..LiFe iS a jOuRnEy..
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
: : T A G มัธยมวัยหวาน : :

กร๊ากกก... ฟังชื่อ TAG แล้วกระด๊ากกระดาก ... ก็ป่านฉะโน้นวัยปูนนี้แล้ว ยังอุตส่าห์จำวันเวลาในวัยหวานได้อีกเรอะ ... อ้าว ... ของมันแน่อยู่แล้ว เพราะวันเวลาวัยมัธยมของเรานี่แหละ คือช่วงเวลารุ่งสุดๆ แล้ว หลังจากนั้นมาสี่ปี ... โฮะๆๆ เข้าสู่ยุคมืดก็มิปาน ...

ผู้ส่ง TAG คือคุณน้องหมาน้อย พรุนแนล ผู้เพิ่งพ้นวัยหวานมาหยกๆ เธอก็เขียนคล่องละซิ ... อ่านเพลินสนุกสนานจนต้องตกกระไดพลอยโจนรับแท็กมาทำมั่ง ...


...คลิกที่รูปสาวน้อยผมงามดำขลับดั่งนกกาน้ำ
เพื่อเยี่ยมชมบล็อกคุณ prunelle la belle femme ...

แล้วก็เหลือเชื่อจริงๆ ว่าพอเริ่มเขียน ความทรงจำก็พรั่งพรูมายังกะกรอเทปกลับ (รู้จักมั้ย .. เทปคาสเซ็ตที่เป็นเส้นๆ เหมือนบะหมี่เส้นแบน ... 555 ... เป็นวัตถุโบราณไปแล้ว)

ที่เขียนไปใน TAG บางช่วงบางตอนอาจจะดูเหมือนโม้แหลกหรือโอ้อวดไปบ้างก็ขออภัยด้วย ... เขียนๆ เพลินๆ มันออกจะกลอนพาไปสักหน่อย ... แต่ก็รับรองว่าเป็นเรื่องจริงไม่มีใส่ไข่เลยแม้แต่น้อย ... อะไรที่จำไม่ได้ เราก็จะบอกตรงๆ ว่าข้อนี้เราอัลไซเมอร์ไปแล้ว...

T A G : มั ธ ย ม วั ย ห ว า น




1. เรียนโรงเรียน(มัธยม)::

... ราชินี ... ราชินีไหนน่ะเหรอ ... ราชินีเฉยๆ จ้า ที่อยู่ถนนมหาราช ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ใครอย่ามาพยายามถามเชียวว่า มันใกล้ตลาดขายดอกไม้ชื่อไร ... ไม่น่ารักๆ) ...

2. เลขประจำตัวนักเรียนของคุณคือ ::

8647 ... ต๊าย ... ไม่น่าเชื่อว่าจำได้ ใช่แล้ว เราต้องจำเลขสี่ตัวนี้ตั้งสิบๆ ปีนี่นา เพราะว่าเราเรียนที่นี่ตั้งแต่ประถมโน่นแน่ะ ...

3. ตอนเรียนอยู่ห้องอะไร ::

สมัยเรา ไม่มีห้องคิง ควีน แจ็คอะไรอย่างสมัยนี้ ... โรงเรียนเราเรียกห้องเรียนเป็น ก. ข. ค. ง. จ. ฉ. (โบราณเชียวเนอะ) มีตั้งชั้นละห้าหกห้องแน่ะ ห้องละไม่เยอะ สามสิบคนเป็นอย่างมาก ... เขาจะจัดเด็กลงแต่ละห้องตามลำดับความสามารถของเด็ก คือ ห้อง ก. เด็กเก่งเยอะหน่อย ห้องอื่นๆ ก็รองลงไป ... แถมบางชั้นบางปีที่มีคนตกเยอะๆ (สมัยก่อนเรียนเป็นเปอร์เซนต์ ไม่ตัดเกรด เลยสอบตกกันง่ายมาก) มีห้อง พ. ด้วย มาจากคำว่า 'พิเศษ' คือรวมเด็กที่อ่อนมากๆ มาไว้ด้วยกัน ฟังดูแย่จังเนอะ ... แต่เราจำได้ว่าเพื่อนๆ เราในห้อง พ. ก็ดูแฮปปี้ดี๊ด๊ากันดี ไม่ค่อยรู้สึกเดือดร้อนใจเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กไม่ชอบเรียนจริงจังกันน่ะ ...

อ้อ... มอต้น เราอยู่ ห้อง ก. หรือไม่ก็ ห้อง ข. เป็นส่วนใหญ่ (อะแฮ่ม..) ส่วนมอปลาย อยู่ห้องตามสายที่เลือก ห้องเดียวไม่มีนัมเบอร์ค่ะ ...


4. กีฬาสีอยู่สีไรกัน ::

มอต้นอยู่ สีม่วง เป็นส่วนใหญ่ มอปลาย ไม่มีแล้วกีฬงกีฬา มุเรียนเตรียมเอนท์อย่างเดียวกันทุกห้องเลยจ้ะ เพราะโรงเรียนเราเด็กน้อย เด็กเก่งก็เหลือน้อยด้วย (ไปสอบเข้าโรงเรียนแถวปทุมวันกันหมด) เราเป็นหนึ่งในเด็กเรียนใช้ได้ไม่กี่คนที่อยากอยู่ที่เดิมเพื่อสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน เลยไม่ได้ไปสอบเข้าโรงเรียนนั้นกับเขาหรอก (จริงๆ นะ ไม่ใช่องุ่นเปรี้ยว) ...



..งานกีฬาสีของโรงเรียน ตึกที่เห็นคือตึกมัธยมที่วันนี้ถูกทุบไปแล้ว..


5. คุณเป็นคนมาโรงเรียนสายหรือไม่ ::

บ้านกับโรงเรียนอยู่ไกลกันมากกกกก... ก้อจากบางนา มาแถววัดโพธิ์อ่ะ ... สมัยนู้น ไม่มีทางด่งทางด่วนด้วยนะ แต่รถไม่ติดเล้ย มหัศจรรย์มาก (ลูกเราไม่เชื่อว่ากรุงเทพฯ เคยมีเวลาที่รถไม่ติดด้วย ... 555) พ่อหรือแม่จะขับรถมาส่งทุกเช้า มาทางธรรมดานี่ละ ดุ่ยๆ มาเรื่อยๆ จากสุขุมวิท เข้าเพลินจิต ไปพระราม 1 ต่อด้วยยศเส วรจักร สะพานพุทธ ... แต่เรา ไม่เคยมาสายเลย และเราไม่เคยตื่นสายด้วยละ เป็นโรคชอบมาโรงเรียน ทุกเช้าต้องรีบตื่นเพราะอยากมาเรียน (ประหลาดคนไหม...)

6. ตื่นไปโรงเรียนกี่โมง ::

โห... ความจำเลือนลาง ... แต่ก็พอจะไล่ๆ เอาได้ ลองดูนะ ... โรงเรียนเข้าแปดโมงยี่สิบ เดินทางประมาณเกือบชั่วโมง ก็น่าจะออกจากบ้านซักเจ็ดโมงครึ่ง เราอาบน้ำ แต่งตัว ถักเปีย ไม่เกินครึ่งชั่วโมง กินข้าวเช้าที่บ้านด้วยนะ สรุปว่า ตื่นหกโมงครึ่ง ก็ทันเหลือเฟือจ้า ...

7. ถ้ามาสายโรงเรียนของคุณมีบทลงโทษคือ ::

คุณครูเวรที่โต๊ะหน้าประตูโรงเรียนจะบันทึกชื่อไว้ แล้วทำไงต่อก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเราไม่ค่อยได้มาสายเลยจริงๆ ...

8. กินอะไรเป็นอาหารเช้า ::

กินข้าวเช้าที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ เพราะพอศอนู้นรถไม่ติดเลย มีรถไม่ถึงหมื่นคันมั้งทั่วกรุงเทพฯ (น้ำมันลิตรละไม่ถึงสิบบาทอ่ะ) ของโปรด คือ ข้าวต้มเครื่อง เช่น ข้าวต้มหมูสับ หรือไม่ก็ไข่ลวก ไข่ดาว

9. อาจารย์ที่เราประทับใจมากที่สุด ::

เช่นเดียวกับน้องหมาน้อย ... ขอสักสองสามท่านที่ประทับใจและยังรำลึกในพระคุณมาจนทุกวันนี้ ...

มอต้น
- คุณครูหม่อมหลวงมาลี (จำนามสกุลท่านไม่ได้) สอนทำกับข้าว (สมัยโน้นเรียกว่า "การเรือน") เราได้หัดทำกับข้าวเมนูประจำชาติทั้งหลาย รวมทั้งกับข้าวในวรรณคดีไทย เช่น ไข่พะโล้ แกงเขียวหวาน ไข่ลูกเขย หมูหวาน ล่าเตียง หรุ่ม จำได้แม่นเพราะทำเสร็จครูหม่อมหลวงมาลีให้นำกลับบ้านไปกินได้ด้วย ทุกครั้งที่เรียนก็จะต้องนำกล่องอะลูมิเนียมไปโรงเรียนเพื่อใส่กับข้าวกลับบ้าน ...

มอปลาย
- คุณครูหม่อมหลวงภาว์รัตน์ เทวกุล (โรงเรียนนี้มีครูเป็นเชื้อพระวงศ์หลายคน) ใจดี น่ารัก สอนภาษาอังกฤษดีมาก สำเนียงก็เป็นเลิศ ทำให้เรารอบคอบเรื่องการใช้ภาษาและอยากพูดภาษาอังกฤษไพเราะอย่างครู ...

- อาจารย์พันเอกหญิงมาลี (จำนามสกุลไม่ได้อีกละ) ท่านเป็นอาจารย์พิเศษมาจากโรงเรียนนายร้อยจปร. ทุกครั้งที่มาท่านจะสวมชุดทหารสีเขียวขึงขัง แต่ใจดีเหลือแสน เรายังจำดวงหน้าของท่านได้จนบัดนี้ ... ท่านได้รับมอบหมายให้มาสอนไวยากรณ์อังกฤษฉบับเข้มข้นสำหรับนักเรียนสายศิลป์โดยเฉพาะ แล้วก็สอนรีดดิ้งด้วย ... นอกจากมีเมตตาสูงแล้วท่านยังเป็นครูภาษาอังกฤษที่เก่งมาก สามารถฉุดกระชากลากถูนักเรียนจากสภาวะบัวใต้น้ำให้ชูช่อมาเป็นบัวเหนือน้ำได้อย่างไม่น่าเชื่อ ...

อาจารย์มาลีเป็นผู้ที่ทำให้เกรดวิชาภาษาอังกฤษของเราพุ่งปรู๊ดทะลุเพดานไปอวกาศเลย เราค่อนข้างสนิทกับอาจารย์นะ จำได้ว่า อาจารย์มาลีท่านดูจากคะแนนสอบของเราแล้วท่านก็พยายามโน้มน้าวใจให้เราเรียนต่ออักษรศาสตร์ แต่เราไม่รักดี กราบเรียนอาจารย์ว่า ... อาจารย์ขา... สอบเข้าน่ะคงได้ แต่หนูนึกภาพตัวเองเป็น 'สาวอักษรฯ' ไม่ออกเลยค่ะอาจารย์ ... นอกจากบุคลิกหนูจะไม่ให้แล้ว หนูคงทนเรียนอะไรที่มันเป็นภาษาๆ ล้วนๆ ตั้งสี่ปีไม่ไหวแน่ๆ เพราะหนูชอบเรียนอะไรที่มันเป็นวิชาการวิชาแกน เนื้อๆ อะไรซักอย่าง (อย่างเช่นรัดสาด นิติ เป็นต้น) หนูขอศึกษาด้านภาษาเพิ่มเติมนอกหลักสูตรดีกว่า ...


10.วิชาที่ชอบเรียน ::

ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาไทยก็ชอบนะ เพราะการเรียนรู้ภาษาไทย ทำให้เขียนได้เขียนดี แต่สองวิชาที่ชอบนั่นเป็นแหล่งวิชาที่ทำคะแนนให้เราได้สูงสุดๆ ทำให้เราสามารถเอนท์เข้ามหา'ลัยได้คณะที่เลือกเป็นอันดับ 1 (สมัยนั้น ให้เลือกได้หกอันดับ) แอบโม้นิดนึงว่าเราสอบเข้าได้เป็นที่ 6 ของคณะซะด้วยนะ ฮ่าๆๆ ตอนเข้าน่ะหน้าบานดีอยู่ แต่ตอนจะจบนี่ดิ โฮ้ย ... ไม่อยากบอกเลยว่าเรากับเพื่อนๆ ต้องไปบนว่าจะบวชชีพราหมณ์สามเดือนเพื่อขอให้จบสี่ปี หุหุหุ...

11.วิชาที่ไม่ชอบเรียน ::

เรขาคณิต ... โฮะๆๆ เราเรียนเลขอะไรๆ ก็พอได้นะ แต่เจอเรขาฯ ทีไร ไข้ขึ้นทุกที โดยเฉพาะไอ้การพิสูจน์ทั้งหลายเนี่ย ไม่เคย ซตพ. ได้แบบฉลุยเล้ย ... การตกวิชาเรขาฯ ในช่วงมอต้น ก็เลยเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เราไม่เลือกสายวิทย์ หรือศิลป์คำนวณ อันเป็นการตัดสินใจผิดพลาดอย่างมหันต์ เพราะเราเพิ่งมารู้ตัวตอนสอบเลขเรียนปอโทว่า แท้จริงแล้วเราก็ไม่ได้โง่เง่าเรื่องเลขสักเท่าไหร่เลยนี่นา ...

12.ชอบกีฬาอะไรมากที่สุดเวลาเรียนพละ ::

โรงเรียนเรา กีฬาไม่ค่อยเน้น อาจเป็นเพราะเป็นโรงเรียนหญิงล้วน และครูๆ ทั้งหลายก็ดูหญิงๆ ไม่ค่อยเล่นกีฬากัน แต่ที่เราชอบจริงๆ คือ ว่ายน้ำ เราชอบว่ายท่ากบ ไซด์สโตรค กับกรรเชียง ฟรีสไตล์ว่ายไม่ค่อยไป ผีเสื้อก็ไม่เป็น

13.เวลามีคาบว่างคุณจะทำอะไร ::

เข้าห้องสมุด จ้า ... มุมโปรดคือตู้นิยาย ชอบอ่านนวนิยายมากๆ โดยเฉพาะของสุวรรณี สุคนธา กฤษณา อโศกสิน ทมยันตี ชูวงศ์ ฉายะจินดา โสภาค สุวรรณ ฯลฯ กับอีกมุมคือมุมหนังสือฝรั่ง ซึ่งมีน้อยเล่มมาก ก็เลยอ่านซะหมดเกือบทุกเล่ม ... อีกมุมโปรดคือ ข้างห้องประชุมใกล้สระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นด้านที่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา จะมีลมพัดเย็นโชยรื่นชื่นใจมาจากแม่น้ำทุกเวลา ...

14.เรียนพิเศษรึป่าวและเรียนที่ไหน ::

เรียนเยอะแยะมากมายในช่วงมอปลาย เพราะเป็นโรคประสาทอย่างนึงคือกลัวสอบได้คะแนนน้อย เราเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวเป็นส่วนมาก เช่น เรียนกับอาจารย์นุชลี ที่คณะศิลปศาสตร์ ม.ธ. แม่ต้องขับรถไปจอดที่ถนนพระอาทิตย์ ให้เราเดินเข้าไปเรียนที่ตึกสถาบันภาษาอาทิตย์ละสามวัน ... แล้วก็เรียนภาษาอังกฤษที่ Home of English อาจารย์คณิต เก่งมากๆ โจทย์ของ อ.นี่ละที่ทำให้เราทำข้อสอบเอนท์ได้ถูกเกือบหมดทุกข้อ ...

15.เหตุผลที่คุณเรียนพิเศษ ::

ตอบแล้วในข้อ 14. จ้า (ไม่อยากตอกย้ำตัวเอง ..555)



..ส่วนหนึ่งที่สำคัญในความทรงจำ คือ เพื่อน..


16.ชื่อเพื่อนสนิทของคุณคือ (ขอคนเดียว) ::

...โอ๋...

17.บอกข้อดีของเพื่อนที่คุณสนิทมา 7 ข้อ ::

5 ข้อละกัน ... ตัวสูงพอๆ กัน ยืนเข้าแถวอยู่หัวแถวด้วยกันมาตั้งแต่มอต้น ... นิสัยดี ... มีน้ำใจ ... เป็นเพื่อนปรับทุกข์ยามไม่เข้าใจเรื่องเรียน ... ให้คำปรึกษาเรื่องเรียน (ตกลงโอ๋เข้านิติฯ เหมือนเราเลย แต่ค่ายท่าพระจันทร์ซะนี่) ...

18. เรื่องราวที่เด็ดๆ ในโรงเรียน ::

เอิ่ม ... จะบอกดีมั้ยเนี่ย เขินนิดๆ เอ่อ ... คือ โรงเรียนเราเป็นรร.หญิงล้วนไง สมัยโน้นมันก็จะมีแบบพี่ชอบน้อง น้องชอบพี่ ประมาณว่าเอาดอกกุหลาบ ดอกตุ๊กตาเต้นระบำ (สีเหลืองๆ น่ะ) ดอกช้างกระ ดอกฟ้ามุ่ย (นี่จำชื่อดอกไม้แม่นเปรี๊ยะเลยเห็นไหม) ไปให้กัน โทรศัพท์คุยกัน นั่งคุยกันยามพักเที่ยง ฯลฯ แต่มันก็จะมีแค่นั้นละ ไม่ได้มีอะไรมากมายอย่างสมัยนี้ เราก็มีน้องหรือพี่ที่เอาดอกไม้มาให้อยู่หลายคนเหมือนกัน ... คิดถึงวันนั้นแล้ว ...ฮู้ววว... เป็นไปได้อย่างนั้นหรือเรา ...

19.เรื่องราวที่ประทับใจที่สุด ::

วันสุดท้ายของการเรียนการสอนในมอปลายไง เป็นวันที่จะจบและจะจากกับเพื่อนๆ ร่วมห้องเรียนกันแล้ว ... วิ่งไล่เซ็นสมุดเฟรนด์ชิพกันอุตลุด ทั้งห้องวิทย์ ห้องศิลป์ ... ตั้งวงเล่นกีตาร์กันด้วย ... พวกเราชอบเล่นเพลงของปีเตอร์ พอล แอนด์แมรีนั่นละ ... เล่นไปก็สะท้อนสะท้านใจไป คงไม่มีอีกแล้วเนอะ วันเวลาที่เราจะได้มารวมกลุ่มกันสาวๆ แบบนี้ ... ตะละคนก็จะแยกย้ายกันไปเรียนที่ไหนไม่รู้ ... สมัยก่อนเราก็จะแยกย้ายกันไปสมัครสอบเอนทรานซ์กันเอง ไม่ค่อยจะได้เจอะเจอกันแล้วละหลังจากนั้น ... กลุ่มเราเนี่ยไม่มีใครตามมาเข้าคณะเดียวกับเราเลย เราไปแบบหัวเดียวกระเทียมลีบมากๆ ...

20.เรียนสายอะไร ::

ศิลป์ภาษา - ฝรั่งเศส --" ขอขยายความหน่อย ... มันเหมือนชีวิตลิขิตมาอย่างนั้น เพราะเราตกเลข ก็เลยต้องพิจารณาตัวเองให้ไปทางสายศิลป์แบบไม่มีทางเลือก ภูมิใจนะที่เป็นสาวศิลป์ฝรั่งเศส ไม่เคยอายใคร เพราะเราก็เรียนได้ดีอย่างที่ครูทั้งหลายภูมิใจ แต่มานึกเสียดายตอนนี้ละว่า เราเนี่ยมีศักยภาพทางสมองไม่น้อยเหมือนกัน น่าจะได้เรียนวิทย์ หรือศิลป์คำนวณ จะได้มีลุ้นเรียนหมอ หรือเบาะๆ ก็บัญชีตอนปอตรี ...

การเรียนศิลป์มอปลาย มีผลเป็นการสร้างวิบากกรรมให้กับเราไม่ทันตาเห็น ... แต่เป็นอีกหลายสิบปีต่อมา คือเมื่อเราสอบเข้าเรียนปอโทในสายสังคมศาสตร์ที่ต้องใช้เลขในการเรียนเป็นอันมาก ทั้งการสอบการเรียนก็ทุลักทุเลจนแทบจะลาออกไปกลางคัน ดีว่าเพื่อนๆ ช่วยกันดึงรั้งไว้ไม่ให้ตัดสินใจบ้าๆ ... โธ่ ... ใครไม่เคยเป็นเด็กศิลป์มาเรียนพวกแฟคทอเรียล อสมการ ฯลฯ ไม่รู้หรอกว่าเหมือนตกขุมไหน ... ชีวิตเราลำบากยากเย็นกว่าเพื่อนร่วมชั้นเยอะ ส่วนมากเขาจบวิศวะ บัญชีกันมา ก็สบายซิ ... แต่พวกนี้นิสัยดี มีน้ำใจมาก ช่วยติว ช่วยโคชจนเรารอดมาได้แบบทุลักทุเลในปีแรก แต่พอปีต่อมา ฮะฮ้า ... เลขเราเริ่มฉลุยละเพราะเป็นการคิดวิเคราะห์ ... ภูมิใจสุดๆ ที่เราได้เป็นหนึ่งในสิบคนที่ได้เกรด A วิชาไฟแนนซ์ ฮ่าๆๆๆ...


21.ขอเหตุผลจาก ข้อ 20 ::

เพราะเกลียดเลขมากถึงมากที่สุด อันเป็นผลจากข้อ 11. และข้อ 20. ที่เล่าไปข้างต้น

22.ตอนเรียนใช้ JACOB หรือไม่ ถ้าใช้ติดอะไรไว้ที่กระเป๋า ::

คิดว่าใช้นะ :P ความจำเริ่มรางเลือน... เพราะ Jacob เป็นกระเป๋าที่จ๊าบที่สุดแล้วในสมัยนั้น ที่กระเป๋าก้อต้องติดสติกเกอร์ซิ ทำเองด้วยนะ อาร์ตๆ หน่อย ...

23.อยู่โรงเรียนเรียบร้อยมั๊ย ::

เรียบร้อยมาก เป็นเด็กเรียน มารยาทงาม เด็กดีของคุณครู ... เป็นหนึ่งในความหวังของคุณครูและโรงเรียน (จริงๆ นะ) ... เราเป็นตัวแทนของมอปลายไปแข่งขันสามรายการ ที่จุฬาฯ ครั้งนึง บริษัทเชลล์ครั้งนึง กับบริษัทการบินไทยอีกครั้งนึง ... แต่เป็นหนังคนละม้วนกับเรื่องบุคลิกส่วนตัวนะที่ออกจะห้าวๆ ทอมๆ แต่ไม่ได้เบี่ยงเบนนะ... เพียงแต่ไม่ใช่แนวหญิงๆ นั่นละ ...



..ไปตอบปัญหาเชลล์ก๊าบ..


24. วิชาที่ได้เกรดดีที่สุดคือ ::

มอต้น
ทุกวิชาเรียนได้ปานกลาง สังคมนี่ไม่ค่อยชอบ รำคาญที่ต้องมาจำเรื่อง พ.ศ. กับเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เราชอบวิเคราะห์มากกว่า แต่สมัยก่อน ครูไม่ค่อยสอนเรื่องวิเคราะห์นะ จะเน้นเรื่องจำๆ ซะมากกว่า ... แต่เริ่มเห็นแววเรื่องภาษาเพราะเลขหลุดโลกไปแล้ว ... เอวัง ...
มอปลาย
เหมือนน้องหมาน้อย ... เกรดดีที่สุดคือ ภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศส ความจริงการทำเกรดในสมัยนั้นไม่สำคัญเท่ายุคนี้ที่ต้องเอาผลการเรียนไปสมัครสอบเข้ามหา'ลัย ยุคเรามีแต่สอบเอนท์วัดดวงครั้งเดียวจบ สอบรวมมอปลายก็ไม่มีนะ เอาระเบียนสะสมมาสมัครเอนท์อย่างเดียว สบายมาก เรารู้ตั้งแต่ก่อนเอนท์แล้วว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรก็เลยขยันเรียนมากๆ อ่านหนังสือมันทุกวัน ไม่สอบก็อ่าน ไม่ได้หวังทำเกรด แต่หวังว่ามันจะทำให้เรามีภูมิความรู้แน่นพอที่จะทำข้อสอบเอนท์ได้เกือบหมดทุกข้อ ซึ่งก็คิดไม่ผิด เพราะเมื่อสอบเสร็จแล้วซื้อเฉลยข้อสอบมาตรวจคำตอบดูเอาเอง เราทำได้เกือบ 90% ของทั้งหมดแน่ะ ...


... เข้ามาแก้คำผิด แล้วเลยขอตอบคำถามของน้องหมาน้อยไว้ตรงนี้ด้วยว่า สมัยเรา มัธยมมีห้าปีจ้ะ ได้เรียนมอปลายแค่สองปีเองไง ก็เลยต้องขับเคี่ยวกันสุดๆ ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ...

25. เอาล่ะ...ตอนนี้คุณอยากกลับไปเรียนมอปลายอีกหรือไม่ ::

อยากๆ ... อยากเรียนวิทย์ และอยากสอบเข้าเรียนแพทย์ ... 555 ... ฟังดูเหมือนหมาเห่าเครื่องบินใช่ไหม --" เราว่าถ้าเราฮึดจริงๆ เราเรียนได้นะ วิทย์น่ะ ... เราเพิ่งมาคิดได้ตอนนี้ว่า นิสัยเราเนี่ยเหมาะกับการเรียนแพทย์มาก สติปัญญาก็ได้ถ้าเราอึดๆ ขยันๆ จริงๆ อ่ะนะ ... ประสบการณ์ที่ไม่ดีจากวิชาเรขาฯ สมัยมอต้นนี่ละ ที่ทำให้หลักคิดชีวิตเราเป๋ ...

26. หากกลับไปได้...คุณจะกลับไปทำอะไร ::

กลับไปติวเลข ชีวะ เรียนวิทย์ และสอบเข้าแพทย์ให้ได้ ... อยากเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือคนที่เจ็บปวดทรมาณจากโรคร้าย และช่วยแนะนำให้เขารู้วิธีป้องกันตัวเองจากโอกาสเป็นโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ด้วย (ใจบุญเนอะ... แต่เราเสียดายโอกาสชีวิตเราจริงๆ ตอนนี้กำลังพยายามล็อบบี้ลูกสาวซึ่งมีนิสัยบางอย่างคล้ายๆ เราอยู่ พยายามบอกเขาว่า ระวังจะเสียดายวันเวลาที่ผ่านมาอย่างแม่ ...

27. ความประทับใจที่มีต่อเพื่อนร่วมห้อง ::

ประทับใจในวัฒนธรรมโรงเรียน คือ "เรียบร้อย" และ "รักเรียน" .... เพื่อนร่วมห้องเรา ส่วนใหญ่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถมนู่น เห็นหน้ากันมาเป็นสิบๆ ปี แต่จะมีอยู่สองสามคนที่สนิทๆ กัน มีหลายคนที่เป็นคู่แข่งเรียนกันมา ผลัดกันได้ที่หนึ่งที่สองกันมาตลอด เราดีใจนะที่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ต้องขอบคุณพ่อกับแม่มากๆ ที่เอาเรามาเข้าปอหนึ่งที่นี่ เพราะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มักจะเป็นเด็กรักเรียน รักดีกันหมด ทำให้มีอิทธิพลหล่อหลอมให้เราเป็นคนที่ชอบการเรียนไปด้วย ...

28. ก่อนจบเขียนเฟรนด์ชิพ/เขียนเสื้อรึป่าว ::

เหมือนน้องหมาน้อย ... เขียนเฟรนด์ชิพแต่ไม่ได้เขียนเสื้อ ... เราเป็นพวกเรียบร้อยนี่นา จะไปสร้างความไม่เรียบร้อยบนเสื้อได้อย่างไร ฮ่าๆๆๆ...

29. วันไหว้ครูปีนี้จะกลับไปโรงเรียนรึป่าว ::

...ว่าจะไปๆ เยี่ยมโรงเรียน พาลูกไปดูบรรยากาศที่แม่เคยเรียน ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที ... เหตุผลแบบกำปั้นทุบดิน คือ ไม่มีที่จอดรถ (จริงๆ แล้วก็ไม่มีมาตั้งแต่สมัยนู้นแล้วนั่นละ) ... ได้ข่าวว่าตึกเก่าโรงเรียนไฟไหม้ สร้างใหม่แบบไม่เหมือนเดิม เลยโกรธๆ พวกคณะกรรมการที่เป็นสมาคมนักเรียนเก่า หรืออะไรสักอย่าง แล้วตึกเรียนมัธยมก็ทุบทิ้งแล้วด้วย เลยยิ่งไม่อยากกลับไปใหญ่ ... สรุปว่า ... ไม่กลับ ...

30. รักโรงเรียนคุณมากแค่ไหน ::

...เป็นความผูกพันทางใจแบบ lingering on คือ ทรงจำอยู่ในใจ แต่ไม่ได้เป็นสิ่งที่เรียกว่ารัก หรือเกลียด มีวันเวลาในชีวิตของเรามากมายอยู่ในโรงเรียน ถึงในทางรูปธรรม โรงเรียนจะเปลี่ยนหน้าตาไป ไม่เหมือนเดิม แต่ในความคิด โรงเรียนก็คือสถานที่ที่เรามีความหลังมากมายให้ระลึกถึง ...

31. อยากจะบอกอะไรกับคนที่คุณจะแท็ก ::

แท็กนี้หนุกดีออก ทำไปยิ้มไป สบายใจ... ช่วยให้คนที่กำลังจะเข้าสู่วัยอัลไซเมอร์ ได้รับการกระตุ้นกระเตื้องความทรงจำดีดีขึ้นมาได้ ...

32. ข้อสุดท้าย สมัยมัธยมคุณมีฉายาว่า ::

... อือม์ จำไม่ได้จริงๆ ละ ไม่น่ามีนะ เพราะเด็กๆ พวกเราเรียบร้อยกันมาก ซนๆ แค่ไหนก็อยู่ในกรอบอย่างดีละ ... มีแต่ชื่อเล่นอย่างไม่เป็นทางการที่มีหลายชื่อ ... ครูแหม่มเรียกว่า "จอย" (Joy) เพื่อนๆ เรียกว่า "แดง" เพื่อนบางคนเรียกว่า "ปุย" ตามชื่อแมวที่บ้าน (แมววิเชียรมาศชื่อปุยฝ้าย)


ทำเสร็จแล้ว สนุกมากเลย แก้ง่วงยามบ่ายๆ ได้ผลชะงัด
(แฮ่ๆ มะวานแอบแว่บงานมาเขียนตอนกำลังสะลึมสะลือ)
เหมือนฉายหนังขาวดำ เป็นภาพแห่ง Nostalgia
อยากทำต่อเป็น TAG วันเฟรชชี่, 'หม่อร์ ยันซีเนียร์เลย ... 555 :P
แต่ตอนนี้ ขอส่ง TAG ต่อให้เพื่อนสักสองสามคน
ที่เราเชื่อว่าวัยหวานยังไม่นานเกิน
ได้แก่
....
คุณ SevenDaffodils ,
คุณ iamsquid
และคุณ รัชชี่
....
...ไม่ต้องรีบนะคะ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม...



Create Date : 04 มีนาคม 2553
Last Update : 4 มีนาคม 2553 20:43:52 น. 10 comments
Counter : 1278 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะที่ส่งการบ้านให้

แต่แวะมาบอกก่อน ไม่แน่ใจว่าจะได้ทำหรือเปล่าค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยสะดวกเข้าบล็อก

ถ้าทำแล้ว จะมาส่งการบ้านค่ะ


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:10:35:03 น.  

 
แวะมาอ่านค่ะ
ชีวิตพี่จขบน่าสนุกจัง
อิอิ



โดย: แฟนสาวฮัตโตริคุง วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:13:45:58 น.  

 


โดย: แม่ออมบุญ วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:14:04:58 น.  

 
สวัสดีเจ้าปี้แดง ^^

อ่านจบหมดแล้ว สนุกจังเลย แต่ว่ายังไม่มีเวลาเม้าท์มากค่ะ ไว้เดี๋ยวมาอ่านใหม่อีกรอบ มาแซว มาเซฟรูปด้วย หุหุหุ ของหายากนะนั่น ควรค่าแก่การจดจำและบันทึก
ปี้มารูนถักเปียด้วย เอ้อ สมัยก่อนนี่มันมีถึง ป.8 หรือ ม.8 อะไรสักอย่างด้วยใช่ไหมคะ


โดย: แปะโฮ่ง รอบที่หนึ่ง IP: 208.50.251.210 วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:15:32:28 น.  

 
พี่แดงไปเรียกมาบล็อกพี่แดง ก็แอบตื่นเต้นอะไรหนอ..อะไรหนอ 555 ยินดีรับแถ่กด้วยความเต็มใจค่ะ (กำลังหาเรื่องอัพบล็อกอยู่พอดี อิอิ)

ชีวิตวัยหวานพี่แดง นี่คนละแนวกะปุ้ยเลยล่ะ จากข้อ 13 14 23 เป็นต้น .. และขอทึ่งในการเป็นเด็กเรียนเก่ง(มาก) ค่ะ เมื่อก่อนตอนดูโทรทัศน์ก็ว่าคนที่ได้ไปแข่งตอบปัญหาของเชลล์นี่สุดยอดจริงๆ ยกนิ้วให้เลยค่ะ ^^

แล้วจะปั่นการบ้านมาส่งนะคะ


โดย: จากเด็กโรงเรียนแถวปทุมวัน ^^ (iamsquid ) วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:16:54:16 น.  

 
ฝันดี ราตรีสวัสดิ์...ค่ะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:21:34:40 น.  

 
อ่านไป คิดถึงวัยหวานของเรา อิอิ

สิบปีเหมือนกันนนนนนน


โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:21:54:41 น.  

 
คริ คริ พี่แดง เรามีหางหมูยาวสองอันเหมือนกันเลยค่ะ ตอนเด็กๆอ่ะ

ขอบคุณสำหรับของขวัญชิ้นพิเศษให้รำลึกความหลังค่ะ ทำเสร็จเมื่อไหร่จะมาตามให้พี่ไปชมนะคะ


โดย: SevenDaffodils IP: 65.160.41.6 วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:22:10:30 น.  

 
เอาละ ได้เวลามาโม้แอนด์เม้าท์ต่อที่บ้านปี้แดง นานทีปีหนได้ระลึกชาติ มีแนวร่วมหลายบล็อกแบบนี้สนุกดี
555 มีแซวกันว่าเพิ่งผ่านพ้นวัยหวานมาหยก ๆ เอาค่ะเอา "เพิ่ง" ก็ "เพิ่ง" หึหึหึ

จำได้ว่าโรงเรียนหนูใช้วิธีสอบเข้าตอนมอต้น ก็มี 12 ห้อง ห้องละ 45 คน วิธีการจัดเด็กคือ คนที่สอบได้ที่ 1-12 จะเป็นเลขที่ 1 ของแต่ละห้อง แล้วก็วนมาหาคนที่สอบได้ที่ 13-24 ก็จะเป็นเลขที่ 2 ของแต่ละห้อง ... หนูว่าวิธีนี้ไม่เลวนะคะ มันคละกันดี หนูอยู่ห้อง 5 เลขที่ 30 ค่ะ มาจากโรงเรียนบ้านนอกซะขนาดนั้น สอบเข้าได้ก็บุญโข

พอมามอปลายไม่ต้องสอบเข้าได้สิทธิต่อเลยเพราะเป็นศิษย์เก่าและไม่เคยติดศูนย์(หวุดหวิดมาก) ทั้ง ๆ ที่คะแนนวิชาอะไรก็ไม่โดดเด่นแต่ก็ได้อยู่ห้องคิง ศิลป์-ฝรั่งเศส มีสามห้องค่ะ

มอต้นอยู่สีม่วงเหมือกันเลยแฮะ หนูไม่ได้เป็นเด็กกรุงเทพฯ เลยไม่ค่อยทราบค่ะว่าโรงเรียนมัธยมไหนดังไม่ดัง ส่วนใหญ่จะรู้แต่ภาคเหนือ แต่โรงเรียนปี้แดงออกแนวไฮโซนะคะนั่นเพราะคุณครูเป็นเชื้อพระวงศ์หลายคน แถมตำแหน่งบางท่านก็เท่มาก ๆ พันเอกหญิงงี้ อาจารย์ของหนูที่ออกแนวนี้มีอยู่ท่านหนึ่งค่ะ ชื่ออาจารย์พรรณราย สอนภาษาฝรั่งเศสตลอดสามปี ยากด้วย แกจบคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกับสมเด็จพระเทพฯ ค่ะ แกเอารูปมาอวดให้ดูด้วย ครูสอนภาษาฝรั่งเศสมอปลายหนูมีสามท่านและทุกท่านก็ได้ผ่านการศึกษาหรือมาแลกเปลี่ยนใช้อยู่ในประเทศฝรั่งค่ะ

ฮ่า ๆๆ ปี้แดงเป็นโรคประสาทกลัวสอบได้คะแนนน้อยต้องแต่เด็กเลยแฮะ มานึกดู บางสิ่งบางอย่างสมัยเป็นละอ่อนเราก็ไม่ค่อยเข้าใจนะว่าทำไมต้องกดดันอะไรกันนักหนา พอเวลาผ่านไปเป็นผู้ใหญ่แล้วเลยถึงบางอ้อ ตอนมอปลายเรียนคณิตฯกับวิทย์แค่เทอมละตัวค่ะ หน่วยกิตใช่ย่อย แต่หนูก็ได้เกรดสี่ทุกเทอมแถมบางทีมีท็อปด้วย เลยเข้าใจว่าบางอย่างเราก็ทำได้เหมือนกันนี่นา เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาในการค้นหาตัวเองหน่อย หรืออาจจะต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นนิดในช่วงแรก

ถ้าวันนี้ปี้แดงเป็นหมอ อาจจะไม่มีเวลามาเขียนบล็อก ออกต่างจังหวัดพัฒนาสังคม แล้วกลับมาเล่าอะไรดีดีให้พวกเราในบล็อกได้รู้ได้เห็นตามก็ได้ เส้นทางชีวิตคนเรามันก็เลือกแล้วเลือกเลยเนอะ

ชอบภาพขาวดำของปี้แดงทุกภาพค่ะ คลาสสิกมาก ๆ โดยเฉพาะรูปที่ไปแข่งตอบปัญหา โอ๊ยยยยย แก้มป่องน่าฮัก อิอิอิ

bonne nuit เจ้า gros gros bisous ^^


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:1:57:38 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แดง

พี่แดงความจำดีมากครับ
ส่วนผมหลังได้รับแถ่กมาจากพี่พรุน
ก็นึกๆๆๆๆถึงวีรกรรมตัวเองในวันเด็ก
นึกไม่ออกครับ 555

วิชาการเรือนผมเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกเลยครับ
สมัยผมเรียนเรียกวิชาคหกรรมแล้วครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:6:37:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Devonshire
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add Devonshire's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.