|
เรียนไปเที่ยวไป: เส้นทางภาคเหนือ - Part X : วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน
ความเดิมในตอนที่แล้ว
ตัดฉับเข้าเขตจังหวัดลำพูน ...จำไม่ได้ว่าช่วงระหว่างทางมีกิจกรรมอะไรบนรถบ้าง รถบัสจอดส่งพวกเราที่หน้าประตู วัดพระธาตุหริภุญชัย
โปรดสังเกตุ สิงห์คู่ - ผู้ปกป้องเจดีย์ศักดิสิทธิ์ ตามความเชื่อของชาวล้านนา ภายในอิทธิพลจากพม่า แล้วเดินผ่านซุ้มประตูโขงซึ่งเชื่อมกับกำแพงวัด มองเห็นวิหารหลวงอยู่เบื้องหน้าพระเจดีย์ธาตุ ...ผังวัดสมัยล้านนาแบบเป๊ะเลย ใช่ไหม?
พระธาตุหริภุญชัย เป็นเจดีย์องค์สำคัญในอาณาจักรล้านนาและประเทศไทย ตำนานเล่าว่า พระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชยในปีพ.ศ.1608 เมื่อจะมาพระบังคลที่บริเวณนี้มักมีกาเผือกมาร้องทักเสมอ ก็เลยส่งเด็กแรกเกิดไปอยู่กับกา จนพูดภาษากาได้ จึงทราบว่าสถานที่นี้มีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ จึงโปรดให้สร้างเจดีย์ขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
เมื่อเป็นวัดสำคัญ ประดิษฐานพระเจดีย์ธาตุองค์สำคัญ จึงมีการบูรณปฏิสังข์มาทุกยุคทุกสมัย และมีการสร้างขึ้นใหม่เป็นเจดีย์ทรงระฆังในสมัยของพญามังรายแห่งล้านเมื่อปีพ.ศ.1826-1859 และบูรณะครั้งใหญ่ในยุคอาณาจักรล้านนารุ่งเรือง รัชสมัยพระเจ้าติโลกราชในปีพ.ศ.1990
ข้อสันนิษฐานในการกำหนดอายุและผู้สร้างพระธาตุ ก็คือ พระพุทธรูปดุนนูน 8 องค์ที่ประดับรอบองค์ระฆัง มีภาพพระพุทธรูปปางถวายเนตร 5 องค์และปางลีลา 3 องค์ ที่บริเวณใกล้พระบาท มีจากจารึกอักษรไทย-ล้านนา ภาษาไทยระบุชื่อผู้สร้าง เราก็ซูมสุดกำลังของกล้องเลยล่ะ ชื่อหนึ่งที่นักประวัติศาสตร์จารึกอ่านได้คือ "เจ้ามหาเทวี ผู้เป็นแม่แก่เจ้าพระยาทั้งสองพี่น้อง" ซึ่งเมื่อเทียบลำดับราชวงศ์ล้านนา หลังปีพ.ศ.1913 ก็มีเพียง "พระเจ้ากือนากับท้าวมหาพรหม เจ้าเมืองเชียงราย"
อาจารย์ศักดิ์ชัย จัดให้พระธาตุหริภุญชัยเป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา ที่อาจถือว่าเป็น "ต้นแบบ" เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นในล้านนาโดยเฉพาะ โดยมีสายวิวัฒนาการจากเจดีย์ลังกาผสมกับเจดีย์ทรงเดียวกันนี้ในแบบพุกาม องค์ประกอบต่างๆ ลงตัวและสมบูรณ์ จึงมีการสร้างเจดีย์รูปแบบนี้ตามวัดต่าง ๆ ในเวลาต่อมา เมื่อพิจารณารูปแบบพระพุทธรูป รูปแบบอักษรที่จารึก รูปแบบเจดีย์ และการตีความจารึก จึงบ่งบอกว่าพระธาตุหริภุญชัยองค์นี้ สร้างหรือซ่อมในสมัยของ พระเจ้ากือนาช่วงต้นถึงกลางพุทธศตวรรษทที่ 20
แล้วอาจารย์ก็เดินนำมาอีกด้านของพระอุโบสถ เพื่อดู "สุวรรณเจดีย์" ตามประวัติ (ตำนาน) กล่าวว่าพระนางปทุมวดี พระอคัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราชเป็นผู้สร้างในช่วงครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 17 และได้บูรณะสืบต่อกันมา ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาทที่เหลือหลักฐานสมบูรณจนถึงส่วนยอด เป็นรูปแบบเฉพาะอย่างหนึ่งของหริภุญชัยที่ส่งอิทธิพลทางศิลปะไปยังศิลปะล้านนาในยุคต้น แต่งานปูนปั้นพระพุทธรูปและกรอบซุ้มที่เห็นนี้เป็นงานซ่อมใหม่ในสมัยล้านนาแล้ว
แล้วก็พาเดินมาทางพื้นที่ของโรงเรียนใกล้วัด ดู เจดีย์เชียงยัน (หรือเชียงยืน) เป็นเจดีย์ทรงปราสาทห้ายอด มีฐานเขียง 3-4 ฐาน ถัดขึ้นไปเป็นฐานัว รองรับเรือนธาตุ ยอดเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ไม่มีบัลลังก์ ที่ฐานมีเจดีย์ประจำมุมขนาดเล็กที่เรียกว่า "สถูปิกะ" และองค์ระฆังประดับรัดอก ตามตำนานเล่าว่า แม่ครัวที่มาทำอาหารเลี้ยงฝ่ายชายที่สร้างเจดีย์หริภุญชัย ใช้เวลาช่วงพักมาร่วมกับสร้างเจดีย์องค์นี้ ...กำหนดอายุไว้ในราวพุทธศตวรรษที่ 18 ที่ให้อิทธพลไปยังศิลปะล้านนาตอนต้นถึงกลางพุทธศตวรรษที่ 19
ข้อมูลทางวิชาการด้านบนนั้น เราคัดจากหนังสือคู่มือนำชม ที่อาจารย์ศักดิ์ชัยจัดเตรียมให้ จบการบรรยายแล้วมีเวลา "ตามอัธยาศัย" ประมาณอึดใจนึง จึงรืบเข้าไปสักการะพระประธานในพระอุโบสถ ทำบุญหยอดตู้และขอพรตามสมควร
สุดท้าย ..ก่อนออกจากวัด ขอเก็บภาพหอไตรสวยงามหลังนี้ไว้ด้วย...แล้วพุ่งตัวไปเตรียมผ้าเย็น น้ำดื่มเย็นๆ นับคน ..ครบแล้ว ออกรถได้
ติดตามตอนต่อไป : คลิก
Create Date : 10 กันยายน 2566 |
Last Update : 10 กันยายน 2566 18:20:12 น. |
|
1 comments
|
Counter : 459 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:18:12:43 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
ปีที่แล้วได้มากราบค่ะ
งดงาม..เหลือจะกล่าว