Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
20 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 

นางแบบนักบัญชี

นันทวัน วรรณจุฑา











เดบิต เครดิต ชีวิตนางแบบอย่างนันทวัน
เรื่อง/ภาพ เดชา เวชชพิพัฒน์
ตีพิมพ์ในนิตยสารกุลสตรี ปักษ์หลัง มิ.ย. 2553

หากให้คุณเดาว่า ก่อนที่บรรดานางแบบรูปร่างโปร่งบางสง่างามหลายคนมีโอกาสวาดลีลาบน “แคตวอล์ก” นั้น พวกเธอมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำอะไรมาบ้าง หลายคนคงตอบว่าเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ บางคนคงตอบว่าสงสัยชาติที่แล้วทำบุญด้วยเสาโทรเลข บางคนคงนึกไม่ออก คิดง่ายๆว่า ในเมื่อพวกเธอเหล่าเกิดมาพร้อมรูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบ เมื่อโตเป็นสาวก็กระโดดขึ้นเวทีแสดงแบบอย่างง่ายดาย มีโอกาสแสดงแบบเสื้อที่ “ดีไซเนอร์” ชื่อดังทั้งหลายสร้างสรรค์ขึ้นมา ท่ามกลางสายตาที่ชื่นชมนับร้อยนับพันคู่
เชื่อไหมครับว่านางแบบที่ผมจะคุยด้วยในครั้งนี้ นอกจากมีรูปร่าง หน้าตา และบุคลิกดี ขนาดติดหนึ่งในสิบของการประกวดมิสไทยแลนด์เวิล์ดประจำปี 2552 เธอยังได้รางวัลที่ 3 จากการประกวดสุดยอดนาง แบบโลกครั้งที่ 20 (The 20th World Super Model Contest 2010) ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เธอเคยเป็นนักบัญชีคนเก่ง
ในฐานะที่เคยสอบตกวิชาบัญชีจัดการ ผมจึงพูดคุยกับเธอ ... นันทวัน วรรณจุฑา ด้วยความทึ่งแสนทึ่ง คนอะไร สมบูรณ์แบบทั้งกาย ใจ และมันสมอง
เธอเริ่มต้นการสนทนาอย่าง “นักบัญชี้นักบัญชี”
“ในฐานะที่เรียนจบด้านบัญชี นันจึงมีแง่คิดในการใช้ชีวิตว่าตัวนันเป็นสินทรัพย์ ทุกอย่างที่เป็นนัน ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตานิสัยใจคอ นันถือเป็นสินทรัพย์ นันถามตัวเองอยู่เสมอๆว่าเราจะบริหารสินทรัพย์นี้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวนันเอง บางครั้งบางโอกาสก็หมายถึงการทำให้ผู้อื่นด้วย”
จากนั้นเธอจึงถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
“ตอนเด็กนันเรียนแถวสมุทรปราการค่ะ คุณแม่ขายผลไม้ นันก็เล่นกระโดดหนังยางอยู่แถวๆร้านแม่ ตากแดดตัวดำเหมือนเด็กทั่วไป นันได้หุ่นมาจากคุณพ่อค่ะ เพราะคุณพ่อสูง หน้าตานันก็เหมือนคุณพ่อค่ะ นันเรียนหนังสือเก่งมาตั้งแต่เด็กค่ะ ตอนจบมัธยมศึกษาปีที่สามก็ได้ที่หนึ่งของโรงเรียนสมุทรพิทยาคม (ปัจจุบันคือบดินทรเดชา สิงหเสนี สมุทรปราการ) ไม่มีเคล็ดลับอะไรนะคะ แต่เป็นคนจำเก่งค่ะ อ่านรายงานหนึ่งหน้านี่สามารถออกไปนำเสนอหน้าชั้นด้วยปากเปล่าค่ะ เป็นคนเข้าใจอะไรได้เร็วด้วยค่ะ”
“สมัยเรียนนันเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลค่ะ ถนัดลูกหยอดค่ะเพราะนันไม่ค่อยมีแรงตบ เริ่มรู้ตัวว่าหุ่นดีสมัยเรียนปวช.ค่ะ เพื่อนๆหยอกนันว่าน่าเป็นนางแบบมากกว่ามาเรียนบัญชี นันก็จะพิสูจน์ตัวเองค่ะว่าฉันเรียนเก่ง ตอนที่จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ นันเกือบได้เกียรตินิยมค่ะ ได้เกรดเฉลี่ย 3.47 ขาดไปแค่ 0.03 เอง”
“จากนั้นเข้าเรียนที่พณิชยการบางนา เรียนทั้งปวช.และปวส. ต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ สาขาการสอบบัญชี ตอนนั้นมีงานเดินแบบถ่ายแบบนิดหน่อย แต่ทำได้ไม่เต็มที่เพราะต้องทุ่มเทให้การเรียน เรียนจบก็ไปสมัครงานบริษัทข้ามชาติ เป็นผู้ช่วยผู้ตรวจสอบบัญชีของบริษัท Grant Thronton ทำอยู่ปีครึ่ง”
“ก่อนหน้านี้พี่ๆเพื่อนๆที่เคยให้งานเดินแบบถ่ายแบบชวนประกวดโน่นประกวดนี่ นันไม่กล้าค่ะ กลัวถูกไล่ออกจากงาน จนกระทั่งทราบผู้สมัครเข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิล์ดห้ามอายุเกิน 24 ตอนนั้นอายุเท่านั้นพอดี เห็นว่าเป็นโอกาสสุดท้ายจึงลองไปสมัคร แต่ก็ไปแบบเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่พณิชยการบางนา กะว่าน้องเขาต้องได้แน่ๆ เพราะเขาสวยแบบลูกครึ่ง ผิวขาว แต่ผู้เข้ารอบกลับเป็นเรา น้องเขาไม่ได้ เราก็เหมือนถูกจับตานะคะ เพราะไม่เคยมีประวัติประกวดที่ไหนมาก่อนเลย เป็นแค่สาวสำนักงาน บรรดาแฟนคลับนางงามก็สงสัยว่านันไปอยู่ไหนมา ทำไมเพิ่งมาประกวด จึงค่อนข้างเกร็งๆ แต่ตำแหน่งที่ได้คือเข้ารอบสิบคนสุดท้าย ผู้ได้ตำแหน่งคือน้องวิว พงศ์ชนก กันกลับ ที่เป็นนักเทควันโดค่ะ”
“หลังจากนั้นเริ่มคิดว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี ทำงานตรวจสอบบัญชีต่อไปหรือเรียนต่อปริญญาโท คือนันค่อนข้างอิ่มตัวกับงานที่ทำอยู่ จึงตัดสินใจลาออกจากงานแล้วเรียนหลักสูตรระยะสั้นต่างๆ เพื่อเตรียมตัวสอบเข้าเรียนปริญญาโทด้านเอ็มบีเอ-อสังหาริมทรัพย์ ตอนสิ้นปีนี้ ตอนนั้นหวั่นเหมือนกันว่าเราเคยมีงานประจำมีเงินเดือน ต่อไปนี้จะมีรายได้จากการเดินแบบถ่ายแบบอย่างเดียว แต่ตัดสินใจแล้วว่าขอเรียนต่อดีกว่า”
“ทีนี้ตอนประกวดมิสไทยแลนด์เวิล์ดเสร็จนันก็มีชื่ออยู่ที่ สยาม โมเดล แมเนจเมนท์ วันหนึ่งเขาบอกนันว่าได้รับเชิญจาก World Super Model Contest ขอให้ส่งนางแบบไทยไปร่วมประกวด ปีนี้เจ้าภาพเป็นประเทศจีน ถามนันว่าสนใจไหม หากสนใจก็จะส่งรูปไปให้เขาเลือกเพื่อเป็นตัวแทนประเทศ นันก็ส่งรูปไปให้ ปรากฏว่านันได้รับคัดเลือก เพิ่งไปเมื่อเมษายนที่เพิ่งผ่านมานี่เองค่ะ อยู่ที่จีนสิบวันค่ะ”
“ช่วงเก็บตัวที่จีนนันได้ประสบการณ์มากค่ะ เทียบกับตอนประกวดมิสไทยแลนด์เวิล์ดแล้วเหนื่อยกว่าเยอะค่ะ มิสไทยแลนด์เวิล์ดเก็บตัวหนึ่งเดือน แต่ที่จีนแค่เจ็ดวันเองค่ะ ตารางกิจกรรมในแต่ละวันจึงแน่นมาก ตื่นหกโมงเช้าเพื่อแต่งหน้าทำผมเอง ซึ่งนันทำได้เพราะใช้วิธีครูพักลักจำมาจากน้องที่เป็นช่างแต่งหน้าประจำ จากนั้นรวมพลตอนเจ็ดหรือแปดโมงเช้า ทานมื้อเช้าแล้วทำกิจกรรมถึงเที่ยงคืนเป็นอย่างน้อย วันหนึ่งๆไปโน่นไปนี่วันละ 3-5 แห่ง เหนื่อยมากๆค่ะ นอนน้อยด้วยค่ะ บางคืนได้นอนแค่สองสามชั่วโมงเอง เพื่อนๆนางแบบบ่นกันอุบ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนไทยจึงไม่ค่อยพูดไม่ค่อยบ่น ทำนองว่าน้ำขุ่นไว้ในน้ำใสไว้นอก และนันรู้ว่ามันเป็นโอกาสที่นานๆเข้ามาทีจึงอยากทำให้ดีที่สุด ทำให้เพื่อนนางแบบและเจ้าหน้าที่หลายคนคนออกปากชมว่าคนไทยน่ารักจัง”
“นอกจากนี้นันก็ไม่ค่อยคุ้นกับวัฒนธรรมคนต่างชาติสักเท่าไร นิสัยก็ไม่เหมือนกัน คนชาติโน้นก็อีกแบบ คนชาตินี้ก็อีกแบบ นันจึงบอกตัวเองว่าเป็นธรรมชาติของเขา เราต้องยอมรับให้ได้ เช่น นางแบบหลายคนสูบบุหรี่ ในขณะที่นันไม่ชอบควันบุหรี่ มันทำให้แสบตา แต่นันก็ทำได้เพียงเดินหนีและอยู่ห่างๆคนที่สูบบุหรี่ บอกตัวเองให้รู้จักหลีกเลี่ยงสิ่งที่เราไม่ชอบ”
ฟังถึงตรงนี้ทำให้ผมมองเห็นความงามที่แท้จริงของสุภาพสตรีตรงหน้า รูปร่างหน้าตาของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่ความงามแท้จริงที่อยู่ภายในจิตใจของเธอนั้น สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยไม่น้อย เมื่อถามว่านี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอได้รางวัลใช่หรือไม่ นางแบบสาวพยักหน้าทันที
“นันว่านี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้นันได้รางวัล นันมั่นใจว่าคณะกรรมการเขาพิจารณาการแสดงออกของผู้เข้าประกวดไม่น้อย เพราะคนที่ติดหนึ่งในสิบอยู่กลุ่มเดียวกับนันทั้งนั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่แสดงอารมณ์ด้านลบ หรือบ่นก็น้อยกว่าคนอื่น ซึ่งนันว่านี่คือความงามที่แท้จริง คนรู้จักบอกนันว่าใครได้คุยกับนันมักจะชอบนัน เพราะนันเป็นคนพูดเพราะ พูดหวาน รู้กาลเทศะ อยู่กับเพื่อนก็เฮฮาปาร์ตี้ อยู่กับผู้ใหญ่ก็เรียบร้อย คือนันรู้จักปฏิบัติตัวและวางตัวให้เหมาะกับสถานการณ์”
“นันว่าการรู้กาลเทศะ การให้เกียรติคน การพูดจาสุภาพอ่อนหวาน เป็นคุณสมบัติที่ช่วยเสริมความงามภายนอกของนันให้งามมากยิ่งขึ้นค่ะ เราคุยกับเพื่อน เพื่อนก็จะชอบเรา เราคุยกับผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็เอ็นดูเรา แต่ไม่ใช่เสแสร้งนะคะ นันเป็นคนพูดตรงๆเหมือนกันค่ะ แต่นันรู้จักใช้คำพูดค่ะ นันคงได้นิสัยนี้มาจากคุณแม่ ท่านเป็นคนช้าๆเย็นๆและไวต่อความรู้สึก ดูละครโทรทัศน์แล้วร้องไห้”
“นอกจากนี้ ก่อนเดินทางไปประกวดก็มีพี่ๆหลายคนช่วยเหลือนันในเรื่องของชุดราตรี เครื่องประดับ และคำแนะนำต่างๆ ทำให้นันค่อนข้างพร้อม รู้อะไรควรไม่ควร ก็ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ด้วยเหตุนี้ ทำให้บางครั้งนันก็ตกใจมากค่ะที่เพื่อนนางแบบบางคนร่วมทำกิจกรรมโดยไม่เซ็ตผมไม่แต่งหน้า”
“พูดถึงเพื่อนนางแบบ คนที่นันชอบที่สุดเป็นเพื่อนร่วมห้องค่ะ เธอเป็นนางแบบชาวรัสเซีย นิสัยดีมากค่ะ เสียสละห้องน้ำให้นันใช้แต่งหน้า ก่อนนอนก็ชงชาให้ดื่ม ไม่เหมือนฝรั่งแบบที่นันคิดไว้เลยค่ะ นันโชคดีมากค่ะที่ได้เพื่อนร่วมห้องแบบนี้ เขาติดหนึ่งในสิบด้วยนะคะ”
“วงการนางแบบของที่นั่นก็ไม่ต่างจากเราเท่าไรนะคะ คงเป็นเพราะเอเชียเหมือนกัน นางแบบจีนหุ่นดีและผิวขาวค่ะ สูงกว่าและผอมกว่านันอีก แต่หูตาจมูกปากเขาจีนมากๆ ไม่เหมือนบ้านเราที่จะมีหลายแบบปนกัน คนนี้หน้าไทย คนนั้นหน้าฝรั่ง อีกคนหน้าจีน บางคนอวบหน่อย บางคนผอมนิด”
หุ่นดีแบบดี ใครๆก็อยากรู้เคล็ดลับ
“เห็นนันเป็นนางแบบมืออาชีพแบบนี้ จริงๆแล้วนันเป็นคนที่ชอบกินทุกอย่างที่ทำให้อ้วน โดยเฉพาะขนมเค้กและข้าวขาหมู แต่เรารู้ตัวว่าใช้รูปร่างทำงานหาเงินจึงให้รางวัลตัวเองแค่อาทิตย์ละครั้ง กินอาหารที่อยากกิน นอกจากนี้วันๆหนึ่งทานแค่สองมื้อ บางทีไม่ทานมื้อเที่ยง บางทีไม่ทานมื้อเย็น”
เมื่อถามถึงอนาคต อดีตนักตรวจสอบบัญชีผู้นี้มีสายตาที่เฉียบคมไม่เบา
“นันว่าอาชีพนางแบบเป็นอาชีพที่อยู่ได้ระยะหนึ่งเท่านั้นค่ะ เราอยู่ได้ด้วยการรักษารูปร่างและทำตัวให้น่ารัก แต่อายุนันก็มากขึ้นทุกวัน นางแบบรุ่นใหม่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นันตระหนักความจริงข้อนี้ค่ะ ทำให้นันอยากเรียนเพิ่ม ตอนนี้นันเรียนหลักสูตระยะสั้นเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อยู่ค่ะ เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้ตนเองก่อน และจะได้รู้ว่าเราถนัดในสาขาไหน นอกจากนี้ สิ่งที่นันได้จากการทำงานตรงนี้คือความสัมพันธ์กับเพื่อนๆในวงการ ซึ่งมีผลดีต่อการทำธุรกิจของนันในอนาคต รวมถึงพี่ๆและเจ้าของบริษัทต่างๆที่เคยใช้งานนันด้วยค่ะ”
ก่อนสิ้นสุดการสนทนา ในฐานะนางแบบ เธอจึงฝากถึงสาวๆที่อยากผอมว่า
“นันขอบอกวัยรุ่นที่อยากผอมอยากหุ่นดีว่าทานอาหารให้ครบสามมื้อนะคะ บางคนไม่ทานอะไรเลย ทานแต่อาหารเสริม ซึ่งไม่ถูกต้องนะคะ อันตรายมากด้วยนะคะ อย่าอดอาหารแต่จงเลือกทานอาหาร เช้าและกลางวันนี่กินเต็มที่ แต่มื้อเย็นกินให้น้อยลง หรือกินอาหารที่ให้พลังงานต่ำ เช่นสลัดหรือปลานึ่ง”
ท้ายนี้ขอขอบคุณร้าน bistro33 เอื้อเฟื้อสถานที่ และขอบคุณนางแบบสมองนักบัญชี นันทวัน วรรณจุฑา ที่สละเวลาพูดคุย ติดต่อจ้างเธอเดินแบบได้ที่ nan@nanthawan.com

###


การประกวด Super Model World Contest ครั้งที่ 20 ที่ประเทศจีน มีนางแบบเข้าร่วมประชันเรือนร่าง ความงาม และความสามารถในการเดินแบบถึง 40 คนจากทั่วโลก โดย Blue Sword Group บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของจีนเป็นผู้สนับสนุนหลัก การประกวดรอบตัดสินถ่ายทอดสดทั่วมณฑลเสฉวนซึ่งผู้ชมกว่า 40 ล้านคน โดยจัดขึ้นที่ห้องออดิทอเรียมในศูนย์การค้าแฮปปี้ วัลเลย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมแฟชั่นและความบันเทิง ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองเฉิงตู การได้รางวัลของนันทวันถือเป็นโอกาสที่ดีไม่น้อย เพราะอยู่ในช่วงเวลาที่สื่อต่าง ประเทศก็พากันจับตามองและมีภาพลักษณ์ต่อประเทศไทยในแง่ลบเพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นทุกวัน เธอกล่าวว่า “ดิฉันหวังว่า การได้รับรางวัลในครั้งนี้จะเป็นสิ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น และอยากให้มีข่าวดีแบบนี้เยอะๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกได้มากขึ้น”




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2553
2 comments
Last Update : 20 มิถุนายน 2553 10:23:23 น.
Counter : 1843 Pageviews.

 

อ่านแล้วเป็นคนมีความคิดดีครับ ^^

 

โดย: แอ้ (Kusoll13 ) 20 มิถุนายน 2553 14:29:49 น.  

 

ตัวจริงน่ารักมากครับ
ทุกอย่างในตัวเธอไม่มากไปไม่น้อยไป
ยิ้มหวาน คุยสนุก แต่ไม่เกินงาม
มั่นใจในตัวเอง แต่ไม่ถึงกับหลงตัวเอง
ดีใจที่ได้รู้จักและพูดคุยกับเธอ

 

โดย: เดชา เวชชพิพัฒน์ (dejaboo44 ) 20 มิถุนายน 2553 14:49:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


dejaboo44
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add dejaboo44's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.