ธันวาคม 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
21
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
20 ธันวาคม 2555
All Blog
Annanpurna Sanctuary : MBC-ABC-MBC (Day 10)
หลังจากทานอาหารค่ำเมื่อวาน เราก็ต้องเผชิญกับสิ่งน่าสะพรึงกลัว นั่นคือการล้างหน้า และ แปรงฟันในน้ำเย็นเฉียบเหลือเชื่อ เพื่อนวัดอุณหภูมิจากนาฬิกาข้อมือได้ประมาณ 4 องศา 

ไม่เคยคิดว่าการแปรงฟันจะลำบากขนาดนี้ ขนาดไม่ได้เป็นคนเสียวฟันนะ วิธีการแปรงฟันคือต้องเอาน้ำใส่แก้วก่อนแล้วเอาไปอมไว้ในปากปรับอุณหภูมิก่อนกลั้วล้างยาสีฟัน มิเช่นนั้นน้ำเย็นจัดจะทำให้ฟันที่ไม่เคยเสียวก็เสียวได้ทันที

ยิ่งตอนล้างหน้าที่ต้องวักน้ำขึ้นมาทำเอามือชาจนเจ็บ ส่วนหน้าก็ไร้ความรู้สึกไปแล้ว แต่จะให้ไม่ล้างก็ทนไม่ไหวอะ แค่ไม่ได้อาบน้ำก็รู้สึกแย่แล้ว

05.30 น. พวกเราตื่นเช้ากันตามเคย ตามประสาคนทำอะไรช้า เลยต้องรีบตื่นหน่อย ตามกำหนดการวันนี้เป็น Day Off ของเราโดยจะไปแค่ ABC แล้วกลับมา ดังนั้นเราเลยตั้งใจจะออกจากที่พักกันซัก 8 โมง

06.00 น. ที่พักเราวันนี้เต็มไปด้วยฝรั่ง เช้านี้เค้าตื่นกันเร็วมาก ไม่ถึง 06.30 คนก็หายกันหมดลอดจ์ เหลือเรากับเพื่อนนักทานอาหารเช้ากันจ๋อง ๆ เพียง 2 คนในห้องอาหาร ถาม Sanu เค้าบอกว่าคนอื่นในลอดจ์เค้ารีบไป ABC แต่เช้าเพื่อไปทานอาหารเช้าที่นั่นแล้วจะเดินกลับลงไปเลย เค้าไม่มีเวลาเหลือเฟือจะทิ้งขว้างวันได้อย่างพวกเรา

08.00 น. เราต้องออกเดินทางจากที่พักแล้ว นี่ขนาด 8 โมงแล้วนะ อากาศยังหนาวมาก ๆ แถมต้องเดินไต่ขึ้นจาก 3,600 เมตรที่พักไป 4,130 เมตรอีก

เดินไปสักพัก ย้อนกลับมามอง Macchapuchre พระอาทิตย์พ้นยอดเขาพอดี


วิวสองข้างทางนี่ก็แห้งแล้งเหมือนเดิม แต่ถึงแม้จะแห้งแล้ง แต่ก็เรียกได้ว่าสวยอย่างสุขใจ คือมันอลังการ สงบเงียบ ยิ่งใหญ่ บอกไม่ถูก 
ตอนแรกนึกว่าที่ Tadapani สวยแล้ว พอมาเจอใกล้ ๆ นี่คนละเรื่องกันเลย



ลูกหาบของเราไม่ต้องแบกของ เลยกระโดดกันได้สบายใจ


ถึงแม้เราจะต้องเดินช้า ๆ เพราะอากาศบาง แต่วิวสองข้างทางก็ยังทำให้เราตื่นตาตื่นใจได้ตลอด ทุ่งหญ้าสีเหลืองทอง โขดหินสีเทา สลับกับหิมะขาว แถมยังมีธารน้ำน้อย ๆ ไหลไปตลอดทาง ซึ่งอากาศคงเย็นมากจนทำให้ผิวน้ำจับเป็นก้อนน้ำแข็งบาง ๆ นี่ยังไม่นับภาพเทือกเขาหิมาลัยที่เรียงตัวไร่ริ้วกันมาเป็นทิวแถว ตัดกับสีท้องฟ้าใสหิ๊ง บรรยายยังไงก็ไม่เหมือน ต่อให้ถ่ายรูปสวยยังไงมันก็เก็บอารมณ์และบรรยากาศได้ไม่หมด เราเลยเลือกถ่ายรูปเล็กน้อยและซึมซับอารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นไว้ในความทรงจำดีกว่า เรียกได้ว่าเหมือนเดินขึ้นสวรรค์จริง ๆ





ด้วยความที่เป็น Day Off ของเรา พวกเราจึงเดินกันแบบสบาย ๆ เอื่อยเฉื่อยสุด ๆ เก็บภาพไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งถูกต้องแล้วเพราะตอนบ่ายหมอกจะลงจนไม่สามารถเก็บภาพแบบตอนเช้านี้ได้ 

ระหว่างทางเจอพี่คนไทย 2 คนที่เจอเมื่อวาน ซึ่งเค้านอนที่ MBC คนละที่กับเรา เค้าออกจาก MBC มาตอน 06.00 น. และกำลังจะเดินลงไป Deurali เพื่อขึ้น ฮ.กับเพื่อนเค้าอีก 1 คนกลับ

11.00 น. ถึง ABC แล้วและเรายังไม่มีอาการ AMS เลยแม้แต่น้อย พวกเรายังร่าเริงลั้นลามาก ขณะที่คนอื่นเดินขยับตัวกันช้า ๆ พวกเราก็วิ่งเล่นเขวี้ยงหิมะกันตามประสาคนเมืองร้อนที่ไม่ค่อยจะเจอหิมะ

เรายังไม่ค่อยหิว และมีเวลาเยอะ เราก็เลยไม่อยู่เฉย เดินออกไปวนอยู่รอบนั้นดูภูเขา ดู Glacier ที่มีทางยาวมาก ใหญ่มากด้วย มองจากด้านบนนึกว่าเป็นแค่เศษหินดินกอง ๆ กัน แต่ถ้าเข้าไปส่องดูใกล้ ๆ จะรู้ว่าเป็นชั้นน้ำแข็ง


South Annanpurna Glacier



Glacier จาก South Annanpurna ถ้า Sanu ไม่บอกก็คงนึกว่าเป็นแค่โคลนถล่ม




ภาพถ่ายย้อนลงไปที่ Base Camp


ยังกะอยู่บนสวรรค์







หิมะยังขาวบริสุทธิ์อยู่มาก ๆ


สักพัก เราก็ทานอาหารกลางวันกันที่นั่น ประทับใจในราคามากเลยจดมา ก็อะนะ กว่าจะขนขึ้นมาได้

MILK TEA - 75 RP
KOREAN NOODLE SOUP - 450 RP
COKE - 300 RP

อาหารเที่ยงวันนี้เลยเลยจัดการ SPAGHETTI TOMATO CHEESE กันแทน DALBHAT เพราะเพื่อนบอกไม่สามารถกระเดือกไอ้นี่ลงได้อีกต่อไป

ทานข้าวกันได้เกือบชั่วโมง มองออกไปข้างนอก ปรากฏเกิดหมอกลงอย่างหนา นั่นเป็นเพราะตอนบ่ายแดดแรง แดดจึงเผาหิมะบนยอดเขากลายเป็นหมอกปกคลุมทั่วบริเวณ เรียกว่าแทบจะไม่เห็นทางเลย

โชคดีมากที่เราถ่ายรูปกันอย่างหนำใจไปแล้วในตอนเช้า ถ้ากลับมาถ่ายตอนบ่ายล่ะก็หมดสิทธิ์







จากอากาศเย็นสบายในตอนเช้า พอหมอกหิมะลงเท่านั้น อากาศก็หนาวเย็นเฉียบขึ้นมาทันที 14.00 น. พวกเราจึงตัดสินใจจากลา ABC และใช้เวลาเอื่อยเฉื่อยมาก ๆ ในการเดินลง เรียกว่าเดินไป 30 เมตรพวกเราก็หยุดนั่งเม้าท์กันตามประสา บางทีก็เขี่ยโน่นนี่ระหว่างทางดู พยายามถ่ายรูปบ้างล่ะ ดูต้นไม้ใบหญ้าบ้างหล่ะ จน Sanu บอกว่าตั้งแต่เป็นไกด์มานี่เป็นสถิติการเดินลง ABC มา MBC ที่ช้าที่สุดในประวัติศาสตร์ของเค้า ก็แหม....ไม่ได้จะมากันง่าย ๆ ก็ต้องดื่มด่ำบรรยากาศหน่อยสิ

แถมวันนี้ตอนเย็น พวกเราก็ขอไม่อาบน้ำอีกสักวัน ไม่เคยดองตัวเองนานขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต

เกิดการค้นพบวันนี้เองว่า Omlette ที่นี่มันคือไข่เจียวบ้านเรานี่เอง

ตกดึก เราก็ยังออกมาดูดาวกัน ถึงจะะเย็นแค่ไหน แต่นี่เป็นท้องฟ้าตอนกลางคืนที่สวยที่สุดที่เคยเห็นมาเลย




Create Date : 20 ธันวาคม 2555
Last Update : 22 ธันวาคม 2555 22:37:25 น.
Counter : 1284 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

คนอย่างว่า
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



พื้นที่ขีด ๆ เขียน ๆ