มุมดีดี มีอยู่มากมาย อยู่ที่เราจะมองเห็นมันหรือไม่..เท่านั้น
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ว่าด้วยเรื่องสิว





ไปอ่านเจอเรื่องเกี่ยวกับยารักษาสิว รู้สึกน่าสนใจดีเพราะพึ่งรู้ว่ามีตัวยาหลายชนิดที่ใช้รักษาสิว บางยี่ห้ออย่าง "เคลียราซิล (Clearasil)" ที่เราเห็นกันบ่อยๆ ก็จะเป็นตัวยาแบบ Azelaic acid ขณะที่ยี่ห้อ "PanOxyl" จะเป็นตัวยา Benzoyl peroxide นอกจากนี้ก็ยังมียายี่ห้อ "คลินดาเอ็ม" ที่จะเป็นตัวยาแบบ คลินดามัยซิน ไฮโดรครอไลด์

ก็เลยไปตัดๆบางส่วนเกี่ยวกับยาทามารวมไว้ที่นี่ เพราะไหนๆก็ไปหาอ่านมาละ



สาเหตุของการเกิดสิว


สิวเกิดจากสาเหตุหลายประการร่วมกันคือ

1. เกิดจากการหนาตัวของชั้น corneum
การหนาตัวของชั้น corneum (hyper-cornification) ที่ท่อของรูขุมขนซึ่งต่อมไขมัน มาเปิดเชื่อมต่อ การหนาตัวเกิดจากการระคายเคืองจากไขมัน (sebum) จากต่อมไขมัน และการที่กรด linoleic ในไขมันมีปริมาณลดลง

2. Testosterone
Testosterone ในกระแสเลือดเปลี่ยนไปเป็น dihydrotestosterone ในเนื้อเยื่อโดยอาศัยเอนไซม์ 5-a reductase dihydrotestosterone ในเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมไขมัน มีขนาดใหญ่ขึ้น และหลั่งไขมันออกมามากขึ้น เนื่องจากในไขมันมีส่วนประกอบของสาร free fatty acid, squalene และ squalene oxide ซึ่งเชื่อกันว่าสารเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวและการอักเสบที่ผิวหนัง มีรายงานว่าส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นสิวมีระดับ testosterone ในกระแสเลือดปกติแต่
dihydrotestosterone ในเนื้อเยื่อสูงกว่าปกติ

3. แบคทีเรีย
แบคทีเรียที่สำคัญ คือ Propionibacterium acnes (P. acnes) เชื้อตัวนี้ย่อยไขมันจากต่อมไขมันให้เป็น free fatty acid โดยอาศัยเอนไซม์ lipase นอกจากนั้น P. acnes ยังหลั่งเอนไซม์ protease, hyaluronidase และ low molecular weight chemotactic factor ซึ่งสารเหล่านี้จะทำให้เกิดกระบวนการอักเสบขึ้น อย่างไรก็ตามปริมาณของ P. acnes ไม่ได้แปรตามความรุนแรงของการเกิดสิว

4. การตอบสนองของร่างกาย
การตอบสนองของร่างกายเป็นสาเหตุข้อหนึ่งในการเกิดสิว โดยพบว่าผู้ที่เป็นสิวอย่างรุนแรงจะมีปริมาณของแอนติบอดีต่อ P. acnes มากขึ้น


พยาธิกำเนิด





ต่อมไขมันมีอยู่ทั่วๆ ไปตามผิวหนัง แต่พบได้มากที่สุดบริเวณใบหน้า หนังศีรษะ หน้าอก และหลัง ท่อเปิดของต่อมไขมันแต่ละต่อมจะเปิดสู่ผิวหนังภายนอกร่วมกับท่อเปิดของรูขุมขน

สิวเกิดขึ้นเมื่อมีความผิดปกติของท่อเปิดนี้ โดยเกิดมีการหนาตัวของชั้น corneum (hyper-cornification) ซึ่งทำให้ท่ออุดตัน ถ้าการอุดตันนั้นยังมีทางเปิดสู่ผิวหนังภายนอกได้ก็จะพบลักษณะของสิวหัวเปิด (open/black head comedones) แต่ถ้ารูเปิดของท่อไขมันเล็กมากจนมองไม่เห็นเรียกว่า สิวหัวปิด (closed/white head comedones) เมื่อมีการอุดตันเพิ่มขึ้นไขมันจะ
สะสมอยู่ในท่อมากขึ้น เกิดอาการพองโตและแตก สารที่อยู่ภายในของต่อมไขมันกระจายไปสู่หนังกำพร้าและหนังแท้บริเวณใกล้เคียง ทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้น

บางครั้งสิวอักเสบก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีการแตกหรือทำลายของท่อไขมัน แต่เกิดจาก P. acnes ในต่อมไขมันหลั่งเอนไซม์ lipase เอนไซม์นี้ไปย่อยไขมันให้เกิดกรดไขมันอิสระซึมผ่านท่อต่อมไขมันไปสู่หนังแท้ใกล้เคียงทำให้เกิดการอักเสบขึ้น ถ้าการอักเสบอยู่ส่วนบนของผิวหนังจะเห็นเป็นตุ่มแดง (papule) และตุ่มหนอง (pustule) ถ้าการอักเสบอยู่ลึกลงไปจะเห็นเป็นก้อนบวม (nodule) หรือถุงสิว (cyst)




ยาทารักษาสิว


ยาทาที่ใช้รักษาสิวออกฤทธิ์ที่สำคัญ คือ 1) ฤทธิ์กำจัดหัวสิว 2) ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และ 3) ลดการอักเสบ

ยาที่ใช้ทารักษาสิวได้แก่

1. Benzoyl peroxide ซึ่งออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อ P. acnes และลดปริมาณกรดไขมันอิสระ อีกทั้งช่วยลดขนาดและจำนวนของ comedones รวมทั้งรอยสิวที่อักเสบลงได้ด้วย ดังนั้นยานี้ได้ผลดีทั้งสิวอักเสบและไม่อักเสบ Benzoyl peroxide อาจจะทำให้ ผิวหนังเกิดอาการระคาย แห้ง ลอก และอาการผื่นแพ้จากการสัมผัสได้ แนะนำให้ใช้ยาเพียง 5-10 นาที วันละ 2 ครั้งแล้วล้างยาออกด้วย
น้ำเปล่า

ผลิตภัณฑ์ Benzoyl peroxide มีหลายรูปแบบในความเข้มข้น 2.5%, 5% และ 10% ในรูปของ gel และ lotion ซึ่งโดยทั่วไปเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของยาในชนิด gel ออกฤทธิ์ดีกว่า lotion และตัวยาในความเข้มข้น 2.5% ได้ผลในการ
รักษาพอๆ กับ 5% และ 10% อีกทั้งยังก่อให้เกิดอาการระคายผิวน้อยกว่าด้วย

2. Antibiotics ชนิดทาเฉพาะที่ ออกฤทธิ์เป็น bacteriostatic และออกฤทธิ์ลดการอักเสบ ยากลุ่มนี้จะได้ผลดีกับรอยโรคชนิดอักเสบ คือ ตุ่มนูนแดงแข็ง (papule) และสิวหนองชนิดตื้น หรือลึก (pustules) แต่รอยโรคแบบ comedo และสิวขนาดใหญ่ เป็นถุงใต้ผิวหนังภายในมีหนอง หรือสารเหลวๆ คล้ายเนย (cyst) อาจจะไม่เปลี่ยนแปลง

ยา clindamycin และ erythromycin ใช้ทาได้สะดวก และผลที่ได้ใกล้เคียงกัน รองลงมาคือ tetracycline ยากลุ่มนี้ถ้าใช้ต่อไปนาน ๆ จะมีเชื้อโรคซึ่งดื้อต่อยา ยาทาต้านเชื้อแบคทีเรียทุกชนิด ใช้ทาวันละ 2 ครั้ง

ยา Antibiotic ที่ใช้ทารักษาสิวทั่วไป ได้แก่

2.1 Clindamycin phosphate ความเข้มข้น 1% ใน hydroalcoholic vehicle หรือใน gel ยาทาประกอบด้วย Clindamycin phosphate 10 มก./มล. ใน 50% isopropyl alcohol และ propylene glycol solution หรืออาจจะใช้ตัวยาใน gel

2.2 Erythromycin base solution ความเข้มข้นต่างๆ กัน ตั้งแต่ 1.5-2% ยาทาประกอบด้วย erythromycin base ใน propylene glycol และ alcohol solution

2.3 Tetracycline hydrochloride solution ประกอบด้วย tetracycline hydrochloride 2.2 มก./มล. ใน 40% ethanol solution หลังการทา tetracycline hydrochloride แล้ว 1 ชั่วโมงจะทำให้ผิวหนังเป็นสีเหลืองอยู่ชั่วคราว อาจจะล้างออกได้โดยไม่ทำให้ผลของยาลดลง

3. Azelaic acid cream เป็นยารักษาสิวที่ออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อ P. acnes และ S. epidermidis อีกทั้งยังลด keratohyalin granules และต้านการสร้าง keratin จึงมีผลยับยั้งการเกิด comedo นอกจากนี้ azelaic acid ยังมีฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบแต่ไม่มีผลต่ออัตราการหลั่ง sebum ผลของการรักษาใกล้เคียงกับ benzoyl peroxide และ retinoic acid

ในระยะแรกยานี้ใช้เป็นยาทารักษาฝ้า โดยอาศัยฤทธิ์ที่เป็น competitive inhibitors ของ tyrosinase พบว่าเมื่อใช้ยานี้ทารักษาฝ้า โรคสิวก็ทุเลาขึ้นด้วย และผลดีในการรักษาสิวก็มีรายงานยืนยัน ผลข้างเคียงของยาพบได้บ้าง เช่น อาการแสบ คัน แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ทนได้ อาจจะใช้ Azelaic acid ครีมอย่างเดียวทาเพื่อรักษาสิวชนิดที่ไม่รุนแรงนัก แต่อาจจะใช้ร่วมกันกับยารับประทาน เช่น antibiotics หรือ antiandrogens 20%

4. Tretinoin (Trans-retinoic acid; Vitamin A acid) ผลิตภัณฑ์ยามีในรูป cream, lotion และ gel มีจำหน่ายในชื่อ Airol® และ Retin-A® หรืออื่นๆ อีก ความเข้มข้นของยา 0.1%, 0.05% cream หรือ 0.05% liquid, 0.01%, 0.025% gel

Tretinoin เป็นยาที่ออกฤทธิ์เป็นยาที่กำจัดหัวสิว (comedolytic agent) ที่ดีที่สุด ช่วยยับยั้งการเกิด comedo ขึ้นใหม่ และทำให้ comedo ซึ่งเกิดขึ้นแล้วหลวมตัวหลุดออกไปง่ายขึ้น tretinoin ไม่ เพียงแต่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในแบบแผนของการสร้าง keratin ภายในขุมขนเท่านั้น ยังสามารถลดจำนวนชั้น stratum corneum ที่ปกติด้วย ดังนั้นการทายา tretinoin จึงช่วยให้ยาตัวอื่นผ่านผิวหนังได้ดีขึ้นด้วย

Tretinoin เหมาะที่จะใช้ทาเพื่อรักษาสิวหัวดำและสิวหัวขาว (comedo acne) อาจจะใช้ยานี้เพียงอย่างเดียว หรือจะใช้ร่วมกับ benzoyl peroxide gel หรือยาทาต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นๆ ด้วยก็ได้



อ้างอิง: บทความเรื่องสิว ของสุชาดา นิลกำแหง, สำนักวิจัยและพัฒนาเภสัชกรรม
//www.gpo.or.th/rdi/htmls/acne.html



Create Date : 30 กรกฎาคม 2550
Last Update : 31 กรกฎาคม 2550 0:30:37 น. 6 comments
Counter : 1955 Pageviews.

 
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะสำหรับความรู้เรื่องสิว คือว่าตอนนี้มันเริ่ม ขึ้นมาเต็มหน้านุชไปหมดแล้ว ทนไม่ไหววันนี้ไปซื้อวิตามินมากินปลอบใจ ไม่รู้ว่าจะได้เรื่องป่าว ทำไงจะหายล่ะค๊า


โดย: nuch (nattawara ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:38:19 น.  

 
ขอบคุณมากครับ เพราะตอนนี้หน้าของผมเริ่มแย่ลงทุกที


โดย: Tokoz (Tokoz ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:45:31 น.  

 
อะ.. ท่าทางคนมีปัญหาเรื่องสิวเยอะ
ยังโพสต์ไม่เสร็จก็มีคนมาคอมเมนท์แล้ว

ลองตามลิงค์อ้างอิงไปนะครับ.. จริงๆก็ไปอ่านแล้วสรุปมาแค่นั้นเอง
ขอให้หายไวๆนะครับ



โดย: เจ้าของ blog (dharma ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:52:28 น.  

 
คือตอนนี้สิวของผมกลับมาขึ้นอีกแล้วครับหลังจากหายไปประมาณ สอง ปี ตอนนี้เครียสมากเลยครับ ไม่กล้าออกไปไหนเลยอายมาก ตอนนี้รักษาอยู่ที่สถาบันโรคผิวหนังอยู่ แต่ก็ยังไม่หาย เลย ใครมีวิธีอะไรดี ๆกว่านี้ช่วยเเนะนำด้วยนะครับขอบคุณครับ


โดย: เอ็ม IP: 58.136.48.107 วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:21:30:38 น.  

 
เป็นถุงสิวรักษางัยครับมีเเบบรักษาถูกๆๆไหมคับ


โดย: ... IP: 58.10.18.239 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:16:10 น.  

 
แนะนำให้ใช้ "POS ไลโปโซมครีมสารสกัดยางพารา "ช่วยให้สิวยุบลงไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ภายในระยะเวลา 1 เดือน ปลอดภัย หายห่วงเพราะเป็นงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จ้า

https://www.facebook.com/psuitcfanpage


โดย: PSU-ITC IP: 202.12.74.129 วันที่: 4 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:19:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NETA Dad
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]














ไหนๆก็มาแล้ว แวะไป
เซ็นสมุดเยี่ยม
หน่อยนะครับ

วันเกิด blog นี้ : 2 กุมภา 49
















Friends' blogs
[Add NETA Dad's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.