...HOW CAN YOU SAY GOODBYE TO SOMEONE YOU CAN'T IMAGINE LIVING WITHOUT...
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

เรื่องเล่าของฉัน ตั้งแต่วันที่มีเธอ chepter 3-4

มาอัพเดทแล้วค้า...

จะมาอัพทุกวันอาทิตย์เป็นอย่างช้านะคะ(เหมือนเดิมๆ)

สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านของคราวที่แล้วลองไปเปิดอ่าย้อนได้น้า
---------------------------------------------------------------

Chepter 3 รู้สึก...ดี??

วันนี้คุณวิชุดาและสามีต้องออกไปงานเลี้ยงตอนเย็น
(เป็นงานของสมาคมดนตรีแจ๊ส ซึ่งจัดขึนเป็นประจำทุกเดือน) จึงเป็นวันที่พัทและปานวาดได้อยู่กันตามลำพัง... คุณวิชุดาจึงคิดจะใช้โอกาสนี้เป็นเหตุให้พี่และน้องทั้งสองคนคุยกันให้ได้
(ก็ยังไม่ได้คุยกันอย่างจริงจังซักทีนี่นะ)

"นี่ปาน เราน่ะอยู่บ้านกับพี่เค้าดีๆนะ มีอะไรก็คุยกันรู้มั๊ย"

"...ค่ะแม่"ปานวาดตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"เราก็ด้วยนะพัท ดูแลน้องด้วย"

"คร้าบบบ"พัทตอบรับอย่างยินดี

"เอ๊ะ วันนี้คุณแปลกๆนะดา ปกติไม่เห็นเป็นห่วงลูกปานนี่นา"
คุณเอกราชถามภรรยาของตนเองเมื่อรู้สึกถึงความไม่ปกติ

"แหม คุณคะ ก็ตอนนี้มีตาพัทดูแล ก็ให้ดูแลกันหน่อยแหละค่ะ จะได้สบายใจขึ้นไง"
"อ้าว... ก็ไหนปกติคุณไม่เห็นจะ........โอ๊ยยยย... ย...ย ย"
คุณเอกราชถึงกับต้องร้องออกมาเพราะคุณวิชุดาเหยียบเท้าอย่างจงใจ
"งั้นแม่กับพ่อไปก่อนนะลูก"

"เดินทางดีๆนะคะ/ครับ"
ลูกทั้งสองคนโบกมือส่งคุณพ่อ(หน้ามุ่ย)กับคุณแม่(หน้าชื่น)ด้วยรอยยิ้ม

แต่เมื่อรถพ้นหน้าบ้านไปเท่านั้นเอง ทุกอย่างก็เริ่มขึ้น... -*-

" เอาล่ะ...น้องหิวหรือเปล่า"พัทเริ่มถามน้องสาว

"ไม่ค่ะ"ปานวาดตอบเสียงเย็นพร้อมเดินหนี

"แต่น้องยังไม่กินข้าวเลยนี่"นายพัทเดินตาม

"ก็ไม่หิวแล้วจะทานทำไมล่ะคะ"
ปานวาดตอบพลางเดินให้เร็วขึ้น

"ไม่กินข้าวเดี๋ยวไม่โตนะ ตัวยิ่งเล็กๆอยู่"
พัทเร่งฝีเท้าตามทีเล่นทีจริง

"ช่างปานสิคะ"
ปานวาดเริ่มวิ่งเข้าบ้าน

"ช่างได้ยังไง"
พัทเริ่มวิ่งตาม

"ชีวิตของปาน ปานจะตัวเล็กหรือจะตัวโตก็เรื่องของปาน พี่ไม่มีสิทธิมาบังคับ!"
ตอนนี้เธอเริ่มวิ่งวนรอบโต๊ะอาหารให้ห้องครัว

"ไม่ได้! พ่อกับแม่สั่งให้พี่ดูแลน้อง พี่ต้องดูแลสิ"
พัทยังตามไม่ลดละ

"แล้วพี่จะตามปานมาทำไมกันเนี่ย"

"ก็ปานวิ่งหนีพี่ทำไมล่ะ"

"ก็พี่ไล่ตามปาน ปานก็วิ่งหนีสิ"

ปานเริ่มจะไปทางบันได

"นี่ เราไม่ต้องหนีเลยนะ"นายพัทของเราก็เหมือนรู้ทันจึงวิ่งไปตามไปแล้วทันใดนั้นเอง!!
"ว้าย!"
"นี่ไง จับได้แล้ว"

พัทได้ใช้ทั้งสองแขนของเค้าโอบน้องสาวไว้จากด้านหลังเป็นการล๊อกตัวไม่ให้หนี ซึ่งท่าทางจะได้ผลดีทีเดียว...
...
เพราะดูเหมือนปานวาดของเราจะตัวแข็งไปเลย...

ตอนนี้ปานวาดรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของท่อนแขนที่กอดรัดเธอไว้อย่างแน่นหนา เธอได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ... และยังรู้สึกถึงหน้าอกกว้างที่ส่งความอบอุ่นผ่านมาทางด้านหลังเธอ จนทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ...

"ทำไมเราถึงไม่กินข้าวกับพี่"
พัทเริ่มถามกระซิบที่ข้างหูของน้องสาว

โดยที่เค้าหารู้ไม่เลยว่าการกระทำเช่นนั้น ทำให้ปานวาดหน้าร้อนผ่าวและหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันที

"...."
ปานวาดไม่ตอบคำถาม

"หืม?? ทำไมเราถึงเกลียดพี่นัก"
พัทเริ่มกระซิบอีกครั้ง

"....ปานเปล่า"
ตอนนี้หน้าเธอเริ่มแดงมากจนพัทเริ่มสังเกตได้แล้ว แต่เค้าก็ยังไม่หยุด

"แล้วทำไมไม่กินข้าวกับพี่ล่ะ"

"...ปานแค่จะไปเปลี่ยนชุด เดี๋ยวลงมากินด้วย"
ตอนนี้เธอเริ่มจะมึนๆแล้ว...

"แน่นะ?"
ปานวาดอาศัยจังหวะที่พัทเริ่มคลายแขนออก สะบัดตัวหลุดจากวงแขนแล้ววิ่งขึ้นไปที่ห้องของตนเอง
ี พัทยืนงงเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน
/น่ารักเหมือนกระต่ายจริงๆด้วยแฮะ/ เค้าคิด

เมื่อปานวาดวิ่งถึงห้องแล้ว เธอก็รีบลงกลอนห้องแล้วนั่งทรุดอยู่ที่หน้าห้องนั่นเอง

พร้อมกับใจที่เต้นระรัว...

"ตาบ้า"
ปานวาดบ่น

"คิดอะไรของเค้านะ หรืออยู่เมืองนอกนานจนลืมว่าที่นี่เค้าไม่ได้ให้กอดกันพร่ำเพรื่อ"

...แล้วภาพของเธอในอ้อมกอดของเค้าก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง...

/แต่ก็..รู้สึก...ดี??/
ปานวาดคิดอย่างลืมตัวแล้วก็ต้องตกใจกับสิ่งที่คิด
/ว้ายๆๆ ยัยปานบ้า/

"ปาน พี่รอกินข้าวอยู่นะ"
พัทตะโกนเรียกน้องสาว ทวงสัญญาเมื่อ 5 นาทีก่อน

ปานวาดหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง...เธอหน้าแดงอีกแล้ว
"ค่ะๆ"

"หึๆๆ"
พัทหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงที่ผิดปกติของน้องสาว
"พี่เชื่อพ่อแล้วล่ะ ว่าน้องขี้อายจริงๆ"
"..."
"แต่พี่ก็ดีใจนะ เพราะวันนี้เราได้คุยกันเยอะดี"
/คนโรคจิต..!/ปานวาดคิดอย่างฉุนๆ

หลังจากนั้นเธอก็ลงไปกินข้าวแล้วไม่พูดอะไรกับพัทอีกเลย...
แม้ว่าพัทจะพยายามแค่ไหนก็ตาม!!!

------------------------------------------------------------------------------------

chepter 4 อย่ามาทำเป็นรู้ใจ(ซะให้ยาก!!)

หลังจากวันที่ทั้งสองคนได้อยู่กันตามลำพังครั้งแรกนั้น ปานวาดและวศินก็เริ่มเข้ากันได้ดีขึ้น... น่าจะเรียกได้ว่าเข้ากันนะ ถึงแม้ผู้แต่งจะไม่แน่ใจนักก็ตาม ลองดูจากเหตุการณ์ของเช้าวันอาทิตย์ที่สืบเนื่องมาจากวันงานสมาคมดนตรีแจ๊สแล้ว...

ปกติแล้ว ครอบครัวของปานวาดจะจัดให้วันเสาร์เป็นวันส่วนตัวของแต่ละคนและ
วันอาทิตย์เป็นวันของครอบครัว ฉะนั้น วันอาทิตย์จึงเป็นวันที่ทุกคนได้ทำกิจกรรมร่วมกันมากที่สุด เช่น ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน จัดห้องรับแขก ออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือแม้กระทั่งเช่าวีซีดีมาดูร่วมกัน ...

แต่สำหรับโปรแกรมของอาทิตย์นี้ ก็คือ...

จัดสวน

"นี่ อย่าเอาไปไว้ตรงนั้นสิ"

ปานวาดตะโกนบอกผู้เป็นพี่ชายแปลกหน้าของตนเองถึงตำแหน่งของกระถางต้นแก้วที่คุณเอกราชเพิ่งซื้อมาปลูกใหม่...

"อ้าว ก็ตอนแรกบอกให้พี่เอาวางไว้ตรงนี้ไม่ใช่หรอ"

พัทเริ่มท้วง เค้าต้องย้ายกระถางตามคำบอกของน้องสาวมา 4 - 5 รอบแล้ว

"ก็ปานบอกว่าปานจะเอาไว้ใกล้ๆศาลาไง"

"ก็นี่ไง ยังไม่ใกล้อีกหรอ"

"ก็ใกล้แล้ว แต่ไม่ใช่ตรงนั้นนี่"

"ก็แล้วตรงไหนล่ะ"

"ทางซ้ายอีกนิดนึง"

"...!"

พัทออกแรงเลื่อนกระถางไปทางซ้าย

"ไม่ใช่ๆๆ มากไปแล้ว มาทางขวาอีกหน่อยเดียว"

"....!!"

พัทเริ่มขยับกระถางมาทางขวาอีกหน่อย

"ตรงนั้นๆ... อ้าว เลยแล้ว ไปทางขวามากไปแล้ว"

ภาพของสองคนพี่น้องที่กำลังพยายามเคลื่อนย้ายกระถางกันอยู่ในสวนนั้น ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่อดยิ้มขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้

"ดูท่าทางทั้งคู่จะเข้ากันได้แล้วนะคะคุณ" คุณวิชุดาพูดอย่างอ่อนโยน

"อือ...ผมก็ว่างั้นแหละ" คุณเอกราชเสริม
"ตอนแรกๆผมกลัวจริงๆเลย กลัวทั้งคู่จะเข้ากันไม่ได้"

"ค่ะ ...ฉันเองก็เหมือนกัน ว่าแต่ดิฉันยังสงสัยอยู่"

"หืม?? อะไรหรอคุณ" คุณเอกราชถอดสายตาจากการมองลูกทั้งสองมาที่ภรรยาของตนเองอย่างแปลกใจ

"ก็พอหลังจากที่เรากลับมาจากงานเลี้ยง เราก็เห็นลูกๆทานข้าวจนช่วยกันล้างจานซะแล้ว ทั้งที่ก่อนออกจากบ้านยัยปานยังไม่ยอมทานข้าวด้วยซ้ำ"
คุณวิชุดาหันมาสบตากับสามีเพื่อขอความเห็น

"โธ่คุณ เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ อย่าสนใจเลยน่า..." คุณเอกราชพยายามตัดบทด้วยการยกกาแฟขึ้นมาจิบ

"แต่คุณเองก็ต้องสงสัยเหมือนกันแน่ๆว่าอะไรนะ ที่ทำให้ยัยปานยอมพี่ขึ้นมาซะเฉยๆ... ไม่ใช่หรือคะ" คุณวิชุดาพยายามต่อ

"...ก็ใช่นะ แต่ผมไม่เอาล่ะ ไม่รู้จะคิดทำไม ผลลัพธ์มันออกมาดี ผมก็พอใจล่ะ"

"เอ๊ะแต่..."

"ไม่ใช่ตรงนั้นนนนนนนนน"
ปานวาดเริ่มอารมณ์เสียที่พี่ชายย้ายกระถางไปในที่ที่ตัวเองถูกใจไม่ได้เสียที

อาการของลูกสาวคนสวยทำให้ทั้งพ่อและแม่แต่งประหลาดใจทั้งคู่ ทั้งสองไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าของลูกสาวแบบนี้มาก่อนเลย ..สีหน้าที่ดูสนุกสนาน แต่ก็ดูหงุดหงิดใจไปพร้อมๆกัน

"เฮ้ออออ งั้นเรามาใกล้ๆนี่สิมา มาบอกพี่ใกล้ๆนี่ พี่จะได้วางถูกเสียที"พัทกล่าวพลางปาดเหงื่อออกจากหน้าผากขาว...

เมื่อได้ยินดังนั้น ปานวาดจึงเดินลงไปที่สวน แล้วจัดการขยับกระถางต้นไม้ด้วยตัวเอง... เธอไม่ได้เปลี่ยนที่มันหรอก เพียงแต่หมุนกระถางให้หันหน้าซ้ายขวานิดหน่อยเท่านั้นเอง เมื่อหมุนจนเป็นที่พอใจ เธอก็พูดขึ้นว่า

"เสร็จละ แค่นี้เอง"พลางส่งสายตาของผู้ชนะไปยังชายหนุ่มที่ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ...

เพราะสายตานี่เองที่ทำให้นายพัทของเรารู้ตัวว่าโดนน้องสาวแกล้งเสียแล้ว

"อ๋อออ... นี่เราแกล้งพี่ใช่มั๊ย"

"ปล่อยนิ"พูดจบปานวาดก็เดินกลับไปยังตัวบ้านทันทีพร้อมกับพูดกึ่งหัวเราะถึงคุณวิชุดาว่า..."แม่คะ..หนูหิวแล้วล่ะค่ะ"

"ก็มาทานสิลูก ข้าวคงสุกแล้วล่ะ" คุณวิชุดาพูดขึ้นพลางหัวเราะพฤติกรรมที่น่ารักของทั้งสองคนพี่น้อง
อย่าว่าแต่คุณวิชุดาเลย คุณเอกราชเองตอนนี้ก็หัวเราะจนหน้าแดงไปหมด

"พัทก็เข้ามาเถอะลูก"

"ครับๆ"พัทหัวเราะกับตัวเองแล้วคิดว่า /คอยดูนะกระต่ายน้อย คราวพี่เมื่อไหร่จะเอาคือให้ดู/ พัทคิดออย่างขบขัน

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตกเย็น...
ระหว่างที่ปานวาดกำลังช่วยคุณวิชุดาทำอาหารเย็นอยู่นั่นเอง

"นี่ ปาน"

"คะแม่?"

"แม่ถามอะไรลูกหน่อยได้หรือเปล่าลูก"คุณวิชุดาหยุดมือจากการปรุงต้มยำสูตรพิเศษของตนเองก่อนจะหันมามองลูกสาวอย่างจริงจัง

"ก็ถามสิคะ"ปานวาดตอบผู้เป็นแม่อย่างร่าเริง พลางล้างผักต่อไป

"พี่เค้าทำอะไรหรอ หนูถึงได้ยอมคุยกับพี่เค้าได้น่ะ"

คำถามของคุณวิชุดาข้อนี้ถึงกับทำให้ปานวาดสะอึกไปซักครู่เลยทีเดียว ก่อนจะรีบตอบไปว่า

"ไม่ได้ทำอะไรนี่คะแม่ พี่เค้าก็ชวนหนูทานข้าวเฉยๆเอง"

/ใช่แล้วล่ะ แค่ชวนกินข้าว ไม่มีอะไรซักหน่อย/ปานวาดคิด

"อ้าว แล้วทำไมตอนแม่ชวน หนูยังบอกว่าไม่ทานอยู่เลยล่ะลูก"

"แหม ก็ตอนนั้นยังไม่หิวนี่คะ..."ปานวาดตอบพลางส่งรอยยิ้มกลบเกลื่อน
ว่าแต่ว่าตอนนี้ใจเธอเริ่มเต้นแรงอีกแล้ว... ทำไมนะ แค่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา เธอถึงต้องคิดถึงเหตุการณ์ตรงหน้าบันไดเสียทุกที...

"...ไม่มีอะไร? แน่ใจนะลูก"คุณวิชุดาย้ำ

"ค่ะแม่ จริงๆค่ะ"ปานวาดฉีกยิ้มกลบเกลื่อนหนักกว่าเดิม

"...."

"......"

"....."

"เอ้า ไม่มีก็ไม่มี แต่พี่เค้าก็เก่งนะลูก คงจะหาโอกาสคุยกับหนูตอนทานข้าวล่ะสิ" คุณวิชุดาหันไปทำต้มยำของเธอต่ออย่างหายสงสัย

"...แหะๆๆ"ปานวาดหัวเราะแห้งๆอีกครั้ง..

"เย้สสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!!!!"
พัทตะโกนเสียงดังขึ้นเมื่อหงส์แดงทำประตูตีเสมอแมนยูได้...

โดยหารู้ไม่(อีกแล้ว)ว่าเพราะเสียงตะโกน(ที่แสนจะถูกจังหวะของเค้า)ได้ทำให้กระต่ายน้อยหลังครัวตกใจจนทำใบคะน้าขาดเลยทีเดียว...

"อะไรกันนะ พ่อลูกคู่นี้ เอะอะจริงๆ"คุณวิชุดาตะโกนถามสถานการณ์ในห้องรับแขกอย่างขำๆ

"แม่ครับ พ่อคงต้องกินโค้กขวดลิตรหมดรวดเดียวให้พวกเราดูแน่ๆ"นายพัทพูดพลางหันมายิ้มโชว์ฟันขาว..

"อะไรกัน ยังเหลือครึ่งหลังอยู่นะ อย่าเพิ่งได้ใจไปเลยเรา"คุณเอกราชแย้งลูกชาย

/คนผี ทำเราตกใจแทบแย่/ปานวาดคิด
/เอ๊ะ แล้วทำไมต้องตกใจด้วยนะ... ยัยปานนน เธอนี่สงสัยจะเพี้ยนไปใหญ่แล้ว.../

"เอ้อ เมื่อกี้พี่เสียงดังน้องตกใจหรือเปล่า"
พัทรีบออกตัวขอโทษ... เค้าไม่อยากให้ความสัมพันธ์ดีๆที่เพิ่งเริ่มต้นต้องเสียไปเร็วนัก โธ่...ก็กว่าจะคุยกันได้นี่นะ

ตึกกก!

ปานวาดใจเต้นทันที่เมื่อถูกพี่ชายแปลกหน้าเดาใจขึ้นมา(แถมถูกซะด้วย)

"...เปล่า!!" เธอตอบพร้อมกับเปิดน้ำเสียงดังกลบเกลื่อน

/โธ่เอ๊ย...ทำเป็นรู้ใจ คนอย่างนายน่ะ ไม่มีทางหรอก!!!/ปานวาดคิด

ปานวาดจ๋า...

เธอจะรู้หรือเปล่านะ ว่าขณะที่เธอคิดน่ะ หน้าใสๆของเธอแดงไปหมดเลย ...<3


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ติดตามกันหน่อยนะคะ.... เรื่องนี้จะเดินเรื่องช้าๆ(แต่ชัวร์)ค่ะ

...ว่าแต่ว่า แต่งเรื่องอย่างงี้มันจะผิดศีลธรรมหรือเปล่านะ -*-




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2550
11 comments
Last Update : 30 กรกฎาคม 2550 0:55:56 น.
Counter : 583 Pageviews.

 

เดี๋ยวตามไปตบคอมเม้นคราวที่แล้วทีหลังนะคะ(โน๊ตบุ๊คแบตหมดแล้วค่ะ ไม่ได้เอาที่ชาร์ตมา )

 

โดย: สาวน้อยแมนัวร์ 30 กรกฎาคม 2550 0:56:53 น.  

 

ว้าย ว้าย ... โดนล็อคจากข้างหลัง ดั่ว

... หนาวแทนปานวาดเลยค่ะ หุ หุ

 

โดย: โสดในซอย 30 กรกฎาคม 2550 22:09:44 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม
แล้วก็ขอโทษจริงๆ ที่แวะมาแต่ไม่ได้อ่านนะครับ

 

โดย: qu-up 31 กรกฎาคม 2550 2:49:38 น.  

 

รูปนี่วาดเองหรือเปล่าคะ? สวยดีๆ ซินชอบลิลลี่ค่ะ



โดย: CynCyfer (สาวน้อยแมนัวร์



รูปถ่ายค่า

ถ่ายเอง

Modify แบบ art ค่ะ

แต่แม่โสมก็วาดรูปด้วยนะคะ

 

โดย: โสมรัศมี 31 กรกฎาคม 2550 9:01:50 น.  

 

ปานวาดนี่หน่ะ ดูเป็นคนขี้เขิน นะคะ อิอิ

ไว้จะมาอ่านตอนต่อไปค่ะ

 

โดย: เชอรี่ (JAN_CHERRY ) 31 กรกฎาคม 2550 12:10:39 น.  

 

พี่ลงชื่อจองที่ไว้ก่อนนะคะ
เด๋วขอไปทำสื่อการสอนก่อนแปป
เด๋วมาอ่านวันหลัง ไม่ว่ากันนะคะ


ป.ล. ขออ่านวันเสาร์นะคะ จะได้อ่านทั้งหมดได้

 

โดย: verdancy 31 กรกฎาคม 2550 12:11:26 น.  

 

เจนนี่แวะมาทักทายค่ะ ขอบคุณมากน่ะคะ ที่แวะไปเที่ยวกับเจนนี่ ไว้โอกาสหน้าจะพาเที่ยวอีกน่ะคะ แล้วจะแวะมาส่งข่าวจ้า วันนี้แค่แวะมาเยี่ยม เพราะความคิดถึงจ้า ฮิฮิ คิดถึงเจนนี่ก็แวะมาทักทายกันได้ที่ครอบครัวหมีแพนด้าของพวกเราได้ตลอดเวลาน่ะคะ ที่ห้องแชทค่ะ //www.pandagroup.pantown.com

 

โดย: สาวอิตาลี 31 กรกฎาคม 2550 17:38:47 น.  

 


แวะมาอ่านหลังจากมาลงชื่อไว้หลายวันค่ะ
พัทกับปานเป็นพี่น้องกันจริงๆหรือเปล่านะ
ชักอยากรู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร
จะมาติดตามตอนต่อไปนะค่ะ

 

โดย: ไลเดเลีย 31 กรกฎาคม 2550 20:21:47 น.  

 

มาราตรีสวัสดิ์ฝันดีค่า
ขอให้มีความสุขในฤดูฝนอย่างเป็นทางการนะคะ

 

โดย: ยัยหมามุ่ย (bon_bonkatz ) 31 กรกฎาคม 2550 20:57:15 น.  

 

กลับมาแล้นนน...หายไปหลายวันมากๆ..สลบหมดแรง..และเหนื่อยสุดๆ..


น้องซินพี่อ่านแล้วแทนนางเอกอ่ะ...
ไม่ผิดใช่ป่าว..อิอิอิ

 

โดย: ^^Ken-Ju***Pu-Jung^^ 31 กรกฎาคม 2550 22:22:33 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับ

มาขอบคุณที่ไปให้กำลังใจ... หายเศร้าแล้วครับ แม้ว่าจะยังเหงาอยู่...

วันนั้น เพียงแต่เป็นวันครบรอบเท่านั้นเอง... ขอบคุณครับ

มีความสุขกับวันทำงาน นะครับ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 1 สิงหาคม 2550 7:34:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


TMRmaybe
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add TMRmaybe's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.