Bloggang.com : ปางนู : ท่องทะเลสาบสงขลา

ท่องทะเลสาบสงขลา

ตัวเมืองสงขลานั้นมีภูมิประเทศเป็นแหลมยื่นไปในทะเล ลักษณะเช่นนี้จึงมีทะเลตั้งอยู่ 2 ด้าน ด้านหนึ่งทิศตะวันออกเป็นทะเลอ่าวไทย ที่ได้ไปชมหาดมาแล้ว อีกด้านนั้นเป็นทะเลสาบทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งตัวทะเลสาบนี้กินอาณาเขตกว้าง หากดูแผนที่ประเทศไทยแล้ว จะเห็นว่ามีพื้นน้ำขนาดใหญ่ เป็นแอ่งน้ำของทะเลเว้าเข้ามาในพื้นดิน ด้านหนึ่งเป็นฝั่งของจังหวัดพัทลุง และอีกฝั่งเป็นของจังหวัดสงขลา ที่เรียกว่าทะเลสาบสงขลา เพราะทะเลปากอ่าวของทะเลสาบนี้อยู่ที่ตัวเมืองสงขลา ซึ่งบริเวณนี้เรียกว่าทะเลสาบตอนนอก และนี้คือส่วนที่จะไปชมทะเลสาบที่นี่กันครับ

ทะเลสาบสงขลาตอนนอกมุมมองไกลจากฝั่งตัวเมืองสงขลา จะเห็นภูเขาอยู่ฝั่งตรงข้าม
เรียกว่า เขาเมือง ที่จะนั่งเรือข้ามไปเที่ยวกันครับ

ท่าเรือข้ามฟากอยู่ข้างที่ทำการไปรษณีย์สงขลา เช่าเหมาเรือกันครับใช้เวลาชมทะเลสาบช่วงสั้นๆ
แล้วแต่เวลาและระยะทาง แต่เราไม่ได้ใช้เวลานานนัก ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 300-400 บาท
เส้นทางนี้ล่องเลียบไปตามฝั่งตัวเมืองสงขลา ออกทะเลไปไล่เลียบฝั่งเขาเมือง
และขึ้นไปยืดเส้นเดินเที่ยวชมสถานที่บนฝั่งเขาเมือง

ท่าเทียบเรือประมง

ท้องทะเลสาบสงขลาจะมีเรือประมงแล่นจากท่าเรือตรงไปที่ปากอ่าวไปออกทะเลอ่าวไทย

เรือแล่นอ้อมไปทางฝั่งที่ตั้งท่าเทียบเรือประมง และออกไปกลางทะเลจะเริ่มเห็นบริเวณของฝั่งเขาเมืองได้ชัดขึ้น

ฝั่งเขาเมืองจะมีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ เป็นจุดตั้งชุมชนแห่งแรกของตัวเมืองสงขลาเก่า ก่อนจะย้ายมาที่ใหม่ในปัจจุบัน
กำแพงที่เห็นนั้นยังไม่ทราบความเป็นมาแน่ชัด ปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ไม่สามารถสืบค้นประวัติได้

อู่ต่อเรือของฟากเขาเมือง

ป่าโกงกางปลูกขึ้นในบางช่วงของฝั่งให้เห็นประปราย

ท่าเรือฝั่งเขาเมืองครับ ขึ้นท่ากันตรงนี้ แล้วเดินเที่ยวไปบนฝั่งเขาเมืองกันครับ
ระยะทางไม่ไกล ถือว่าชมบ้านเรือนและธรรมชาติไปในตัว

แวะไปชมวัดสำคัญของฝั่งเขาเมือง วัดสุวรรณคีรี

วัดสุวรรณคีรี ถือว่าเป็นวัดแรกเมื่อตั้งเมืองสงขลาแรกที่เรียกว่าเมืองสงขลาแหลมสน ที่บ้านบ่อเตย
วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยเจ้าเมืองสงขลาเชื้อสายจีนคนแรกคือเหยียง แซ่เฮา
ที่ได้ราชทินนามว่าหลวงสุวรรณคีรีสมบัติ และสร้างต่อเติมในช่วงเจ้าเมืองคนที่สอง

วัดสุวรรณคีรีตั้งอยู่เชิงเขาเมืองปรับระดับชั้นตั้งด้วยตัวอุโบสถ มุมมองลงมาเป็นบริเวณด้านล่าง

ถัดมาจากวัดสุวรรณคีรีติดกันเป็นวัดบ่อทรัพย์

ตรงหน้าวัดบ่อทรัพย์มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ ชื่อวัดจึงน่าจะมาจากบ่อน้ำจืดนี้

หากเดินมาซึ่งอาจจะไกลสักหน่อย จะถึงที่บริเวณนี้เรียกว่าฮวงซุ้ยสุสานเจ้าเมืองสงขลา 5 สุสาน ตั้งอยุ่ที่ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร
ซึ่งในอดีตมีเจ้าเมือง 3 คนเป็นเจ้าเมืองสงขลาตั้งเมืองอยู่ฝั่งด้านนี้ ก่อนจะย้ายไปฝั่งตรงข้ามที่ตัวเมืองปัจจุบัน ในรัชกาลที่ 3

ในอดีตแล้วฝั่งเขาเมืองนี้เป็นเขตของ อ.เมืองสงขลา ต่อมาจึงมาขึ้นกับ อ.ใหม่ที่มาแบ่งแยกออกตั้งเป็น อ.สิงหนคร แต่ในทางการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตน์แล้ว ทั้งสองฝั่งต่างมีเรื่องราวเดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วการเดินทางมาบริเวณนี้มักจะมาทางรถ มีทางถนนเวียนรอบเขา ซึ่งนั้นต้องข้ามแพท่าขนานยนต์ มีถนนเลียบชายฝั่งไปที่ปลายแหลมเขาเมือง แต่การนั่งเรือท่องทะเลสาบก็เป็นอีกเส้นทางขึ้นไปท่องเที่ยวบริเวณนี้ได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่ลำบากในการเดิน ก็มาทางรถได้ เพราะหากมาทางเรือแล้วเราจะต้องเดินกลับมาที่ท่าเรือ เพื่อนั่งเรือกลับไปยังฝั่งเมืองสงขลา