'รำไทย'ไม้เด็ด อีหล่า...นาตาลี
"พอรำได้ก็ดูสวยขึ้น มีคนชม ได้แต่งหน้าทำผม แม่พ่อก็ชมว่าลูกสวย นอกจากนี้ยังช่วยฝึกสมาธิ เวลาตั้งใจจะทำอะไรก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด"
นางงามหลายรุ่นที่พอไขว่คว้าความฝันสำเร็จ มักตามมาด้วยชื่อเสียงและลาภก้อนโต ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือโอกาสการใช้ชีวิตในสังคม บ้างโลดแล่นเป็นดาวค้างฟ้า ขณะที่บางคนโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนแล้วถูกกลืนหายไปในกลีบเมฆ แต่คงไม่ใช่กับสาวเจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์คนล่าสุด ที่บอกกับตัวเองว่าต้องฝากความน่าจดจำไว้ในหัวใจพี่น้องคนไทย ทำให้ "นาตาลี" กัญญาภัค โภคสมบูรณ์ ที่แม้หน้าตาจะแบ่งครึ่งระหว่างไทยกับสวิตเซอร์แลนด์ ทว่าเจ้าตัวพยายามเผยตัวตนให้รู้ว่า ฉันก็เป็น "คนไทย" คนหนึ่งที่จะทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้อย่างเต็มความสามารถ สมกับที่ใครๆ คาดหวังและวางใจให้เป็นตัวแทนไปร่วมประกวดนางงามโลก
โดยเอกลักษณ์ไทยที่สาวเจ้ามี นอกจากหน้าตา พูดภาษาไทย ชื่นชอบอาหารไทย-อีสาน รวมถึงกิริยามารยาทน่าเอ็นดูแล้ว "รำไทย" ก็เป็นอีกหนึ่งความสามารถซึ่งอาจจะเป็นไม้เด็ดที่ใครพบเห็นเป็นต้องเอ่ยปากชื่นชม และสิ่งนี้เองคือสิ่งที่เธอตั้งใจจะนำออกไปสู่สายตาชาวโลกให้รับรู้ มากกว่ายิ้มสยามที่ตัวเองมีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด
"ชีวิตเปลี่ยนชั่วข้ามคืนไหม ก็ใช่ เวลาไปไหนคนมักจะมองแล้วยิ้มให้ เออ...สวย อะไรแบบนี้ แต่ส่วนมากเขาจะอายเกินไปที่จะเข้ามาหา ยกเว้นเด็กๆ ที่กล้าเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย รู้สึกดีใจที่ได้ประสบการณ์มากขึ้น คิดว่าน้อยคนนักที่จะได้รับอย่างนาตาลี เป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ค่ะ แต่คงไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพราะเตรียมตัวมาเพื่อประกวดนานแล้ว ต่อไปคงต้องพัฒนาตัวเอง บุคลิกภาพ จะได้เหมาะสมกับตำแหน่ง หรือว่าใส่เสื้อผ้าโป๊ๆ อะไรแบบนี้มันไม่ใช่ ก็ต้องวางตัวให้ถูกด้วย" สาววัย 22 นักศักษาวิชาการจัดการ จากบิซิเนส สคูล เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทักทายภายหลังจากรับตำแหน่งมาได้พักใหญ่ๆ
บ่อยครั้งที่มักเกิดความสงสัยเมื่อมีโอกาสทำความรู้จักสาวคนนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งนาตาลีก็ไม่รีรอที่จะเปิดใจพูดคุยอย่างเป็นกันเองว่า เธอเกิดและโตที่สวิตฯ ไปๆ มาๆ ที่อุดรธานีบ้านเกิดของคุณแม่อยู่เป็นระยะ รู้สึกว่าเป็นคนไทยมาตลอดชีวิต อีกทั้งคุณแม่ก็พร่ำสอนให้เรียนรู้มารยาทไทย ที่แน่ๆ เป็นตัวอย่างที่ดีในการปลูกฝังเรื่องวัฒนธรรมไทยต่างๆ โดยเฉพาะรำไทย
"เวลาถามแม่เป็นภาษาอังกฤษหรือเยอรมัน แม่มักทำเป็นไม่ได้ยินแล้วถามว่าอะไรเหรอลูก (ขำ) แต่ถ้าวันไหนที่แม่ดุหรือรีบๆ แม่ก็จะพูดอีสานตอบเลย ตอนแรกนาตาลีอยากเรียนภาษาไทยที่วัดไทยในสวิตฯ ตอนแม่พาไปไหว้พระ ก็บอกว่ามีสอนรำไทยด้วยนะ นาตาลีไม่ลองดูล่ะ แรกๆ ไม่กล้าเพราะกลัวไม่มีเพื่อน แต่พอได้ไปหัดจริงๆ ก็ชอบเลย แล้วไปตลอดจนอายุ 16 ปี ต้องเรียนไฮสคูลแล้วเรียนหนักมาก ช่วงนั้นเลยห่างๆ ไป คือที่วัดเขาจะมีครูนาฏศิลป์จากเมืองไทยไปช่วยสอนรำให้เด็กๆ นาตาลีชอบมากเหมือนเราได้แสดงถึงความเป็นไทยมากขึ้น
แต่เรียนรำไทยครั้งแรกรู้สึกยากมาก ครูก็ดุนาตาลีบ่อยๆ ว่าสอนยากสอนเย็น มือนาตาลีแข็งมาก หลังๆ มาก็ทำได้ จนตอนนี้ถือว่ารำได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่เก่งนะ โชคดีที่ช่วงนั้นมีโอกาสได้ออกงานไปโชว์บ่อยๆ ที่โน่นเขาจะมีสมาคมคนไทยอยู่ ก็จะมีการจัดเทศกาลสงกรานต์ ลอยกระทง เข้าพรรษา วันพ่อ วันแม่ คนไทยทั่วสวิตฯ ก็จะไปร่วมงาน ส่วนตัวชอบรำจังหวะช้าๆ เพราะดูสวยดี แต่ถ้ากลับมาเยี่ยมญาติที่อุดรฯ เขาชอบให้เซิ้งมากว่า ก็สนุกดี" สาวอิมพอร์ตหัวใจไทย เล่าอย่างออกรส
หลังจากได้กรีดนิ้วโชว์ความอ่อนช้อยประกอบเพลงรำบายศรีให้ชมเป็นขวัญตา...นาตาลีเล่าต่อว่าชีวิตเด็กไทยในยุโรปที่แวดล้อมด้วยวัฒนธรรมตะวันตก จริงๆ สามารถปล่อยใจโลดแล่นเหมือนวัยรุ่นฝรั่งทั่วไปก็ได้ แต่ตัวเองไม่รู้สึกแบบนั้น ทุกครั้งที่ได้ใช้ชีวิตอย่างไทยจะเกิดความภาคภูมิใจอย่างน่าประหลาด ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ลูกครึ่งคนหนึ่งสัมผัสได้ ผิดกับคนอื่นหรือแม้แต่คนไทยแท้ๆ บางคนที่อาจไม่มีโอกาสเช่นเธอ
"นอกจากรำไทยนาตาลีก็ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมอื่นเพราะเรียนหนักมาก เวลาว่างจึงยกให้รำไทยเท่านั้น ก็เคยเต้นแจ๊ส เล่นยูโดบ้าง แต่สุดท้ายก็มาจบที่รำไทย แล้วก็อยากทำไปเรื่อยๆ เพราะรู้สึกว่าได้อะไรหลายอย่าง ตอนรำครูจะพูดภาษาไทย ก็ได้ฝึกภาษา ที่สำคัญช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง เพราะตอนเด็กๆ ค่อนข้างขี้อาย กังวลอยู่ตลอดเวลาว่าคนอื่นมองเรายังไง ยิ่งเวลาต้องพูดภาษาไทยจะไม่มั่นใจเลย แล้วก็ไม่ใช่คนสวย ออกจะขี้เหร่มากกว่า (หัวเราะ) พอได้รำได้ก็ดูสวยขึ้น มีคนชม ได้แต่งหน้าทำผม แม่พ่อก็ชมว่าลูกสวย นอกจากนี้ยังช่วยฝึกสมาธิ เวลาตั้งใจจะทำอะไรก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด" ลูกสาวคนหัวปีของคุณแม่นวลละออ และคุณพ่อคริสเตียน ซูลิก เจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ สาธยายถึงเสน่ห์ของกิจกรรมยามว่างให้ฟังอย่างฉะฉาน พร้อมกับย้ำหนักแน่นว่า รำไทยไม่มีคำว่า "เชย" แต่กลับ "เท่" และแตกต่างกว่ากิจกรรมอื่นๆ เป็นคนไทยก็ควรเห็นคุณค่า เพราะถ้าไม่สนใจอีกหน่อยมรดกชิ้นนี้ก็อาจเลือนหายไปก็ได้"
บนเวทีการประกวดนางงามโลก หรือ "มิสเวิลด์ 2013" ที่ประเทศอินโดนีเซียกลางปีนี้ คนไทยจะได้เห็นลีลาอ่อนช้อยของสาวไทย ซึ่งนาตาลีแย้มว่านอกจากจะใช้รำไทยเป็นตัวชูโรงแล้ว เธอยังเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ อีก อย่างการฟิตหุ่น การโพสท่า การฝึกภาษาไทยโดยโทรศัพท์ไปคุยกับคุณป้าที่อุดรธานี หรือพูดคุยกับคนไทยมากๆ (แต่ใจหนึ่งก็เกรงจะหลุดภาษาอีสาน) รวมถึงจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในอินเตอร์เน็ตด้วย เพื่อนำมาเป็นแรงบันดาลใจ
"รอบการประกวดจะมีโชว์ความสามารถพิเศษ แต่รำไทยคงไม่พอที่จะไปสู้กับเขา เลยคิดว่าจะนำรำไทยไปโชว์ช่วงเก็บตัวมากกว่า อย่างตอนเขาเต้นเปิดตัวแดนซ์ ออฟ เดอะเวิลด์ สัก10 กว่าวินาที เราก็จะรำไทยนี่แหละ เวลาน้อยนิดแต่อย่างน้อยเราก็ได้โชว์ความเป็นไทย ตั้งแต่ดูการประกวดมาในรอบ 7 ปีไม่มีใครรำไทยเลย คิดว่ารำไทยยังมีคุณค่าที่จะโชว์ไม่ว่าอีกสักกี่ครั้งก็ตาม หนูมาถึงจุดนี้แล้ว เป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์ได้ ทำไมจะก้าวต่อไปไม่ได้ ภาษาอังกฤษก็พูดได้ อาจจะไม่เพอร์เฟคเท่าภาษาเยอรมัน หรือสวิส หนูเกิดและโตที่ยุโรปก็ศึกษาวัฒนาธรรมหลากหลาย คนไทยเป็นแบบหนึ่ง ฝรั่งก็เป็นอีกแบบ หนูตั้งใจ แล้วอาศัยดวงด้วย บางอย่างคนอื่นอาจจะเหมาะกว่าเรา แต่คิดว่าถ้าทำให้ดีที่สุดก็อาจจะสำเร็จ อย่าเพิ่งกลัวถ้ายังไม่ได้ลองทำก่อน ถ้าคิดว่าแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มจะไปทำไม " ตัวแทนสาวไทยในเวทีความงามระดับโลกเผย
หนักแน่นและตรงประเด็นสมกับที่แฟนนางงามยกให้เป็น "สาวมั่น" ซึ่งบางครั้งอาจจะ "ล้น" คำครหานี้สาวนาตาลีน้อมรับด้วยความเต็มใจ และขอพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า ความมุ่งมั่นและตั้งใจจนมองว่าล้น เปรียบเสมือนแรงผลักให้เธอก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ
"ก็ยอมรับนะ บางครั้งหนูอาจจะล้น แต่บางเวลานาตาลีเองก็ไม่มั่นใจนะ อย่างที่บอกเวลาให้ถ่ายทอดคำพูดออกมาเป็นภาษาไทย ความคิดกับคำพูดอาจไม่สอดคล้องกัน ทำให้บางคนมองไปต่างๆ นานา แต่อยากบอกว่านาตาลีมั่นใจ และบอกตัวเองให้สู้ๆ ทำให้ดีที่สุด ไม่ได้หมายความว่าเก่งที่สุดในโลกเพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบที่สุด" เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2013 ไขข้อข้องใจพร้อมฝากถึงชาวไทยและชาวสวิส ให้ช่วยติดตามการทำหน้าที่ของเธอเป็นภาษาอีสานแซบๆ อีกว่า....
"ฝากอ้ายพี่น้อง ให้เชียร์นาตาลีนำเด้อค่า เป็นกำลังใจให้อีหล่านางงามคนแรกจากอุดรเด้อค่า ขอบคุณหลายๆ ค่า"
คอลัมน์ขอเวลานอก : หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
| Create Date : 28 เมษายน 2556 |
| Last Update : 28 เมษายน 2556 11:47:59 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 3100 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: สนมเอก IP: 49.49.210.207 วันที่: 28 เมษายน 2556 เวลา:21:43:51 น. |
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
