มุ่งหน้าต่อไปยังเพชรบูรณ์ ระหว่างทางแวะเติมน้ำมันที่ อ.ชัยบาดาล และมีงานลอยกระทงตามวัดต่างๆที่อยู่ระหว่างทางไปตลอดทาง ผมกับจำปาไม่ได้แวะเลย เพราะกลัวว่าจะไปลอยกระทงที่เพชรบูรณ์ไม่ทัน ในที่สุดผมก็มาถึงเพชรบูรณ์ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง อากาศหนาวได้ที่เลยทีเดียว เส้นทางขับรถก็ค่อนข้างดีมาก เป็นถนนลาดยาง 4 เลนส์เป็นส่วนใหญ่ไปตลอดทาง พอเข้าถึงเมืองเราก็จะเห็นเทสโกโลตัสก่อนเลย ที่นี่มีเมเจอร์ซีนีเพลกซ์ด้วย แสดงว่าน่าจะเป็นเมืองใหญ่พอดูทีเดียว
ปั๊มน้ำมัน ปตท.ทางเข้าเมือง.....ผม : น้องครับ ที่เพชรบูรณ์เค้าลอยกระทงกันที่ไหนน้องชายชาวเพชรบูรณ์คือสิ่งมีชีวิตแรกที่ผมคุยด้วย ตอนนั้นน้องเค้ากำลังรอเพื่อนเข้าห้องน้ำ เห็นผมกับจำปาเข้ามาท่าทางไม่ใช่คนในเมือง เลยมองพวกผมแปลกๆ น้อง : ทุ่งนาลีครับ อยู่ใกล้ๆกับเทคนิคเพชรบูรณ์ผม : แล้วเทคนิคเพชรบูรณ์อยู่ไหนน้องทำหน้างงๆ เหมือนว่ากรูว่าแล้วพวกมรึงต้องไม่รู้จักเทคนิค เพราะพวกมรึงบ่อจ้ายคนเมือง น้องเลยจำต้องอธิบายทางผมอยู่พักใหญ่ๆ เพื่อนน้องก็เสร็จธุระออกมาพอดี น้องท่าทางเป็นมิตร ผิวขาวตามสไตล์เด็กเหนือ (แม้ว่าจะเป็นตอนล่าง)จำปา : แล้วน้องไปลอยด้วยรึป่าว น้อง : ไปครับจำปา : งั้นเดี๋ยวเราเจอกันที่งานนะ (ที่จริงจำปาคงอยากจะชวนนั่งรถไปด้วยกันเลยด้วยซ้ำ) จำปาชวนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ซึ่งน้องมันคงสัมผัสได้ เลยรีบบึ่งมอเตอร์ไซค์จากไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ 5555 ก่อนจากไป น้องเค้าหันมายิ้มๆให้อย่างกรุ้มกริ่มเช่นกัน (เอ ชักจะยังไงซะแล้วสิ งานเข้าอีกป่าวเนี่ย ผมคิดในใจ) หลังจากน้องขี่มอเตอร์ไซค์จากไป ปล่อยให้จำปามีความหวังเพิ่มขึ้นในคืนลอยกระทงอย่างนี้ คืนนี้ถ้าโชคดีอาจมีกระทงหลงทางมาให้จำปาช่วยเหลือก็เป็นได้ อิๆๆยุทธการตามหากระทงหลงทางเริ่มขึ้นทันทีหลังจากเข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จ เริ่มจากการขับรถเวียนเมือง ในเมืองมีแหล่งลอยกระทงไม่ใหญ่นัก คล้ายๆเป็นคลองกลางเมือง แล้วคนก็มาลอยกันที่นี่เพราะใกล้บ้านไม่ต้องออกไปทุ่งนาลีเหมือนที่น้องข้างบนแนะนำ แต่่ว่าทุ่งนาลีจะเป็นจุดใหญ่ มีงานมีมหรสพให้ดูด้วย ที่สำคัญวัยรุ่นก็จะพาแฟน พาเพื่อนไปลอยกระทงกันที่ทุ่งนาลี กระทงที่นี่เท่าที่ดูก็เป็นกระทงใบตองเกือบทั้งนั้น คงเป็นเพราะหาวัตถุดิบได้ง่าย มีต้นกล้วยปลูกกันอย่างที่ใช้คำว่าดาษดื่นได้เลยแต่พวกผมไม่ได้ต้องการแค่นั้น จึงขับรถเวียนหาทุ่งนาลี ที่จริงไม่คิดว่าจะหายากเพราะเป็นแหล่งลอยกระทงใหญ่ น่าจะมีการประดับประดาไฟ แสงสีสวยงาม แต่เอาเข้าจริงเวียนไปเวียนมา เสียเวลาไปกว่าเป็นชั่วโมง แต่ระหว่างที่เวียนนั้น ก็มีอาหารตาให้จำปาได้มองตลอด วัยรุ่นขับรถเป็นกลุ่มๆ เข้าใจว่าน่าจะไปลอยกระทงกัน หรือไปจีบสาวกัน แบบว่าดูคึกคักพอสมควร เราสองคนเลยเผาหัวด้วยการดื่มเบียร์ไปตลอดทาง เพื่อจะได้กรึ่มๆ มึนๆ จะได้สนุกได้ตลอดคืน ว่่าไปนั่นที่หายากเพราะทุ่งนาลีอยู่ถัดเข้าไปจากด้านหน้าถนนใหญ่นิดหน่อย ทำให้มองหายาก แต่ลักษณะเป็นบึงขนาดใหญ่ และมีพื้นที่มากพอสมควรให้จัดงานมหรสพต่างๆได้อย่างเต็มที่ คนเที่ยวงานค่อนข้างมาก มีหมด วัยเด็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น มาเป็นคู่ มาเป็นครอบครัว แต่เป้าหมายของจำปาและผมคือกระทงหลงทาง ไม่ยักมีมาให้เห็น เผื่อผมจะได้แนะทางไปให้น้องๆที่หลงทาง อิๆ กระทงที่นี่มีขายทั่วไปอันละ 20-30 บาท เป็นกระทงใบตองอย่างที่บอกไว้แล้ว ตอนผมจะลอย ก็นึกขึ้นมาได้ว่าจะต้องมีการใส่เศษผม เศษเล็บลงไปในกระทงด้วย และอีกอย่างคือเงิน จะใส่แบงค์ไปก็เกรงใจ (แม้จะเป็นแค่แบงค์สีเขียวก็ตาม) ก็เลยไปแลกเหรียญ เสร็จแล้วก็มาแกะเล็บ ดึงผมใส่ลงไป เออ ไม่ได้ลอยหลายปี พอลอยทีก็ลืมไปหมด ไม่ได้เตรียมตัวให้ดีก่อน ผมกับจำปาแยกกันไป ไม่ได้ลอยด้วยกัน เพราะกลัวว่าเกิดชาติหน้าต้องมาเจอกันอีก และอีกอย่างเราก็แยกย้ายกันไปด้อมๆมองหากระทงหลงทางตามแต่สเปคของแต่ละคนด้วย แต่สุดท้ายกลับมามือเปล่าทั้งคู่ อิๆ
ประมาณสี่ทุ่มกว่างานก็เริ่มเงียบเหงาลง คงเป็นเพราะคนต่างจังหวัดก็ไม่นอนดึกมาก และอีกอย่างพรุ่งนี้เป็นวันทำงานตามปกติ แต่ผมกับจำปายังไม่หนำใจ อุตส่าห์ขับรถมาไกลขนาดนี้ อยู่ีดีๆจะให้เข้านอนแต่หัวค่ำก็ไม่ใช่เรื่อง คิดได้ดังนั้นเราก็ขับรถเวียนๆในเมือง กินข้าวต้มโจ๊กกันคนละถ้วยประทังหิว ที่ตลาดโต้รุ่งในเมืองเพชรบูรณ์ วัยรุ่น คนทำงานก็ยังมากินกันที่นี่เยอะ ก็คงเป็นคนที่มาต่อจากลอยกระทงคืนนั้นผมกับจำปาตกลงกันว่าจะไปต่อกันที่ผับ OASIS เป็นผับที่ค่อนข้างดังประมาณ Top 3 ของจังหวัด วัยรุ่นก็เยอะเหมือนเคย ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เด็กๆน่ารักเพียบ ตามเคยเราสแกนหากระทงหลงทางกันไปตามสเปคที่แต่ละคนถูกใจ แต่แล้วก็ไม่พบกระทงหลงทางที่ผมถูกใจมาให้เชยชม นั่งกันไปเรื่อยจนผับปิดตีสอง จึงจำเป็นต้องกลับ หมดเรี่ยวหมดแรงไปตามๆกัน
ฝากด้วยนะ
orchid and flower