|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
CHOBITS - โชบิทส์
CHOBITS
อันนี้เคยลงในนิตยสารการ์ตูนของคามอสเมื่อชาติที่แล้ว งานนี้เขียนนานกว่าห้าปีแล้วนา
คนยุคใหม่มีใครบ้างไม่เคยหยิบจับการ์ตูนญี่ปุ่นขึ้นมาอ่าน ถ้าไม่เคยอ่านเอง ไม่เคยซื้อ อย่างน้อยก็ต้องมีเพื่อนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น หรือมีคนรู้จักที่หลงรักการอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นจนต้องมีไว้อ่านไม่ขาดมือ การอ่านการ์ตูนนอกจากผู้อ่านจะมีความสุขที่ได้ท่องไปในโลกจินตนาการของผู้คิดพล็อตเรื่อง และเพริดไปกับลายส้นของผู้วาดภาพแล้ว รายละเอียดของแต่ละเรื่องที่อ่านก็มีผล โดนใจผู้อ่านในด้านต่างๆ ไป
ความคิดที่เริ่มแพร่หลายเกี่ยวกับการเสพงานเขียนในปัจจุบันคือ งานเขียนมีส่วนช่วยสร้างเจตนคติแก่ผู้อ่าน สิ่งที่ซ่อนอยู่ในงานเขียน สิ่งที่คอยขับเคลื่อนให้งานเขียนต่างๆ ดำเนินเรื่องไปได้ล้วนมาจากแนวคิดที่ซุกซ่อนอยู่ในสังคม หรือเป็นพื้นฐานใหญ่ในสังคม ผู้สร้างงานเขียนหยิบเอาแนวคิดเหล่านั้นมาใส่ในงานเขียนของตนทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ เมื่อผู้อ่านเสพงานเหล่านั้น แนวคิดทางสังคมที่ซุกซ่อนอยู่ในงานนั้นๆ ของเขาก็ได้กลับไปสู่พื้นที่ทางสังคม เป็นการเน้นย้ำการสร้างแนวคิดความเชื่อต่างๆ ให้แข็งแรงมากขึ้น
ความคิดข้างต้น ทำให้จินตนาการไม่ใช่สิ่งที่เพริดแพร้วต่างจากความคิดฐานหลักที่สังคมมีอยู่แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง หากแต่เป็นการนำแนวคิด นำความใฝ่ฝันต่างๆ ในสังคมมาเปลี่ยนรูปให้มีรูปแบบที่ต่างออกไป แต่มีเนื้อหาเดิม
เรื่องแต่งทุกเรื่องล้วนมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความรัก เป็นการจำลองความคิด ความเชื่อเกี่ยวกับความรักต่อสิ่งต่างๆ ในแง่มุมต่างๆ ขึ้นมาเสนอ ทั้งความรักในความถูกต้อง รักในอำนาจ รักในเนื้อตัวร่างกาย รักในความต้องการครอบครองบางสิ่งบางอย่าง
พอพูดถึงเรื่องความรัก ก็เริ่มรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ ก็พวกป้าๆ กระทรวงวัฒนธรรมที่มีความคิดคับแคบเกี่ยวกับวัฒนธรรมน่ะสิ คิดควบคุมกรอบความคิดทางศีลธรรมเกี่ยวกับเรื่องทางเพศในสังคมไทยเพื่อธำรงความมั่นคงของสถาบันครอบครัวแบบผัวเดียวเมียเดียวไว้ ป้าๆ คงเห็นประชาชนเป็นลูก ต้องคอยดูแลให้เขาไม่ผิดลูกผิดผัวใคร ห้ามประชาชนไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ที่สั่นคลอนศีลธรรมของสังคม (ที่แสนจะเปราะบางในเรื่องศีลธรรม) คิดดูแล้วกันพ่อแม่ที่ต้องการควบคุมความคิดอ่านของลูกให้เหมือนสิ่งที่ตนคิดแบบเบ็ดเสร็จจะเป็นพ่อแม่ที่เต่าล้านปีขนาดใหน พอหงุดหงิดมากขึ้น เลยคิดถึงสิ่งที่จรรโลงใจมากกว่า แล้วก็เริ่มคิดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก
ตลอดปีที่ผ่านมาเรื่องที่อ่านแล้วประทับใจ ทึ่งในความสามารถของคนเขียนและวาดภาพ สำหรับฉันแล้วคงต้องยกให้พี่น้องแคมป์ นี่คือ การ์ตูนที่ฉันจะพูดถึงในวันนี้ มังกะของพี่น้อง CLAMP เรื่อง Chobits ลิขสิทธิ์ภาษาไทยโดย NED COMICS ชื่อ ดิจิทัลเลดี้ เล่าเรื่องของคอมพิวเตอร์หุ่นยนต์ที่มีรูปลักษณ์เป็นคน ได้อย่างลงตัว โชบิทส์ดำเนินเรื่องด้วยพล๊อตที่ต้องการเสนอเรื่องราวความรักของคนกับเทคโนโลยีและ เล่น กับความกลัวเทคโนโลยีของมนุษย์
ถึงแม้ความคิดเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์หญิงชายที่มีอยู่ในโชบิทส์จะหนุนเสริมไปในทางเดียวกับความคิดแบบป้าๆ แต่ความคิดที่ซ่อนอยู่ในเรื่องถูกนำเสนอแบบคนละคลาส มีสมองและเหนือชั้นกว่า
โชบิทส์พูดอะไรเกี่ยวกับความรักหรือ ฉันถึงกล้าพูดว่า เหมือนกับความคิดของพวกป้าๆ
เรื่องราวในหนังสือเกิดขึ้นเมื่อโลกอยู่ในยุคซึ่งพึ่งพาเทคโนโลยีมาก ในเมืองใหญ่ ทุกคนมีคอมพิวเตอร์ที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์พกพาไปไหนต่อไหน ฮิเดกิพระเอกของเรานี่สิ เป็นนักเรียนเตรียมเอ็นทรานซ์ผู้ยากจนไม่มีปัญญามีคอมพิวเตอร์สักเครื่อง วันหนึ่งดันเก็บคอมพิวเตอร์รูปคนได้ตัวหนึ่ง แล้วเรื่องราวที่เหมือนแบบเรียนเรื่องศีลธรรมทางเพศแบบผัวเดียวเมียเดียวที่มีความกล้าหาญก็เริ่มขึ้น
คำแรกที่คอมพิวเตอร์สาวน้อยเปล่งออกมาจากปากคือ ชี เธอจึงได้ชื่อตามนั้น ชีเรียนรู้สิ่งต่างๆ ตามที่ฮิเดกิสอน เริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากขึ้นๆ ฮิเดกิกับชีเป็นคู่หลักของเรื่อง ความสัมพันธ์คู่ของฮิเดกิและชีเริ่มมาจากความรู้สึกที่ฮิเดกิต้องการใช้ประโยชน์จากชีซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ ตามมาด้วยความรับรู้ของฮิเดกิว่าชีเป็นสิ่งเร้าที่ทำให้เขาเกิดอารมณ์ทางเพศ ความรู้สึกต้องการใช้ประโยขน์ผนวกกับความหวังใจในเชิงกามารมณ์นั้นปูทางให้ชีเริ่มมีความสำคัญต่อฮิเดกิในเชิงจิตใจ เริ่มก่อความผูกพันธ์ ความสัมพันธ์ลักษณะนี้เองนำมาสู่ภาวะการต่อสู้กันของความคิดสองอย่าง คือ ความรักที่เขามีต่อชีซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์กับการที่คนควรมีความสัมพันธ์กับคนด้วยกันเอง
ความจริงแล้วชีเป็นคอมพิวเตอร์ที่อิจิโร่ ผู้สร้างระบบคอมพิวเตอร์รูปคนเป็นคนแรกสร้างให้เป็นของขวัญแก่ภรรยาคือฮิบิย่าซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ดูแลหอพักที่ฮิเดกิอาศัยอยู่และยังเป็นผู้เขียนหนังสือภาพเขียนเรื่องราวขนานกับชีวิตของชีและฮิเดกิด้วยหวังจะให้คอมพิวเตอร์ซึ่งถือเป็นลูกๆ ของตนมีความสุขในรักแท้ ตอนแรกอิจิโร่สร้างคอมพิวเตอร์ชื่อ เฟรย่าขึ้นมาก่อน แล้วจึงสร้างเอลด้าขึ้นมาเป็นเพื่อนกัน เรียกทั้งสองว่า โชบิทส์ซึ่งมีนัยยะเป็นสิ่งเล็กๆ เฟรย่าหลงรักผู้ที่สร้างตนขึ้นมา แต่รู้ว่าไร้ความหมายเพราะอิจิโร่มีฮิบิย่ามีคนที่รักที่สุดอยู่แล้วคือภรรยาของเขาซึ่งถือว่าเป็นแม่ของเฟรย่าและเอลด้า ถ้าเธอรักพ่อได้ก็จะต้องเสียแม่ไป เฟรย่าตรอมใจจนหมดสภาพในที่สุด ก่อนหมดความรับรู้ เอลด้าโหลดความทรงจำของเฟรย่าเข้ามาในตัวเธอ หลังจากสูญเสียเฟรย่าไป เอลด้าอยากหาคนของเธอคนเดียวให้พบ จึงขอให้ฮิบิย่าเอาเธอไปทิ้งให้คนอื่นมาเก็บไป
ถ้าให้คิดเกี่ยวกับประเด็นบทบาททางเพศ ตัวละครหญิงในเรื่องมีหน้าที่เป็นแม่ผู่อภิบาล เป็นเมีย เป็นผู้ธำรงสถาบันครอบครัว ชีเป็นตัวละครที่สะท้อนชัดถึงบทบาทและความคิดของเพศหญิงที่ถูกสังคมสอนให้เป็น วัตถุอันเป็นที่รัก เป็นเอกสิทธิ์ของ ประธานแห่งความรัก เป็นผู้ผูกติดตัวเองไว้กับความรักของเพศชาย
วัตถุแห่งความรักในเรื่องคือเพศหญิง ในขณะที่ผู้ที่เล่นบทบาทประธานแห่งความรักคือเพศชาย เพศชายมีบทบาทในการให้ความรัก พ่อของชีทำหน้าที่เป็นประธานแห่งความรัก ในขณะที่แม่ของชีเป็น วัตถุอันเป็นที่รัก อิจิโร่ให้ความรักแบบพิเศษกับฮิบิย่า สถานะของฮิบิย่าจึงเป็น คนพิเศษคนนั้นคนเดียว ชีฉาบตัวเองไว้ด้วยมายาของความต้องการมีสถานภาพพิเศษ อยากเป็นคนรักคนพิเศษของใครสักคน ความคิดแบบนี้มีรากมาจากความคิดแบบผัวเดียวเมียเดียวซึ่งเป็นความคิดหลักของสังคมที่ต้องการควบคุมประชาชนไว้ภายใต้เครื่องมือคือสถาบันครอบครัว แนวคิดผัวเดียวเมียเดียวเป็นรูปแบบที่จัดระเบียบได้ง่ายสุด กล่อมเกลาให้คนอยู่ในมาตรฐานทางศีลธรรม อยู่ในคติความรักแบบสวยหวาน ว่าคนเราเกิดมาเพื่อใครสักคนเท่านั้น เมื่อรักและผูกพันกันจนถึงขึ้นตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วก็จะต้องเป็นเช่นนั้นตลอดไป ห้ามปันใจไปรักคนอื่น เมื่อมีความรักแล้วก็สามารถมีเซ็กซ์ได้ ดังนั้นความรักแบบผัวเดียวเมียเดียวไม่เปิดโอกาสให้มีฟรีเซ็กซ์ การมีเซ็กซ์แต่ละครั้งต้องความรักเป็นตัวกำกับ ความรักภายใต้ขนบความคิดที่เชิดชูความรักสูงสุดทำให้คนที่มีความรักแหกขนบดังกล่าวเป็นคนอื่น เป็นคนที่ทำผิดจากสิ่งที่สังคมเชื่อว่าดี ในการ์ตูน ความสุขทางเพศของผู้หญิงต้องผ่านการหยิบยื่นจากชายอันเป็นที่รัก ตอนที่ชีโดนล่อลวงไปโชว์เปลือยผ่านอินเตอร์เนตเพื่อนำเงินมาให้ฮิเดกินั้น ผู้ล่อลวงบอกให้ชีช่วยตนเองโชว์โดยการใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ เมื่อชีไม่ยอมทำผู้ล่อลวงจะทำให้ ชีบอกว่า จะให้ใครสัมผัสบริเวณนั้นไม่ได้จนว่าจะเจอคนที่รักจริงๆ แล้วตอนนั้น เวลาสัมผัสตรงนี้จะเป็นเวลาที่เราต้องตัดสินใจ สิ่งที่ชีบอกผู้อ่านเป็นบทเรียนทางศีลธรรมที่หนุนเสริมความคิดแบบผัวเดียวเมียเดียว ไวยกรณ์ของเซ็กซ์ต้องมีความรักและความถูกต้องเป็นตัวกำกับ
ตามเนื้อเรื่อง โชบิทส์เป็นคอมพิวเตอร์ที่เป็นตำนาน คนเชื่อว่าโชบิทส์ต่างจากคอมพิวเตอร์รูปคนเครื่องอื่นๆ เพราะโชบิทส์มีเจตจำนงของตนเอง โชบิทส์มีความคิดความรู้สึกโดยไม่ต้องอาศัยโปรแกรมที่มนุษย์เขียนขึ้น เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ คำถามเกี่ยวกับความมีเจตจำนงของตนเองของโชบิทส์ก็ผุดพรายขึ้นมาว่า จริงๆ แล้วความคิดทึ่สร้างสิ่งต่างๆ ให้มีชีวิตมีเจตจำนงของตนเองเป็นเพียงความต้องการลึกๆ ของมนุษย์หรือเปล่า พอถึงเล่มแปดผู้เขียนก็ได้บอกให้เรารู้ว่า แม้แต่โชบิทส์เองก็อยู่ได้ด้วยโปรแกรม ไม่มีความรู้สึก ไม่มีเจตจำนงที่แท้จริง ความรู้สึกต่างๆ เป็นเพียงสิ่งสร้าง เป็นความรู้สึก เป็นความเข้าใจที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น ดังนั้นการสร้างคอมพิวเตอร์ให้เป็นรูปคนจึงเป็นเพียงความต้องการเป็นอมตะของมนุษย์ที่ต้องการใส่ฉายาลักษณ์ของตนลงไปในสิ่งสร้างต่างๆ ของตน บ่อยครั้งที่มนุษย์หลงใหลสิ่งที่ตนสร้างขึ้นมา ความต้องการที่จะลบความผิดบาปในใจซึ่งเกิดจากความหลงเผลอไผลกับสิ่งอื่น ความต้องการนี้เองทำให้มนุษย์พยายามยัดความหมายที่ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์เข้าไปในสิ่งนั้นๆ ให้มากที่สุด การใส่ความหมายเหล่านี้ลงไปในโชบิทส์ทำให้มนุษย์มีความชอบธรรมที่จะรักคอมพิวเตอร์มากขึ้น เช่น ในเรื่อง ฮิเดกิโกรธหากมีใครพูดทำนองว่าชีเป็นสิ่งของ เขาถือว่าชีไม่ใช่สิ่งของ ชีคือชีในความรู้สึกของเขา ในเล่มแปดซึ่งเป็นเล่มสุดท้าย เรื่องราวต่างๆ เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของเรื่องที่ต้องได้รับการคลี่คลาย ชีต้องการให้ฮิเดกิตอบว่ารักเธอหรือไม่ เธอใช่คนพิเศษคนเดียวของเขาหรือไม่ ฮิเดกิรู้ว่าชีอาจก่ออันตรายต่อโลก การตัดสินใจของเขาจึงมีความสำคัญ ตอนนี้เองเฟรย่าที่อยู่ในตัวชีได้ออกมาบอกเขาถึงสิ่งที่ชีไม่สามารถทำได้ ชีมีปุ่มเริ่มการทำงานอยู่ที่ช่องคลอด ดังนั้นหากชีมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ ระบบของชีก็จะเริ่มทำงานใหม่หมด ตัวตนของชีจะหายไป เมื่อเป็นเช่นนั้นชีก็จะไม่ใช่ชีอีกต่อไป หากฮิเดกิรักชี ฮิเดกิก็จะไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กับชีได้
ผู้สร้างโชบิทส์อยากให้คอมพิวเตอร์มีความรักที่มีความสุข เขาเคยพูดว่า คอมพิวเตอร์ก็มีสิทธิมีความสุขได้เหมือนกัน เป็นเรื่องที่เขายอมไม่ได้หากสิ่งที่พยายามรักคนมากไม่สามารถมีความสุขได้ ความปรารถนาของผู้สร้างในฐานะพ่อแม่คือ อยากให้ใครสักคนมารักลูกของตนจริง หากชีมีความสุขไม่ได้ คอมพิวเตอร์ในโลกก็ควรถูกทำลายให้หมด
อิจิโร่อยากให้ความสุขแก่ลูกๆ ของตน (คอมพิวเตอร์รูปคนทั้งหมด) โดยการเอาลูกๆ ของเขาเป็นเดิมพัน หากมีใครสักคนรักในตัวตนของชี จนยอมรับจะเป็นคนคนนั้นของชีคนเดียว เขาก็ต้องยอมที่จะไม่มีเซ็กซ์กับชี ซิ่งหากฮิเดกิตัดสินใจรักชี ยอมเป็นคนพิเศษของชีโดยยอมรับสิ่งที่ชีทำไม่ได้ (เซ็กซ์) เพราะหากเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ชีก็จะไม่ใช่ชีอีกต่อไป ความสามารถในการทำลายคอมพิวเตอร์รูปคนทุกเครื่องก็จะหมดไป เรื่องทุกเรื่องก็จะคลี่คลาย ความรักในเรื่องบอกให้ผู้อ่านรู้ว่า ความรักต้องมีการตกลงปลงใจร่วมกัน (commitment) เมื่อมีความรักแล้วจึงสามารถมีเซ็กซ์ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในความรักคือตัวตน เซ็กซ์ต้องไม่ใช่สิ่งที่ทำลายตัวตนของฝ่ายหญิง นี่คือเดิมพันของอิจิโร่ หากคนคนนั้นของชีไม่ยอมรับชี ระบบคอมพิวเตอร์รูปคนทั้งหมดต้องล่มสลาย แต่หากคนพิเศษของชีรักชีแต่ไม่แยแสสนใจตัวตนของชี ระบบคอมพิวเตอร์รูปคนทั้งหมดจะต้องล่มสลาย โชคดีที่ฮิเดกิรักชีในความเป็นชี เรื่องจึงคลี่คลายจนจบอย่างมีความสุข
นอกจากความรักของตัวละครหลักแล้ว เรื่องราวของตัวละครเสริมอื่นๆ ก็ถูกเขียนไว้ในประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องของยูมิ รุ่นน้องของฮิเดกิที่หลงรักเจ้าของร้านเค้กที่เคยแต่งงานกับคอมพิวเตอร์ชื่อเดียวกับเธอ มิโนรุ เด็กมัธยมต้นที่เป็นอัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์จำลองแบบของผู้สาวที่เสียชีวิตไป เรื่องของเพื่อนที่เรียนพิเศษด้วยกันผู้มีความรักกับอาจารย์สาวที่สามีของเธอหลงรักคอมพิวเตอร์จนหัวปักหัวปำทำให้ชีวิตรักต้องแหลกสลาย และคู่สุดท้ายความรักของคอมพิวเตอร์รูปคนสองเครื่องที่เป็นฐานข้อมูลของรัฐบาล
ใน Chobits พยายามจะทำให้เราเปิดใจกับ สิ่งอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ และ เปิดใจกับความรักที่แตกต่าง แต่โชบิทส์ไม่ได้คาดคั้นตัดสินผิดถูก ทำให้เทคโนโลยีเป็นสิ่งใกล้ชิดกับมนุษย์มากขึ้น ยั่วล้อกับจิตใจของคนที่กลัวสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง เปิดโอกาสให้คนสร้างความหมายกับสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่คนให้มีความรู้สึกนึกคิด พยายามจะทำให้ สิ่งอื่น เริ่มเป็นพวกเดียวกับมนุษย์มากขึ้นภายใต้ฐานคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความรัก สิ่งที่มีความรักมีความรู้สึกนึกคิดจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์สมควรได้รับความรัก
การพูดถึงเรื่องราวความรักโดยไม่ใช้ความรู้สึกแบ่งเขาแบ่งเรา และไม่ใช้ท่าทีวางอำนาจชี้ถูกชี้ผิดโดยอ้างศีลธรรมย่อมน่ารับฟังมากกว่าความรักที่ใช้ศีลธรรมเป็นเครื่องมือ ท้ายที่สุดแล้ว ฉันมั่นใจว่า คนที่กำอาวุธที่ชื่อศีลธรรมไว้แน่นเป็นเพราะบอบช้ำจากความรักที่ไม่ใช่แบบผัวเดียวเมียเดียว พอคิดเกี่ยวกับโชบิทส์จบ ฉันก็ไม่หงุดหงิดป้าแล้วล่ะ เพราะรู้ว่าป้าเองก็อาจบอบช้ำ อาจผิดหวังกับชีวิตครอบครัวที่คาดหวังให้เป็นแบบผัวเดียวเมียเดียวก็ได้
Create Date : 24 มิถุนายน 2550 |
|
4 comments |
Last Update : 7 สิงหาคม 2555 22:45:55 น. |
Counter : 2626 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: TzOzOzN (TzOzOzN ) 24 มิถุนายน 2550 18:14:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 24 มิถุนายน 2550 21:32:52 น. |
|
|
|
|
|
|