It is a happy end.

chommanee
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




A co-founder of BeautiBlyss.

And a human carotenoid wannabe. --- B A L D E R D A S H
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
24 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add chommanee's blog to your web]
Links
 

 

CHOBITS - โชบิทส์

CHOBITS

อันนี้เคยลงในนิตยสารการ์ตูนของคามอสเมื่อชาติที่แล้ว งานนี้เขียนนานกว่าห้าปีแล้วนา



คนยุคใหม่มีใครบ้างไม่เคยหยิบจับการ์ตูนญี่ปุ่นขึ้นมาอ่าน ถ้าไม่เคยอ่านเอง ไม่เคยซื้อ อย่างน้อยก็ต้องมีเพื่อนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น หรือมีคนรู้จักที่หลงรักการอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นจนต้องมีไว้อ่านไม่ขาดมือ การอ่านการ์ตูนนอกจากผู้อ่านจะมีความสุขที่ได้ท่องไปในโลกจินตนาการของผู้คิดพล็อตเรื่อง และเพริดไปกับลายส้นของผู้วาดภาพแล้ว รายละเอียดของแต่ละเรื่องที่อ่านก็มีผล โดนใจผู้อ่านในด้านต่างๆ ไป

ความคิดที่เริ่มแพร่หลายเกี่ยวกับการเสพงานเขียนในปัจจุบันคือ งานเขียนมีส่วนช่วยสร้างเจตนคติแก่ผู้อ่าน สิ่งที่ซ่อนอยู่ในงานเขียน สิ่งที่คอยขับเคลื่อนให้งานเขียนต่างๆ ดำเนินเรื่องไปได้ล้วนมาจากแนวคิดที่ซุกซ่อนอยู่ในสังคม หรือเป็นพื้นฐานใหญ่ในสังคม ผู้สร้างงานเขียนหยิบเอาแนวคิดเหล่านั้นมาใส่ในงานเขียนของตนทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ เมื่อผู้อ่านเสพงานเหล่านั้น แนวคิดทางสังคมที่ซุกซ่อนอยู่ในงานนั้นๆ ของเขาก็ได้กลับไปสู่พื้นที่ทางสังคม เป็นการเน้นย้ำการสร้างแนวคิดความเชื่อต่างๆ ให้แข็งแรงมากขึ้น

ความคิดข้างต้น ทำให้จินตนาการไม่ใช่สิ่งที่เพริดแพร้วต่างจากความคิดฐานหลักที่สังคมมีอยู่แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง หากแต่เป็นการนำแนวคิด นำความใฝ่ฝันต่างๆ ในสังคมมาเปลี่ยนรูปให้มีรูปแบบที่ต่างออกไป แต่มีเนื้อหาเดิม

เรื่องแต่งทุกเรื่องล้วนมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความรัก เป็นการจำลองความคิด ความเชื่อเกี่ยวกับความรักต่อสิ่งต่างๆ ในแง่มุมต่างๆ ขึ้นมาเสนอ ทั้งความรักในความถูกต้อง รักในอำนาจ รักในเนื้อตัวร่างกาย รักในความต้องการครอบครองบางสิ่งบางอย่าง

พอพูดถึงเรื่องความรัก ก็เริ่มรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ ก็พวกป้าๆ กระทรวงวัฒนธรรมที่มีความคิดคับแคบเกี่ยวกับวัฒนธรรมน่ะสิ คิดควบคุมกรอบความคิดทางศีลธรรมเกี่ยวกับเรื่องทางเพศในสังคมไทยเพื่อธำรงความมั่นคงของสถาบันครอบครัวแบบผัวเดียวเมียเดียวไว้ ป้าๆ คงเห็นประชาชนเป็นลูก ต้องคอยดูแลให้เขาไม่ผิดลูกผิดผัวใคร ห้ามประชาชนไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ที่สั่นคลอนศีลธรรมของสังคม (ที่แสนจะเปราะบางในเรื่องศีลธรรม) คิดดูแล้วกันพ่อแม่ที่ต้องการควบคุมความคิดอ่านของลูกให้เหมือนสิ่งที่ตนคิดแบบเบ็ดเสร็จจะเป็นพ่อแม่ที่เต่าล้านปีขนาดใหน พอหงุดหงิดมากขึ้น เลยคิดถึงสิ่งที่จรรโลงใจมากกว่า แล้วก็เริ่มคิดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก

ตลอดปีที่ผ่านมาเรื่องที่อ่านแล้วประทับใจ ทึ่งในความสามารถของคนเขียนและวาดภาพ สำหรับฉันแล้วคงต้องยกให้พี่น้องแคมป์ นี่คือ การ์ตูนที่ฉันจะพูดถึงในวันนี้ มังกะของพี่น้อง CLAMP เรื่อง Chobits ลิขสิทธิ์ภาษาไทยโดย NED COMICS ชื่อ “ดิจิทัลเลดี้” เล่าเรื่องของคอมพิวเตอร์—หุ่นยนต์ที่มีรูปลักษณ์เป็นคน ได้อย่างลงตัว โชบิทส์ดำเนินเรื่องด้วยพล๊อตที่ต้องการเสนอเรื่องราวความรักของคนกับเทคโนโลยีและ “เล่น” กับความกลัวเทคโนโลยีของมนุษย์

ถึงแม้ความคิดเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์หญิงชายที่มีอยู่ในโชบิทส์จะหนุนเสริมไปในทางเดียวกับความคิดแบบป้าๆ แต่ความคิดที่ซ่อนอยู่ในเรื่องถูกนำเสนอแบบคนละคลาส มีสมองและเหนือชั้นกว่า

โชบิทส์พูดอะไรเกี่ยวกับความรักหรือ ฉันถึงกล้าพูดว่า เหมือนกับความคิดของพวกป้าๆ

เรื่องราวในหนังสือเกิดขึ้นเมื่อโลกอยู่ในยุคซึ่งพึ่งพาเทคโนโลยีมาก ในเมืองใหญ่ ทุกคนมีคอมพิวเตอร์ที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์พกพาไปไหนต่อไหน ฮิเดกิพระเอกของเรานี่สิ เป็นนักเรียนเตรียมเอ็นทรานซ์ผู้ยากจนไม่มีปัญญามีคอมพิวเตอร์สักเครื่อง วันหนึ่งดันเก็บคอมพิวเตอร์รูปคนได้ตัวหนึ่ง แล้วเรื่องราวที่เหมือนแบบเรียนเรื่องศีลธรรมทางเพศแบบผัวเดียวเมียเดียวที่มีความกล้าหาญก็เริ่มขึ้น

คำแรกที่คอมพิวเตอร์สาวน้อยเปล่งออกมาจากปากคือ “ชี” เธอจึงได้ชื่อตามนั้น ชีเรียนรู้สิ่งต่างๆ ตามที่ฮิเดกิสอน เริ่มเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากขึ้นๆ ฮิเดกิกับชีเป็นคู่หลักของเรื่อง ความสัมพันธ์คู่ของฮิเดกิและชีเริ่มมาจากความรู้สึกที่ฮิเดกิต้องการใช้ประโยชน์จากชีซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ ตามมาด้วยความรับรู้ของฮิเดกิว่าชีเป็นสิ่งเร้าที่ทำให้เขาเกิดอารมณ์ทางเพศ ความรู้สึกต้องการใช้ประโยขน์ผนวกกับความหวังใจในเชิงกามารมณ์นั้นปูทางให้ชีเริ่มมีความสำคัญต่อฮิเดกิในเชิงจิตใจ เริ่มก่อความผูกพันธ์ ความสัมพันธ์ลักษณะนี้เองนำมาสู่ภาวะการต่อสู้กันของความคิดสองอย่าง คือ ความรักที่เขามีต่อชีซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์กับการที่คนควรมีความสัมพันธ์กับคนด้วยกันเอง

ความจริงแล้วชีเป็นคอมพิวเตอร์ที่อิจิโร่ ผู้สร้างระบบคอมพิวเตอร์รูปคนเป็นคนแรกสร้างให้เป็นของขวัญแก่ภรรยาคือฮิบิย่าซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ดูแลหอพักที่ฮิเดกิอาศัยอยู่และยังเป็นผู้เขียนหนังสือภาพเขียนเรื่องราวขนานกับชีวิตของชีและฮิเดกิด้วยหวังจะให้คอมพิวเตอร์ซึ่งถือเป็นลูกๆ ของตนมีความสุขในรักแท้ ตอนแรกอิจิโร่สร้างคอมพิวเตอร์ชื่อ เฟรย่าขึ้นมาก่อน แล้วจึงสร้างเอลด้าขึ้นมาเป็นเพื่อนกัน เรียกทั้งสองว่า โชบิทส์ซึ่งมีนัยยะเป็นสิ่งเล็กๆ เฟรย่าหลงรักผู้ที่สร้างตนขึ้นมา แต่รู้ว่าไร้ความหมายเพราะอิจิโร่มีฮิบิย่ามีคนที่รักที่สุดอยู่แล้วคือภรรยาของเขาซึ่งถือว่าเป็นแม่ของเฟรย่าและเอลด้า ถ้าเธอรักพ่อได้ก็จะต้องเสียแม่ไป เฟรย่าตรอมใจจนหมดสภาพในที่สุด ก่อนหมดความรับรู้ เอลด้าโหลดความทรงจำของเฟรย่าเข้ามาในตัวเธอ หลังจากสูญเสียเฟรย่าไป เอลด้าอยากหาคนของเธอคนเดียวให้พบ จึงขอให้ฮิบิย่าเอาเธอไปทิ้งให้คนอื่นมาเก็บไป

ถ้าให้คิดเกี่ยวกับประเด็นบทบาททางเพศ ตัวละครหญิงในเรื่องมีหน้าที่เป็นแม่ผู่อภิบาล เป็นเมีย เป็นผู้ธำรงสถาบันครอบครัว ชีเป็นตัวละครที่สะท้อนชัดถึงบทบาทและความคิดของเพศหญิงที่ถูกสังคมสอนให้เป็น “วัตถุอันเป็นที่รัก” เป็นเอกสิทธิ์ของ “ประธานแห่งความรัก” เป็นผู้ผูกติดตัวเองไว้กับความรักของเพศชาย

วัตถุแห่งความรักในเรื่องคือเพศหญิง ในขณะที่ผู้ที่เล่นบทบาทประธานแห่งความรักคือเพศชาย เพศชายมีบทบาทในการให้ความรัก พ่อของชีทำหน้าที่เป็นประธานแห่งความรัก ในขณะที่แม่ของชีเป็น “วัตถุอันเป็นที่รัก” อิจิโร่ให้ความรักแบบพิเศษกับฮิบิย่า สถานะของฮิบิย่าจึงเป็น “คนพิเศษคนนั้นคนเดียว”
ชีฉาบตัวเองไว้ด้วยมายาของความต้องการมีสถานภาพพิเศษ อยากเป็นคนรักคนพิเศษของใครสักคน ความคิดแบบนี้มีรากมาจากความคิดแบบผัวเดียวเมียเดียวซึ่งเป็นความคิดหลักของสังคมที่ต้องการควบคุมประชาชนไว้ภายใต้เครื่องมือคือสถาบันครอบครัว แนวคิดผัวเดียวเมียเดียวเป็นรูปแบบที่จัดระเบียบได้ง่ายสุด กล่อมเกลาให้คนอยู่ในมาตรฐานทางศีลธรรม อยู่ในคติความรักแบบสวยหวาน ว่าคนเราเกิดมาเพื่อใครสักคนเท่านั้น เมื่อรักและผูกพันกันจนถึงขึ้นตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วก็จะต้องเป็นเช่นนั้นตลอดไป ห้ามปันใจไปรักคนอื่น เมื่อมีความรักแล้วก็สามารถมีเซ็กซ์ได้ ดังนั้นความรักแบบผัวเดียวเมียเดียวไม่เปิดโอกาสให้มีฟรีเซ็กซ์ การมีเซ็กซ์แต่ละครั้งต้องความรักเป็นตัวกำกับ ความรักภายใต้ขนบความคิดที่เชิดชูความรักสูงสุดทำให้คนที่มีความรักแหกขนบดังกล่าวเป็นคนอื่น เป็นคนที่ทำผิดจากสิ่งที่สังคมเชื่อว่าดี
ในการ์ตูน ความสุขทางเพศของผู้หญิงต้องผ่านการหยิบยื่นจากชายอันเป็นที่รัก ตอนที่ชีโดนล่อลวงไปโชว์เปลือยผ่านอินเตอร์เนตเพื่อนำเงินมาให้ฮิเดกินั้น ผู้ล่อลวงบอกให้ชีช่วยตนเองโชว์โดยการใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ เมื่อชีไม่ยอมทำผู้ล่อลวงจะทำให้ ชีบอกว่า “จะให้ใครสัมผัสบริเวณนั้นไม่ได้จนว่าจะเจอคนที่รักจริงๆ แล้วตอนนั้น เวลาสัมผัสตรงนี้จะเป็นเวลาที่เราต้องตัดสินใจ” สิ่งที่ชีบอกผู้อ่านเป็นบทเรียนทางศีลธรรมที่หนุนเสริมความคิดแบบผัวเดียวเมียเดียว ไวยกรณ์ของเซ็กซ์ต้องมีความรักและความถูกต้องเป็นตัวกำกับ

ตามเนื้อเรื่อง โชบิทส์เป็นคอมพิวเตอร์ที่เป็นตำนาน คนเชื่อว่าโชบิทส์ต่างจากคอมพิวเตอร์รูปคนเครื่องอื่นๆ เพราะโชบิทส์มีเจตจำนงของตนเอง โชบิทส์มีความคิดความรู้สึกโดยไม่ต้องอาศัยโปรแกรมที่มนุษย์เขียนขึ้น เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ คำถามเกี่ยวกับความมีเจตจำนงของตนเองของโชบิทส์ก็ผุดพรายขึ้นมาว่า จริงๆ แล้วความคิดทึ่สร้างสิ่งต่างๆ ให้มีชีวิตมีเจตจำนงของตนเองเป็นเพียงความต้องการลึกๆ ของมนุษย์หรือเปล่า พอถึงเล่มแปดผู้เขียนก็ได้บอกให้เรารู้ว่า แม้แต่โชบิทส์เองก็อยู่ได้ด้วยโปรแกรม ไม่มีความรู้สึก ไม่มีเจตจำนงที่แท้จริง ความรู้สึกต่างๆ เป็นเพียงสิ่งสร้าง เป็นความรู้สึก เป็นความเข้าใจที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น ดังนั้นการสร้างคอมพิวเตอร์ให้เป็นรูปคนจึงเป็นเพียงความต้องการเป็นอมตะของมนุษย์ที่ต้องการใส่ฉายาลักษณ์ของตนลงไปในสิ่งสร้างต่างๆ ของตน บ่อยครั้งที่มนุษย์หลงใหลสิ่งที่ตนสร้างขึ้นมา ความต้องการที่จะลบความผิดบาปในใจซึ่งเกิดจากความหลงเผลอไผลกับสิ่งอื่น ความต้องการนี้เองทำให้มนุษย์พยายามยัดความหมายที่ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์เข้าไปในสิ่งนั้นๆ ให้มากที่สุด การใส่ความหมายเหล่านี้ลงไปในโชบิทส์ทำให้มนุษย์มีความชอบธรรมที่จะรักคอมพิวเตอร์มากขึ้น เช่น ในเรื่อง ฮิเดกิโกรธหากมีใครพูดทำนองว่าชีเป็นสิ่งของ เขาถือว่าชีไม่ใช่สิ่งของ ชีคือชีในความรู้สึกของเขา
ในเล่มแปดซึ่งเป็นเล่มสุดท้าย เรื่องราวต่างๆ เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของเรื่องที่ต้องได้รับการคลี่คลาย ชีต้องการให้ฮิเดกิตอบว่ารักเธอหรือไม่ เธอใช่คนพิเศษคนเดียวของเขาหรือไม่ ฮิเดกิรู้ว่าชีอาจก่ออันตรายต่อโลก การตัดสินใจของเขาจึงมีความสำคัญ ตอนนี้เองเฟรย่าที่อยู่ในตัวชีได้ออกมาบอกเขาถึงสิ่งที่ชีไม่สามารถทำได้ ชีมีปุ่มเริ่มการทำงานอยู่ที่ช่องคลอด ดังนั้นหากชีมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ ระบบของชีก็จะเริ่มทำงานใหม่หมด ตัวตนของชีจะหายไป เมื่อเป็นเช่นนั้นชีก็จะไม่ใช่ชีอีกต่อไป หากฮิเดกิรักชี ฮิเดกิก็จะไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กับชีได้

ผู้สร้างโชบิทส์อยากให้คอมพิวเตอร์มีความรักที่มีความสุข เขาเคยพูดว่า “คอมพิวเตอร์ก็มีสิทธิมีความสุขได้เหมือนกัน เป็นเรื่องที่เขายอมไม่ได้หากสิ่งที่พยายามรักคนมากไม่สามารถมีความสุขได้” ความปรารถนาของผู้สร้างในฐานะพ่อแม่คือ อยากให้ใครสักคนมารักลูกของตนจริง หากชีมีความสุขไม่ได้ คอมพิวเตอร์ในโลกก็ควรถูกทำลายให้หมด

อิจิโร่อยากให้ความสุขแก่ลูกๆ ของตน (คอมพิวเตอร์รูปคนทั้งหมด) โดยการเอาลูกๆ ของเขาเป็นเดิมพัน หากมีใครสักคนรักในตัวตนของชี จนยอมรับจะเป็นคนคนนั้นของชีคนเดียว เขาก็ต้องยอมที่จะไม่มีเซ็กซ์กับชี ซิ่งหากฮิเดกิตัดสินใจรักชี ยอมเป็นคนพิเศษของชีโดยยอมรับสิ่งที่ชีทำไม่ได้ (เซ็กซ์) เพราะหากเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ชีก็จะไม่ใช่ชีอีกต่อไป ความสามารถในการทำลายคอมพิวเตอร์รูปคนทุกเครื่องก็จะหมดไป เรื่องทุกเรื่องก็จะคลี่คลาย ความรักในเรื่องบอกให้ผู้อ่านรู้ว่า ความรักต้องมีการตกลงปลงใจร่วมกัน (commitment) เมื่อมีความรักแล้วจึงสามารถมีเซ็กซ์ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในความรักคือตัวตน เซ็กซ์ต้องไม่ใช่สิ่งที่ทำลายตัวตนของฝ่ายหญิง นี่คือเดิมพันของอิจิโร่ หากคนคนนั้นของชีไม่ยอมรับชี ระบบคอมพิวเตอร์รูปคนทั้งหมดต้องล่มสลาย แต่หากคนพิเศษของชีรักชีแต่ไม่แยแสสนใจตัวตนของชี ระบบคอมพิวเตอร์รูปคนทั้งหมดจะต้องล่มสลาย โชคดีที่ฮิเดกิรักชีในความเป็นชี เรื่องจึงคลี่คลายจนจบอย่างมีความสุข

นอกจากความรักของตัวละครหลักแล้ว เรื่องราวของตัวละครเสริมอื่นๆ ก็ถูกเขียนไว้ในประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องของยูมิ รุ่นน้องของฮิเดกิที่หลงรักเจ้าของร้านเค้กที่เคยแต่งงานกับคอมพิวเตอร์ชื่อเดียวกับเธอ มิโนรุ เด็กมัธยมต้นที่เป็นอัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์จำลองแบบของผู้สาวที่เสียชีวิตไป เรื่องของเพื่อนที่เรียนพิเศษด้วยกันผู้มีความรักกับอาจารย์สาวที่สามีของเธอหลงรักคอมพิวเตอร์จนหัวปักหัวปำทำให้ชีวิตรักต้องแหลกสลาย และคู่สุดท้ายความรักของคอมพิวเตอร์รูปคนสองเครื่องที่เป็นฐานข้อมูลของรัฐบาล

ใน “Chobits” พยายามจะทำให้เราเปิดใจกับ “สิ่งอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์” และ “เปิดใจกับความรักที่แตกต่าง” แต่โชบิทส์ไม่ได้คาดคั้นตัดสินผิดถูก ทำให้เทคโนโลยีเป็นสิ่งใกล้ชิดกับมนุษย์มากขึ้น ยั่วล้อกับจิตใจของคนที่กลัวสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง เปิดโอกาสให้คนสร้างความหมายกับสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่คนให้มีความรู้สึกนึกคิด พยายามจะทำให้ “สิ่งอื่น” เริ่มเป็นพวกเดียวกับมนุษย์มากขึ้นภายใต้ฐานคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความรัก สิ่งที่มีความรักมีความรู้สึกนึกคิดจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์สมควรได้รับความรัก

การพูดถึงเรื่องราวความรักโดยไม่ใช้ความรู้สึกแบ่งเขาแบ่งเรา และไม่ใช้ท่าทีวางอำนาจชี้ถูกชี้ผิดโดยอ้างศีลธรรมย่อมน่ารับฟังมากกว่าความรักที่ใช้ศีลธรรมเป็นเครื่องมือ ท้ายที่สุดแล้ว ฉันมั่นใจว่า คนที่กำอาวุธที่ชื่อศีลธรรมไว้แน่นเป็นเพราะบอบช้ำจากความรักที่ไม่ใช่แบบผัวเดียวเมียเดียว พอคิดเกี่ยวกับโชบิทส์จบ ฉันก็ไม่หงุดหงิดป้าแล้วล่ะ เพราะรู้ว่าป้าเองก็อาจบอบช้ำ อาจผิดหวังกับชีวิตครอบครัวที่คาดหวังให้เป็นแบบผัวเดียวเมียเดียวก็ได้






 

Create Date : 24 มิถุนายน 2550
4 comments
Last Update : 7 สิงหาคม 2555 22:45:55 น.
Counter : 2626 Pageviews.

 

เอ่อ ตกลงคุณเป็นคนเขียนบทความนี้เหรอครับ นับถือๆ

 

โดย: TzOzOzN (TzOzOzN ) 24 มิถุนายน 2550 18:14:24 น.  

 

อืม เขียนเองค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาอ่าน :)

 

โดย: chommanee 24 มิถุนายน 2550 20:11:26 น.  

 

ตบมือให้บทความนี้ครับ กว่าผมจะอ่านจบยาวจริงๆ

เรื่องนี้ค่อนข้างชอบ ชีน่ารักดี ภาพสวย การ์ตูนของแคลป์ชอบโยงตัวละคร บางทีตัวนู้นก็ไปโผล่อีกเรื่อง อย่างเรื่องนี้ อิจิโร่ (อิตจัง) ---> ก็มาจากแองเจอริคเลเยอร์ (เสียดาย VKB ไม่พิมพ์ให้จบ) หรือ พี่สาวของมิโนรุ ---> ก็มาจากแองเจอริคเลเยอร์ เช่นเดียวกัน

คิดว่า ไม่มีโอกาสได้ฉายในเมืองไทยแน่นอน (ฟรีทีวี) เพราะเท่าที่อ่านและดูดีวีดีแล้ว ภาพบางภาพ มันชวนให้เข้าใจผิดได้ง่าย และผู้ใหญ่ใจแคบอย่าป้า....(ชื่อไรไม่รู้ ช่างมันเหอะ) คงไม่ยอมง่ายๆ แน่ๆ

จริงๆ การ์ตูนญี่ปุ่นหลายๆ เรื่องมันไม่ใช่แค่การ์ตูนมันแทรกสาระบางอย่างที่เราไม่คาดคิดลงไปด้วย อย่าง JoJo ผมไม่รู้จักและไม่เคยคิดจะศึกษา เรื่องวงแหวนเมเบียสเลย การ์ตูนเรื่องนี้ก็ทำให้ผมอยากศึกษา นอกเรื่องละ ไปดีกว่า ว่างๆ ไปเยี่ยม Blog ผมได้นะครับ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 24 มิถุนายน 2550 21:32:52 น.  

 

555 แค่อ่านก็รู้ว่าเธอเป็นใคร ทายซิว่าฉันเป็นใคร แต่สุดท้ายเราก็มาเจอกัน 555 ขอขำอีกที

ป.ล. ถ้าแกเข้าไปบล็อกชั้นแล้ว อย่าด่านะ ว่ามันไร้สาะ โปรดเถอะ โปรดให้ฉันเขียนอะไรบ้าๆ บอๆ บ้าง

 

โดย: แอบชอบ คห. ข้างล่าง 24 มิถุนายน 2550 23:55:35 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.