|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
- # 188-194 : เชียงใหม่ ฝรั่งเศส มิลาน-อิตาลี ป่าโมก-อยุธยา สหรัฐอเมริกา
- # 166-187 : อาฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เลย เชียงใหม่ กรุงเทพฯ : :
- # 159-165 อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรีย เยอรมัน สหรัฐอเมริกา
- # 148-158 ฝรั่งเศส เชียงใหม่ ลำปาง กรุงเทพฯ
- # 132-147 สหรัฐฯ เยอรมนี ฝรั่งเศส ไต้หวัน เชียงใหม่ บาหลี
- # 121-131 : กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ลาว ไต้หวัน ปารีส สหรัฐฯ
- # 109-120 ฝรั่งเศส เกาหลี อังกฤษ กรุงเทพฯ ระยอง เชียงใหม่ หนองคาย
- # 104-108 : กรุงเทพฯ เชียงใหม่ สหรัฐอเมริกา
- : : โปสการ์ดฉันเอง...จากหัวหิน : :
- # 95-103 : มาซิโดเนีย อเมริกา ฝรั่งเศส เชียงใหม่
- # 88-94 : ไอน์ชเต็ท เชียงใหม่ ดี.ซี. แอลเอ โซล โฮกิติกา
- # 80-87 : ฝรั่งเศส เชียงใหม่ กรุงเทพฯ เกเธอร์สเบิร์ก
- # 75-79 : ไทเป บางแค เชียงใหม่ แมรีแลนด์ ไอน์ชเตท
- # 70-74 : เกเธอร์สเบิร์ก เชียงใหม่ กรุงเทพฯ
- # 63-69 : BKK, Pai, USA, Chiang Mai :: Wasana Bloom
- # 57- 62 : BKK, Lampang, Korea, France, Germany & USA
- # 52-56 : Baltimore, Italy, Germany, Chiang Mai & Kao Yai
- # 48, 49, 50 & 51 : USA, Chiang Mai & BKK
- # 45, 46 & 47 : Lijiang, BKK & Germany
- : : โปสการ์ดสัญจร : :
- # 43-44 : BKK & Chiang Mai
- # 42 : Chiang Mai
- # 40-41 : France & Germany
- # 39 : New Zealand
- # 38 : Utah
- # 37 : Rome
- # 36 : Brussels
- # 32-35 : Hawaii
- # 31 : San Francisco
- # 30 : Somerset
- # 28-29 : Los Angeles & Newport Beach
- # 23-27 : Grand Canyon
- # 21-22 : Lake Tahoe Part 2
- # 20 : Ivy Bridge
- # 19 : Paris
- # 14-18 : Salisbury and Stonehenge
- # 13 : June Lake
- # 10-12 : Devon
- # 5-9 : Bath Spa
- # 3-4 : Lake Tahoe Part 1
- # 2 : Devonshire Cream Tea
- # 1 : Scenic Hwy 1
|
|
|
|
|
# 19 : Paris
โปสการ์ดจากปารีสใบนี้ เป็นข่าวคราวจากอดีตผู้ช่วย ณ ที่ทำงานเก่าของเราที่ได้ลางานไปเที่ยวยุโรปแล้วส่งข้อความมาบอกพี่ผู้อยู่โยงทำงานที่เมืองไทยว่า เธอไปเที่ยวสุขสบายดีไม่ต้องห่วงอยู่ที่ปารีสนู่น
อันนี้ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมต้องห่วงใย เพราะเรากับน้องเคยคุยกันและเข้าใจเหมือนๆ กันประมาณนึงว่า การไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองนั้น แม้จะสนุก แต่ไม่สุขสบายเหมือนบ้านเราแน่นอน บางเวลาเข้าขั้นลำบากด้วยซ้ำ ไม่ไปไม่รู้จริงๆ
ว่าแล้วต้องขอแอบนินทาถิ่นยุโรปสักนิดนึง เทียบกับทางอเมริกาไม่ได้เลยจริงๆ นอกจากอาหารการกินจะแสนแพง และหารับประทานยาก ไม่ได้มีร้านขายอาหารทั่วทุกหย่อมหญ้าอย่างบ้านเรา โรงแรมที่พักก็ยังราคามหัศจรรย์ ถ้าไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง ห้องพักส่วนใหญ่จะเล็กกะทัดรัดและอาจปราศจากห้องน้ำในตัว มีแต่อ่างล้างหน้าเล็กๆ ให้ก็บุญแล้ว แถมบางแห่งก็ยังเก่าและน่ากลัว เฮ้อ...ไม่อยากบ่นให้ยืดยาว เมื่ออยากไปเที่ยวก็ควรจะต้องอดทนละนะ
น้องส่งโปสการ์ดรูปโมนาลิซาแห่งเลอ ลูฟวร์มาให้ แสดงถึงรสนิยมอันวิไลของเธอที่นิยมเที่ยวชมงานศิลปะตามพิพิธภัณฑ์ ไม่ใช่ไปเมืองนอกเพื่อช็อปปิ้งแต่ของแบรนด์เนม หรือวิ่งถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญให้ได้มากๆ (อย่างคนไทยส่วนมาก)
เราเองก็เป็นหนึ่งในคนไทยส่วนน้อยที่เวลาไปเที่ยวเมืองไหนๆ ก็ไม่ค่อยจะได้วิ่งเที่ยวให้ครบทุกเมืองทุกประเทศ จะไปเป็นบางเมืองบางแห่ง เที่ยวแบบเดินท่อมๆ ชมบ้านเมืองไปตามประสาคนเบี้ยน้อยละจ้ะ และก็ไม่ค่อยจะได้ช็อปอะไรสักเท่าไร นอกจากจะเพราะเบี้ยน้อยแล้วยังขี้เกียจหอบหิ้วข้ามน้ำข้ามทะเลกลับบ้านให้เหนื่อยยาก (อ้อ... ขอยกเว้นอยู่อย่างคือหนังสือ เป็นอาการประจำตัวที่ว่าไปเมืองไหนๆ ต้องขอแวะร้านหนังสือ ถ้าเจอหนังสือถูกใจเป็นลืมตัวลืมเหนื่อย ถึงเบี้ยเหลือน้อยก้อไม่กลัว รูดปรื๊ดๆเลยจ้ะ...)
ปารีสมีอะไรน่าเที่ยวบ้างคงไม่ต้องกล่าว ณ ที่นี้ เราว่าคนส่วนใหญ่ก็คงรู้จักนครหลวงแห่งฝรั่งเศสนี้กันดี จะรู้จักมากน้อย ผิวเผินหรือลึกซึ้ง ก็เอาเป็นว่าต้องรู้จัก "หอไอเฟล" สถาปัตยกรรมที่น่าจะเป็นงานเฉพาะกิจของฝรั่งเศสที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1889 เพื่อจัดแสดงในงานนิทรรศการยูนิเวอร์แซล (Universal Exhibition) ความสูง 1,063 ฟุตของหอไอเฟลเป็นอันดับหนึ่งของโลกอยู่จนถึงปีค.ศ. 1931 จึงถูกลบอันดับไปโดยตึกเอมไพร์สเตทของสหรัฐอเมริกา (ซึ่งก็ถูกลบอันดับในเวลาต่อมาโดยอีกสารพัดหอสารพัดอาคาร)
ที่จริงเราว่าบ้านเมืองปารีสก็ออกสวย มีพระราชวัง มีสวน ถนนหนทาง สะพานและสถานที่สำคัญเยอะแยะ เดินเล่นชมเมืองได้เป็นวันๆ ได้ชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบโบราณๆ แต่ก็ดูขรึมขลัง ก็ได้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งอารยธรรมตะวันตกดีเหมือนกัน
ฉะนั้น ถ้าใครพอจะมีทรัพยากรสำคัญคือเวลาและเงินตราติดกระเป๋าพอสมควร เราขอเชียร์ให้จัดทัวร์เดินชมเมืองกันเอง นั่งรถเมล์สลับฉากบ้างก็ได้ ซื้อแผนที่กับไกด์บุ๊คดีๆ สักเล่มนึง (เลือกของ Eyewitness Travel หรือ Lonely Planet ก็ได้ ยี่ห้อแรกจะมีรูปสวยๆ มากกว่า) วางแผนเที่ยวกันเองแบบขาลุย ไม่ต้องกลัวเหนื่อยหรือหลง ก้อเป็นวิธีเที่ยวแบบที่เรามักจะเห็นฝรั่งแบกเป้ถือแผนที่เดินท่อมๆ ในบ้านเรานี่ละจ้ะ เชื่อเถอะว่าจะเป็นประสบการณ์เรียนรู้วิถีวัฒนธรรมคนปารีสได้ชัดเจนแจ่มแจ๋วกว่า "ชะโงกทัวร์" เป็นไหนๆ...
ขออนุญาตแถมท้ายด้วยรูปปารีสจากวันวานของเราเองสักสองรูปเพื่อพิสูจน์ว่าคนไทยส่วนน้อยบางคนแถวๆ นี้ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะบ้าเห่อถ่ายรูปกับปารีสไอคอนกับเขาเหมือนกันละน่า (ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง...)
ปารีสช่วงปีใหม่ยุค 80s ผู้คนออกจะเงียบเหงา และอากาศหนาวจับใจ (แต่ไม่ยักมีหิมะตกหรอกนะปีนั้น)
สถาปัตยกรรมสวยๆ นี้ชื่อว่า "Petit Palais" เดิมคงเป็นพระราชวัง ตอนนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Museum of Fine Arts)
Create Date : 15 มีนาคม 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2552 15:52:48 น. |
Counter : 720 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: แป๊ะย๊ง 17 มีนาคม 2551 14:31:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: deanie 20 มีนาคม 2551 15:32:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันนะค่ะ