|
HHR 5 : สุนทรภู่ ครูเสภาและทะเลอันดามัน
หนังสือเกี่ยวกับสุนทรภู่ที่บ้านมีหลายเล่มนะ ...เคยรายงานไว้ที่ Blog นี้ และที่ได้อ่านจบคือ นิราศพระประธม พอมาเล่นเกมนี้ ก็ยังมีโจทย์เกี่ยวกับสุนทรภู่อยู่อีก เราก็เลยเลือกหยิบเล่มนี้มาอ่าน
สุนทรภู่ ครูเสภาและทะเลอันดามัน บทเสภาตอนกำเนิดพลายงามและเสภาเรื่องพระราชพงศาวดาร
สุจิตต์ วงษ์เทศ บรรณาธิการ สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์รวมเล่มครั้งแรก : มิถุนายน 2538 ราคา 120 บาท / 183 หน้า ซื้อเมื่อ : 14 กรกฎาคม 2538
โปรยปกหลัง สุนทรภู่เป็น "ครูเสภา" คนสำคัญสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่งเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนตอนกำเนิดพลายงามเป็นเรื่องแรก สมัยรัชกาลที่ 2 และแต่งเสภาเรื่องพระราชพงศาวดารเป็นเรื่องสุดท้าย สมัยรัชกาลที่ 4
พระอภัยมณีของสุนทรภู่ ไม่มีบรรยากาศท้องทะเลอ่าวสยาม แต่เป็นบรรยากาศทะเลอันดามัน อ่าวเบงกอล แถบอินเดีย พม่า ไทย ลงไปถึงหมู่เกาะทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และศรีลังกา
ก็อย่างที่เคยเขียนไว้บ่อยแล้วว่า "สุนทรภู่" เป็นกวีในดวงใจของใครต่อใคร รวมทั้งเราด้วย ดังนั้นการที่นักวิชาการ นักประวัติศาสตร หรือนักเขียน จะหยิบงานเขียนของท่านบรมครูมาวิเคราะห์วิจารณ์จึงไม่แปลก เป็นกำไรคนอ่าน ที่ได้ทำความรู้จักกับ "สุนทรภู่" และงานเขียนของท่านในอีกแง่มุม
"สุจิตต์ วงษ์เทศ" เราไม่รู้จะเรียกเป็นนักเขียนหรือนักประวัติศาสตร์ แต่ก็เป็นอีกท่านที่นำเรื่องราวชีวิตและผลงานของ "สุนทรภู่" มาวิเคราะห์วิจารณ์ และได้เขียน "คำให้การ" เล่าที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า ...
เมื่อครั้งที่คุณขรรค์ บุนปาน มอบหมายให้ผมควบคุมการบันทึกเสียงขับเสภาตอนกำเนิดพลายงาม โดย ครูแจ้ง คล้ายสีทอง อันเป็นส่วนหนึ่งของรายการ เทิดสุนทรภู่ ที่กรมศิลปากร ร่วมกับบริษัท มติชน จำกัด (มอาชน) ศิลปวัฒนธรรม และเบียร์ช้าง ทำให้ผมต้องทบทวนเรื่องราวของสุนทรภู่ที่เกี่ยวกับปี่พาทย์และเสภาทั้งหมด เพื่อเขียนคำอธิบายย่อๆ ประกอบรายการ
ครั้นค้นไปเขียนไปก็ได้ "เกร็ด" มาเป้นกองจนเกินความต้องการของคำอธิบายย่อ ต้องทยายลงในหนังสือศิลปวัฒนธรรมรายเดือนบ้าง เขียนลงในหนังสือมติชน สุดสัปดาห์บ้าง ทั้งเห็นว่าเสภา 2 เรื่องของสุนทรภู่ไม่ยาวนัก น่าจะรวมให้อยู่ในที่เดียวกันเสียจะได้สะดวกที่ผู้สนใจจะเก็บไว้อ่าน ผมจึงตัดสินใจรวมพิมพ์เป็นเล่มขึ้นมาในลักษณะศิลปวัฒนธรรม ฉบับพิเศษ ตามที่เคยทำมาก่อนแล้ว
สุนทรภู่ : ลูกผู้ชายลายมือนั่นคือยศ
เล่าถึงประวัติสุนทรภู่ในแต่ละช่วงชีวิต ที่พอจะบอกย่อๆ ได้ว่า เกิด - วังหลัง, โต - วังหลวง, บวช - วัดหลวง และ ตาย - วังหน้า สันนิษฐานว่ามีบรรพชนอยู่ในตระกูลพราหมณ์ ชาวเมืองเพชรบุรี และ เป็นนักเลงทำเพลงยาวและบอกบทละครนอก
เสภา : เพลงขับของชาวบ้าน
เล่าถึงการขับเสภา ตั้งแต่เริ่มจากการขับคำกลอน มาเป็นขับคลอเสียงกรับ จนกระทั่งขับเสภาประกอบปี่พาทย์ และสันนิษฐานว่า ในช่วงหนึ่งของชีวิตของสุนทรภู่ ท่านก็เคยรับจ้างบอกบทละครนอกด้วย
ส่วนบทเสภาที่ยกมาตีพิมพ์รวมในเล่มนี้ ก็เป็นผลงานของท่านด้วยเช่นกัน
เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม แต่งหลังพ.ศ. 2352 ในแผ่นดินรัชกาลที่ 2 การที่ท่านเรื่องแต่งตอนนี้นั้น อาจเป็นเพราะ "ปมด้อย" ที่แฝงอยู่ในใจของท่านก็ได้ ท่านจึงเลือกแต่งตอนกำเนิดพลายงาม เพราะเป็นตอนที่พลายงามต้องพลัดพรากจากแม่ คือนางวันทอง เพื่อไปอยู่กับย่าคือนางทองประศรี แล้วตามหาพ่อที่แท้จริง คือขุนแผน ซึ่งตรงกับชีวิตของท่านที่ต้องไปตามหาพ่อที่เมืองแกลง แล้วเขียนนิราศเมืองแกลงเป็นเรื่องแรก
บทเสภาตอนนี้ น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะกระทรวงศึกษาตัดบางตอนมาให้เรียนในหนังสือวิชาภาษาไทย บทเด่นๆ ที่ท่องจำกันก็คือ
เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่ ชำเลืองแล ดูหน้าน้ำตาไหล แล้วกราบกรานมารดาด้วยอาลัย ลูกเติบใหญ่คงจะมาหาแม่ คุณ แต่ครั้งนี้มีกรรมจะจำจาก ต้องพลัดพรากแม่ไปเพราะไอ้ขุน เที่ยว หาพ่อขอให้ปะเดชะบุญ ไม่ลืมคุณมารดาจะมาเยือน แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ ว่ารัก คนอื่นสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน จะกินนอนวอนว่าเมตตาเตือน จะ จากเรือนร้างแม่ไปแต่ตัว แม่วันทองของลูกจงกลับบ้าน เขาจะพาลว้าวุ่น แม่ทูนหัว จะก้มหน้าลาำไปมิได้กลัว แม่อย่ามัวหมองนักจงหักใจ ฯ
นางกอด จูบลูกหลังแล้วสั่งสอน อำนวยพรพลายน้อยละห้อยไห้ พ่อไปดีศรีสวัสดิ์ กำจัดภัย จนเติบใหญ่ยิ่งยวดได้บวชเรียน ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ เจ้า จงอตส่าห์จำสม่ำเสมียน แล้วพาลูกออกมาหน้่าท่าเกวียน จะจากเีจียนใจ ขาดอนาจใจ ลูกก็แลดูแม่แม่ดูลก ต่างพันผูกเพียงว่าเลือดตาไหล สะอื้น ร่ำอำลาด้วยอาลัย แล้วแข็งใจจากนางตามทางมา เหลียวหลังยังเห็นแม่แล เขม้น แม่ก็เห็นลูกน้อยละห้อยหา แต่เหลียวเหลียวเลี้ยวลับวับวิญญาณ์ โอ้ เปล่าตาต่างสะอื้นยืนตะลึงฯ
เสภาพระราชพงศาวดาร แต่งหลังพ.ศ.2394 ในแผ่นดินรัชกาลที่ 4 ซึ่งทรงโปรดเกล่าให้สุนทรภู่แต่งขึ้น สำหรับขับถวายเมื่อทรงเครื่องใหญ่ (ตัดผม) เสภานี้ขาดเป็น 2 ตอน ตอนต้นแต่งตั้งแต่พระเจ้าอยู่ทองสร้างกรุงศรีอยุธยาไปจนเสร็จการรบขอม และข้ามไปแต่ตอนศึกพระเจ้าหงสาวดีคราวขอช้างเผือกในแผ่นเดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ มาจนถึงเมื่อพระเจ้าไชยเชษฐา กรุงศรีสัตนาคนหุตยกกองทัพมาช่วยกรุงศรีอยุธยา และถูกกลอุบายของพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีแตกกลับไป
การอ่านพงศาวดารในลักษณะคำกลอนนั้น ก็อรรถรสไปอีกแบบ แต่ถ้าเป็นขับเสภา เราคงจะน่าเบื่อ ไม่ตื่นเต้น เพราะไม่ใช่เรื่องแต่ง ไม่ใช่นิทาน ก็เลยอ่านไปเรื่อยๆ เดี่ยวก็จบ ...
พระอภัยมณี มีฉากอยู่...ทะเลอันดามัน อ่าวเบงกอล และมหาสุมทรอินเดีย
บทความนี้นำเสนอข้อสันนิษฐานและหลักฐานใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า ฉากของเรื่องพระอภัยมณี ที่อยู่อยู่ ทะเลอันดามัน มิใช่ใน อ่าวไทย อย่างที่เชื่อกันมาแต่เก่าก่อนว่า เกาะเสม็ด อาจจะเป็นเกาะแก้วพิศดาร แต่ควรจะเป็นช่วงศรีลังกา เรื่อยมาจนถึงเกาะต่างๆ ในอินโดนีเซีย
พระอภัยมณีได้ปี่มาจากไหน ?
ตั้งข้อสังเกตถึงอาวุธของพระเอกวรรณคดี ที่แตกจากคตินิยมในยุคสมัยนั้น อาจเป็นเพราะในช่วงที่แต่งนั้น "ครูมีแขก" ครูดนตรีคนสำคัญ เป็นบุคคลที่สุนทรภู่ยกย่องนับถือมาก จึงให้พระอภัยมณีเป่าปีเก่งอย่างครูและใช้เป็นอาวุธได้แบบเดียวกับเรื่องไซฮั่นด้วย
อ่านหนังสือที่เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์แบบนี้ ลับสมองดีนักแล เราได้คิดตามว่า จริงเหรอ ..เป็นไปได้เหรอ ...ไม่นะ ความเห็นคนนั้นน่าเชื่อกว่า อะไรทำนองนี้แหละ
ประวัติศาสตร์ต้องการคนค้นหาหลักฐานใหม่ เพื่อหักล้างความเชื่อเดิม ความรู้ทาง ประวัติศาสตร์จึงจะมีการพัฒนาต่อไป
ใช้ตอบโจทย์ >> 10-5. [ยาคูลท์ - นัทธ์- Clear Ice] 26 มิถุนายน วันสุนทรภู่: อ่านหนังสือเกี่ยวกับสุนทรภู่ เช่น ประวัติสุนทรภู่ วรรณคดีสุนทรภู่ หรืออ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับวรรณคดีไทย หรือวรรณคดีพื้นบ้านของไทย เช่น ปลาบู่ทอง
รีวิวนี้ เรียบเรียงใหม่จากความเห็นที่ได้รีวิวไว้ที่กระทู้ >> //www.pantip.com/cafe/library/topic/K9155239/K9155239.html ความเห็นที่ 152
Create Date : 09 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 27 ธันวาคม 2553 22:20:14 น. |
|
14 comments
|
Counter : 3278 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Clear Ice วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:24:12 น. |
|
โดย: nikanda วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:40:02 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:6:59:35 น. |
|
โดย: ลั่นทมขาว วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:18:12 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:01:11 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:50:04 น. |
|
โดย: BeCoffee วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:13:26 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 11 พฤษภาคม 2553 เวลา:6:41:28 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 11 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:45:44 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:22:46 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
เป็นหนังสือรวบรวมผลงานของท่าน
ยกเว้นแค่เรื่องเดียวก็คือพระอภัยมณี