ดี l เลว มีแค่เส้นกั้น

<<
ธันวาคม 2559
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 ธันวาคม 2559
 

I'm feeling blue



205 Day 33 Year

วันนี้วันที่ 8 ธันวาคม 2559 เวลา 06.37 น.

ผมได้รับโทรศัพท์จากแม่ ว่าอาม่า(ย่า) ได้เสียชีวิตลง เมื่อคืนประมาณตีสองกว่า

ตอนที่ทราบข่าวน้ำตาผมไม่ไหลสักหยด ทั้งๆที่เป็นคนที่ผมรักมากที่สุดเวลานี้

เป็นคนที่คอยห่วงใยผมมาตลอด อาจจะมีด่าบ้างเวลาที่ผมทำผิด แต่แกมักยื่นมือมาช่วยเสมอ

อาม่าและอากงเป็นลูกคนจีน ที่สร้างทุกอย่างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด สร้างจากสองมือ สองขาและน้ำพักน้ำแรงที่มี 

จากบ้านหลังคามุงจาก ใช้ตะเกียง ไม่มีที่ทางใดๆ ขยันทำมาหากินขายทุกอย่างที่ขายได้ อดออมมัธยัสถ์ทุกอย่าง มีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้น้อย ไม่มีหนี้สินใดๆ เก็บเงินจนก่อร่างสร้างตัว ลบคำสบประมาทของทุกคนลงได้

จนวันนี้บ้านที่แกอาศัยจนลมหายใจสุดท้าย ก็ไม่มีหนี้สินใดๆ แกเคยสั่งเอาไว้ ที่แปลงอื่นถ้าจะขายหรือจำนองธนาคารได้ทุกแปลง ยกเว้นแปลงที่แกอาศัยอยู่ห้ามเด็ดขาด แกอยากตายโดยไม่มีหนี้สินใดๆติดตัวแกไป 

วันนี้แกจากไป เป็นไปตามคำสั่งเสียแกทุกอย่าง

ขอบคุณที่ไม่ว่าผมจะทำตัวเลวและไม่ดีมากแค่ไหน อาม่าก็จะเรียกไปพูดคุย และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเสมอ โดยปราศจากอคติใดๆ

ขอบคุณที่ดูแลผมมาตั้งแต่ป.2 ตื่นเช้ามาผมมียิ่งกว่าการบริการของโรงแรมระดับห้าดาว มีอาหารมาประเคนอยู่ตรงหน้า(สองคนพี่น้อง) พวกเรามักโดนพ่อบ่นเสมอว่ากินกันหมดเกลี้ยงโดยไม่สนว่าอาม่าอากงจะมีกินมั้ย แต่ไม่เคยได้ยินอาม่าบ่นใดๆออกมา มีแต่บอกว่า "ไม่เป็นไร ขอให้หลานอิ่มไปโรงเรียนได้ ก็พอใจแล้ว"

และเมื่อกินอิ่มอาม่าจะเตรียมเสื้อผ้า และไล่ไปอาบน้ำเพราะมัวแต่ดูเจ้าขุนทองและการ์ตูน ไม่ไปอาบน้ำที และกลัวจะไปโรงเรียนสาย

อาม่าอากงจะคอยดูแลทุกข์สุข ของสองคนพี่น้องทุกวันมาตลอดสี่ปี ถึงเมื่อเราโตและย้ายออกมาเราก็เข้าไปเยี่ยมทุกเสาร์อาทิตย์ 

ทุกๆการตัดสินใจของผม อาม่ามีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ได้พูดุยคุยกัน แต่ท่านก็ปล่อยและเคารพการตัดสินใจของผู้อื่นเสมอ

แต่เหตุการณ์ที่จำได้ดีและทำให้ผมรักอาม่าที่สุด คือวันที่ผมตัดสินใจเปลี่ยนงานจากราชการสู่เอกชน เนื่องจากผมมองว่าราชการมีแต่ติดลบไม่พอใช้ และนิสัยไฮเปอร์อย่างผมเหมาะกับการทำงานเอกชนมากกว่า เพราะรายได้ของเอกชนขึ้นอยู่กับความขยัน ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย และที่สำคัญรายได้มากกว่าตอนทำราชการสองสามเท่าตัว

แต่เมื่อทำจริงก็ต้องมีการปรับตัว จากราชการนั่งไปวันๆ 7-8 ชั่วโมง ไม่ค่อยมีงานอะไร มีพิมพ์เอกสารนิดหน่อย ยุ่งบ้างช่วงต้นเดือนท้ายเดือน กลับกลายมาเป็นทำงานติดกัน 8 ชม. เพื่อทำยอดขาย ให้ได้ตามเป้า "หนัก"แต่สามารถทำได้

ตลอด 6-7เดือน ที่ทำเอกชนผมตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ไม่ได้ติดต่อใครเลย เพราะตอนที่ผมออกมามีหนี้สินติดตัวออกมาพอสมควร ไม่มีอะไรเลยแม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่มี พอเริ่มตั้งตัวได้จึงซื้อโทรศัพท์ซัมซุงฮีโร่เล็กๆหนึ่งเครื่อง พอเริ่มติดต่อคนได้ก็เริ่มมีสายจากทางบ้านมาถามไถ่ "หนี้สินเป็นยังไงบ้าง" "ได้เงินเดือนเท่าไร" "มีคืนบ้างมั้ย" วนเวียนถามอยู่แค่นี้

แต่แล้ววันหนึ่งก็มีโทรศัพท์จากพ่อ ผมกดรับ

พ่อ : อาม่าให้ต่อสายให้ มีอะไรจะคุยด้วย

ผมได้แต่ตอบว่า "ครับ" และรอฟังว่าอาม่ามีอะไรจะพูดกับเรา

เสียงแรกและคำถามแรกของอาม่าคือ "เหนื่อยมากมั้ยลูก ไหวมั้ย" มันเป็นคำพูดเพียงสองประโยค ที่เหมือนเสียงจากสวรรค์ ซึ่งเรารับรู้ได้ว่ามันมาจากความห่วงใยจริงๆ ไม่มีอะไรปลอมปน

ผมได้แต่ตอบว่า "ครับ" เช่นเดิม และบอกอาม่าเพิ่มเติมไปว่า "ไม่อยากคุยโทรศัพท์ในช่วงเวลางาน" และวางไป

แต่หลังจากกดวางสายอาม่าไป น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาเป็นสายน้ำ จนผู้ช่วย(คนขับรถ) ถามว่าเป็นอะไร อยู่ดีๆก็ร้องไห้

ตลอด 6-7 เดือน ที่เปลี่ยนผ่านเราอดทนและไม่ร้องไห้เลยถ้ามันไม่หนักหนาจนเกินไป ถ้าจะร้องก็กลับไปร้องที่ห้องหลังเลิกงาน 

แต่ ณ ตอนนั้นทุกอย่างมันกลั้นไม่อยู่จริงๆ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เรารับรู้ว่าเราไม่ได้อยู่ในโลกนี้คนเดียว ไม่ได้มีแค่พวกใส่หน้ากากจอมปลอมอย่างเดียว อย่างน้อยๆทั้งโลกก็มีหนึ่งคนแหละ ที่ห่วงเราด้วยใจจริง ไม่พูดถึงเรื่องเงินทอง

"ซึ่งขณะที่พิมพ์นี้ผมก็เริ่มมองไม่เห็นหน้าจอแล้ว"

จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ส่งอาม่าไปยังในที่ดีๆ ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว และอาม่าไม่ต้องกลัว อาม่าได้ชดใช้กรรมมาตลอด 6-7 ปี(มีอาการอัมพฤกษ์ครึ่งซ้าย) บนโลกมนุษย์ใบนี้แล้ว 

ที่เหลือก็มีแต่พื้นที่ดีๆ และสิ่งดีๆ ที่อาม่าจะได้เจอบนสรวงสวรรค์ อย่าได้กลัวไปเลยครับ

หลานคนนี้คงไม่ได้ไปส่ง ไปร่วมงาน เพราะต้องไปทำงานหาเงินสู้กับโลกใบนี้ต่อไป

และที่สำคัญที่ไม่ได้ไปร่วมงาน เพราะไม่อยากให้เกิดความอับอายภายในงาน กับคนที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวอย่างผม

ขอโทษที่ไม่สามารถทำตัวให้อาม่าภูมิใจอย่างที่อาม่าคาดหวังได้

และไม่รู้จะใช้เวลาครั้งนี้เท่าไหร่ ที่จะกลับมาตั้งตัวได้

แค่อยากให้อาม่าปล่อยวาง แล้วให้เป็นตามกรรมของผมเถิด อย่าได้ห่วงอะไรผมอีกเลย ไปในที่ดีๆ ที่อาม่าสมควรอยู่เถิดครับ อย่าได้กังวลหรือห่วงอยู่กับหลานเลวๆอย่างผมเลย

แต่สิ่งสุดท้ายที่อยากให้อาม่ารู้ ผมยังรักและห่วงอาม่าเสมอครับ ถึงผมจะไม่ได้เข้าไปดูแลเหมือนก่อน จนอาม่าจะจากไป ผมก็ยังไม่ได้เข้าไป เพราะผมไม่อยากให้ครอบครัวเราต้องอับอายกับผมไปมากกว่านี้ อาม่าโปรดเข้าใจผมด้วยนะครับ 

ด้วยรักและอาลัย
จากหลานที่ไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง










Create Date : 08 ธันวาคม 2559
Last Update : 8 ธันวาคม 2559 8:47:58 น. 2 comments
Counter : 436 Pageviews.  
 
 
 
 
สวัสดีครับ
ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านย่อมเข้าใจโลก เพราะท่านผ่านประสบการณืมามากพอสมควร อาม่าท่านจึงยินดีช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา

 
 

โดย: loongchat (สมาชิกหมายเลข 3016924 ) วันที่: 8 ธันวาคม 2559 เวลา:11:46:33 น.  

 
 
 
ครับลุงชาติ ก็ได้แต่หวังว่าท่านจะจากไปอย่างไร้ห่วง ไม่ต้องมากังวลกับคนอย่างผมอีก

 
 

โดย: bluebird (สมาชิกหมายเลข 3528394 ) วันที่: 8 ธันวาคม 2559 เวลา:13:07:50 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

สมาชิกหมายเลข 3528394
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ดี l เลว มีแค่เส้นบางๆกั้น
[Add สมาชิกหมายเลข 3528394's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com