|
9.โครงสร้างธุรกิจแบบPartnership 2 แบบ
โครงสร้างธุรกิจรูปแบบที่สองนี้คือ Partnership ซึ่งในภาษไทยก็เทียบเคียงได้กับ"ห้างหุ้นส่วน"นั่นเอง รูปแบบ Partnershipนี้ คือรูปแบบโครงสร้างธุรกิจที่ประกอบด้วยหุ้นส่วนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และโครงสร้างธุรกิจรูปแบบ Partnership นี้ก็ยังแบ่งย่อยออกได้อีกเป็น 2 รูปแบบ คือ General Partnership (ห้างหุ้นส่วนสามัญ) และ Limited Partnership (ห้างหุ้นส่วนจำกัด) ฟังดูยุ่งใช่มั้ยคะ แต่จริงๆแล้วไม่ยุ่งค่ะ
**General Partnership** หลักการโดยกว้างแล้ว General Partnership นี้ใกล้เคียงกับรูปแบบ Sole Proprietorship ที่เบลล์กล่าวถึงในบทที่แล้วมากๆค่ะ คือกฎหมายจะถือว่าเจ้าของกิจการ(หุ้นส่วนทุกคน) เป็นบุคคลเดียวกับกิจการ ดังนั้นทั้งภาระหนี้สิน ทั้งภาระภาษีจากรายได้ของกิจการจะถือเป็นความรับผิดชอบ"ส่วนตัว"ของหุ้นส่วนด้วย คือ
- กำไรของกิจการจะถูกกระจายตามสัดส่วนเพื่อนำไป"รวมคำนวน"กับเงินได้ส่วนบุคคลของเจ้าของกิจการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และถ้าขาดทุน ก็นำส่วนขาดทุนไปหักออกจากฐานภาษีได้
- และในกรณีที่กิจการมีหนี้ และเงินในกิจการมีไม่พอที่จะชำระหนี้ เจ้าของกิจการ(หุ้นส่วนทุกคน)ก็ต้อง"ควักเนื้อ" คือควักกระเป๋าส่วนตัวมาจ่ายหนี้ของกิจการจนครบค่ะ ดังนั้นหากธุรกิจประสบปัญหา นอกจากหุ้นส่วนทุกคนของโครงสร้างธุรกิจแบบนี้จะมีความเสี่ยงที่ต้องสูญเสียเงินลงทุนทั้งก้อนแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่อาจต้องควักกระเป๋าเพิ่มอีก เพื่อนำเงินมาจ่ายชำระหนี้จนครบค่ะ ฟังแล้วสยองนะคะ
**Limited Partnership** ส่วนรูปแบบ Limited Partnership โดยสาระสำคัญหลักก็คือหุ้นส่วน"บางคน"สามารถมีความรับผิดชอบหนี้สินแบบ "จำกัด" (Limited Liability) ค่ะ คือหุ้นส่วนบางคนไม่ต้อง"ควักเนื้อ"ก็ได้ ความเสี่ยงอย่างมากก็คือเงินที่ลงทุนไปนั้นอาจสูญไปทั้งก้อน แต่ไม่ต้องควักเนื้อเพิ่มถึงแม้กิจการจะยังมีหนี้สินอยู่
แต่ในโครงสร้างรูปแบบ Limited Partnership นี้ ยังไงก็ต้องมีหุ้นส่วนแบบ General Partnership ที่จะยอมรับผิดชอบหนี้สินแบบ "ไม่จำกัด"รวมอยู่ด้วยอยู่ดีค่ะ คือมีหน้าที่ต้องจ่ายชำระหนี้ของกิจการจนหมด ซึ่งอาจต้องเดือดร้อนกระเป๋าส่วนตัวด้วย
คุณผู้อ่านคงสงสัยใช่ไหมคะว่าทำไมฟังดูไม่เสมอภาคเลย แล้วใครจะยอมเป็นหุ้นส่วนที่จะเสียสละรับผิดชอบหนี้สินแบบไม่จำกัดนี้ จริงๆแล้วความสมดุลของอำนาจของรูปแบบนี้ย่อมมีอยู่ค่ะ กฎหมายอเมริการะบุว่าหุ้นส่วนพวกที่รับผิดชอบหนี้สินแต่เพียง"จำกัด" นี้จะไม่มีสิทธิในการบริหาร เรียกว่าออกได้แต่ทุน แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงหรือตัดสินใจในการจัดการธุรกิจค่ะ ต้องปล่อยให้หุ้นส่วนที่ยอมรับผิดชอบหนี้สินแบบ"ไม่จำกัด"บริหารไป และถ้าทางรัฐเห็นว่าหุ้นส่วนพวกแรกเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วยเมื่อไร หุ้นส่วนพวกนี้จะถูกจัดให้กลายพันธุ์เป็นพวกหลัง คือต้องร่วมรับผิดชอบหนี้สินแบบ"ไม่จำกัด"ทันที
รูปแบบ Limited Partnership นี้มีเพื่อเอื้อให้เจ้าของกิจการแบบ General Partnership สามารถเพิ่มทุนได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถดึงเงินจากนักลงทุนภายนอกมาอัดฉีดได้ง่าย โดยให้การเป็นหุ้นส่วนเป็นข้อตอบแทน และก็ไม่ต้องห่วงว่าจะสูญเสียอำนาจในการบริหาร ฟังดูสมเหตุสมผลแล้วใช่ไหมคะ
โครงสร้างรูปแบบPartnership ทั้ง 2 แบบนี้ ไม่อนุญาตให้คนต่างชาติที่ไม่มีกรีนคาร์ดจดทะเบียน เจ้าหนี้คงข้ามนำ้ข้ามทะเลมาตามทวงหนี้เราไม่ไหว
ข้อคิดปิดท้ายวันนี้เป็นเรื่องของความรับผิดชอบค่ะ การเป็นเจ้าของกิจการอาจเลือกจำกัดความรับผิดชอบหนี้สินได้ แต่การเป็นเจ้าของชีวิต ถ้าเราคิดจะจำกัดความรับผิดชอบชีวิตตัวเองเมื่อไร ชีวิตคงเฉาหรืออาจพังพินาศเอาได้ง่ายๆนะคะ "When you blame others, you give up your power to change."~Author Unknown ถ้าเรามัวแต่คอยโทษผู้อื่น (ในเรื่องที่เราไม่สบอารมณ์) ก็เท่ากับเรายอมที่จะสูญเสียอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลง(ให้เรื่องที่ไม่สบอารมณ์นั้น เป็นไปตามที่เราอยากให้เป็น) คุณผู้อ่านเห็นด้วยไหมคะ
Create Date : 23 กันยายน 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 19 ตุลาคม 2552 13:00:24 น. |
Counter : 15110 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Scalopus+ IP: 124.120.29.9, 203.144.144.165 23 กันยายน 2552 22:32:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: zeedhama 24 กันยายน 2552 22:15:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: Stimpers IP: 124.120.125.194 19 ตุลาคม 2563 21:21:24 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]
|
* SME Entrepreneur of a jewelry business in USA * Entrepreneurial and Lifestyle Writing Hobbyist * Cheese, Chocolate, Coffee Enthusiast
|
|
|
|
|
|
|
|
วันนี้ทำดีถวายในหลวงหรือยังครับ
โจ...พลังชีวิต
คลิกเพื่อไปเติมพลังชีวิตจ้า
//powerup.bloggang.com