: : T A G มหา'ลัยวัยสามรส : :

1. เรียนสถาบันระดับอุดมศึกษาแห่งใด?
๏ รั้วจามจุรีกั๊บป๋ม ..

2. เรียนคณะไร เอกอะไร?
๏ คณะที่น่าจะออกไปทำงานเป็นทนาย อัยการ ผู้พิพากษาอันทรงเกียรติน่ะก้ะ ... แต่ข้าน้อยไม่รักดี จบแล้วไม่ยอมเดินแถวไปทำงานตามวิชาชีพที่เรียนมา แถมยังตะแบงเปลี่ยนสายไปเรียนอย่างอื่นต่อซะเลย ...

3. สายรหัสน่ากินมั้ย?
๏ โห...ข้อนี้ขอผ่านๆ...

4. ปกติกินข้าวแถวไหน?
๏ โอ้ว.. เรื่องกินนี่บทจะกินง่ายก็ง่ายกันจัง ถ้าติดชั่วโมงเรียนก็กินกันหน้าคณะ ตลาดสามย่าน หรือโรงอาหารก็เอาดี ... แต่ถ้ามีชั่วโมงว่าง แก๊งค์เราจะเฮโลอัดกันในรถเพื่อนๆ ไปกินร้านเก๋ยุคเซเวนตี้ส์ เช่น “ไฮไลท์” สยามเซนเตอร์ “เอส แอนด์ พี” สยามสแควร์ “ปทุมเค้ก” ซอยพร้อมพงษ์ รวมทั้ง “สุดทางรัก” ที่แหลมฉบัง ...

5. ชอบเรียนวิชาไร?
๏ เหอๆๆ ... คิดนานมากกกก ... เราอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนวิชาชีพสายนี้เป็นแน่เลย จะเรียนอะไรก็ร่อแร่เกือบทุกอย่าง (แค่เกือบตกนะไม่ใช่เกือบได้...) วิชาที่พอจะได้คะแนนมากหน่อย (เกินแปดสิบเปอร์เซนต์...ฮ่าๆๆ ต้องกลับไปพลิกทรานสคริปต์ดูนะเนี่ย) ก็พอมี เช่น ซื้อขาย ลาภมิควรได้ จัดการงานนอกสั่ง และกฎหมายพาณิชย์นาวี ...

6. แล้ววิชานอกคณะล่ะ?
๏ เอิ่มม... สมัยกาลก่อนนู้น .. ไม่มีการไปเรียนนอกคณะเลยจ้า ...

7. เข้าเรียนครบตามที่ลงทะเบียนเปล่า?
๏ ถ้าคำถามนี้แปลว่า มีโดดเรียนไหม มีขาดเรียนมั้ย ก็ต้องตอบว่า “มี” เด้อ ... แต่ก็นิดๆ หน่อยๆ พอให้ได้รสชาติของการเรียนแบบผู้ใหญ่ๆ ไง รับผิดชอบตัวเอง ... ถ้าคิดว่าเจ๋งก็ไม่ต้องเข้าเรียนมันทุกคาบร้อก ...

8. คาบว่างๆ ทำไร?
๏ นั่งจับกลุ่มสุมศีรษะ.. ติวหนังสือกันใต้ถุนตึก ... ไม่ใช่ว่าขยันหรอกนะก๊ะ แต่เป็นเพราะเรียนไม่รู้เรื่อง เรียนไม่ทันอ่ะดิ หรือไม่ก็ต้องฝึกทำเคส เพราะการเรียนกฎหมายเนี่ย หลักใหญ่คือต้องตีโจทย์ปัญหาข้อเท็จจริงให้แตก จับประเด็น แล้วใช้ข้อกฎหมายที่เรียนมาปรับใช้เพื่อ "ฟันธง" (ไม่ได้เลียนแบบหมอดูนะ .. คำว่า 'ฟันธง' เขาใช้ในวงการนี้มาตั้งแต่ปีมะโว้แล้วจ้า) ... แล้วเราก็ไม่ได้เก่งมาจากไหนซะเมื่อไหร่ ก็เลยต้องอาศัยเพื่อนผู้มีพระคุณช่วยจัดติวให้เป็นนิจสิน ...

9. ตัวเธอชอบสิงที่ไหนในสถาบันจ๊ะ?
๏ ใต้ถุนตึกเรียนนี่ละ เป็นที่สิงสถิตถาวรของกลุ่มเรา ซึ่งมีประมาณสิบกว่าชีวิต ทั้งหญิงและชาย ทั้งเก่งทั้งบ๊วย อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนตั้งแต่วัยเฟรชชี่ยันปี’เหนี่ย ...

10. ตอนปีหนึ่งร่วมกิจกรรมรับน้องปล่าว?
๏ รับซิจ๊ะ พลาดได้ไง มีสามยก ... รับน้องรวมของมหา’ลัย รับน้องคณะ และรับน้องที่ต่างจังหวัด ... ไม่มีอะไรโหดหรอก หนุกหนาน อบอุ่นๆ ...

11. คิดยังไงกับการรับน้อง?
๏ (คิดเองว่า) มันเป็นประเพณี เป็นวัฒนธรรมที่หล่อหลอมจิตใจระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบันนะ ... คือเราก็เข้าใจเรื่องที่ในยุคนี้บางคนอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ บ้าอำนาจ (ของรุ่นพี่) หรือป่าเถื่อนเลยเถิดไปบ้างในบางกรณี ... แต่สำหรับเราและรุ่นใกล้ๆ เรา ยืนยันว่าไม่มีประสบการณ์และความรู้สึกในเชิงนั้นเลย ...

12. อยากเปลี่ยนแปลงระบบรับน้องมั้ย?
๏ เราไม่ค่อยมีความคิดเห็นรุนแรงหรือต่อต้านตรงนี้นะ ก็เลยคิดว่าอยากให้ประเพณีนี้คงอยู่ต่อไปจ้ะ..

13. เคยเป็นหรืออยากเป็นพี่ว้ากป่ะ?
๏ ไม่เคยและไม่อยาก แม้จะรู้ว่าเป็นเทรดดิชั่น ... เราเป็นพวกชอบอยู่นิ่งๆ น่ะ (พรหมลูกฟัก..ประมาณนั้น)

14. อย่างเธอนี่เด็กเรียนหรือเด็กกิจกรรมจ๊ะ?
๏ เป็นเด็ก (พยายาม) เรียนมากกว่า เพราะมีจุดอ่อนที่เรียนวิชาไหนก็ไม่ค่อยรุ่ง ก็เลยต้องขวนขวายสุดชีวิต มีเพื่อนซี้เพื่อนรักหลายคนมที่ช่วยจัดติวให้อย่างเข้มข้นสุดๆ เพื่อให้เราสอบผ่านให้ได้ ... กิจกรรมเราก็ช่วยเพื่อนทำเยอะเหมือนกันนะ เช่น ทำหรีดวันรพี (เขาเลยให้คนทำไปถือหรีดด้วย) ทำหนังสือรุ่น แข่งกีฬาคณะ (ยิงปืนน่ะ..อย่างอื่นเล่นไม่เป็นจ้า) แล้วก็ร่วมเป็นกองเชียร์ตามไปเชียร์เพื่อนๆ พี่ๆ แข่งกีฬากัน เวลาคณะมีกิจกรรมอะไรก็ช่วยกันหมดแหละ คนคณะนี้เขากลมเกลียวกันดี ...

15. เคยไปออกค่ายมั้ยเธอ?
๏ เคยไปแน่นอนจ้า ... ไปค่ายอาสาพัฒนาแนะนำกฎหมายในถิ่นทุรกันดาร ไม่ได้ไปสร้างห้องเรียนสร้างส้วมหรอก ไปทำตัวเป็นทนาย (เถื่อน) แนะนำข้อกฎหมายให้ชาวบ้านเข้าใจข้อกฎหมายพื้นๆ ในชีวิตประจำวัน ... หนุกดีๆ ...

16. ชอบมั้ยจ๊ะ?
๏ ชอบมากกก... การออกไปนอกห้องเรียน ไปดูโลกภายนอก ได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ทำให้เรามีประสบการณ์ใหม่ๆ ให้รู้จักคิดแบบ “รู้เขา รู้เรา” แก้ปัญหาแบบถึงลูกถึงคนดี ... ประสบการณ์ตรงนั้นอาจจะมีส่วนเป็นพื้นฐานมาสู่แรงดลใจให้เรามาทำงานพัฒนาในยามนี้มั้ง ...

17. เคยแอบชอบคนหรือเป็นแฟนกันในสถาบันมั้ย เล่าด่วน!
๏ ฮือๆๆ ... มีดิ ... เป็นเรื่องรักคุดบันลือโลกเลยละ รู้กันไปทั้งคณะ น่าอายเจงเจงงง ...

18. เรื่องราวที่ประทับใจที่สุด?
๏ ประทับใจ “เพื่อน” มากที่สุด เพื่อนในคณะเป็นเพื่อนยามยาก อยู่เคียงข้างกันทั้งยามทุกข์โศก ยามเฮฮา ประคับประคองกัน ล้มลุกคลุกคลานกันไป ... ซึ้งกันยิ่งกว่าการเป็นแฟนเสียอีกเราว่า ... ประสบการณ์พวกนี้ซื้อหาที่ไหนไม่ได้ ต้องเข้าไปเจอเองแล้วจะรู้ว่าเจ๋งขนาดไหน ...



19. ใส่ชุดนักศึกษาไปเรียนป่ะ? แต่งกายถูกระเบียบมั้ย?
๏ ชุดนิสิตของเรา ถูกระเบียบสุดๆ เราชอบนุ่งกระโปรงยาวเพราะน่องโต เสื้อเข้ารูปเล็กน้อย (ไม่รัดรูปเลย) สรุปว่าออกแนวเด็กเรียน เรียบร้อยนั่นละจ้า ...

20. จำทางไปห้องสมุดได้ป่ะ?
๏ จำได้ดิ ... หน้าที่นักเรียนวิชานี้ต้องวิ่งขึ้นห้องสมุดเป็นอาจิณ ไม่ไปไม่ได้ ... ห้องสมุดคณะเราอยู่ชั้นสี่ของตึกเรียนนี่แหละ กดลิฟท์ขึ้นไปชั้นสี่ก็ถึงแล้ว ต้องไปค้นฎีกา ... คือห้องสมุดโรงเรียนกฎหมายทุกแห่ง จะต้องมี “คำพิพากษา” ของศาลฎีกา ที่จัดพิมพ์ไว้เป็นเล่ม (หนาๆ มากมายหลายร้อยหลายพันเล่ม) จัดเรียงใส่ชั้นจำแนกตามปีไว้อย่างเป็นระเบียบ สำหรับให้นิสิตไปค้นและอ่านเพื่อนำมาใช้เป็นแนวในการอ้างอิงข้อสอบแนววินิจฉัย ในการตอบข้อสอบกฎหมาย หลังจากฟันธงแล้วว่า ผิดไม่ผิด เพราะอะไร เหตุผลอะไร ใช้หลักกฎหมายข้อใดแล้ว ถ้าตอบเพิ่มเติมไปด้วยว่า เทียบเคียงตามแนวคำพิพากษาฏีกาหมายเลขที่เท่าไหร่ ปีอะไร ในประเด็นอะไร ก็จะทำให้ได้คะแนนสอบมากขึ้น (ถ้าไม่อ้างฎีกาผิดหรือตอบมั่วๆ น่ะนะ)

21. เลคเชอร์เทพมั้ย?
๏ เป็นบางวิชานะ ... ส่วนใหญ่จะยืมเพื่อนมาซีรอกซ์มากกว่า แต่ก็มีเพื่อน (ตามัวละเปล่าก็ไม่รู้) มายืมเลคเชอร์เราไปซีรอกซ์เหมือนกันนา ... พูดแล้วจะว่าคุย ... ฮ่าๆๆๆ...

22. บ้าซีรอกซ์ป่ะ?
๏ แปลว่าไร ... ถ้าหมายถึงวิ่งไล่ยืมเลคเชอร์เพื่อนมาซีรอกซ์ละก้อ เป็นบ้างเหมือนกัน โดยเฉพาะวิชาที่มีข้อสอบตุ๊กตา (คือโจทย์ข้อเท็จจริงที่มีตัวละคร ก. ข. ค. ง. ฯลฯ เยอะๆ) จะยืมเพื่อนเก่งๆ มา’หร็อก กันมือเป็นระวิงเลยทีเดียวเจียว ...

23. เรียนภาคสนาม/ฝึกงานกันรึปล่าว?
๏ นักเรียนกฎหมายสมัยก่อน (สมัยนี้ไม่รู้แฮะ) เรียนจบแล้วค่อยไปฝึกงานจ้า ... เราได้ไปฝึกในสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายของอเมริกัน เจอคดียาเสพติดของชาวเยอรมันเข้า ฝึกได้หกเดือนก็เผ่นแน่บเลยเรา ...

24. อยากกลับไปเรียนอีกมั้ย?
๏ อือม์ ... คิดหนัก ... เราว่านิสัยถาวรอย่างเรานี่ ไม่เหมาะกับวิชาชีพนี้เท่าไหร่เลย เพราะเหมือนจะไม่รุ่งแฮะ.. เราทำคะแนนสอบได้ยากเย็นมาก ไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนวิชานี้ละเปล่าก็ไม่รู้ ... แต่เราชอบช่วงเวลาที่เรียนนั่นมากเลยนะ และสิ่งที่ดีที่สุดได้จากการเรียนก็คือ การเป็นนักคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ความเป็นเหตุเป็นผลและคิดเป็นระบบ ... ฟังดูยังกับเรียนเลขเลยใช่ไหม ... แปลกนะ วิชากฎหมายนี่ ดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่ายหรอก แล้วแต่คน ... ถ้าใครขวนขวายใฝ่เรียนใฝ่รู้ ก็ได้ความรู้มาก ...

25. ถ้าให้เลือกอีกทีจะเรียนคณะเดิมป่ะ?
๏ ฮ่าๆๆ ... ไม่เอาแล้ว ถ้าเลือกได้จะเรียนคณะเรือสำเภาเรือใบสีฟ้าโลดๆ จ้า ...

26. หากกลับไปได้..จะกลับไปทำอะไร?
๏ เรียนเลขให้เก่ง แล้วกลับไปสอบเข้าเรียนตามข้อ 25. แต่ไม่เอาสาขาบัญชีนะ ว่าจะเอาสาขาการตลาด หรือไม่ก็บริหารธุรกิจ (ตามถนัด)

27. ความประทับใจที่มีต่อเพื่อน?
๏ เพื่อนคือยาชูกำลังใจที่ขาดไม่ได้ ชีวิตเราช่วงนั้นมีปัญหาทางบ้านด้วย เพื่อนอยู่กับเราและให้กำลังใจตลอดเลย ยืนหยัดได้เพราะเพื่อนแท้ๆ ถ้าขาดเพื่อน ชีวิตเราคงตกต่ำกราวรูด กร่อยสนิท จ๋อยสุดๆ ...

28. เรียนจบแล้วทำงานตรงสายมั้ย ได้ใช้ที่เรียนมาป่ะ?
๏ ทำงานไม่ตรงสายที่เรียนปอตรีมา ก็เลยไปเรียนโทให้มันตรงกับงานที่ทำซะเลย ... แต่ได้ใช้หลักคิดจากที่เรียนมาในการทำงานแบบเต็มๆ ...

29. คิดยังไงกับสถาบันของตัวเธอ?
๏ รัก ... ผูกพัน ... ซึ้งใจ ... ศรัทธา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

30. ตัวเธออยากจะบอกอะไรกับคนที่จะทำ Tag?
๏ แท็กนี้เพลิดเพลินเจริญใจดีมาก ไม่แพ้แท็กมัธยมวัยหวาน ใครทำแท็กโน้นแล้วมาต่อแท็กนี้ก็ไม่เลวนะคะ คิดเสียว่ามาแบ่งปันเรื่องราวเล่าสู่กันฟัง ... บล็อกแท็กยุคใหม่ ไม่ต้องให้ใครส่ง และไม่ต้องส่งให้ใครหรอกนะคะ ... เอาความสมัครใจกันเองดีกว่าเนอะ ..

: : บันทึกหลังเที่ยงคืน : :
..13 พฤษภาคม 2553.. 00.09 น...

ย่างเข้าสู่วันใหม่แล้ว วันที่เช้ากำลังจะมาถึงนี้เป็นวันพืชมงคล เราหยุดอยู่บ้าน แต่เน็ตในบ้านพังไปแล้ว สงสัยจะไม่ได้เปิดคอมฯ ก็ดีเหมือนกัน จะได้อ่านหนังสือ เล็มต้นไม้ เล่นกับหมาไปตามเรื่อง...
..สุขสันต์วันสีส้มค่ะ..

Create Date : 13 พฤษภาคม 2553
Last Update : 13 พฤษภาคม 2553 0:39:00 น.		9 comments
Counter : 1673 Pageviews.
Share Tweet