Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
23 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
รวบรวมข่าวแองจี้สละตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 3

แองจี้ลัดฟ้า ไปอเมริกา ทุกฝ่ายปิดปาก

"แองจี้" บินกลับอเมริกาแล้ว บิดาปิดปากเงียบเรื่องลูกสาวถ่ายหวิว ด้าน "บีอีซี เทโร" โบ้ยไม่ขอยุ่งเกี่ยว ภายหลังการแถลงข่าวสละตำแหน่งแบบกะทันหันของ น.ส.อัจฉรา แมคคาย หรือ แองจี้ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 และผู้บริหารบีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์


เมื่อวันที่ 20 กันยายน โดยให้เหตุผลว่า แองจี้ต้องการเรียนต่อและติดสัญญากับโมเดลลิ่งที่เธอสังกัดอยู่ จึงทำให้ไม่มีเวลาที่จะปฏิบัติหน้าที่มิสไทยแลนด์เวิลด์ พร้อมกับมอบหมายให้ น.ส.สิรินดา เจนเซ่น หรือ ซินดี้ รองอันดับ 1 รักษาการตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 แทน

เหตุผลดังกล่าวสร้างความกังขาแก่ผู้ติดตามข่าวอย่างมาก เนื่องจากได้มีกระแสข่าวลือสะพัดถึงเบื้องหลังการสละตำแหน่งครั้งนี้ว่า เป็นเพราะ น.ส.อัจฉรา เคยถ่ายภาพวาบหวิวมาก่อน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือถึงการเรียกร้องสิทธิและค่าตอบแทนในการเป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์มากเกินไป อาทิ เรื่องเงินเดือนที่ขอเพิ่มเป็นเดือนละ 1 แสนบาท เรื่องที่พักที่คับแคบเกินไป พร้อมกับเรียกรับค่าตอบแทนในการออกงานแต่ละวันด้วย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายโรเบิร์ต แมคคาย บิดาของแองจี้ ซึ่งกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น และตอนนี้มารดา (นางรัชนา) ก็กลับไปจ.เชียงใหม่แล้ว ส่วนแองจี้ก็ไปอเมริกาแล้วเมื่อคืนที่ 20 กันยายน ทุกอย่างให้ไปถามทางบีอีซี เทโร เอง

อย่างไรก็ดี น.ส.ศุภิสรา เผือกกัน ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับตอนนี้ถือว่าแองจี้ได้ลาออกจากการเป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์ไปแล้ว ดังนั้นข่าวคราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับตัว น.ส.อัจฉรา ทางบีอีซีเทโรถือว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยว

"กรณีแองจี้ถือว่าเธอมาลาออกจากตำแหน่งนี้เอง เพียงแต่ทางเราไม่ให้ออก เพราะเป็นการให้เกียรติคณะกรรมการตัดสิน แต่เนื่องจากเธอไม่สามารถประกอบภารกิจได้ ดังนั้นเงินรางวัลในฐานะมิสไทยแลนด์เวิลด์ทางบีอีซีจะเก็บไว้ก่อน แต่เงินรางวัลขวัญใจนางงาม และขวัญใจสื่อมวลชนเธอก็จะได้รับตามปกติ" น.ส.ศุภิสรา กล่าว

สำหรับตำแหน่งรักษาการแทนมิสไทยแลนด์เวิลด์ของน.ส.สิรินดา นั้น ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์คนเดิม กล่าวว่า ก็จะได้รับเงินรางวัลในฐานะรองอันดับ 1 และเงินค่าตอบแทนในการออกงาน หรือถ่ายทำรายการในฐานะผู้รักษาการแทนของมิสไทยแลนด์เวิลด์ต่างหากแล้วแต่กรณีไป ส่วนการปฏิบัติภารกิจในการเป็นตัวแทนสาวไทยในการประกวดมิสเวิลด์ 2005 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนในเดือนธันวาคมนี้ ทางต้นสังกัดมิสเวิลด์ก็มิได้ขัดข้องแต่ประการได้

"ก่อนหน้าที่จะมีการแถลงข่าว ทางผู้บริหารจะต้องแจ้งให้ทางต้นสังกัดทราบก่อนอยู่แล้ว ซึ่งทางบริษัทมิสเวิลด์เองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่จะให้ซินดี้เข้าประกวดมิสเวิลด์ และเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเรา" ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์แจง

ด้าน น.ส.สิรินดา หรือ ซินดี้ ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 21 กันยายน โดยได้เดินทางไปให้สัมภาษณ์รายการ “สบายสไตล์มยุรา” ร่วมกับ น.ส.กนกกาญน์ อิมทิม หรือ กิฟท์ รองอันดับ 2 จากนั้นในช่วงบ่ายจึงเดินทางไปถ่ายแบบโฆษณาภาพนิ่งให้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสปอนเซอร์

ส่วนในวันที่ 22 กันยายน น.ส.สิรินดาจะต้องไปถ่ายแฟชั่นให้กับนิตยสารต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ของกองประกวดดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งในวันแรกของการปฏิบัติภารกิจซินดี้มีสีหน้าที่สดใส และยิ้มตลอดเวลา รวมทั้งไม่รู้สึกกดดันอะไร โดยซินดี้เปิดเผยผ่านเจ้าหน้าที่ว่า "ดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงและจะทำให้ดีที่สุด"



นางงามสู่นางแบบ เส้นทางคู่ขนานของ "แองจี้"

สโลแกน "งามอย่างมีคุณค่า" ของเวทีการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ อาจต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตาของผู้คว้าตำแหน่งนั้น แม้ความสวยของเธอจะฉายความโดดเด่นเมื่ออยู่บนเวที แต่หลังจากได้รับตำแหน่งแล้ว ชีวิตของผู้สวมมงกุฎจะเปลี่ยนแปลงไปทันที


ภารกิจของมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 อาจหนักหน่วงจน "แองจี้" อัจฉรา แมคคาย หญิงสาววัย 21 ปี ไม่ทันตั้งรับ เธอจึงตัดสินใจสละตำแหน่งอันทรงคุณค่านั้นโดยอ้างเหตุผลด้านการเรียนและเลือกที่จะโลดแล่นบนเส้นทางนางแบบมากกว่าจะอยู่กับสถานะ "นางงาม" ท่ามกลางกระแสข่าวด้านลบที่ถูกกระพือเป็นระยะๆ ตั้งแต่การถ่ายภาพหวิว ไปจนถึงการเรียกร้องสิทธิกับกองประกวดจนเกินที่จะรับได้

เส้นทาง "นางงาม" กับ "นางแบบ" อาจเป็นทางคู่ขนานสำหรับแองจี้ แต่สำหรับอดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์อย่าง "ลูกเกด" เมทินี กิ่งโพยม แล้ว กลับเป็นเส้นทางที่บรรจบกันได้จนถึงปลายทาง แม้ตัวเธอจะเริ่มต้นจากการเป็นนางงามก่อนเป็นนางแบบก็ตาม

"การเป็นนางงามถือเป็นการเปิดประตูหลายๆ ประตู ซึ่งทำให้เจอเส้นทางหลายเส้นมากมาย เพราะไม่ได้หมายความว่าเป็นนางงามแล้วเป็นนางแบบไม่ได้" มิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 1992 กล่าว และรู้สึกเสียดายโอกาสแทนแองจี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล

อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ ฉายภาพแห่งความภาคภูมิใจต่อว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เธอต้องผ่านเวทีประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ในปี 1992 แล้วเป็นตัวแทนไปประกวดมิสเวิลด์ที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยได้ตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในเอเชีย จากนั้นจึงเข้าสู่วงการนางแบบ เป็นวีเจรายการแชนแนลวี ผ่านงานละครและภาพยนตร์ จนปัจจุบันเธอมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งลูกเกดภาคภูมิใจเหลือเกินที่มีโอกาสและงานดีๆ เข้ามา

"การที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะไปคว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์มันยากมาก และเป็นตำแหน่งที่เกดมองว่า ยิ่งใหญ่มากๆ แต่ไม่เป็นไร เรายังมีน้องซินดี้ที่จะไปประกวดแทน เพียงแต่เกดรู้สึกเสียดายแทนที่เขามาถึงจุดนี้แล้ว"

ความเห็นของมิสไทยแลนด์เวิลด์รุ่นพี่สอดคล้องกับมิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 1996 อย่าง "ซินดี้" สิรินยา เบอร์บริดจ์ (บิชอฟ) ด้วยทั้งคู่เจนจัดอยู่ในวงการนางแบบมานาน โดยเฉพาะซินดี้นั้น เธอเคยเป็นนางแบบโฆษณาและนางแบบบนแคทวอล์ค ก่อนจะก้าวสู่การประกวดนางงามเสียอีก

"ชีวิตมันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ถ้าเราไม่ได้เป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์ ก็อาจจะไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างมันพุ่งเข้ามาเต็มตัว พอได้ตำแหน่งมันก็ส่งผลหลายๆ อย่าง เมื่อก่อนนางงามมีน้อยเวที คนเขาก็จะรอดูว่าใครจะได้ตำแหน่ง"

ภารกิจของผู้ครองมงกุฎความงามเริ่มต้นตั้งแต่เดินลงจากเวที ซินดี้ยอมรับว่า เหนื่อยมากกับภารกิจต่างๆ ที่เข้ามาแต่ก็เป็นประสบการณ์ที่เธอเลือกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเปิดรับโอกาสที่ก้าวเข้ามาโดยไม่จำเป็นต้องเลือกทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

"อย่างกรณีของซินดี้ มันก็ไปพร้อมๆ กันได้ เพียงแต่ปีแรกเราก็ต้องปฏิบัติภารกิจนางงามก่อน ตอนนั้นซินดี้ก็ยังมีงานถ่ายแบบเข้ามา กองประกวดก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่จะต้องบอกให้กองประกวดทราบว่าเราทำอะไรบ้าง บางทีเขาก็จะดูความเหมาะสมให้ เพราะพอเราเป็นตัวแทนขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง เราทำอะไรก็ต้องระวังหมด ต้องดูภาลักษณะ และชื่อเสียงด้วย " ซินดี้ กล่าวและให้ความเห็นกรณีการสละตำแหน่งของแองจี้ว่า หากเป็นการเซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งต่างประเทศ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะปฏิบัติภารกิจที่นี่ แต่ทั้งนี้อาจมีเหตุผลส่วนตัวอื่นๆ ด้วย

อย่างไรก็ดี ซินดี้ ยังย้ำว่า การได้รับตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ เป็นเหมือนใบรับประกันคุณภาพความงามของเธอเช่นกัน เพราะหากไม่ได้เข้ามาประกวด เธออาจจะเข้าสู่เส้นทางบันเทิงได้ แต่อาจต้องใช้เวลานานในการพิสูจน์ตัวเอง ส่วนกรณีข่าวฉาวต่างๆ นั้นมักเกิดขึ้นทุกปีกับคนที่เป็นตัวเก็ง

"ทุกคนก็อาจจะเคยตัดสินใจผิดพลาด ซึ่งบางทีเราก็ต้องดูแต่ละกรณี เขาไปถ่ายหวิวแค่ไหน ถ้าเป็นชุดว่ายน้ำก็ธรรมดาเพราะเมืองนอกไม่เหมือนบ้านเรา แต่ถ้าไปเป็นเด็กบาร์ อันนั้นก็คนละเรื่อง"

ด้าน "ปู" ปริศนา กล่ำพินิจ ผู้คร่ำหวอดในแวดวงนางงามมานานนับสิบปี เผยว่าที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ของการจัดประกวดนางงามในประเทศไทย ไม่เคยมีใครสละตำแหน่ง เพราะเป็นเรื่องเสียหายทั้งกองประกวดและตัวนางงามเอง

"ถ้าคุณจะเรียนต่อหรือจะเป็นนางแบบ ได้ตำแหน่งแล้วคุณค่อยเริ่มไปสู่การทำงานจริงๆ จังๆ ดีกว่า ตำแหน่งคุณไปที่ไหน ก็คือมิสไทยแลนด์เวิลด์ มันเป็นมงกุฎอันทรงเกียรติ เป็นเวทีระดับประเทศ ไม่ใช่ประกวดแบบเด็กๆ เราทำมา 18 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้" ปริศนา แสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้เธอยังกล่าวว่า เส้นทางการประกวดเป็นบันไดที่ส่งให้คนคนนั้นได้รับโอกาสและสิ่งที่ดีแก่ชีวิต โดยที่สามารถทำหลายอย่างควบคู่กันได้

"ภายใน 1 ปี มันอาจจะมีข้อจำกัดมากหน่อย แต่ถ้าคุณปูพื้นดี คุณก็ทำงานได้เยอะ มันสามารถทำงานควบคู่กันไปได้ระหว่างการเป็นนางงามกับนางแบบ แต่ทั้งนี้วิถีชีวิตคนก็ต่างกัน แล้วแต่จะเลือก" อดีตพี่เลี้ยงนางงาม กล่าวปิดท้าย



ซ้ำรอยเดิม.. "แองจี้"นางฟ้าตกสวรรค์ ฤๅจะเป็นอาถรรพ์เวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์


เป็นอีกครั้งแล้วสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับสาวงามบนเวทีใหญ่อย่างเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ หนนี้เป็นคิวของสาวลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย "แองจี้" นางสาวอัจฉรา แมคคาย ที่เป็นเจ้าของครองมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 เธออยู่ในตำแหน่งเพียง 10 วัน แล้วเธอก็ประกาศสละตำแหน่งซะอย่างนั้น

ที่สำคัญการสละตำแหน่งครั้งนี้ดูไม่ค่อยเนียนสักเท่าไร เพราะก่อนหน้าที่แองจี้จะคว้ามงกุฎมาอยู่บนศีรษะ เธอให้สัมภาษณ์อย่างหน้าชื่นตาบานว่า การมาประกวดครั้งนี้เธอต้องการมาหาประสบการณ์ มาเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นไทย และเธอบอกอย่างเต็มปากว่า เต็มใจที่จะพักการเรียนเพื่อมาประกวด และตลอดระยะเวลาของการเก็บตัวแองจี้ก็รู้มาตลอดว่าเธอคือตัวเก็ง

การประกาศสละตำแหน่งครั้งนี้ แองจี้ให้เหตุผลด้วยใบหน้าเศร้าๆ ว่า มีภารกิจหน้าที่ต้องกลับไปเรียนหนังสือต่างประเทศ รวมทั้งต้องทำงานเดินแบบ จึงทำให้ไม่มีเวลาในการปฏิบัติภารกิจมิสไทยแลนเวิลด์ต่อไปได้

"แองจี้ขอโทษ แองจี้จะต้องไปทำงานเป็นนางแบบซึ่งมีสัญญากับเอเยนซี่ที่นิวยอร์ก ตอนสมัครประกวดแองจี้ไม่เข้าใจภาษาไทยเลยไม่เข้าใจสัญญา แองจี้มาประกวดเพื่อที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทย หาประสบการณ์ และฝึกการใช้ภาษา ช่วงที่ปฏิบัติภาระหน้าที่ 10 วันรู้สึกว่ามันหนักเกินไป ก็รู้สึกเสียดายตำแหน่งมากๆ แต่ก็รู้สึกเหนื่อยเพราะงานมันหนักเกินไปทำให้แบ่งเวลาไม่ลงตัว จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง"

การสละตำแหน่งด้วยเหตุผลง่ายๆ แบบนี้ มันมีอะไรให้ข้องใจหลายอย่าง เพราะเมื่อแองจี้ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำไมกองประกวดประกาศยึดของรางวัลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์โตโยต้า คัมรี หรือถ้าเธอทำผิดอย่างที่ข่าวเขาว่า ว่าเธอไปถ่ายแบบเปลือยล้อนจ้อนให้กับนิตยสารฉบับหนึ่งของประเทศอิตาลี ทางผู้จัดก็ควรจะยกตำแหน่งและเงินรางวัลให้กับรองอันดับ 1 อย่าง "ซินดี้" นางสาวสิรินดา เจนเซ่น ซึ่งเธอต้องปฏิบัติหน้าที่แทน

แต่ทำไม วันแถลงข่าวทั้งนายไบรอัน มาคาร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บีอีซี เทโร เอนเตอร์เทนเม้น จำกัด(มหาชน) และนายประสาน มาลีนนท์ ประธานกรรมการบริษัท บีอีซี เทโร เอนเตอร์เทนเม้น จำกัด(มหาชน) จึงไม่ชี้แจงแถลงไขในกรณีเงินรางวัลให้กระจ่าง บอกเพียงแค่ว่า ทางกองประกวดจะขอเก็บเงินรางวัลทั้งหมดไว้ก่อน มันเลยกลายเป็นข่าวฉาวและโจษจันกันไปทั่วว่าทางผู้จัดประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์กำลังทำอะไร

นานาปัญหาที่เกิดขึ้นกับเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันมีเรื่องให้ติฉินนินทาอยู่เรื่อยมา ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2003 เวทีนี้ก็เคยตกเป็นข่าวดัง เพราะสาวที่คว้ารองชนะเลิศอันดับที่ 1 "จอย จตุพร แสงทอง" ถูกแฉว่าเธอเข้าประกวดทั้งที่มีครอบครัวแล้ว จนต้องมีการริบตำแหน่งคืน หรือถ้าย้อนไปก่อนหน้านั้นก็ปี 1986 ปีที่สาวสวยแสงระวี อัศวรักษ์ ได้ครองตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ เธอก็ถูกเพื่อนผู้เข้าประกวดกระชากมงกุฎกันจะจะบนเวที

เฮ้อ! ถ้าจะเรียกว่าเวทีนี้เป็นเวทีที่ตกเป็นข่าวฉาวมากที่สุดเลยก็คงไม่ผิด

อีกทั้งการจัดประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ซึ่งจัดมานานนับ 10 ปี ก็ยังไม่เคยมีสาวไทยคนไหนได้สวมมงกุฎมิสเวิลด์เลยแม้แต่คนเดียว ตำแหน่งสูงสุดที่สาวไทยเคยได้ก็เห็นจะเป็นเมื่อปี 1990 นางสาวปทุมรัตน์ วรมาลี ได้รับตำแหน่ง รองมิสเวิลด์ อันดับ 3 จากการประกวด "มิสเวิลด์" ต่อจากนั้น ปี พ.ศ.1993 นางสาวเมทินี กิ่งโพยม ได้รับตำแหน่ง "Beauty Queen of Asia" จากการประกวด "มิสเวิลด์" และครั้งสุดท้ายที่สาวไทยได้รางวัลจากเวทีมิสเวิลด์ คือ ปี 1995 นางสาวปติญญา ทองศรี ได้รับตำแหน่ง นางงามมิตรภาพ จากการประกวด "มิสเวิลด์" ในปีเดียวกัน ...เท่านี้เอง...

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็การันตีได้ระดับหนึ่งว่า การจัดประกวดนางงามขึ้นสักเวทีมันคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ที่ยากคือการคัดสรรสาวงามให้ได้มาตรฐานซึ่งไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตายังคงรวมถึงคุณสมบัติและความรับผิดชอบด้วย ที่สำคัญจากการได้คลุกคลีกับเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์มานานทำให้รู้สึกได้ว่า การจัดประกวดนางงามของเวทีนี้จัดขึ้นเพียงเพื่อต้องการรักษาสถานะของการเป็นผู้จัดให้คงอยู่ต่อไปเท่านั้น ดังนั้น ถ้ารู้สึกว่าไม่พร้อมที่จะจัดก็ไม่ควรจัด หลายฝ่ายจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียความรู้สึก









‘วงใน’ ยังเป็นงง ?!? ‘แองจี้’ นางงาม ‘ทิ้งมงกุฎ’



จะเพราะต้องกลับไปเรียนต่อ ? เพราะติดสัญญากับเอเยนซี่ที่นิวยอร์กต้องไปเป็นนางแบบ ? เพราะภาพในชุดว่ายน้ำ-นุ่งน้อยห่มน้อยที่แพร่ อยู่ในอินเทอร์เน็ต ? เพราะตกลงเรื่องสิทธิประโยชน์ไม่ลงตัว ?

จะเพราะเหตุผลใด เพราะหลายเหตุผลประกอบกัน หรือที่ว่ามาอาจจะไม่ใช่เลย !! ยังไง ๆ แองจี้-อัจฉรา หรือ แองจิลา แมคคาย มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2548 ก็ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่ง “นางฟ้าตกสวรรค์”

จู่ ๆ ก็กลายเป็น “นางงามทิ้งมงกุฎ-ไร้มงกุฎ”

กลายเป็นประเด็นเมาท์ต่อจาก “ดาราเบนโล”

อาจไม่เกี่ยว...แต่ก็แปลกดี...ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล โหรตำราจีน เคยทำนายไว้ตั้งแต่ต้นปี ทำนองว่า...ระหว่างวันที่ 5 ส.ค. ต่อเนื่องเข้าสู่เดือน ก.ย. 2548 ถ้ามีเรื่องที่สังคมส่วนรวมเห็นว่าแปลก ๆ ในที่สุดมือเดียวก็จะปิดฟ้าไม่หมด แม้จะมีกลยุทธ์แค่ไหน ในที่สุดใครทำอะไรไว้ก็ต้องยอมรับผลจากสิ่งที่ทำ

แล้วในช่วงระยะเวลาที่ว่านี้ก็มีเรื่องน่าประหลาดใจของบุคคลสาธารณะ ถูกเปิดเผยออกมาอยู่เรื่อย ๆ

ทั้งนี้ กับกรณีของ แองจี้-แองจิลา มิสไทยแลนด์เวิลด์ปีล่าสุด ซึ่งกลายเป็นนางงามเมืองไทยรายล่าสุดที่ประสบปัญหา-ไม่ราบรื่นกับมงกุฎที่ได้รับนั้น นอกจากคนวงนอกแล้ว...“คนวงใน” เอง...ก็ “เป็นงง” ไม่น้อย ?!?

มะปราง-ภาวดี วิเชียรรัตน์ นางสาวไทยปี 2538-2539 และมิสซิส เวิลด์ ปี ค.ศ. 2003-2004 บอกว่า...การ “สละตำแหน่ง” เป็นสิทธิที่แองจี้สามารถทำได้ แต่มองมุมกลับก็อาจจะเสียโอกาสหลายอย่าง

การเข้าประกวดแต่ละเวทีไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เรียกได้ว่าผู้ที่ได้รับตำแหน่งถือเป็น 1 ในล้านก็ว่าได้ เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองเพียงคนเดียว แต่เกี่ยวข้องไปถึงครอบครัวและญาติพี่น้อง

“มะปรางมองว่าน้องแองจี้สละตำแหน่งเร็วเกินไป นี่เพิ่งเป็นการเริ่มต้นเท่านั้น เขาอาจจะยังไม่ได้มองหรือยังไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี ยังไม่ได้สัมผัสเลยว่าใช่หรือไม่ใช่สำหรับเขา ระหว่างปฏิบัติหน้าที่จะได้รับอะไรบ้าง ซึ่งอย่าง น้อยก็ได้ประสบการณ์หลายเรื่องที่เราไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน”

มะปรางบอกอีกว่า...อย่างน้อยแองจี้ควรจะอยู่ในตำแหน่งไปสักพัก อาจจะ 3 เดือน 5 เดือน ไม่น่าจะมาตัดสินใจง่าย ๆ แบบนี้ ซึ่งที่บอกว่าไม่รู้ภาษาไทยนั้น จากประสบการณ์ของมะปรางก่อนจะมีการเซ็นสัญญาหากอ่านสัญญาไม่ได้เราก็สามารถนำไปปรึกษาคนอื่นที่ไว้วางใจได้ ตรงนี้กองประกวดเขาใจดี

อย่างไรก็ตาม กับเรื่องการ “สละตำแหน่ง-ทิ้งมงกุฎ” ของนางงาม หลังได้รับตำแหน่ง ที่เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศ ไม่ใช่ในเมืองไทย มะปราง-ภาวดี บอกว่า...

“สมัยที่อยู่อเมริกาก็เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับมิสอเมริกา ซึ่งกองประกวดขอให้สละตำแหน่ง เพราะทราบว่าเธอมีอดีตที่ไม่เหมาะสม เคยถ่ายภาพโป๊”...อดีตนางสาวไทยกล่าว

ทางด้านนางงามรุ่นพี่เวทีเดียวกับแองจี้อย่าง มิกซ์-เจนจิรา เกิดประสพ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2003 ระบุว่า...ตอนแรกที่ทราบข่าวเรื่องแองจี้สละตำแหน่ง “รู้สึกตกใจมาก !! สงสัยมากว่ามีสาเหตุเพราะอะไร ? ทำไมต้องสละตำแหน่ง ?”

กรณีที่แองจี้บอกว่าอ่านภาษาไทยไม่ได้ และภาระที่ได้รับก็หนักเกินไป อย่างแรกนั้นแองจี้มีคุณแม่เป็นคนไทย เรื่องนี้น่าจะอยู่ที่คุณแม่ ก่อนเข้าประกวดคุณแม่แองจี้คงต้องศึกษาตรวจดูรายละเอียดในสัญญาเรียบร้อยแล้ว เพราะเวทีนี้ไม่ใช่เวทีเล็ก ๆ เป็นเวทีใหญ่ ที่ทุกคนต้องรู้กฎก่อนเข้าประกวด

เช่น ห้ามแต่งงานก่อนเข้าประกวด, ต้องมีสัญชาติไทย เป็นต้น

“มิกซ์เองก็อ่านภาษาไทยไม่ได้ โชคดีที่มีคุณน้าคอยดูแลให้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอะไรเลย ส่วนแองจี้คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ก็รู้สึกเสียดายแองจี้ เสียดายตำแหน่งและเสียดายโอกาสแทนน้อง ๆ ที่เข้าประกวดคนอื่น ๆ ด้วย”

...มิกซ์-เจนจิรากล่าว พร้อมทั้งระบุอีกว่า...กรณีของแองจี้น่าจะเป็นบทเรียนสำหรับลูกครึ่งคนอื่น ๆ ที่อ่านภาษาไทยไม่ได้ ว่าก่อนเข้าประกวดต้องอ่านและศึกษาสัญญาให้ชัดเจน

สำหรับประเด็นงานในตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์หนักเกินไป มิกซ์- เจนจิราบอกว่า...ยอมรับว่าภารกิจช่วงแรก ๆ ค่อนข้างหนักพอสมควร แต่สำหรับ มิกซ์ถือว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ๆ แม้จะเหนื่อย งานจะหนัก แต่มีความสุขที่สุด เพราะคิดว่าในชีวิตจริงคนทำงานหนักกว่านี้หลายเท่า

“คิดว่าเมื่อเราได้รับโอกาสก็จะทำให้ดีที่สุด หากใครที่ไม่มีความอดทนพอที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่ควรจะเข้าประกวด เพราะจะทำให้มีปัญหากับกองประกวดและหลาย ๆ คน ส่วนเรื่องการสละตำแหน่งนางงาม ตอนที่อยู่สวีเดนก็ไม่เคยได้ยินว่ามีเรื่องแบบนี้”...มิกซ์-เจนจิรากล่าว

ทั้งนี้ ซินแสโหราศาสตร์จีนคนที่กล่าวถึงไว้ตั้งแต่ช่วงแรกเคยกล่าว ไว้ในการพยากรณ์ตอนต้นปี 2548 อีกช่วงหนึ่งว่า...ระหว่าง 4 ก.ย.-2 ต.ค. 2548 เป็นอีกช่วงที่กรอบวงเวียนชีวิต วงเวียนธรรมชาติ มีการผันผวนผัน แปร ไม่ว่าร้อน ฝน มรสุม แม้กระทั่งหนาว ต้องเจอทุกสภาวการณ์ เจอทุกรสชาติ

“แต่จะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง สร้างภูมิคุ้มกัน ความอดทนใจเย็นได้มากขึ้น”

คนดังในแวดวงสวย ๆ งาม ๆ “ตกสวรรค์” รายแล้วรายเล่า

“สร้างความงุนงง” ให้ทั้งคนวงนอก และแม้แต่คนวงในเอง

จะมีรายต่อไปที่สร้างความแกร่งด้วยวิธีนี้อีกหรือไม่ ?????.


ภาพหวิว 'แองจี้' โผล่! วงในแฉโดนบังคับสละ 'มิสไทยแลนด์ฯ'


พ่อเผยหลังมงกุฎหลุด-ชีวิตแฮปปี้ เตรียมแถลงข่าวอีก

คนในกองประกวดแฉภาพวาบหวิวของน้อง "แองจี้" เห็นกันหมดแล้ว ระบุไม่เสียหาย แต่สาเหตุหลักทำน้องแองจี้กระเด็นจากตำแหน่ง เพราะเข้าไปขอเงินเดือนหลังรู้ข่าวมีมิสไทยแลนด์เวิลด์รุ่นพี่ได้กัน ยันถูกบังคับให้ทิ้งมงกุฎ ขณะที่พ่อน้องแองจี้ เผยหลังลูกสาวประกาศสละตำแหน่งรู้สึกสบายใจ ยังอยู่ในเมืองไทยไม่ได้บินไปเรียนหรือทำงานในต่างประเทศตามข่าว ย้ำเร็ว ๆ นี้ลูกสาว จะเปิดแถลงข่าวแจงที่มาที่ไปของภาพวาบหวิวทั้งหมดที่กำลังแพร่ระบาดในหน้าหนังสือพิมพ์และอินเทอร์เน็ต พ่อสาวลูกครึ่งไทย-ออสซี่ ชี้ลูกสาวกังวลใจและผิดหวังที่มีภาพวาบหวิวแพร่ออกไป ระบุวัฒนธรรมต่างกันทำให้คนไทยมองภาพชุดว่ายน้ำบิกินีไม่สวยงาม

จากกรณีน้องแองจี้-อัจฉรา หรือแองเจล่า แมคคาย อายุ 20 ปี สาวลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย เจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 48 ประกาศขอสละตำแหน่งหลังครองมงกุฎอันทรงเกียรติได้เพียง 10 วัน สร้างความมึนงงและตกตะลึงให้กับคนทั้งประเทศ โดยน้องแอง จี้-อัจฉรา ระบุสาเหตุที่สละตำแหน่งเพราะต้องการไปศึกษาต่อและทำงานด้านเดินแบบในต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวว่า น้องแองจี้เกิดความเครียดที่มีภาพวาบหวิวสมัยเป็นนางแบบเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ทำให้รู้สึกกดดันกลัวคนไทยจะรับไม่ได้กับภาพสมัยก่อนได้ครองมงกุฎ จึงประกาศสละตำแหน่งดังกล่าว อีกกระแสข่าวก็ระบุว่าน้องแองจี้-อัจฉรากับกองประกวดไม่สามารถตกลงข้อสัญญากันได้ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายโรเบิร์ต การ์เดม แมคคาย บิดาของน้องแองจี้-อัจฉรา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้น้องแองจี้ ยังพักผ่อนอยู่ในกรุงเทพฯ ยังไม่ได้เดินทางไปศึกษาหรือทำงานในต่างประเทศแต่อย่างใด เพราะอยู่ในช่วงฮอลิเดย์ (พักร้อน) โดยหลังประกาศสละตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ ลูกสาวรู้สึกสบาย ๆ ไม่ได้กังวลใจอะไรมากนัก มีเพียงเรื่องเดียวที่ทำให้น้องแองจี้รู้สึกกังวลใจ คือเรื่องภาพถ่ายสมัยเป็นนางแบบก่อนได้รับตำแหน่ง ที่มีสื่อมวลชนหลายแห่งนำเสนอภาพดังกล่าวออกไป เพราะภาพเป็นการใส่ชุดว่ายน้ำ ชุดบิกินี ซึ่งทำให้ความรู้สึกของคนไทยรับไม่ได้ เกิดภาพลบในสายตาของคนไทยทั่วประเทศ เนื่องจากตามวัฒนธรรมของคนไทยการที่ผู้หญิงมาใส่ชุดว่ายน้ำ ชุดบิกินี ถ่ายแบบแล้วเผยแพร่สู่สาธารณชนเป็นสิ่งที่ไม่สวยงาม

นายโรเบิร์ต การ์เดม แมคคาย กล่าวต่อว่า หลังจากภาพชุดดังกล่าวมีการนำเสนอ ออกไป มีเพื่อนและนางงามรุ่นพี่ของน้องแองจี้โทรศัพท์มาบอก ลูกสาวตนรู้สึกผิดหวังถึงแม้ว่าภาพชุดดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายแบบ จึงทำให้น้องแองจี้ต้องการอธิบายถึงที่มาที่ไปของภาพต่าง ๆ ที่ถูกนำเสนออยู่ในขณะนี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งคาดว่าจะเป็นเร็ว ๆ นี้ แต่คงจะไม่ใช่วันที่ 26 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าในการเปิดแถลงข่าวดังกล่าวไม่ได้ต้องการทวงตำแหน่งหรือมงกุฎคืน เพราะเพื่อนและรุ่นพี่นางงามที่เป็นอดีต มิสไทยแลนด์เวิลด์ ได้บอกลูกสาวว่าถ้ากลับไปครองตำแหน่งคนอาจจะไม่ยอมรับ น้องแองจี้จึงต้องการอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากกว่าไปทวงตำแหน่งคืนกลับมา

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวใกล้ชิดกองประกวดมิสไทยแลนดเวิลด์ว่า ตอนนี้สภาพจิตใจน้องแองจี้ดีขึ้นแล้ว ส่วนเรื่องการแถลงข่าวเปิดเผยความรู้สึกของน้องแองจี้ นั้นยังไม่ได้กำหนดวันที่แน่ชัด โดยส่วนตัวแล้วมองว่าหากเด็กได้รับความไม่เป็นธรรมก็สมควรที่จะออกมาชี้แจง อย่างกรณีที่ถูกบังคับให้สละตำแหน่งด้วยเหตุผลแค่รูปถ่ายที่ความจริงก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรเป็นภาพศิลปะก็เป็นเรื่องไม่สมควร ทั้ง ๆ ที่ความจริงรูปเหล่านี้ทางกองประกวดเองก็ได้เห็นแล้วและไม่ได้ว่าอะไร เหตุผลลึก ๆ คงเป็นเรื่องของผลตอบแทนมากกว่าที่น้องแองจี้เข้าไปพบผู้ใหญ่และเจรจาขอเงินเดือน ซึ่งน้องแองจี้เป็นคนมีความมั่นใจสูงอยู่แล้ว อีกทั้งเคยได้ข้อมูลมาว่ามีมิสไทยแลนด์เวิลด์รุ่นหนึ่งเคยได้รับเงินเดือน แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ จึงเข้าไปพบผู้ใหญ่เพื่อเจรจากัน

แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวเสริมว่า โดยน้องแองจี้ให้เหตุผลว่าเธอต้องสูญเสียรายได้จากการเดินแบบไป หากต้องมาอยู่ที่กองประกวด การเรียกเงินเดือนนั้นเป็นเพียงหลักประกันว่าเธอจะมีรายได้เท่านั้น หากเดือนใดที่มีงานเข้ามามากน้องแองจี้ก็จะไม่ขอรับเงินเดือน หากเดือนไหนงานน้อยจึงขอรับเงินเดือน ซึ่งน้องแองจี้เข้าไปพบผู้ใหญ่และพูดคุยไม่ถึง 5 นาที ก็ได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า "หากคุณไม่พร้อมก็กลับไปทำงานของคุณเถอะ" โดยไม่เจรจาต่อรองใด ๆ ทั้งสิ้น และก็ประกาศตั้งรักษาการมิสไทยแลนด์เวิลด์ เป็นการบังคับให้น้องแองจี้สละตำแหน่งโดยไม่เต็มใจ.


บีอีซีฯถึงอึ้ง ภาพ'แองจี้' หราในเว็บ

บีอีซีฯ อึ้งภาพฉาว "แองจี้" มิสไทยแลนด์เวิลด์โผล่ในเว็บตรึม เตรียมหาทางออกเพื่อถอดถอนจากตำแหน่ง ด้านเจ้าตัวปิดโทรศัพท์มือถือหาไม่เจอ ครูยุ่นฉะนางงามล้วนเป็นเหยื่อทางธุรกิจ

น.ส.อัจฉรา แมคคาย เจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 ที่ได้สละสิทธิ์ท่ามกลางความข้องใจของคนไทยทั้งประเทศ ล่าสุดภาพฉาวของแองจี้ที่เคยถ่ายให้กับนิตยสารแม็กซิม ฉบับฮ่องกง ซึ่งเวลานี้กำลังถูกเผยแพร่ผ่านสังคมไซเบอร์

น.ส.ศุภิญญา เผือกกัน ประชาสัมพันธ์บีอีซี-เทโร เผย เวลานี้นายไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ ติดภารกิจอยู่ที่ประเทศเวียดนาม ในการเซ็นสัญญาจัดเทนนิส เวียดนาม โอเพ่น ที่บีอีซี-เทโร ได้ลิขสิทธิ์ดำเนินการที่เวียดนาม ยังไม่ขอให้คำตอบใดๆ ส่วนกรณีนายประสาร มาลีนนท์ ประธานจัดประกวด เคยให้สัมภาษณ์ทวงถามเรื่องภาพลับเฉพาะของแองจี้ หากมีจริงคงสะดวกในการตัดสินใจถอดถอน ในวันนี้ทางบีอีซี-เทโรกำลังประสานงานว่านายประสารจะแถลงข่าวเรื่องนี้กับสื่อมวลชน ซึ่งคาดว่าในวันจันทร์นี้คงจะทราบเรื่อง

แหล่งข่าวรายงานว่า เป็นไปได้ทางกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ทราบข่าวเรื่องภาพลับเฉพาะของแองจี้ก่อนหน้าที่จะมีการจัดแถลงข่าวแต่งตั้งผู้รักษาการณ์แทน เนื่องจากคืนก่อนแถลงข่าวนายไบรอัน มาร์การ์ มีคิวไปร่วมงานเปิดตัว นสพ.ดาราเดลี่ แต่ต้องบอกปัดไป เพราะเข้าประชุมด่วนเรื่องแองจี้สละสิทธิ์ ก่อนที่จะตัดสินใจไม่อนุมัติคำยื่นขอ แต่เลี่ยงแต่งตั้ง น.ส.สิรินดา เจนเซ่น ขึ้นรักษาการณ์แทน เพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์เงินรางวัลร่วม 3 ล้านบาท

ด้านนายมนตรี สินทวิชัย ส.ว.สมุทรสงคราม ดูแลเรื่องสิทธิเด็กและสตรี ให้ทัศนะ ธรรมดาไม่เคยเห็นด้วยกับเวทีประกวดนางงาม อันเป็นเรี่องธุรกิจที่เพิ่มค่านิยมเด็กรุ่นใหม่ ให้คิดว่าคือบันไดสู่ความสำเร็จของชีวิต และไม่ว่าจะไปถึงจุดใดก็ตามระหว่างทางล้วนมีแต่เภทภัย บางครั้งทำให้เด็กหรือสตรีตกเป็นเครื่องสนองทางเพศ ส่วนกรณีที่ น.ส.อัจฉรา แมคคาย มิสไทยแลนด์เวิลด์ ต้องการสละตำแหน่งแต่กองประกวดยังคงยื้อไว้ และตั้งผู้รักษาการณ์ขึ้นมา แต่เก็บเงินรางวัลไว้กับกองประกวด กรณีถือว่าทั้งผู้สละสิทธิ์และผู้ได้รับแต่งตั้งรักษาการณ์ล้วนตกเป็นเหยื่อของธุรกิจ โดยทางกองประกวดไม่เคารพในการตัดสินใจ และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน เพราะมัวเห็นแต่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ จึงอยากให้เป็นกรณีศึกษา เยาวชนไทยควรดูไว้เป็นอุทาหรณ์

ขณะที่กระแสความคิดประชาชนผ่านทางเว็บไซต์ใน kapook.com มากกว่า 60% มีความเห็นอยากให้กองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ให้ความสำคัญกับสาวไทยมากกว่าสาวลูกครึ่ง


"แองจี้"แฉถูกบีบพ้น"มิสไทยแลนด์" ผลตอบแทนไม่ลงตัว-ยัน"นู้ด"ไม่โป๊


ไม่ได้โป๊ - น.ส.อัจฉรา "แองจี้" แมคคาย อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 แถลงเปิดเผยเบื้องหลังการประกาศทิ้งมงกุฎที่ครอบครองเพียง 10 วัน โดยอ้างว่าทางกองประกวดนำรูปถ่ายหวือหวาที่ตนนำไปมอบให้ตั้งแต่แรกมาต่อรอง หลังจากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเจรจาให้บรรลุข้อตกลงในสัญญาได้ ที่อาคารวรสิน ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อบ่ายวันที่ 27 กันยายน



"แองจี้"แฉแหลก เหตุผลสละตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ ระบุสัญญาไม่ลงตัว "บีอีซี"ปัดข้อเรียกร้องขอเงินเดือน 1.5 แสนพร้อมที่พัก เป็นเหตุให้บางคนใน"บีอีซี"ขู่นำภาพนู้ดมาเปิดโปง จึงชิงส่งภาพหวือให้สื่อเอง

จากกรณี น.ส.อัจฉรา แมคคาย หรือ "แองจี้" อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ เนื่องจากติดพันธสัญญาการเดินแบบกับบริษัทที่สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นยังคงเกิดความคลุมเครือถึงสาเหตุที่แท้จริงของการลาออกจากตำแหน่ง ส่วนบริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ยังไม่ตัดสินใจมอบเงินรางวัล 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์โตโยต้าคัมรี่ 1 คัน ของมิสไทยแลนด์เวิลด์ให้ใคร ขณะเดียวกันก็มีผู้เผยแพร่ภาพหวือหวาที่ น.ส.อัจฉราถ่ายแบบในนิตยสารต่างประเทศหลายฉบับ ไปเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 27 กันยายน ที่อาคารวรสิน ถนนวิภาวดีฯ น.ส.อัจฉรา ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำลายทาง และกระโปรงสีน้ำตาลอ่อน พร้อมด้วยนายโรเบิร์ต แมคคาย บิดา ถือแฟ้มภาพถ่ายแฟชั่นที่กำลังมีปัญหา มาบันทึกเทปรายการ "สายตรงบันเทิง" เพื่อเปิดใจถึงความคลุมเครือต่างๆ อย่างละเอียด

น.ส.อัจฉรากล่าวในรายการว่า การออกมาพูดคุยกับสาธารณชนครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการให้ประชาชนเข้าใจเรื่องราวผิดๆ แต่อยากให้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของการสละตำแหน่งครั้งนี้ เนื่องมาจากไม่สามารถเจรจาเรื่องสัญญากับบริษัทบีอีซีฯได้ ซึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจภาษาไทย เมื่อได้รับตำแหน่ง ญาติอ่านสัญญาให้ฟัง ปรากฏว่าไม่ตรงกับความเข้าใจในตอนแรก ซึ่งไม่ใช่แค่ตนคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกไม่พอใจ แต่เพื่อนนางงามหลายคนก็รู้สึกเช่นเดียวกันด้วย ได้ยื่นข้อเสนอต่างๆ อาทิ ขอรับเงินเดือน เดือนละ 150,000 บาท, อพาร์ตเมนต์หรือที่พักอาศัยที่มีฟิตเนสในเขตกรุงเทพมหานคร หรือบัตรสมาชิกฟิตเนสที่ต่างๆ เป็นต้น แต่บีอีซีฯปฏิเสธคำขอ ซึ่งการทำข้อเสนอนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องได้รับทั้งหมด เพราะสามารถต่อรองกันได้ แต่บีอีซีฯไม่เปิดโอกาสให้มีการเจรจาในเรื่องนี้ใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น จึงบอกกับบีอีซีฯว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นคงรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องปฏิบัติภารกิจเป็นเวลา 18 เดือน จึงขอกลับบ้าน หากกลับไปแล้วตั้งใจว่าจะบอกความจริงแก่สื่อมวลชน คนในบีอีซีฯบางคนกลับบอกว่าอยากกลับบ้านก็ได้ แต่ไม่แนะนำให้ทำอย่างนั้น อ้างว่ามีรูปโป๊ซึ่งคณะกรรมการลงความเห็นแล้วว่า เป็นภาพไม่เหมาะสมสำหรับตำแหน่ง และแนะนำว่าควรลาออกเพื่อรักษาภาพลักษณ์ ในขณะนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของคนไทยว่าจะรับได้หรือไม่ จึงตัดสินใจลาออกตามคำแนะนำ โดยยังหวังว่าจะได้รับการเจรจาตกลงเรื่องสัญญาและกลับเข้ามารับตำแหน่งเหมือนเดิม ก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่

"ในสัญญาระบุว่า ตลอดระยะ 18 เดือน แองจี้ไม่สามารถรับงานนอกได้ ห้ามมีคนนอกดูแล และจำเป็นต้องปฏิบัติภารกิจต่างๆ ตามแต่ที่กองประกวดจะให้ทำ แองจี้คิดว่าไม่ยุติธรรม และจึงปรึกษาพ่อ และได้ยื่นข้อเสนอต่างๆ แองจี้จะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไร บ้านที่กรุงเทพฯก็ไม่มี และถ้าไม่สามารถรับงานอื่นได้ จะใช้จ่ายอย่างไร แต่ทั้งหมดสามารถตกลงกันได้ บีอีซีฯปฏิเสธไม่ยอมคุย แองจี้ยังหวังว่าหลังจากนั้นคงจะเจรจาแล้วแองจี้จะกลับมา แต่ก็ไม่มีการพูดคุยใดๆ" แองจี้กล่าว

อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 กล่าวถึงภาพหวือหวาที่ถูกเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ ว่า เป็นผู้นำภาพเหล่านั้นมอบให้กับสื่อมวลชนเอง เนื่องจากอยากให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเองว่า ภาพเหล่านี้เป็นภาพอนาจาร โป๊ เปลือย ที่คนไทยรับไม่ได้จริงหรือเปล่า ซึ่งความจริงแล้วภาพเหล่านี้ได้นำมาให้กองประกวดพิจารณาตั้งแต่วันรับสมัครแล้วว่าเหมาะสมหรือไม่ ขณะนั้นทางกองประกวดยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร และไม่คิดมากเรื่องภาพ เพราะจริงๆ แล้วภาพเหล่านี้มิได้เป็นความลับแต่อย่างใด เพราะสามารถหาทางอินเตอร์เนต หรือตามเอเจนซี่นางแบบต่างๆ ก็มีภาพเหล่านี้ และยืนยันว่านอกเหนือจากภาพเหล่านี้แล้ว ไม่เคยถ่ายภาพอื่น

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า กลัวบีอีซีฯจะฟ้องร้องกลับหรือไม่ น.ส.อัจฉรากล่าวว่า รู้ดีว่าบริษัทมีอำนาจจะดำเนินการใด แต่ก็ไม่กลัว ต้องการให้ทุกคนรู้ความจริงมากกว่า และพร้อมที่จะรับผลการกระทำทุกอย่าง

สุดท้าย น.ส.อัจฉรากล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ไม่เคยคิดจะลาออกจากตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ เพราะภูมิใจที่จะได้เป็นตัวแทนของคนไทยไปประกวดมิสเวิลด์ที่ประเทศจีน แต่เมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็คงต้องทำใจ หลังจากนี้คงกลับประเทศออสเตรเลีย เพื่อศึกษาต่อด้านการละครให้จบ จากนั้น น.ส.อัจฉราได้นำแฟ้มภาพถ่ายแบบในนิตยสารต่างประเทศให้ช่างภาพบันทึก



"แองจี้"แถลงแฉ"บีอีซี"บีบ-ปลด


มิสฯเวิลด์ยันไม่คิดจะลาออก


แฉกลับ- แองจี้ อัจฉรา แมคคาย พร้อมด้วยบิดา เปิดแถลงแฉกลับบีอีซีฯ พยายามไล่ตนเองออกจากตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ ด้วยข้ออ้างเรื่องถ่ายภาพนู้ด ทั้งที่จริงๆ ตัวเองไม่ได้อยากลาออก ทั้งตั้งความหวังอยากเป็นมิสเวิลด์ด้วยซ้ำ



"แองจี้"เปิดแถลงข่าวอีกรอบ อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์โวยบีอีซีจัดฉากถอดจากตำแหน่ง อ้างเหตุผลภาพถ่ายแฟชั่นไม่เหมาะสม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยเอาไปให้กองประกวดดูแล้วบอกมาว่าไม่น่าจะมีปัญหา ร่ำไห้ไม่เคยมีความคิดที่จะลาออก แต่รักเมืองไทยมากไม่อยากให้คนไทยเสียความรู้สึกกับรูปที่ไปถ่ายมาจึงยินยอม ย้ำรูปที่แพร่ทางเน็ตไม่ใช่ตัวเอง

เมื่อเวลา 16.45 น. เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ห้องบันทึกเทปโทรทัศน์ "สายตรงบันเทิง" รายการทางช่อง 5 อาคารวรสิน ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ น.ส.แองจิล่า แมคคาย หรือ "แองจี้" เปิดแถลงข่าวพร้อมกับบิดาชาวออสเตรเลีย นายโรเบิร์ต กอร์ดอน แมคคาย ถึงสาเหตุการประกาศลาออกจากตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 อีกครั้ง หลังจากเคยร่วมแถลงกรณีนี้กับบริษัทบีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ สำหรับการแถลงครั้งนี้ทางรายการได้มอบหน้าที่ให้น.ส.ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ เป็นล่ามแปลภาษาให้ ขณะที่แองจี้เดินเข้ารายการมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ผิดกับนายโรเบิร์ตบิดาที่มีสีหน้าเคร่งเครียด

"แองจี้" กล่าวว่า ทางผู้ใหญ่ของบีอีซีฯ บอกว่ารูปที่ตนถ่ายแฟชั่นนั้นไม่เหมาะสมกับตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ จึงบอกให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เคยมีความคิดที่จะลาออกแต่อย่างใด แต่เมื่อผู้ใหญ่แนะนำมาเช่นนี้และรักเมืองไทยมาก ไม่อยากให้คนไทยเสียความรู้สึกกับรูปที่ไปถ่ายมา และไม่อยากให้เมืองไทยเสียภาพพจน์จึงตัดสินใจลาออกตามคำแนะนำของผู้ใหญ่ทางบีอีซีฯ และตอนนี้ไม่ได้เป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์แล้ว ส่วนตัวก็เสียใจจากเดิมที่คิดว่ามีโอกาสจะพิชิตมงกุฎมิสเวิลด์ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว

เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่าทางกองประกวดได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า แองจี้ยังคงดำรงตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 อยู่ เพียงแค่ขอลาพักไปเรียนต่อและทำงานเป็นนางแบบตามที่ต้องการ แองจี้ตอบว่า แปลกใจเหมือนกันที่ทางบีอีซีฯ แถลงข่าวไปเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ตลกมากเพราะได้เซ็นสัญญาลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว และในสัญญาก็ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ในตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 แล้ว

ส่วนในกรณีที่มีข่าวว่าทางกองประกวดเห็นภาพถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่ของแองจี้ก่อนจะขึ้นรับตำแหน่งแล้วนั้นเป็นจริงหรือไม่ แองจี้ กล่าวว่า จริง ภาพถ่ายเซ็กซี่ที่เป็นข่าวนี้เป็นภาพที่ถ่ายแฟชั่นไว้ในนิตยสารดับเบิลยูสตาร์ของประเทศสิงคโปร์ และนิตยสารแม็กซิมของฮ่องกง กองประกวดได้เห็นภาพถ่ายก่อนรับตำแหน่ง เพราะทางคนที่ส่งเข้าประกวดได้นำสมุดภาพเล่มนี้ของแองจี้ให้กับกองประกวดดูก่อนวันตัดสินรอบคัดเลือก 1 วัน ทางกองประกวดดูรูปแล้วบอกว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่หลังจากได้รับตำแหน่งแล้วทางกองประกวดกลับมาบอกว่าภาพถ่ายแบบนี้ไม่เหมาะสมกับคนที่จะได้รับตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์

"หลังจากที่แองจี้แถลงข่าวประกาศลาออกจากตำแหน่งไปแล้วนั้น แองจี้เป็นคนนำรูปถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่ให้สื่อมวลชนเผยแพร่ต่อสาธารณชนเอง เพราะต้องการให้ทุกคนเห็นและพิจารณาว่ารูปที่ถ่ายนั้นไม่เหมาะสมอย่างที่เป็นข่าวหรือไม่ รูปนี้ก็ไม่ใช่รูปลับอะไรและทางอินเตอร์เน็ตก็ค้นหาดูได้ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทางบีอีซีฯ ถึงได้ออกมาบอกว่าไม่เคยเห็นรูปนี้มาก่อน" แองจี้กล่าว

ด้านนายโรเบิร์ต กล่าวถึงภาพถ่ายเซ็กซี่ของลูกสาวว่า ไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไรกับภาพถ่ายนี้เลย เป็นการถ่ายแฟชั่นและเป็นการโฆษณาสินค้า มันไม่ใช่ภาพโป๊หรือภาพนู้ด แต่จริงๆ แล้วดูเป็นภาพศิลปะด้วย เป็นรูปที่สวยมากๆ แต่อีกเหตุผลหนึ่งคือตนไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทย จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจและอยากจะถามกับคนไทยว่าเมื่อได้เห็นรูปนี้แล้วคนไทยรับได้หรือไม่ และมันเหมาะสมหรือไม่

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าแองจี้และพ่อได้เรียกร้องทางธุรกิจในการขอเงินเดือนและที่อยู่อาศัยกับทางบริษัทบีอีซีฯ ว่าเป็นจริงหรือไม่ แองจี้ กล่าวว่า ก่อนที่จะได้รับตำแหน่งซึ่งต้องเซ็นสัญญากับกองประกวดนั้น ตนไม่เข้าใจภาษาไทยเลยและตัวสัญญาก็เป็นข้อความภาษาไทยทั้งหมด ในตอนนั้นมีคนแปลสัญญาให้ฟังแบบคร่าวๆ แต่หลังจากรับตำแหน่งแล้วทางญาติได้แปลสัญญาให้ฟังอย่างละเอียด ตนและพ่อแม่จึงได้เข้าไปบอกกับบีอีซีฯ ว่ารู้สึกไม่ค่อยดีกับสัญญา ทางบีอีซีฯ จึงบอกกลับมาว่าต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างให้ส่งอีเมล์บอกมา

"จริงๆ แล้วแองจี้ยังไม่ได้อยากกลับบ้าน สิ่งที่อยากทำคือตกลงเรื่องสัญญากับทางบีอีซีฯ ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง เพราะพร้อมที่จะทำหน้าที่มิสไทยแลนด์เวิลด์ แต่ทางบีอีซีฯ บอกว่าเขามีภาพถ่ายเซ็กซี่ของแองจี้อยู่ เป็นภาพที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ ทางผู้ใหญ่ของบีอีซีฯ ก็เลยขอร้องให้แองจี้ออกจากตำแหน่ง และแองจี้ก็เชื่อสิ่งที่ผู้ใหญ่แนะนำ ตอนนี้อยากบอกว่าขอบคุณทุกคนมากๆ ที่รักและให้การสนับสนุน ขอบคุณเพื่อนๆ ผู้เข้าประกวดทุกคนที่โหวตให้เป็นนางงามมิตรภาพ" แองจี้กล่าวพร้อมร่ำไห้

ด้านนายโรเบิร์ตกล่าวเสริมว่า ตนส่งข้อเรียกร้องไปทางอีเมล์ให้กับบีอีซีฯ ว่าขอให้การันตีว่าแองจี้มีเงินเดือน เพราะในสัญญาระบุว่าตลอด 18 เดือนที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศไทยแองจี้ไม่สามารถรับงานนอกเหนือจากงานที่บีอีซีฯ มอบให้ ซึ่งทางบีอีซีฯ ตอบกลับมาว่าไม่สามารถทำตามที่ต้องการได้ และไม่ใช่แค่ตนกับลูกสาวเท่านั้นที่รู้สึกไม่ดีกับสัญญา เพื่อนนางงามของแองจี้และครอบครัวของเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะคิดเหมือนกันว่าจะมาอยู่ในเมืองไทยได้อย่างไร 18 เดือนโดยที่ไม่สามารถรับงานนอกได้

"ส่วนที่มีข่าวว่าผมเรียกร้องขอคอนโดฯ ห้องออกกำลังกาย และเรียกเงินเดือนให้น้องแองจี้เป็นเงิน 1.5 แสนบาทต่อเดือนนั้น ผมเรียกร้องไปจริง เพราะทั้งทางแองจี้และซินดี้นั้นต้องอยู่ที่เมืองไทยถึง 18 เดือนโดยที่ทั้ง 2 คนไม่มีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ ถ้าต้องอยู่นานขนาดนี้จึงขอที่อยู่ และทั้งสองคนต้องออกกำลังรักษาหุ่นจึงขอคอนโดฯ ที่มีฟิตเนส หรือขอเมมเบอร์ฟิตเนสให้กับทั้งสองคนเพื่อจะได้มีที่ออกกำลังกายได้ทุกวัน แต่ทางบีอีซีฯ ตอบปฏิเสธ" นายโรเบิร์ตกล่าวและว่า จริงๆ แล้วตัวเลขเรื่องเงินเดือนที่เรียกร้องไปนั้นพูดคุยเจรจาตกลงกันได้ แค่เขียนสิ่งที่ต้องการเสนอไปก่อน แต่ทางบีอีซีฯ บอกว่าให้ไม่ได้ ทั้งแองจี้และซินดี้ก็ไม่มีทางเลือกต้องทำตามสัญญาที่เซ็นไว้ แต่ทางแองจี้บอกบีอีซีฯ ไปว่าไม่พอใจกับสัญญาและถ้าเป็นแบบนี้คงจะขอลากลับบ้าน ทางบีอีซีฯบอกว่าถ้าอยากกลับก็กลับไปได้

พิธีกรถามว่า สรุปแล้วสาเหตุของการลาออกจากตำแหน่งของแองจี้ครั้งนี้เป็นเพราะตกลงเรื่องสัญญาไม่ได้ใช่หรือไม่ ทั้งแองจี้และบิดาต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่" จากนั้นแองจี้กล่าวว่า ตนได้คืนของรางวัลทั้งเงินสดและรถยนต์ที่เป็นรางวัลตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ให้กับกองประกวดทั้งหมด

ส่วนกรณีที่มีภาพถ่ายเปลือยที่มีการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตโดยมีการแอบอ้างว่าเป็นรูปของน้องแองจี้นั้น อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ยืนยันว่า ไม่เคยถ่ายรูปพวกนั้น ถ้าดูให้ดีๆ แล้วจะรู้ว่าไม่ใช่ หน้าก็ไม่ใช่ หุ่นก็ไม่ใช่ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่มีรูปเผยแพร่ออกไปแบบนี้จะมีใครหวังที่จะกลั่นแกล้งหรือไม่

แองจี้ กล่าวต่อว่า การออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งในวันนี้ถ้าถามว่ากลัวทางบีอีซีฯ ฟ้องกลับหรือไม่นั้นตนไม่ได้คิดอะไร ที่มาในวันนี้แค่ต้องการพูดความจริงและไม่อยากอยู่ท่ามกลางข่าวที่ออกไปแบบผิดๆ อยากบอกทุกคนว่าความจริงเป็นเช่นไร ก็รู้ว่าทางบีอีซีฯ มีอำนาจแต่ก็พร้อมที่จะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอแค่ให้ได้พูดความจริงเท่านั้น ที่ออกมาพูดก็เพียงแค่ไม่ต้องการให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าที่ลาออกนั้นเพื่อต้องการกลับไปเรียนหรือกลับไปทำงานต่อ เพราะจริงๆ แล้วพร้อมที่จะทำหน้าที่มิสไทยแลนด์เวิลด์อยู่แล้ว

"หลังจากนี้คงกลับออสเตรเลียกลับไปทำในสิ่งที่รัก คือการเรียนด้านออกแบบฉาก และอยากบอกกับซินดี้ว่า อวยพรให้ซินดี้โชคดีและประสบความสำเร็จกับการประกวดมิสเวิลด์" แองจี้กล่าว

ทางด้าน "ซินดี้"น.ส.สิรินดา เจนเซ่น รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทน "แองจี้" กล่าวว่า เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนยังเป็นเพื่อนที่ดีกับแองจี้ต่อไป และจะทำหน้าที่ตามที่บีอีซีฯ มอบหมายให้



ข้อมูล
-มติชน
-เดลินิวส์
-คมชัดลึก
-ไทยโพสต์








Create Date : 23 กันยายน 2548
Last Update : 29 กันยายน 2548 19:47:34 น. 14 comments
Counter : 3283 Pageviews.

 


โดย: Zantha วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:14:56:14 น.  

 
อู้ว...ได้ข่าวมาเพิ่มอีกละ
ขยันรวบรวมข่าวนางงามดีจังเลยค่ะ

แสดงว่าชอบนางงามมาก


โดย: คุณป้ายังปิ๊ง วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:17:20:07 น.  

 
นึกว่าน้องแองจี้จะเปลี่ยนใจกลับมาสวมมงกุฏ ข่าวนี้คอนเฟิร์มชัดแล้วว่า บ๊าย บาย ไทยแลนด์ .. ส่วนเบื้องหน้า เบื้องหลัง ไม่มีเค้ามูลให้จินตนาการอีก


โดย: พิรฌาน วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:20:04:23 น.  

 
ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ แองจี้เธอคงไม่กลับมาแล้วมั้งคะ


โดย: ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:23:48:53 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าครับ...

มาดูข่าวแองจี้สละตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 3
ด้วยครับ


โดย: **mp5** วันที่: 24 กันยายน 2548 เวลา:7:58:33 น.  

 
หวัดดีครับ คุณ ลูกโป่งลอยฟ้า...

วันนี้ ดูคุย คุ้ย ข่าว บางกอกทูเดย์ เอาภาพ ที่ แองจี้ ไปถ่ายให้กับ maxim ตปท. มาครับ

ถ้าแค่นั้น มันก็ไม่น่า เสียหาย ขนาดต้องลาออกจากตำแหน่งนะ ผมว่า


โดย: Nutty Professor วันที่: 24 กันยายน 2548 เวลา:22:33:13 น.  

 
คุณ : Nutty Professor คะ ต้องเข้าใจนะคะว่าคนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างถือกับเรื่องแบบนี้ และคนประเภทมือถือสากปากถือศีลก็เยอะ สละตำแหน่งดีแล้วล่ะค่ะ


โดย: ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ วันที่: 24 กันยายน 2548 เวลา:22:43:57 น.  

 
หวัดดีครับ เพิ่งเข้ามาเป็นครั้งแรกเลย

ข้างบนไม่ค่อยได้อ่านครับ แต่รูปอยู่นาน


โดย: me2you วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:15:07:25 น.  

 
คุณ me2you อย่าจ้องนานนะคะ เดี๋ยวจะเป็นตากุ้งยิง


โดย: ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:15:14:22 น.  

 
สวัสดีคะ ตอนนี้กำลัง hot เลยคะ


โดย: โลกส่วนตัว วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:15:19:41 น.  

 
คุณลูกโป่งมีคนบอกว่าคุณชอบยกหางแองจี้ จริงหรือเปล่าคะ


โดย: แวะมาถาม IP: 203.151.140.117 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:23:11:25 น.  

 
คุณ แวะมาถาม ถ้าความหมายของคำว่ายกหาง คือการแสดงความเห็นในส่วนที่เราคิดว่าเราคิดดีหรือถูกต้อง ก็แล้วแต่คนจะคิดนะคะ เพราะลูกโป่งก็แสดงความเห็นตามที่ตัวเองคิด และทุกครั้งที่แสดงความเห็นก็ให้เหตุผลไปด้วย ส่วนใครจะชอบหรือไม่ชอบก็ตามแต่ใจเขา เพราะ pantip คือเวบบอร์ดสาธารณะ ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพแสดงความเห็นเท่าเทียมกัน เพียงแต่ไม่ทำผิดตามกฎ กติกาของที่นี่ก็เท่านั้น เราคงไปบังคับใครมาให้คิดเหมือนเราได้หรอกค่ะ บางส่วนที่เราว่าถูกเขาอาจจะคิดว่าเราผิดก็ได้


ขอบคุณนะคะที่แวะมาบอก ตามชื่อ


โดย: ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:23:47:28 น.  

 
เรียนเวปดีไซด์ จากใหนเนี่ย ดูแล้วมึน มากๆ


โดย: มึน IP: 58.136.152.2 วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:13:53:22 น.  

 
เรียนเองค่ะ หาเอาแถวนี้แหละ


โดย: ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:22:52:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.