มกราคม 2556

 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Annanpurna Sanctuary : Chhomrong - Jinudanda - Landruk (Day 13)
เบื่อที่สุดในทริปคือ การคิดว่าตอนเช้าจะทานอะไร เพราะอาหารกลางวันเราทาน Dalbhat แล้วไม่ต้องคิด 
ส่วนอาหารค่ำก็เหมือนมื้อที่อยากกินอะไรก็กิน ไม่ต้องคิด แต่ตอนเช้านี่สิ เราต้องคิดว่าเป็นอาหารที่อยู่ท้องพอดีถึงเที่ยงแต่ไม่หนักเกินไปจนจุกเวลาเดิน

ว่าแล้วอาหารเช้าวันนี้ก็จบลงด้วยมาม่าแกงเขียวหวานไก่ + ซุปผักใส่เนย ที่ไม่รู้จะใส่มาทำไม

เทียบกับที่ผ่านมา วันนี้เดินลงเยอะมากจนเจ็บเข่า เล่นเอาแทบจะก้าวขาไม่ออก โดยเฉพาะเข่าข้างขวา จุดหมายของเราคือ Landruk อยู่สูงแค่ 1,500 เมตร แต่ทางเดินร้อนมากถึงมากที่สุดในโลก เรียกว่าแทบเผาไหม้ร่างกายเป็นจุล เดินทั้งตอนเช้าและตอนบ่าย แดดส่องหน้าเต็ม ๆ เดินสู้แดดอะ ถ้าไม่มีแว่นกันแดดตาคงบอดไปแล้ว (ความดำจากทริปนี้ก็ได้าจากวันนี้แหละ)

ช่วงเช้าเดินลงจาก Chhomrong จะเป็นการเดินลงกลางถนนแดดเปรี้ยง ก่อนจะเปลี่ยนมาเดินในป่า


เหมือนเดิมคือเราเดิน ๆ ไปแล้วก็ต้องหันย้อนมามอง Annanpurna


ความมหัศจรรย์คือ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ทิวทัศน์ไม่เหมือนกันเลย ไม่เบื่อเลย



และยิ่งโชคดีกว่านั้นคือ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งเค้าบานพอดี
สวยมาก ๆ ชมพูเต็มต้นเลย เลยขอจัด Collection มาให้ชมกันซะหน่อย
สีของดอกนางพญาเสือโคร่งที่นี่สีออกจะอ่อนกว่าที่บ้านเรา










ตอนเราเดินลงมา เราผ่านหมู่บ้านนึงที่ชื่อ Jinudanda เป็นหมู่บ้านที่มี Hot Spring แต่หลังจากที่เรากับเพื่อน Search ดูในอินเตอร์เนทแล้วค้นพบว่าบ่อน้ำร้อนดูไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร และนักท่องเที่ยวเยอะเกินไป เราเลยขอผ่านดีกว่า

อีกความตื่นเต้นคือ เราได้ข้ามสะพานแขวนยาวที่แกว่งได้




แถมยังได้ผ่านน้ำตกระยะประชิด (แบบเลี่ยงไม่ได้) ให้สายน้ำได้กระเซ็นใส่สดชื่นเป็นพัก ๆ

เราชอบที่ทานอาหารกลางวันนี้เป็นพิเศษ จำชื่อหมู่บ้านไม่ได้ เพราะเล็กมาก
มี Tea House อยู่แห่งเดียว อยู่ริมแม่น้ำกลางทุ่ง Millet และไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่น

วิวจากที่ทานอาหารกลางวัน ซึ่งเราทาน Dalbhat เหมือนเคย แต่อร่อยอะวันนี้




ตกบ่าย ลำบากที่สุด เหมือนหมดกำลังใจ ได้แต่หันหลังกลับไปมองยอด Annanpurna South ที่อยู่ลิบ ๆ ก็แอบใจหายนิดนึงว่าการเดินทางจะสิ้นสุดในวันสองวันแล้ว

ทางเดินตอนบ่ายร้อนนรกแตกมาก ย้ำว่า ร้อนนรกแตก ในใจได้แต่คิดให้รีบถึงที่หมายเร็ว ๆ เพราะเส้นทางเดินนี้ไม่มีร่มไม้ มีแต่ฝุ่น หิน แถมเข่าเราก็เริ่มเจ็บมากขึ้น 
เส้นทางที่ผ่านตอนบ่ายเป็นไร่นา ไร่ข้าวฟ่าง ทุ่งดอกมัสตาร์ท
เราเลยหาอะไรคุยให้หายเซ็งโดยการให้ Sanu สอนภาษาเนปาลให้




พอเราได้เข้า Landruk เท่านั้นหล่ะ โห ยังกะ Shire อีกละ น่ารักมาก ๆ
สมัยก่อนที่นี่เคยเป็นที่นิยมมากจึงมี Guest House เรียงรายกันมากมาย



Lodge วันนี้ชื่อ Tibetian Guest House ซึ่ง Sanu เลือกให้เป็นอันที่ไกลที่สุดในหมู่บ้าน อยู่ Top สุดของขั้นบันได แฮ่กอยู่


ถอดรองเท้าผึ่งหน่อย วันนี้เหงื่อออกเยอะ


วิวพระอาทิตย์ตก งดงามจดหยดสุดท้าย


อาหารค่ำวันนี้ เราสั่ง Spring Roll อร่อยใช้ได้เลย ปริมาณที่ให้ก็เยอะกว่าบนที่สูง อิ่มพุงแตกเลยก็ว่าได้ ยิ่งดีกว่าเมื่อมี Apple ให้กินอีกตะหาก (ห่างหายจากผลไม้มานานมาก) แถมตกค่ำก็มีเด็ก ๆ ในหมู่บ้านมาร้องรำทำเพลงให้เราช่วยบริจาคเงินเป็นทุนการศึกษา




Create Date : 06 มกราคม 2556
Last Update : 6 มกราคม 2556 22:22:21 น.
Counter : 1285 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

คนอย่างว่า
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



พื้นที่ขีด ๆ เขียน ๆ