"Wall in your heart!"
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
29 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 
แม่ แม่ แม่แป๊วววว...วว...



ยายซู้...นันท์ (สุนันท์) ตามที่ลูกของพี่สาวเรียก หรือแม่แป๊วของเราเป็นวีรสตรีเข้มแข็งในความอ่อนไหว อ่อนแอแต่ฮึดอยู่เสมอ แม่ไม่เคยมีคำว่าพักผ่อน นิ่งเป็นขยับจับโน่นจับนี่ จนบอกว่าพอเถ้อะ พักบ้างได้แล้ว แต่ก็ได้รับคำตอบอยู่เสมอว่า ปี๊ด ปี๊ด หนูทำได้ เอ๊ย ... แม่มีแรงแม่ทำได้ สนุกดี

เรามักจะเปรียบเปรยตัวเราและคนใกล้ชิดเป็นสิ่งโน่นสิ่งนี่เพื่อให้ได้เห็นภาพพจน์อย่างชัดเจน และย่อหน้านี้เราขอเปรียบเทียบแม่ของเราเป็นร่างกายและจิตวิญญาณของเรา เปรียบดั่งนี้เราก็มักจะต้องดูแลตัวเราเองให้ดีที่สุด เพราะมันคือร่างกายของแม่นั่นเอง (งงไหมล่ะนั่น)

คิดอยู่ตั้งนานว่าจะเล่าเรื่องต่อจากนี้ดีไหม เพราะเรากลัวว่าเราจะเสีย “ภาพลักษณ์” แต่เป็นไงเป็นกัน อย่างไงก็หนีตัวเองไปไม่พ้น ประจานตัวเองดีกว่าประจานคนอื่น ว่าไปคนอื่นอย่าทำตามก็แล้วกันนะ

เราทุเรศตัวเองเหลือเกินตั้งแต่เกิดมาจำความได้ เรามิได้เคยช่วยเหลือกิจการงานหลักอะไรของแม่เลย ยกเว้นแต่ว่า ล้างจาน (นาน ๆ ครั้ง) รดน้ำต้นไม้ (ทุกเย็นเป็นบางครั้ง) กรอกน้ำก็นาน ๆ ครั้ง เวลาที่เหลือ คือ เล่น เล่น แล้วก็เล่น ส่วนงานของแม่ล่ะ ซักเสื้อผ้าแม้กระทั่งกางเกงในของเราด้วยมือ ทำกับข้าว รีดผ้า เลี้ยงลูก โอ้ยยย...จิปาถะสารพัดจะทำ เฮ้อ...นึกถึงแล้วเนี่ยเรามันช่างไม่เอาไหนเลย

แม่เคยบอกว่า แม่ทำให้ลูกได้ทุกอย่าง ขอให้ลูกเรียน เรียน แล้วก็เรียน มาถึงบ้านทำการบ้าน ไม่ต้องกังวลเรื่องงานบ้านนะลูก แล้วอีกอย่างฟังแล้วสะอึก แม่จะบอกว่าแม่ทำให้ลูกได้ เพราะลูกของแม่ไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา อะไรที่ทำให้ลูกได้ แม่จะทำให้ ทำแทนพ่อ – สะอึกไหมเพื่อน ๆ --

โอ้โห...ความเป็นแม่นี่นะยากแท้หยั่งถึงความรักอันบริสุทธิ์มากจริง ๆ หลายครั้งหลายครา เราทำให้แม่ร้องไห้ กินข้าวไปร้องไห้ไปก็มี แต่เราก็สำนึกได้นะเข้าไปกราบเท้าขอโทษ เผลอ ๆ ก็ทำใหม่อีก เป็นวัฏจักรที่ไม่บ่อยนะ ส่วนใหญ่ก็จะนัวเนียเนาะแนะ แม่จ้ะแม่จ๋า บางทีก็ทำตัวเป็นแม่ซะเอง จนบางครั้งแม่ก็งงว่าใครเป็นลูกใครเป็นแม่ฟะเนี่ย

เรารักแม่ของเรามาก ในยามที่เราผ่าตัดใหญ่ ๆ ในหลาย ๆ ครั้ง เราไม่เคยบอกแม่เราเลย เพราะกลัวว่าแม่จะเจ็บเกินไปกว่าลูก เราไม่อยากเห็นสายตาห่วงหาเอ็นดูปนเศร้า ๆ ว่าทำไมลูกเราถึงเป็นอย่างนี้นะ เราไม่อยากให้แม่เราเศร้า ไม่อยากเห็นน้ำตาของแม่ จึงเลือกที่จะไม่บอกแม่ดีกว่า (คิดผิดคิดใหม่ได้นะ)

โดยเฉพาะการผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกของเรา จากที่แม่ไม่เคยเข้ากรุงเทพฯ ต้องเข้ามากับน้าที่ไม่เคยเข้ากรุงเทพฯ เหมือนกัน สอบถามเส้นทางกันเองจนมาเจอเราที่ห้องพักผู้ป่วย

“เป็นไงลูกเจ็บหรือเปล่า”
“ไม่เห็นเจ็บเลยแม่ แม่มาได้ไงเนี่ย” ฝืนตอบไปงั้นแหละที่แท้เจ็บเจียนตาย
“แม่จะนอนที่นี่ได้ไง อากาศก็หนาวแอร์เขาก็ไม่ปิดนะ หนูอยู่คนเดียวได้ แม่กลับบ้านเหอะนะ ที่นี่ขายของแพงนะ” เราตอบกระฉับกระเฉง

แม่เห็นดังนั้นก็ยังไม่คลายกังวล แต่พอเชื่อว่าลูกอยู่ได้แน่ ๆ เพราะโรงพยาบาลตามที่คณะแพทย์ได้รับเราไว้เป็นกรณีศึกษาเป็นโรงพยาบาลเอกชนเกรดเอบวก “งั้นแม่กลับนะลูก แม่เป็นห่วงน่ะสิเลยมาหา เห็นลูกอยู่สบายแล้วแม่ก็ดีใจ”

ร้องไห้ค่ะ หลังแม่ปิดประตูออกจากห้องไป หนูคิดถึงอยากให้แม่อยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา ฮือฮือ...แม่จ๋า

-- เลวไหมเรา --

แม่เป็นตัวแทนของความรัก แม่เชื่อว่ารักแท้มีจริงตอนที่ได้เจอกับพ่อ และพร้อมที่จะย้ายตามพ่อมาสร้างครอบครัวที่สุพรรณฯ เว้นระยะความสัมพันธ์จากครอบครัวต้นกำเนิดมา แต่ก็เป็นหมันเพราะด้วยเหตุผลของผู้ใหญ่ที่เราอยากจะปิดหูปิดตาไม่รับทราบ -- แม่กะพ่อเราตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่คนละเส้นทางแล้ว --

คำว่ารักของแม่ ถึงแม้ว่าไม่ได้พิสูจน์ได้ด้วยตัวของพ่อ แต่มันพิสูจน์ได้ด้วยการกระทำของแม่ที่สะท้อนผลมายังที่ตัวของเราเอง ทุกวันนี้คำว่าห่วงและรักลูกอยู่ในทุกห้วงวินาทีของแม่ แต่แม่ต้องเลี้ยงหลานที่สุพรรณฯ จนบางครั้งจนลืมดูแลตัวเอง เป็นสิ่งที่เราห่วงที่สุด ทำอย่างไรได้แม่เขารักที่อยากจะทำก็ห้ามไม่ได้ เราอยากให้แม่มาอยู่กับเราที่นี่ในบ้านแสนดีของเรา เราจะให้แม่พัก (คงเป็นไปไม่ได้) เราจะทำทุกอย่างให้แม่ทดแทนพระคุณที่ไม่สามารถแทนคุณได้หมดสิ้น อย่างน้อยที่สุดเราก็สำนึกได้ว่าที่เป็นเราทุกได้วันนี้เพราะเรามีแม่

รางวัลอันทรงเกียรติที่เขาบรรจงมอบให้แม่ของคนอื่น ๆ ในวันแม่ แม่แป๊วคงจะไม่ได้มีโอกาสได้รับเหมือนอย่างกับคนอื่นเขาหรอก แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้แน่ ๆ นั่นคือ เราจะเป็นรางวัลอันทรงเกียรตินั้นเอง จะทำให้ตัวเรามีคุณค่าเกินกว่าเหรียญตราใด ๆ และนี่แหละที่เชื่อว่าแม่คงจะภูมิใจที่สุดแล้ว จริงไหมคะ -- แม่ --

แม่ของหนู หนูรักแม่จ้ะ



Create Date : 29 สิงหาคม 2549
Last Update : 29 สิงหาคม 2549 8:54:10 น. 5 comments
Counter : 1081 Pageviews.

 
ถ้าคุณแม่รู้สิ่งที่น้องคิด... คุณแม่คงดีใจที่สุดในโลก..


โดย: มรรคณิชา วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:12:45:04 น.  

 
น่าปลื้มใจค่ะ


โดย: ระแนงไม้ วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:13:42:59 น.  

 
เชื่อมั้ยคะ ว่าโบว์อ่านแล้วร้องไห้

แม่โบว์ก็เลี้ยงโบว์กับน้องสาวมาด้วยตัวเองเหมือนกันค่ะ

และแม่ก็ไม่ให้โบว์ทำอะไรเลย บอกให้ตั้งใจเรียนอย่างเดียว

อ่ายแล้วโดนใจค่ะ


โดย: sasano_bori วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:6:38:09 น.  

 
เราก็ให้แม่อ่านบทความนี้แล้วเหมือนกัน แม่ก็ร้องไห้จ๊าก ๆ แม่สะดุดตอนที่เราเข้าโรงพยาบาลแล้วเจ็บเจียนตาย แม่ถามเราว่าตอนนั้นบอกว่าไม่เจ็บไง เหอ ๆๆ ร้องไห้ซะงั้น


โดย: biebie999 วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:8:13:04 น.  

 
อ่า...เศร้าเลยเพื่อน

แต่บีเขียนได้ซึ้งอ่ะ

คิดถึงแม่จัง

อาทิตย์นี้ไปหาแม่ดีกว่า..


โดย: janeko วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:11:28:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biebie999
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




"Erised stra ehru oyt ube cafru oyton wohsi"

"I show not your face but your hearts desire"
"ฉันไม่ได้แสดงภาพใบหน้าของคุณ แต่แสดงถึงความปรารถนาภายในใจ"

"เราเข้าใจว่าความรักของแม่และลูก เป็นความรักแบบหาที่สุดมิได้ แต่ความรักแบบคู่รัก เป็นความรักที่ช่วยหล่อเลี้ยงการดำเนินชีวิต"

พล่าม
เวลานี่ไวเหลือเกิน เผลอแป๊บ ๆ ก็ 36 แล้ว ชีวิตที่ผ่านมาได้ทำในสิ่งที่อยากทำมาเกือบหมดแล้ว สิ่งที่อยากทำล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกในวัยเด็ก

ทุกครั้งที่แหงนมองฟ้า เห็นเครื่องบิน ตอนเด็กคิดว่าเราไม่มีทางขึ้นได้หรอก เพราะที่บ้านไม่มีเงิน

อยากขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ก็ได้ขึ้น

อยากไปต่างประเทศ ก็ได้ไป

อยากไปเที่ยวบ้าง ก็ได้ไป

อยากนั่งรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ก็ได้นั่ง

อยากบวชพราหมณ์ ก็ได้บวช

อยากวาดรูป ก็ได้ทำ

อยากมีบ้านของตัวเอง ก็ได้มี

ชีวิตที่เหลือตอนนี้ ขอปลดหนี้ให้หมดก่อนตายและอยากทำให้แม่สบายกว่านี้

นั่งเพลิน ๆ ถามตัวเองว่าเรามาถึงช่วงปลายทางหรือยัง บางทีก็ตอบว่ามาถึงแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แต่อีกใจก็ยังอยากรู้ต่อไปอีกว่า ในอนาคตจะมีอะไรให้ได้ตื่นเต้นอีกไหม

หากเปรียบเป็นกราฟ ชีวิตเราตั้งแต่เกิดมีสูงมีต่ำและติดลบ ปัจจุบันนี้กราฟเป็นเส้นเรียบ ๆ ไม่สูงไม่ต่ำ แต่...ก็ไม่แน่นะ อาจจะเป็นเส้นตรงที่มีองศาต่ำลงก็ได้

เรียนรู้ตัวเองเมื่ออายุครบ 32
รักครอบครัว / รักแม่ / รักสันโดษ / ไม่ชอบสังคม / ขอมีเพียงเพื่อนที่เรียกว่ามิตรแท้สัก 1 คน ก็พอ / ความรักคือความผูกพันและการให้อภัย / เราสามารถอยู่คนเดียวได้ทั้งวันโดยไม่พูดกับใคร / ไม่สนใจคำนินทาใด ๆ รอบข้าง / ไม่ทนกับคนที่เราไม่อยากอยู่ด้วย

บ้าต้นไม้ / เลี้ยงสุนัข / ฟังเพลง POP, Jazz, Classic / คลั่งงานศิลปะ / อ่านหนังสือ / ชอบเสียงกีตาร์ / ไม่บ้าแฟชั่น / ไม่ชอบเสียงดัง / ชอบทำสมาธิ / ไม่ชอบแชต / ไม่ชอบคุยโทรศัพท์ / โลกส่วนตัวสูง / เพื่อนน้อย / อารมณ์ขัน / ดูหนังตลก / ชอบทำกับข้าว / ไม่ชอบล้างจาน / กลัวการขึ้นเครื่องบิน / ไม่ดื่มกาแฟ / ไม่ชอบบุหรี่ / ไม่ชอบดูละคร / ชอบกินผักผลไม้ / ไม่ชอบความเร็ว / ไม่เสแสร้งแกล้งโกหก / ไม่ชอบคนพูดปดปกปิด / ไม่ชอบเล่นเกม!

.....ขอใช้ชีวิตแบบสมถะ แบบนี้ตลอดชีวิต
Friends' blogs
[Add biebie999's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.