Roadtrip Report ทริปหนีลูกไปเที่ยว 1,000 กิโลเมตร 4 ประเทศ 5 วัน 4 คืน ตอน3 เมือง Pula, Croatia

มาแล้วจ้า เมือง Pula  ใน ภาคที่ 3 ของ Roadtrip report ทริปหนีลูกไปเที่ยว 1,000 กิโลเมตร 4 ประเทศ 5 วัน 4 คืน กันค่ะ

ภาพ Roman Amphitheatre 1 ใน 6 ของโลก ที่ยังหลงเหลือสภาพค่อนข้างสมบูรณ์อยู่ในปัจจุบันนี้ 
ณ เมือง Pula ประเทศโครเอเชีย ถ่ายเมื่อ 15 มีนาคม 2013 ตอนราวๆ ห้าโมงเย็น 


==>ดูแผนที่การเดินทางกันอีกที
==> และโพสที่แล้วเมือง Rovinj  ตอนนี้เรามาถึงจุด D เมือง Pula  แล้วค่ะ

เพื่อนสาวของต้าร์เธอเป็นคนเลือกเมือง Pula เป็นจุดหมายปลายทางของเราด้วย  เนื่องจากว่าเธอไปเห็นรูป Roman Amphitheatre หรือจะเรียก Arena ก็ได้ ผูกเนคไทสีแดง จากในรูปในโพสเก่า   แล้วเกิดอาการอยากมาดู  ต้าร์เองก็ตามใจเพื่อนน่ะซิ แต่ใจจริงก็อยากมาดูด้วยเหมือนกัน ต้าร์เคยเห็น Arena ล่าสุดที่เกาะซิซิลี แต่ที่นั่นน่ะ แตกหักพังไปเยอะแล้ว แต่ของที่ Pula นี่เค้าว่าเป็น 1 ใน 6 (จาก 200 แห่ง) ของโลกที่โครงสร้างยังคงหลงเหลือค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียว  Roman Amphitheatre ส่วนมากอยู่ในประเทศอิตาลีและที่มีชื่อเสียงมาก 2 แห่ง ได้แก่ ที่กรุงโรม และเมืองเวโรน่า  นอกจากจะมาดู Roman Amplitheatre แล้ว ต้าร์แอบมีมิชชั่นส่วนตัวเล็กๆ ที่ตั้งใจจะทำ คือ อยากจะไปเยี่ยมเพื่อนคนนึงซะหน่อย

รูป Pula Roman Amplitheatre Arena ปี 2003 ที่โดนผูกเน็คไทสีแดง
มีใครรู้บ้างว่าเน็คไทนั้นมีต้นกำเนิดมาจากโครเอเชียนี่เอง



ก่อนจะไปรู้จักกับเมือง Pula กันซักนิดนึง

Pula เป็นเมืองที่อยู่ตรงติ่งปลายสุดของ Istria และก็เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดด้วย อายุมากกว่า 3,000 ปี ตั้งแต่สมัยกรีกโรมันโน่นเลย  สัญลักษณ์สำคัญของเมือง หนีไม่พ้น Roman  Amphitheatre ที่ตั้งอยู่ติดทะเลเอเดรียติก สร้างในช่วงศตวรรษที่  1 ยุคเดียวกับโคลอสเซียมของกรุงโรมนั่นเอง สมัยก่อน   Amphitheatre ถูกใช้เป็นสนามสู้รบของเหล่านักรบโบราณ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองที่มาดูการแสดงต่อสู้ของนักโทษ gladiators กับสัตว์ร้ายด้วย  ในวิกีพีเดียเค้าบอกว่าสมัยก่อน Roman  Amphitheatre  ที่ Pula จุคนได้ถึง 23,000 คนทีเดียว  แต่ปัจจุบันเค้า ใช้แสดงคอนเสริต์ โอเปร่า หรือกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ และอนุญาตให้ผู้ชมเข้าได้ครั้งละประมาณ 5,000 คน เท่านั้น โดยจัดเก้าอี้ให้ในบริเวณลานตรงกลาง Arena ไม่ได้นั่งดูรายรอบเหมือนในสมัยโบราณ  ถึงให้นั่งก็นั่งไม่ได้  เพราะหินที่นั่งมันสึกกร่อนไปเยอะแล้วค่ะ   พาลจะทำให้หินเค้าสึกหนักเข้าไปอีก


*******************

กลับไปที่การเดินทางของเราอีกที  เราออกเดินทางจากเมือง Rovinj ตอนประมาณบ่ายสามนิดๆ ระยะทางระหว่างเมือง Rovinj มายัง Pula นั้นแค่ 35 กิโลเมตร  เรามาถึงเมือง Pula กันตอนบ่ายสี่ค่ะ  เพราะว่ามีหลงทางกันเล็กน้อย  เนื่องจากระหว่างทางมีการซ่อมแซมถนน ต้องเข้าทางเบี่ยงจีพีเอสก็เลยเกิดอาการงงงวยพาเราเข้ารกเข้าพงไปบ้าง แต่ในที่สุดเราก็มีถึงเมือง Pula โดยสวัสดิภาพ

ก่อนอื่นเราก็ต้องเข้าที่พักกันก่อนค่ะ  นัดเจ้าของอพาร์ทเม้นต์ให้มาเปิดกุญแจให้ตอนบ่ายสี่พอดีเลย มาถึงปุ๊ป ต้าร์ก็จอดรถเฟี๊ยวเยื้องด้านหน้าอพาร์ทเม้นต์มาหน่อยนึง

นี่ค่ะที่พักของเรา  Apartments Arena Pula เห็นอะไรข้างขวาไม๊คะ


ก็ไหนๆ นานๆ มาทั้งทีนอนข้างๆ แลนด์มาร์คของเมือง Pula ซะเลยก็แล้วกัน  เพื่อนสาวเป็นคนจองอพาร์ทเม้นต์นี้ค่ะจาก Booking.com สนนราคาสำหรับพัก 1 คืน 2 คนไม่รวมอาหารเช้า 43 ยูโร(ราคาถูกเพราะเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวค่ะ ) ห้องพักค่อนข้างเบสิคไม่หรูหรา แต่มีครัวให้ทำกาแฟ ชงชา หรือทำอาหารเช้าเองได้  มีโต๊ะกินข้าว โซฟา ทีวี  Wireless อินเทอร์เน็ตให้  และก็มีระเบียงข้างหลังที่เห็นวิว Arena ด้วย ห้องที่ได้นอนได้ 3 คน(1 คน ต้องนอนโซฟาแต่ก็กว้างขวางดี)  ไม่ได้ถ่ายรูปห้องพักมา  แต่ดูรูปได้จากในเวป booking.com หา Apartment Arena Pula เลยค่ะ  ไม่มีอาหารเช้าให้ไม่เป็นปัญหาชีวิตแต่อย่างใด  เนื่องจากเราสองคนรู้จักที่ฝากท้องอย่าง ร้าน Pekarna ตอนเช้ากำเงินไป 7-8 คูน่าก็ได้หม่ำเบเกอรี่อันโตอร่อยๆ  กาแฟอีก 7 คูน่า สองอย่าง 15 คูน่า 2 ยูโร

สำหรับที่จอดรถตอนแรกที่มาจอดจอดหน้าบ้าน ซึ่งเป็นโซน 1 พอเข้าห้องเสร็จ ก็จัดการโยกย้ายออกไปโซนสองนิดนึง ราคาที่จอดเท่ากับเมือง Rovinj ค่ะ  4 ยูโรต่อชั่วโมง หลัง 2 ทุ่มจอดฟรี ถึง 7 โมงเช้า เราเข้าห้องพักบ่ายสี่โมงก็นอนเล่นเข้าห้องน้ำกันซักพัก บ่ายสี่โมงครึ่งก็เริ่มออกสำรวจเมือง Pula  กัน

เป้าหมายแรกก็คือ Roman Amphitheatre โห เดินไปไกลมากเล้ยกว่าจะถึงตั้ง 10 เมตรแน่ะ แต่ไม่ได้เข้าไปดูข้างในหรอกค่ะเค้าปิดตั้งแต่ 4  โมงเย็นแล้ว  ก็เลยเดินวนดูรอบๆวนไปก็วนมาจนแดดหมด ได้รูปมาประมาณเนี้ยค่ะ

ด้านหน้ามีสวนให้นั่งเล่นและรูปปั้นทหารเรือ

ส่องซูมเข้าไปด้านใน

ด้านข้างเยื้องๆ มองจากถนนอีกฝั่งหนึ่ง 

มุมมองผ่านช่องประตู

ถ่ายจากโบสถ์ด้านหลังของ Pula Area  


****************

ดูรูป Pula Amphitheatre Arena กันจนเบื่อเลยหรือปล่าวคะ  เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นบ้างดีกว่า จริงๆ แล้ว  Pula ไม่ได้มีแต่ Amphitheatre  นะจ๊ะ   แต่ยังมีอย่างอื่นให้ดูให้ชมอีก  ก่อนฟ้าจะมืดค่ำซะก่อน พวกเราค่อยๆ เดินห่างออกไปจาก Pula Amphithretre Arena ที่เที่ยวส่วนใหญ่ จะอยู่ในตัวเมือง Pula เกือบทั้งหมดรัศมีเดินเท้าไม่จำเป็นต้องนั่งรถโดยสาร หรือขับรถแต่ประการใด  ต้าร์ทำแผนที่อธิบายจุดสำคัญๆ ไว้ให้ด้วย




 จาก Arena เรา เดินไปตามถนน  Istarska ulica ต่อไปยังถนน Giardini ulica จนสุดทางขวามือก็จะเห็น นี่ค่ะ

ประตูชัย  Triumphal Arch ทางด้านหน้า

ประตูชัย  Triumphal Arch เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามา James Joyce's Uliks coffee bar 
อยู่ตึกสีเหลืองข้างๆ ที่มีเก้าอี้สีแดง

หยุดถ่ายรูปกัน ที่หน้า Triumphal Arch นิดนึง ตอนนี้ต้าร์เริ่มใจระทึกแล้วค่ะ เอ  Mission* ที่ตั้งใจไว้ในทริปหนีสามี เอ้ย ลูกเที่ยวนี้   จะเจอเค้าคนนั้นไม๊น้า  พอเดินผ่านประตูชัย  Triumphal Arch ต้าร์ก็ได้ยิ้มกว้างทันที   เธอนั่งรออยู่ตรงนี้เอง  James Joyce** ที่รัก   พอเห็นเพื่อนชายชาวไอริชที่อยากเจอ ต้าร์ก็รีบเข้าไปหาทักทายและขอโทษของโพยที่มาช้า "ขอโทษทีนะเจมส์  ที่มาสาย  พอดีออกจากเมือง Trieste สายไปหน่อย  แล้วก็ไปแวะ Rovinj  มาด้วยล่ะ เมืองน่ารักเชียว ชอบมาก แต่ก็ต้องดั้นด้นมาหาเธอที่ Pula นี่แหล่ะ สามีฉันสบายดี แต่ฉันชวนไปเที่ยว Dublin  บ้านเกิดของเจมส์ไม่อยากไปซักที   ลูกชายฉันราฟาเอลก็เกิดที่เมืองDublin นะ  น่ารัก อ้วน ซน ฉลาดเฉลียวพอใช้ได้  เค้าเริ่มจะเป็นคนดังที่ Trieste เหมือนเธอเลยนะ ขนาดผู้ว่าเมือง Trieste ยังหยุดทักเลย อิอิ(ตอนเลือกตั้งอ่ะดิ)"  "เจมส์ล่ะ สบายดีไม๊อยู่ที่เมือง Pula นี่ นั่งนานๆ เมื่อยหรือปล่าว มีนกบินผ่านขี้ใส่หัวบ้างหรือปล่าว  ตัวเธอที่ Trieste คราวที่แล้วฉันผ่านไปทักทาย ก็ดูสบายดีนะ เสียแต่นก Trieste ท้องเสียบ่อยไปหน่อย ขี้ใส่หัวเธอเยอะเลย แต่ไม่ต้องกังวลไปนะเค้าส่งคนมาทำความสะอาดเธอเสมอๆ ล่ะ เพราะเธอน่ะ เป็นคนสำคัญของ Trieste ใครผ่านไปผ่านมาก็มาทักทายเธอ รวมทั้งฉันด้วย"   ทักทายลูบแขนตบไหล่เพื่อนเจมส์อยู่ซักพักนึง แถมชักรูปคู่ด้วยกันเป็นที่ระลึก ตอนแรกว่าจะกอดแต่ตัวเจมส์เย็นเหลือเกิน แถมยังเปียกอีกด้วย เลยแค่แตะๆ ไม้เท้าพอแค่อบอุ่นเนอะ 

กับต้าร์เองค่ะ ดูรูปต้าร์กับเจมส์ ที่ทรีเอสเต้ได้ที่นี่


เพื่อนสาวต้าร์ยืนรอต้าร์ทักกับเจมส์ อยู่นานแถมเธอต้องเป็นคนถ่ายรูปให้ด้วย  ก็ทักแหวกอากาศขึ้นมาว่า "เธอสองคนทักทายกันเสร็จหรือยัง ฉันหนาวฉันอยากดื่มอะไรร้อนๆ ซักหน่อย"  เจมส์ก็เสนอทันทีเลย ก็นั่งพักดื่มกาแฟ หรือชาร้อนๆ ที่ร้านฉันก็ได้ Uliks Coffee Bar แพงนิดนึงแต่เพื่อบรรยากาศ  ต้าร์ก็เดินไปดูราคาที่ติดไว้หน้าร้าน อืมส์ Cappuccino 18 คูน่า หรือ 2.50 ยูโรแน่ะ  ราคาของชาก็พอๆ กัน   เพื่อนสาวบอกแพงไปนะ  ฉันแค่จะอยากดื่มชาร้อนซักถ้วยก่อนอาหารเย็นเท่านั้นเอง  ไปที่อื่นกันเถอะ ฉันเห็นมี McDonald อยู่ใกล้ๆ ไปที่นั่นกันดีกว่า   ไอ้เราก็เกรงใจเพื่อนสาวเหมือนกัน  มัวแต่คุยกับหนุ่มเจมส์  ก็เลยตกลงไปแต่ชวนให้เจมส์ไปด้วยกันไม๊  เจมส์บอกว่า "ผมขอตัวไปไม่ได้ครับ ตูดติดกับเก้าอี้"   เออจริงแฮะ  ก็เลยขอลาเจมส์ ณ ตรงนั้นไปดื่มน้ำชาที่ McDonald  หรูหราเนอะ ดื่มชาเสร็จเกือบหนึ่งทุ่มเราก็ไปหาที่ทานข้าวเย็นกันค่ะ 

----------คั่นด้วยโน้ตอธิบายข้างบนหมายเหตุ * และ ***ข้างบนค่ะ------------

*Mission ของต้าร์คือตามรอยนักเขียนดังชาวไอริช  James Joyce ไปยังที่ต่างๆ ที่เค้าเคยไปอยู่อาศัย ตั้งแต่เมือง Dublin, Trieste,  Paris , Pula ซึ่งไปมาหมดแล้ว ขาดอยู่ก็แต่เมือง Zurich ที่ๆ เป็นหลุมฝังศพของเค้าด้วย ที่สุสาน Zurich-Fluntern ตั้งแต่ปี 1941  นึกแล้วก็แปลกใจโชคชะตา  ต้าร์เคยไปซูริกมา 4 รอบแล้วนะ แต่ไปเพื่อเปลี่ยนเครื่องบินทั้งหมดเลย ยังไม่ได้มีโอกาสเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองซะที ซักวันนึงจะต้องไปให้ได้   เกี่ยวกับเจมส์อ่านได้ที่  //en.wikipedia.org/wiki/James_Joyce

**James Joyce นักเขียนดังช าวไอริช James Joyce (1888-1941) เคยไปอาศัยที่เมือง Pula ระหว่างตุลาคม 1904 ถึง มีนาคม 1905 เพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้น เพื่อสอนภาษาอังกฤษให้แก่เหล่าทหารเรือ Austro-Hungarian ที่โรงเรียนสอนภาษา Berlitz ว่ากันว่าที่ Pula นี้เองเป็นที่ที่เจมส์ เริ่มเขียนพล็อตเรื่อง Ulysses หรือ  Uliks ในภาษาโครเอเชีย ที่เอามาตั้งเป็นชื่อCafé Bar นั่นเอง 

*********************

เดินผ่านมาทางด้านหน้าของ  main square มีที่ทำการเมือง Pula และ
ข้างๆ มีโบสถ์ Augustus Temple กำลังปิดปรับปรุงอยู่เข้าไม่ได้ค่ะ 

Augustus Temple ที่มีเสาโรมันสมบูรณ์มากๆ



อีกโบสถ์นึงใกล้ๆ กัน ก่อนถึงทางขึ้น Castle ด้านหน้ามีหนูน้อยเด็กยิบซีคอยขอเงินด้วย  

วิวเมือง Pula จาก Pula Castle ตอนโพล้เพล้ ชวนหิวข้าวจัง

Cathedral 


ทะเลด้านหน้าเมือง Pula ดูไม่ค่อยสวยน่าประทับใจเท่าไหร่  
ดูมันเป็นท่าเรืออุตสาหกรรมยังไงไม่รู้ ทะเลหน้าบ้านต้าร์ที่ Trieste ดูดีกว่า


ลงจากตรงนี้ปุ๊ป ก็มืดพอดีค่ะ  เวลาหนึ่งทุ่มได้เวลาหม่ำข้าวเย็นพอดี  เป็นร้านอาหาร Sarajevo  อยู่ไม่ไกลจาก Main square มาหน่อยนึง รูปร้านไม่ได้ถ่าย ถ่ายแต่จานนี้มาค่ะ จำชื่อไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ แต่ในเมนูจำได้ว่ามันมีรูปประกอบให้ดู ในรูปมันมี 8 ลูก ต้าร์ก็นึกว่าจะได้กินทั้ง 8 ลูกที่ไหนได้ ใส่มาให้ 3 ลูกเองค่ะ แต่กินแล้วก็อิ่มนะเพราะว่า เอาขนมปังจิ้มซอสด้วย กินเคียงกับสลัดอีกจานเอาอยู่ค่ะ  ถ้าจำราคาไม่ผิดราคาประมาณ 35  คูน่า 4.50 ยูโร  บอกได้คำเดียวว่าอร่อยมาก หัวหอมอบใส่เนื้อ ข้าวซอสมะเขือเทศ หอมกลิ่นเครื่องเทศอะไรซักอย่าง




สองทุ่มกินอิ่มแล้ว กำลังนึกๆ ว่าจะสั่งของหวานดีไม๊หว่า ได้ยินเสียง ตู๊ดๆๆ พ่อเจ้าราฟาเอลก็ส่งเมสเซสมา นี่เธอไปเที่ยวถึงไหนแล้ว ไหนบอกว่าจะโทรมาที่บ้าน สองทุ่มแล้วโทรมาได้แล้วเดี๋ยวราฟาเอลนอนซะก่อน  ว้าย ลืมโทรหาลูกหาสามีซะสนิทเลย ก็เลยรีบจ่ายเงินค่าอาหารวิ่งจู๊ด กลับอพาร์ทเม้นต์ ต่อเน็ต ออน Skype ที่ปลายสาย ราฟาเอลและปาป๊า รออยู่แล้ว   ราฟาเอลพอเห็นต้าร์ก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ทักทายหม่าม๊าด้วยการกระโดดไปรอบบ้าน ตะโกนเล่าให้ฟังใหญ่เลยว่าวันนี้ไปทำอะไรมาบ้าง ได้ของขวัญอ่ะไร  นอนน่าซื้อขนมอะไรให้กิน   ตบท้ายด้วยการถามว่า หม่าม๊าไปเที่ยวสนุกไม๊  ขับรถดีๆ นะ   จุ๊บๆๆๆ Kissses วุ้ย ชื่นใจจริงๆๆ  กับสามีก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก  คุณแค่สั่งมาว่า "ขับรถดีๆ อย่าซิ่งมาก อย่าให้มีใบสั่งจากตำรวจส่งมาปรับถึงบ้านนะ  ขับรถขึ้นเขาลงห้วยให้ระวัง อย่าหลุดโค้งให้ตามไปเก็บล่ะ" ตู๊ดๆๆ  วางสายไปแล้วค่ะ  Thanks to Skype ที่ทำให้การสื่่อสารของเราง่ายขึ้น  

คุยกับลูกเสร็จ เราก็ยังไม่นอนกันทันที เราสองสาวไม่ได้เจอกันน้านนานก็เลยคุยกันต่อจนมืดค่ำดึกดื่น ห้าทุ่มกว่าก็เข้านอน แต่ต้าร์นอนไม่หลับอ่ะ คิดถึงราฟาเอลจัง คิดถึงไออุ่น ตัวนิ่มๆ หอมๆ ของลูกที่ตกดึกๆ ชอบมานอนซุกจักกะแร้หม่าม๊าทุกคืนเลย  คิดถึงจนน้ำตาไหล แอบซุกใต้ผ้าห่มร้องไห้ กลัวเพื่อนสาวได้ยิน  ต้าร์นอนร้องไห้ไปจนตีหนึ่งก็หลับเป็นตาย  

รูปเด็กที่โดนแม่คิดถึงจนน้ำตาไหล เลียน้ำตาลเป็นอาหารว่าง


ตื่นเช้าอีกทีก็โน่นเกือบ 8 โมงแน่ะค่ะ อาหารเช้าง่ายๆ ของเราคือพายเชอร์รี่ชิ้นใหญ่จากร้าน Pekara บวกด้วยกาแฟคาร์ปูชิโน่  1 แก้ว

รูปเพิ่มเติมร้าน Pekara หน้าตาแบบนี้
เครดิตรูปจาก www.backstagebalkans.com ค่ะ


เช็คเอ้าท์ 9 โมงกว่า  แล้วขับรถต่อไปจุดหมายปลายทางต่อไปเลยค่ะ ปิดท้ายเมือง Pula ด้วยรูปแท่งๆ นี้  ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรเหมือนกัน  ไม่มีป้ายไม่มีอะไรบอกไว้เลย ตั้งอยู่โด่เด่อยู่ท่อนเดียว









 

Create Date : 05 เมษายน 2556
6 comments
Last Update : 5 เมษายน 2556 18:19:57 น.
Counter : 1833 Pageviews.

 

มาแล้วววววว มาแล้วค่ะพี่ต้าร์ตามมาเที่ยวด้วยคน
ชอบมากเรื่องเที่ยว อิอิ อ่านได้ไม่เบื่อ
ที่พักเป็นอพาร์ตเมนต์ไม่แพงเลย แถมมีวิวเห็น Arena อีกต่างหาก
อ่านบล็อกนี้แล้วทำให้อยากรู้จัก James Joyce นักเขียนชื่อดังมากขึ้น
แอบขำพี่ต้าร์ ถามคุณเจมส์ว่ามีนกขรี้ใส่มั่งรึป่าว 555+
นึกถึงรูปปั้นกลางแจ้งทั้งหลายในมิลาน ล้วนแต่โดนนกพิราบทำธุระใส่ทั้งนั้น อิอิ

สมัยนี้มี Skype คุยทางไกลสะดวก เอิงก็คุยกับที่บ้านแบบนี้ค่ะ
ไม่ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ตปท. คุย Skype กันดีกว่า
น้องราฟาน่ารักจัง จุ๊บๆๆๆๆ ผ่านเน็ตให้คุณแม่
ไว้รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: diamondsky 6 เมษายน 2556 3:22:25 น.  

 

อ่านเพลินไปเรื่อยๆ จะติดตามอ่านต่อไปนะค้าาา ^^
เอ๋ยังไม่ได้เขียนถึงเมืองหลวงพระบางเลย คิดว่าน่าจะในอีก 2-3 วันนะคะ ^^

 

โดย: adaytrip 8 เมษายน 2556 8:54:53 น.  

 

น่าไปเที่ยวจังเลยค่ะ
ประเทศโครเอเชียยังไม่เคยไป
แต่เห็นหลายคนบอกว่าสวยมาก

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 11 เมษายน 2556 4:01:24 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ไทยค่า

ไม่ได้ไปเที่ยวทื่ไหนเลยค่ะ
อายุมากขึ้น อยากอยู่บ้านมากกว่า
แต่ลูกสาวปิดเทอมก็จะกลับบ้านแล้วค่ะ

มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 16 เมษายน 2556 1:00:58 น.  

 

มีบทส่งท้ายด้ายนะคะ ... ตอบคำถามเพื่อนจะบอกว่าถ่ายภาพมีกี่ภาพ ลงให้ดูกี่ภาพค่ะ

เห็นไกด์พูดถึงเมืองนี้อยู่เหมือนกัน เสียดายไม่ได้ไปค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 9 มิถุนายน 2556 7:44:11 น.  

 





แวะมาเยี่ยมค่า
มีดอกเชอร์รี่และดอกพลัมมาฝากด้วยค่ะ

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 11 มิถุนายน 2556 4:26:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


dublina
Location :
Trieste Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




There are people we wonder about but don't make attempts to contact. Perhaps we're afraid of empty conversations with someone or perhaps we're curious about someone whose life we watched for awhile from afar. Sometimes it's just been too long and sometimes we can't even articulate the need to know whatever happened to them. Where are they? Did they make it? Are they happy? Are they passionate about something in their lives? Are they anything like the people we once knew?

---Anon---
Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
5 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add dublina's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.