 
 
Sawadee ka.
 
 

โดย: CrackyDong วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:14:46 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

อนุรักษ์นิยม
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add อนุรักษ์นิยม's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com