พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
19 พฤศจิกายน 2551
 

เขมรตามหากระทงหลงทาง.....ถึงเพชรบูรณ์

กลับมาต่อ...
จำปาลังเลเมื่อแรกผมชวน แต่เจือปนไปด้วยความอยากไปมากกว่า ผมจึงสำทับว่าขับรถไปกันนะ แล้วน้ำมันรถผมออกเอง เพราะจำปาเล่นออกตัวตั้งแต่แรกชวนว่า ไม่มีเงินเลย งานเข้าเลยผม ไม่มีเงินก็หนีไม่พ้นเราต้องช่วยบ้าง เพราะจำปาชอบคิดว่าตัวเองเป็นจ้าว ไม่ต้องทำงาน จึงไม่มีรายได้เป็นหลักแหล่งที่แน่นอน แต่กระนั้นพอผมยื่นข้อเสนอสุดพิเศษ ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลซะขนาดนี้ โอกาสอย่างนี้ จำปาคงชั่งใจแล้วว่าหาไม่ได้ง่ายๆ เรื่องเวลาไม่ใช่ปัญหาของจำปา เพราะอย่างที่บอก จำปาไม่ได้ทำงานประจำ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ 8 โมง เลิกงาน 5 โมงเย็น แต่จำปาเป็นจ้าว จึงทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองต้องการ ในที่สุดผมก็ได้เพื่อนร่วมเดินทาง คือจ้าวจำปานั่นเอง

วันเดินทางจริงวันรุ่งขึ้น ผมรอโทรศัพท์จำปาจนถึงบ่ายแล้วถึงจะมีสายเข้ามาว่าพร้อมแล้วสำหรับการเดินทาง ผมคิดในใจ กรูจะได้ดูดอกทานตะวันก่อนค่ำมั้ยเนี่ย แต่ก็เอาเถอะๆ มาๆออกมาได้แล้ว ระหว่างที่รอ ผมก็ใช้เวลาว่างไปกับการทำงาน (เจ้านายสั่งงาน งานเข้าแต่เช้า) และเช็คข้อมูลท่องเที่ยวไปด้วย

ผม : กรูว่าแล้ว มรึงต้อง late กระจาย อย่างนี้กรูจะได้ดูดอกทานตะวันมั้ยเนี่ย นี่ก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสองแล้ว (ผมบ่นตั้งแต่แรกเจอหน้า)
จำปา : อ้าว ก็คุยกันแล้วไงจ๊ะว่าจะเที่ยวแบบชิวๆ ได้แค่ไหนแค่นั้น ไม่กะเกณฑ์อะไรมาก
(มรึงจะชิวเกินไปรึป่าว อีจำปา!!!!)
ผม : โอเคๆ ว่าแต่กรูหิวว่ะ ยังไม่ได้กินเที่ยงเรยยย
จำปา : ปาก็หิว หิวผู้ชายด้วย (แป่ววววววว)
แต่ปากับผมไม่มีอะไรกันนะครับ เพื่อนกันสนิทกันมานาน ปาจะชอบจิกและกินผู้ชาย (ถ้ามีโอกาส ขอโทษนะปาที่เอาเรื่องจริงผ่านจอ มาผ่านไดอารี่อีกที)

มนุษย์ผู้ชายเด็กๆ ที่รู้ตัวว่าหน้าตาดีควรอยู่ให้ห่างคุณปา เพราะหากอยู่ใกล้อาจโดนรัศมีคุณปาดึงเข้ามาอยู่ในวงจรอุบาทว์ได้ 5555

ประมาณเกือบพระอาทิตย์ตกดินผมกับจำปาก็มาถึงดงทุ่งดอกทานตะวันกัน โชคยังดีที่ยังไม่ทันหมดแสงแดด เราเลยเก็บภาพสวยๆกับดอกทานตะัวันได้มากพอสมควร แต่ดอกทานตะวันยังเพิ่งเริ่มบาน ทำให้สีเหลืองอร่ามของดอกทานตะวันมีน้อยไปหน่อย แต่ก็ยังมีความสวยงามด้วยตัวเอง เหมือนแบบว่าสวยจากข้างในมาเลย สงสัยว่าทำไมถึงมีปลูกอยู่แต่แถวลพบุรี เพราะดอกทานตะวันมาพร้อมอากาศหนาว ดังนั้นจังหวัดในเขตเหนือขึ้นไปน่าที่จะปลูกได้ทั้งหมด แต่เข้าใจว่าหากหนาวกว่านี้คงปลูกพืชอื่นที่ได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่านี้


ทุ่งดอกทานตะวัน เพิ่งเริ่มออกดอกกัน แต่ก็โอเคล่ะสำหรับผม (ไม่เคยเห็น)

มุ่งหน้าต่อไปยังเพชรบูรณ์ ระหว่างทางแวะเติมน้ำมันที่ อ.ชัยบาดาล และมีงานลอยกระทงตามวัดต่างๆที่อยู่ระหว่างทางไปตลอดทาง ผมกับจำปาไม่ได้แวะเลย เพราะกลัวว่าจะไปลอยกระทงที่เพชรบูรณ์ไม่ทัน ในที่สุดผมก็มาถึงเพชรบูรณ์ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง อากาศหนาวได้ที่เลยทีเดียว เส้นทางขับรถก็ค่อนข้างดีมาก เป็นถนนลาดยาง 4 เลนส์เป็นส่วนใหญ่ไปตลอดทาง พอเข้าถึงเมืองเราก็จะเห็นเทสโกโลตัสก่อนเลย ที่นี่มีเมเจอร์ซีนีเพลกซ์ด้วย แสดงว่าน่าจะเป็นเมืองใหญ่พอดูทีเดียว


งานลอยกระทงระหว่างทาง น่าสนุกแต่ไม่ได้แวะเลย กลัวไม่ทัน

ปั๊มน้ำมัน ปตท.ทางเข้าเมือง.....

ผม : น้องครับ ที่เพชรบูรณ์เค้าลอยกระทงกันที่ไหน
น้องชายชาวเพชรบูรณ์คือสิ่งมีชีวิตแรกที่ผมคุยด้วย ตอนนั้นน้องเค้ากำลังรอเพื่อนเข้าห้องน้ำ เห็นผมกับจำปาเข้ามาท่าทางไม่ใช่คนในเมือง เลยมองพวกผมแปลกๆ
น้อง : ทุ่งนาลีครับ อยู่ใกล้ๆกับเทคนิคเพชรบูรณ์
ผม : แล้วเทคนิคเพชรบูรณ์อยู่ไหน
น้องทำหน้างงๆ เหมือนว่ากรูว่าแล้วพวกมรึงต้องไม่รู้จักเทคนิค เพราะพวกมรึงบ่อจ้ายคนเมือง น้องเลยจำต้องอธิบายทางผมอยู่พักใหญ่ๆ เพื่อนน้องก็เสร็จธุระออกมาพอดี น้องท่าทางเป็นมิตร ผิวขาวตามสไตล์เด็กเหนือ (แม้ว่าจะเป็นตอนล่าง)
จำปา : แล้วน้องไปลอยด้วยรึป่าว
น้อง : ไปครับ
จำปา : งั้นเดี๋ยวเราเจอกันที่งานนะ (ที่จริงจำปาคงอยากจะชวนนั่งรถไปด้วยกันเลยด้วยซ้ำ) จำปาชวนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ซึ่งน้องมันคงสัมผัสได้ เลยรีบบึ่งมอเตอร์ไซค์จากไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ 5555
ก่อนจากไป น้องเค้าหันมายิ้มๆให้อย่างกรุ้มกริ่มเช่นกัน (เอ ชักจะยังไงซะแล้วสิ งานเข้าอีกป่าวเนี่ย ผมคิดในใจ) หลังจากน้องขี่มอเตอร์ไซค์จากไป ปล่อยให้จำปามีความหวังเพิ่มขึ้นในคืนลอยกระทงอย่างนี้ คืนนี้ถ้าโชคดีอาจมีกระทงหลงทางมาให้จำปาช่วยเหลือก็เป็นได้ อิๆๆ

ยุทธการตามหากระทงหลงทางเริ่มขึ้นทันทีหลังจากเข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จ เริ่มจากการขับรถเวียนเมือง ในเมืองมีแหล่งลอยกระทงไม่ใหญ่นัก คล้ายๆเป็นคลองกลางเมือง แล้วคนก็มาลอยกันที่นี่เพราะใกล้บ้านไม่ต้องออกไปทุ่งนาลีเหมือนที่น้องข้างบนแนะนำ แต่่ว่าทุ่งนาลีจะเป็นจุดใหญ่ มีงานมีมหรสพให้ดูด้วย ที่สำคัญวัยรุ่นก็จะพาแฟน พาเพื่อนไปลอยกระทงกันที่ทุ่งนาลี กระทงที่นี่เท่าที่ดูก็เป็นกระทงใบตองเกือบทั้งนั้น คงเป็นเพราะหาวัตถุดิบได้ง่าย มีต้นกล้วยปลูกกันอย่างที่ใช้คำว่าดาษดื่นได้เลย

แต่พวกผมไม่ได้ต้องการแค่นั้น จึงขับรถเวียนหาทุ่งนาลี ที่จริงไม่คิดว่าจะหายากเพราะเป็นแหล่งลอยกระทงใหญ่ น่าจะมีการประดับประดาไฟ แสงสีสวยงาม แต่เอาเข้าจริงเวียนไปเวียนมา เสียเวลาไปกว่าเป็นชั่วโมง แต่ระหว่างที่เวียนนั้น ก็มีอาหารตาให้จำปาได้มองตลอด วัยรุ่นขับรถเป็นกลุ่มๆ เข้าใจว่าน่าจะไปลอยกระทงกัน หรือไปจีบสาวกัน แบบว่าดูคึกคักพอสมควร เราสองคนเลยเผาหัวด้วยการดื่มเบียร์ไปตลอดทาง เพื่อจะได้กรึ่มๆ มึนๆ จะได้สนุกได้ตลอดคืน ว่่าไปนั่น

ที่หายากเพราะทุ่งนาลีอยู่ถัดเข้าไปจากด้านหน้าถนนใหญ่นิดหน่อย ทำให้มองหายาก แต่ลักษณะเป็นบึงขนาดใหญ่ และมีพื้นที่มากพอสมควรให้จัดงานมหรสพต่างๆได้อย่างเต็มที่ คนเที่ยวงานค่อนข้างมาก มีหมด วัยเด็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น มาเป็นคู่ มาเป็นครอบครัว แต่เป้าหมายของจำปาและผมคือกระทงหลงทาง ไม่ยักมีมาให้เห็น เผื่อผมจะได้แนะทางไปให้น้องๆที่หลงทาง อิๆ

กระทงที่นี่มีขายทั่วไปอันละ 20-30 บาท เป็นกระทงใบตองอย่างที่บอกไว้แล้ว ตอนผมจะลอย ก็นึกขึ้นมาได้ว่าจะต้องมีการใส่เศษผม เศษเล็บลงไปในกระทงด้วย และอีกอย่างคือเงิน จะใส่แบงค์ไปก็เกรงใจ (แม้จะเป็นแค่แบงค์สีเขียวก็ตาม) ก็เลยไปแลกเหรียญ เสร็จแล้วก็มาแกะเล็บ ดึงผมใส่ลงไป เออ ไม่ได้ลอยหลายปี พอลอยทีก็ลืมไปหมด ไม่ได้เตรียมตัวให้ดีก่อน ผมกับจำปาแยกกันไป ไม่ได้ลอยด้วยกัน เพราะกลัวว่าเกิดชาติหน้าต้องมาเจอกันอีก และอีกอย่างเราก็แยกย้ายกันไปด้อมๆมองหากระทงหลงทางตามแต่สเปคของแต่ละคนด้วย แต่สุดท้ายกลับมามือเปล่าทั้งคู่ อิๆ


รูปกระทงของผม ดึงผมไม่ออกเลยใส่แต่เล็บกับเหรียญห้าบาท

ประมาณสี่ทุ่มกว่างานก็เริ่มเงียบเหงาลง คงเป็นเพราะคนต่างจังหวัดก็ไม่นอนดึกมาก และอีกอย่างพรุ่งนี้เป็นวันทำงานตามปกติ แต่ผมกับจำปายังไม่หนำใจ อุตส่าห์ขับรถมาไกลขนาดนี้ อยู่ีดีๆจะให้เข้านอนแต่หัวค่ำก็ไม่ใช่เรื่อง คิดได้ดังนั้นเราก็ขับรถเวียนๆในเมือง กินข้าวต้มโจ๊กกันคนละถ้วยประทังหิว ที่ตลาดโต้รุ่งในเมืองเพชรบูรณ์ วัยรุ่น คนทำงานก็ยังมากินกันที่นี่เยอะ ก็คงเป็นคนที่มาต่อจากลอยกระทง

คืนนั้นผมกับจำปาตกลงกันว่าจะไปต่อกันที่ผับ OASIS เป็นผับที่ค่อนข้างดังประมาณ Top 3 ของจังหวัด วัยรุ่นก็เยอะเหมือนเคย ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เด็กๆน่ารักเพียบ ตามเคยเราสแกนหากระทงหลงทางกันไปตามสเปคที่แต่ละคนถูกใจ แต่แล้วก็ไม่พบกระทงหลงทางที่ผมถูกใจมาให้เชยชม นั่งกันไปเรื่อยจนผับปิดตีสอง จึงจำเป็นต้องกลับ หมดเรี่ยวหมดแรงไปตามๆกัน



Create Date : 19 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2551 17:37:43 น. 2 comments
Counter : 744 Pageviews.  
 
 
 
 
เอ...สงสัยว่าผมมาเยี่ยมหรือยังเอ่ย

ฝากด้วยนะ


orchid and flower
 
 

โดย: scimovie วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:10:46 น.  

 
 
 
กระทงหลงทาง!

เอ๊ะ ชักยังไง........


อะ! ล้อเล่น.....แฮะแฮะ
 
 

โดย: teambackpacker วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:0:19:00 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

อนุรักษ์นิยม
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add อนุรักษ์นิยม's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com