เคล็ดลับบริหารงานให้โดนใจ คน Gen Z
บริหารงานอย่างไรให้โดนใจคน Gen Z ถึงต่างวัยต่างเจนก็ทำงานร่วมกันได้อย่างสนุก ประสบความสำเร็จ เรื่องนี้ไม่ยากครับ ต้องยอมรับว่า ยุคดิจิทัลนั้นเปลี่ยน ‘โลก’ ให้ต่างไปจากเดิม รวมถึงเด็กรุ่นใหม่ยุคนี้ที่ถูกขนานนามว่า คน Generation Z หรือ ‘คน Gen Z’ ที่จะมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรต่อไป เมื่อคนเจนเนเรชั่นก่อนอย่างชาว gen X หรือ gen Y (มิลเลเนียม) ต้องมาบริหารงานเขาเหล่านี้ ต้องเข้าใจและมีเทคนิคและวิธีการอย่างไร ต้องมาติดตามกันครับ รู้จัก ‘คน Gen Z’มีการให้คำนิยามถึง ‘คน gen Z’ ว่า เป็นคนยุคใหม่ที่เกิดตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2538 ลงมา ซึ่งแน่นอนว่าคนกลุ่มนี้คือ first jobber ที่เพิ่งมาเริ่มทำงานกับบริษัทหรือองค์กร และจากที่เติบโตมาในช่วงที่เทคโนโลยีต่าง ๆ พัฒนาอย่างรวดเร็ว รวมถึงสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป จึงส่งผลและหล่อหลอมให้ ‘คน gen Z’ มีบุคลิก มุมมองความคิด ที่แตกต่างไปจากยุคอื่น ๆ คือ • ใจร้อน รอคอยไม่เป็น ด้วยเพราะเติบโตมากับอินเทอร์เน็ต ทุกอย่างได้มาทันใจเพียงคลิก • มั่นใจ กล้าแสดงออก แลกเปลี่ยนความคิดเห็น • เป็นตัวของตัวเอง กล้าคิดต่าง • คุ้นเคย เชี่ยวชาญกับเทคโนโลยีใหม่ๆ • ยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย • Social Network และโลกออนไลน์คือที่พื้นที่ชอบและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เคล็ดลับบริหารงาน ‘คน gen Z’สำหรับผู้ที่ต้องบริหารงานและดูแล ‘คน gen Z’ เรา มี 4 เคล็ดลับมาฝากให้ไปลองใช้ เปิดโอกาสให้เติบโต : สำหรับ ‘คน gen Z’ ที่เป็นตัวของตัวเอง พร้อมจะโดดเด่นและก้าวสู่ความสำเร็จ คุยให้เขาเห็นเส้นทางของการเติบโตในอนาคต การที่ได้รับโอกาสและสนับสนุนจะช่วยทำให้เขาแสดงความสามารถที่มีอย่างเต็มที่ และสนุกกับการทำงานมากยิ่งขึ้น ใช้ระบบมากกว่าควบคุม : การยืดหยุ่นให้สามารถทำงานได้ในแนวทางของตัวเองได้อย่างคล่องตัว โดยมีระบบเป็นหลักคิด ส่วนวิธีการควรเปิดโอกาสให้ได้ลองทำ จะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้ ‘คน gen Z’ คิดหาหนทางที่จะไปหาผลลัพท์ที่อาจจะเป็นทางใหม่ๆ ที่น่าสนใจสำหรับองค์กรก็เป็นได้ เป็นพี่เลี้ยงมากว่าเจ้านาย : หมดสมัยกับการทำตามคำสั่งเพียงอย่างเดียวแล้ว สิ่งที่ ‘คน gen Z’ ต้องการเจ้าพี่ๆ หรือหัวหน้างาน คือคำแนะนำ มุมมองดีๆ จากพี่เลี้ยง ที่จะช่วยให้เขาคิดและทำงานได้ดียิ่งขึ้น มิใช่ลูกน้องเชื่องๆ ที่ทำตามสั่งเจ้านายไปเสียทุกอย่าง คุณภาพชีวิตที่ดี : เงินไม่ใช่คำตอบทุกอย่างสำหรับ ‘คน gen Z’ แต่คือบรรยากาศของการชีวิตตลอด 8-10 ชั่วโมงในการทำงานที่ควรจะทำให้ผ่อนคลาย มีความสุขมากขึ้น อาจจะมีพื้นที่สบายๆ สำหรับการนั่งจิบกาแฟคิดงานไว้ให้ ไม่ใช่นั่งอยู่แต่โต๊ะทำงานเหมือนคนรุ่นก่อน นอกจากนั้นรวมถึงการดูแลสวัสดิการต่างๆ เช่น ห้องกาแฟ ห้องนั่งเล่น ออกกำลังกาย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะเป็นเหมือนเป็นแบตเตอรี่ที่ชาร์จพลังให้มีความสุขและทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพยิ่งขึ้น แม้จะเป็นเด็กน้อยคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าเราเข้าใจ สามารถจับจุดดึงความสามารถที่มีของ ‘คน gen Z’ มาออกมาได้ ก็ทำให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และที่สำคัญถือว่าได้ปั้นดาวเด่นไว้ให้องค์กรต่อไปด้วยนะครับ
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/2DDNfpr
Create Date : 30 เมษายน 2562 |
Last Update : 30 เมษายน 2562 15:38:03 น. |
|
0 comments
|
Counter : 318 Pageviews. |
|
 |
|