The Other Sides of BobJims

ทางออกที่ผมคิด ความหวังที่ผมรอ...ประเทศไทยเราล้วนรักสงบ มิใช่หรือ?



ประเทศไทยเราล้วนรักสงบ
แต่ยามรบเรามุ่งมาดไม่ขลาดหนี
ประชาชนเราล้วนรักสามัคคี
ใยวันนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย

บางกลุ่มสู้เพื่อชาติด้วยวิธีผิด
บางกลุ่มทำเพื่อธุรกิจและเครือข่าย
บางกลุ่มทำงานไปวันวันพอกันตาย
บางกลุ่มมีเป้าหมายที่ซ่อนเร้น

รัฐ มีหน้าที่ทำการปกครอง
ควรรักษาความปรองดองแม้ยากเข็ญ
มิใช่ยุมิใช่ยั่วไม่ว่างเว้น
ควรมุ่งเน้นทำความดีที่สัญญา

สภานี้มีไว้เป็นที่พึ่ง
คอยฉุดดึงงานบริหารไม่เข้าท่า
ควรมุ่งเน้นทำเพื่อสุขชาวประชา
ควรมุ่งหน้าพลิกฟื้นแผ่นดินไทย

มิใช่ทำเพื่อธุรกิจคนบางกลุ่ม
มิใช่รุมเพื่ออำนาจเงินหน้าไหน
มิใช่หน้าด้านฟังอภิปรายช่างประไร
เลือกตั้งใหม่ก็ได้อีก เพราะซื้อมา

คนเขาเห็นกันทั่วโลกและทั่วเมือง
นายกเห็นเรื่องพับนกสนุกกว่า
ที่จะฟังการประชุมในสภา
ที่จะแก้ปัญหาประชาชน

กลุ่มพันธมิตรก็ไม่รู้เป็นมิตรใคร
ทำเพื่อตัวเองบ้างไหมยังสับสน
คอยชี้เชิญชี้ชวนระดมคน
แต่ไม่รู้สุดถนนเป็นเช่นไร

ประชาชนสู้เพื่อชาติเพราะรัฐชั่ว
แต่ผู้นำประท้วงมันก็มั่วใช่ไหม
อยากจะรู้อะไรคือประชาธิปไตย
ที่ประชาชนเป็นใหญ่บนผืนดิน

เจ็ดสิบหกปีก็ยังเวียนวน
คนที่จนก็ยังจนเป็นนิจสิน
คนที่รวยก็ร่ำรวยมากเกินกิน
คนในชาติเริ่มสูญสิ้นความมั่นใจ

อีกทั้งสูญความเชื่อใจเพื่อนร่วมชาติ
“เงิน” กลายเป็น “อำนาจ” อันยิ่งใหญ่
มิตรภาพจึงไม่เข้าใครออกใคร
ธนภาพกลายเป็นหัวใจให้ชาติคง

ออกมาเถิดพี่น้องช่วยกันสักนิด
ช่วยแก้ไขวิปริตที่ชาติเดินหลง
เริ่มที่ตัวเราเองที่ซื่อตรง
ต่อทุกเรื่องที่เราลงมือกระทำ

อย่าทำตัวอย่างที่เราไม่อยากเป็น
อย่าปล่อยใจให้เต้นไม่เป็นระส่ำ
เมื่อถูกเงินอำนาจมืดเข้าครอบงำ
จงคอยเตือนความจำ “กระทำดี”

เริ่มที่ซื่อสัตย์ต่อคำพูดและการกระทำ
เริ่มที่ย้ำความสำคัญของ “ธรรมวิถี”
ว่าชาติจะคงได้เพราะ “ความดี”
ใช่ว่าเงินเศรษฐกิจ “จีดีพี”จะสำคัญ

เริ่มระลึกการปกครองมุ่งเน้น “สุข”
สงบงามไปทั่วทุกเขตขัณฑ์
เน้น “พอมีกิน” “พอใช้”ในทุกวัน
เน้นที่สามัคคีกันอยู่อย่างร่มเย็น

เช่นค่าแรงให้คนเขาอย่ากดขี่
ตั้งราคาของแต่ละทีอย่ารีดเร้น
กำไรจากเงินทั้งหมดไม่ใช่ประเด็น
ชาติโปร่งใส สุข สงบ ร่มเย็น จึงสวยงาม

อย่าลืมว่าเราทุกคนอยู่ในบ้าน
ต้องช่วยทำให้สะอาดสะอ้านทั้งเมืองสยาม
ชาติโปร่งใสบ้านเมืองสงบทุกเขตคาม
เป็นไปตาม “วิถีธรรม-” ชาติเรา


จะปกครองด้วยเผด็จการ “ความดี”
หรือประชาธิปไตยที่ “ชั่ว”กลัว ขลาด เขลา
ล้วนอยู่ที่การกระทำต้องเลือกเอา
อนาคตประเทศเราอยู่ที่ ตัวเราเอง.
===========================================


โดยส่วนตัวผมคิดว่าประเทศเราตอนนี้ต้องการสองสิ่งสำคัญที่จะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
นั่นคือ การแก้ไขที่ความคิดของประชาชน (ซึ่งเป็นแผนระยะยาว)
ส่วนแผนระยะสั้นเราจะต้องหาทางที่จะ ถ่วงดุลอำนาจบริหาร ในตอนนี้ให้ได้

เพราะเหมือนกับว่ารัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 40 ของประเทศเรากลัวเรื่องเสถียรภาพของรัฐมากกว่าการถ่วงดุลอำนาจ

เห็นแก่เศรษฐกิจจนลืมเรื่องเผด็จการประชาธิปไตย

ตอนนี้เรามี “ศาลปกครอง” เป็นที่พึ่งอยู่ แต่การใช้ตัวช่วยเช่นนี้มันไม่ใช่จะทำได้บ่อยครั้งไป
ดังนั้นกลุ่มพันธมิตรตอนนี้จะต้องกดดัน และ หาทางที่จะดึงและหาทางปรับสร้างระบบขึ้นมาให้ได้
ดังนั้นจะพูดว่า พํนธมิตร ไม่มีประโยชน์เสียเลยก็ไม่ถูกนัก
เพราะว่าหากไม่มีพันธมิตร แหล่งข้อมูลบางอย่างที่ถูกรัฐบาลปิดบังอยู่ก็จะไม่ถูกเปิดเผย
เพราะเสียงของฝ่ายค้านในรัฐบาลตอนนี้ “พูดไม่ดัง” เสียแล้ว
พูดแล้วไม่มีคนฟัง ขนาดพูดในสภา นายกยังพับนกเล่นเฉยเลย

ดังนั้นหากเราใช้สถานการณ์ตอนนี้ให้เป็นประโยชน์ ก็สามารถสร้างประโยชน์ได้
เช่น จะเป็นประโยชน์มากถ้าพันธมิตร พยายามปลูกฝัง แผนระยะยาวในการอยู่กันในสังคมของคนชนชั้นกลาง ถึงสูง กับคนชั้นล่าง
ให้อยู่ด้วยกัน อย่างสงบสุข

ในขณะเดียวกัน ควรจะสร้างวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ว่าต้องการอะไร จะหยุดเมื่อไหร่ และ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเกิดประโยชน์ยังไง ให้เป็นรูปธรรม
ที่สำคัญต้องอย่าปล่อยให้ตัวเองหลงไปกับอำนาจเงิน จนใช้การชุมนุมพันธมิตรเป็นการกำไรให้ตัวเอง จนลืมคิดไปว่า ประชาชนเขามาเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อ แกนนำพันธมิตร

ไม่เช่นนั้น ในอีกไม่นาน สถานการณ์จะทำให้พันธมิตรเป็นเหมือนที่ฝ่ายค้านเป็นอยู่ในปัจจุบัน
แล้วเราจะไม่มีเสียงใดเลย ที่จะ “ดัง” ไปถึงคนอื่นๆทั่วประเทศและทั่วโลกอีก

“อย่าไปตีว่าใครเป็นพวกพันธมิตรใครเป็นพวกทักษิณเลยนะครับ ตอนนี้สามัคคีกันไว้ สร้างความเข้าใจระหว่างกัน มองความสงบสุข ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเป็นหลักกันนะครับ รัฐบาล นักการเมือง และ ผู้นำพันธมิตร ก็เหมือนพวกนักกีฬาที่ลงสนามเตะให้เราดูกัน ให้เราเชียร์กัน จบเกมส์ พวกเขาก็จับมือกัน แล้วเขาก็ได้ค่าตั๋วที่เราจ่ายเข้าไปดู ในขณะที่คนที่ต้องเสียเงินก็คือเราเอง ที่สำคัญก็คือ เราต้องรวมกันให้ได้ สามัคคีกันให้ได้ และแสดงให้ พวกนั้นทั้งหมดเห็นว่า เราจะไม่เป็นไปตามฝ่ายใดฝ่ายนึงยั่วยุ และหวังจะให้เราเป็น เราจะเป็นฝ่ายประชาชน ที่ดู พวกนั้นเล่าปาหี่กัน ที่สำคัญคือ พวกนั้นต่างหากที่ต้องรู้ตัวว่าต้องเล่นให้ถูกต้องและเป็นประโยชน์กับคนดูทั้งหมด ก็เราเป็นคนจ่ายค่าตั๋ว นะเฟ่ย”




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2551
16 comments
Last Update : 3 กรกฎาคม 2551 16:08:32 น.
Counter : 1199 Pageviews.

 

อย่างเพราะอะตี๋ ..

ว่าแต่ .. อะไรดลใจ ให้สิ่งที่อยู่ภายในจิตใจตี๋ พุ่งออกมาขนาดนี้ค่ะ

 

โดย: เจ้ลี่ IP: 203.121.175.111 3 กรกฎาคม 2551 16:32:32 น.  

 

ไทยนี้รักสงบแต่รบมิขาด
สามัคคีในชาติฟาดกันสิ้น
เลือดที่นองน้องพี่ร่วมแผ่นดิน
อีกทรัพย์สินของใครที่ทำลาย

คนยากจนข้นแค้นแสนรันทด
จะตายหมดประเทศน่าใจหาย
เหมือนช่วยกันปั้นก่อปราสาททราย
ไร้จุดหมายไร้จุดยืนบนผืนดิน....ไทย

คิดเหมือนกันค่ะ อย่าแบ่งมึง กู รู้หน้าที่ แค่นี้พอ
แหะ แบบอยากเห็นความสงบ
ตำรวจมีหน้าที่จับผู้ชาย
ทหารมีหน้าทีเป็นรั้วของชาติ
ไม่ใช่มานั่งคุม ม๊อบ คุ้มกันรัฐบาลที่นั่งพับนกกระดาษ
เล่น เฮ้อ ...กลุ้มใจค่ะ

 

โดย: กชมนวรรณ 3 กรกฎาคม 2551 17:05:05 น.  

 

แหะ คุณค่ะ เค้าบอกว่ารันเม้นต์ไม่สุภาพค่ะ ต้องให้เจ้าของบล็อกพิจารณาก่อง อิอิ แล้วแต่ จบข นะค่ะ พิจารณานานๆๆ ก็ได้ค่ะ อิอิ ไปดีก่า

 

โดย: กชมนวรรณ 3 กรกฎาคม 2551 17:06:42 น.  

 

^^
^^
^^
เ่อ่อ คุณรันครับ ตำรวจให้ไปจับผู้ร้ายดีกว่านะครับ
อย่ามาจับผู้ชายเลย ฮะฮะ
ฟังแล้วมันน่ากลัวๆไงไม่รู้ ฮะฮธ

 

โดย: BobJims (BobJims ) 3 กรกฎาคม 2551 19:34:24 น.  

 

อิอิ จบข.กลัวโดนจับหรอค่ะ
งั้นเปลี่ยนเป็น ตำรวจจับผู้ร้าย ค่ะ เหอๆๆ

 

โดย: กชมนวรรณ 3 กรกฎาคม 2551 21:55:17 น.  

 

"....ค่าแรงให้คนเขาอย่ากดขี่
ตั้งราคาของแต่ละทีอย่ารีดเร้น
กำไรจากเงินทั้งหมดไม่ใช่ประเด็น"

It doesn't seem to go that way...and it is not easy to make that happen, isn't it? Money, Profit, and Power are still dominant factors that make the society goes this way.

 

โดย: nokky IP: 130.88.71.156 4 กรกฎาคม 2551 23:47:34 น.  

 

อาจารย์รัฐศาสตร์ให้คะแนนเต็มครับพี่น้องคร้าบบบ

 

โดย: สาวเจียงใหม่ IP: 118.172.63.22 5 กรกฎาคม 2551 0:25:38 น.  

 

ลืมบอกไป หนูชอบประเด็นตอนจบน่ะ เห็นด้วยมากๆ อย่าไปอินมากกับพวกเล่นละครปาหี่ ปล่อยมันตีกันเอง เราอย่าไปเป็นเครื่องมือของฝ่ายไหนก็พอ ประสบการณ์สอนว่า สุดท้ายหัวหน้ารัฐบาล แกนนำอะไรทั้งหลาย ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยตายก่อนประชาชนตาดำๆซักที

 

โดย: สาวเจียงใหม่ (อีกแล้ว) IP: 118.172.63.22 5 กรกฎาคม 2551 0:33:37 น.  

 

เขียนกลอนใช้ได้ เยี่ยมจริง ๆ

 

โดย: กล้า IP: 202.44.210.45 5 กรกฎาคม 2551 10:25:31 น.  

 

โห... นับถือเลยอะ แวะมาค่า

 

โดย: T@@N IP: 58.8.105.176 9 กรกฎาคม 2551 7:48:22 น.  

 

ท่าน ว.วชิรเมธี ชี้ทางสว่าง ระบุในทางพุทธ ความเป็นกลาง
ทางการเมืองคือ การยืนอยู่ข้างธรรมะและความถูกต้อง มิใช่การอยู่เฉยๆ อย่างที่คน
ส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะการอยู่เฉยๆ นั้นจะนำประเทศไทยไปสู่หายนะ สงสัยระบบการศึกษา
ยิ่งสอนยิ่งทำให้คน “เชื่อง” ส่วนพระสงฆ์ควรเป็นต้นแบบของการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
โดยต้อง ‘ถ่ายทอดธรรม’ ให้กับนักการเมือง แต่ไม่เล่นการเมือง

นิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 หน้าที่ 54 ในคอลัมน์ธรรมาภิวัฒน์
ว.วชิรเมธี หรือ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ได้เขียนบทความเรื่อง “ความเป็นกลาง = ความเป็นก้าง”
อธิบาย เหตุผลในการวิจารณ์ทางการเมืองของท่านที่ส่งผลเสียต่อรัฐบาล
ทั้งนี้ ท่าน ว.วชิรเมธี อธิบายว่า ท่านไม่เห็นด้วยกับทัศนะของคนไทยส่วนใหญ่ที่ระบุว่า
พระต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมืองด้วยการไม่พูดถึงการเมือง ไม่เล่นการเมือง และควร
จะปล่อยวางเรื่องทางโลก มุ่งดับกิเลสอย่างเดียว โดยให้เหตุผลว่า “ในทางพุทธศาสนา
ความเป็นกลาง ก็คือ ความเป็นธรรม ธรรมะคือความถูกต้อง ... ดังนั้น ภาวะที่เป็นกลาง
การวางตัวเป็นกลาง ก็คือ การวางตนอยู่กับธรรมและธรรมอยู่กับใคร เราก็ควรจะสังกัดอยู่
ในฝ่ายนั้น การเป็นกลางจึงไม่ได้หมายถึงการไม่เลือกฝ่าย”

นอกจากนี้ ว.วชิรเมธี ยังกล่าวด้วยว่า “ความเป็นกลาง” ที่คนส่วนใหญ่ รวมถึง
นักวิชาการ สื่อมวชนอ้างถึงนั้นเกิดจากความไม่รู้ “การอยู่เฉยๆไม่เรียกว่า การวางตนเป็นกลาง
แต่ควรเรียกว่า วางตนเป็น ‘ก้าง’ คือ คอยขวางไม่ให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นในสังคม ... น่าเป็นห่วงมาก
ที่ในสังคมไทยของเราคิดกันตื้นๆ ว่า การวางตนเป็นกลาง คือ การอยู่เฉยๆ และก็คนกลุ่มใหญ่
พยายามขยายแนวคิดนี้ออกไปจนทำท่าจะเห็นดีเห็นงามกันทั้งประเทศ”

“ระบบการศึกษาของคนไทยนี้มันผิดปกติตรงไหนหรือเปล่าที่เมื่อศึกษากันไปๆ ทำไมคนไทย
ถึงได้ ‘เชื่อง’ มากขึ้นทุกที มหาวิทยาลัย , สื่อมวลชน, วัฒนธรรม ที่ทำให้คนมีความแกล้วกล้า
อาจหาญในการที่จะเผชิญกับความอยุติธรรม, ความเลวร้าย, ความฟอนเฟะ, ความสามานย์
ของชนชั้นนำ หรือ ของคนทั่วไป ซึ่งเต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบายกลายเป็นจิ้งจอกของสังคม
หายไปไหนกันหมด”

“บ้านเมืองที่มากไปด้วยคนที่วางตัวเป็นกลางด้วยการอยู่เฉยๆ นั้น ไม่ต่างอะไรกับการเปิดทาง
ให้ประเทศเดินเข้าสู่ความหายนะอย่างถาวรด้วยความยินดี ความสงบสุขที่ปราศจากปัญญานั้น
เป็นความสงบสุขของป่าช้ามากกว่าของอารยชน ความนิ่งที่เกิดจากพื้นฐาน คือ ความกลัวนั้น
ไม่ต่างอะไรกับความนิ่งของสิงโตหินตามวัด”

ขณะเดียวกันบทความชิ้นดังกล่าวยังอ้างอิงถึงสมัยพุทธกาลด้วยว่า

พระพุทธเจ้าทรงเป็นนักประชาธิปไตย นักสิทธิมนุษยชน โดยหักล้างคำสอนเรื่องพระพรหม
เรื่องระบบวรรณะ นอกจากนี้พระพุทธเจ้ายังทรงแสดงธรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเอาไว้มากมาย
ทรงห้ามทัพ ทรงเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับสงครามระหว่างรัฐต่างๆ รวมถึงเสนอระบบเศรษฐกิจ
แบบ “ทางสายกลาง” ที่เน้นการบริโภคเพื่อความอยู่รอดมากกว่าการบริโภคเพื่อความมั่งคั่ง
อย่างไม่รู้จบด้วย

ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าพระสงฆ์ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยสิ้นเชิงนั้น ว.วชิรเมธี จึงเห็นว่า
เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริงแล้ว ตามคำสอนของพุทธศาสนา พระสงฆ์ควร ‘
ถ่ายทอดธรรม’ ให้กับนักการเมืองได้ แต่เล่นการเมืองไม่ได้และควรเป็นต้นแบบในการ
วางตนเป็นกลาง ด้วยการเลือกยืนอยู่ข้างธรรมะ ธรรมะอยู่ที่ไหน พระก็ควรอยู่ที่นั่น

 

โดย: arijinjan 17 กรกฎาคม 2551 13:12:58 น.  

 

ดอง เหมือนกันเลย อิอิ

 

โดย: กชมนวรรณ 20 กรกฎาคม 2551 8:57:37 น.  

 

สุขสันต์วันเกิดนะเสี่ยว

 

โดย: 16เมษา 21 กรกฎาคม 2551 12:31:23 น.  

 

อ้าวเมื่อวานวันเกิดคุณหรอค่ะ
งั้นสุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะค่ะ
ขอคุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองให้คุณ
อยู่ดีมีความสุขค่ะ



มีความสุขมากๆๆนะค่ะ คุณเสี่ยว อิอิ(ตาม คห. ข้างบนค่ะ)

 

โดย: กชมนวรรณ 22 กรกฎาคม 2551 23:51:36 น.  

 

ยังมะหายยุ่งอีกหรอค่ะ อิอิ

 

โดย: กชมนวรรณ 29 กรกฎาคม 2551 6:56:29 น.  

 



ว้า ยังมะอัพอีก อิอิ งานยุ่งมากหรอค่ะ
พรุ่งนี้อย่าลืมกราบงามๆที่ตักแม่นะค่ะ

 

โดย: กชมนวรรณ 11 สิงหาคม 2551 11:29:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


BobJims
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอสงวนลิขสิทธิ์
งานเขียน/ภาพ/รูปถ่าย/ข้อความ/ผลงานเพลง
ทุกชนิดในบล๊อก
ตามพระราชบัญญัติ
ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ห้ามคัดลอก เผยแพร่
หรือดัดแปลง
โดยไม่ได้รับอนุญาต

ยกเว้น งานเขียน/ภาพ/รูปถ่าย/ข้อความ/ผลงานเพลง
ที่อ้างอิงแหล่งที่มา ที่ไม่ใช่โดยผู้ใช้นามแฝง BobJims (เจ้าของบล็อก)
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
3 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BobJims's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.