"Happy easter" in virginia




 

 



 


"Happy easter" in virginia


วันพุธที่ผ่านมาหลังจากที่อลันเลิกงานเรามีเวลานิดหน่อยได้ทานข้าวเย็น ก่อนออกเดินทางไปเวอจิเนียบ้านแม่ของอลันค่ะ ตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะยังไม่เคยเดินทางออกนอกเส้นทางไปไหนกับชาวบ้านเขาเลย เส้นทางจากนิวเจอซี่ไปเวอจิเนียประมาณ 6 ชั่วโมง ผ่าน รัฐ Maryland,Washingthon DC



 

 

 


 


 


 






เดินทางตอนกลางคืนไม่ค่อยได้เห็นอะไรเลยค่ะ มีแต่แสงไฟในเมืองใหญ่ๆ พอผ่านเข้าเขตเวอจิเนียส่วนมากพื้นที่เป็นหุบเขาสลับกับพื้นราบ ถ้าเทียบการบ้านก็คงเหมือนกับเชียงใหม่อะค่ะ แต่ที่นี่ชอบตรงมีพื้นหญ้าสีเขียวแก่มีรั้วสีขาวสำหรับใครที่มีฟาร์ม มาถึงบ้านแม่ร็อคซี่เกือบเที่ยงคืนเห็นจะได้ บ้านแต่ละหลังอยู่ค่อนข้างห่างกันมากส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนหุบเขาหรือไม่ก็อยู่ในป่า ตอนกลางคืนสามารถมองเห็นพวกสัตว์ป่า เช่น กวาง หมี หมาป่า มันเป็นอะไรที่เงียบ สงบ และเรียบง่ายสำหรับคนที่เกษียณอายุงานอย่างแม่อลันมากค่ะ อลันไม่เคยมาที่นี่เกือบจะห้าปีได้มั้งพอมาถึงก็คุยกันยาวถึงตีสาม ชอบบ้านแม่ย่าสุดๆค่ะทุกๆอย่างในบ้านถูกตกแต่งไปด้วยความชอบส่วนตัว ส่วนที่เป็นครัวเป็นแอบเปิ้ลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น เทียนหอม,แก้ว,จาน,ฯลฯ ห้องนอนที่เราสองคนนอนถูกตกแต่งให้เป็นห้องนอนเด็ก มีตุ๊กตา




ของจุ๊กจิกที่เหมือนความฝันของเด็กผู้หญิงอยากจะมีแบบนั้นตอนเด็กๆ เฮ้ย!! แต่คงตกแต่งแบบแม่ย่าไม่ไหวอะค่ะ แค่ตุ๊กตาธรรมดาที่นอนแอ่งแม่งอยู่บนโซฟานั้นก็ปาเข้าไปเกือบห้าพันบาท




ถ้ารวมของทุกอย่างที่อยู่ในห้องที่เรานอนก็คงเกือบซื้อรถมือสองได้สบาย แต่อย่างว่าละค่ะท่านแก่มากเล้วไม่มีภาระอะไรที่ต้องรับผิดชอบ เงินเกษียณที่ได้รับกับการมีชีวิตอยู่ที่โน่นอยู่ได้สบายๆๆ (อยากแก่แล้วสบายแบบนั้นจัง)









13 APR 2006


เมื่อคืนนอนตีสามวันนี้ตื่นหกโมงเช้า (โอ้วว...จ๊อต ต้องทำตัวเป็นสะใภ้ที่ดี อิอิ) คนที่นี่เขารักแดดเป็นชีวิตจิตใจค่ะถ้าแดดออกหน่อยรีบออกมานั่งรับไออุ่นกัน นั่งจิบกาแฟ/คุยกันจนเกือบสิบโมงเช้า ไมเคิลน้องชายตัวแสบของอลันก็แวะเข้ามาชวนเราไปทานอาหารเช้าที่ Wintergreen resort ต้องขับรถขึ้นไปบนยอดเขาค่ะข้างบนรีสอร์ตมีคอนโดให้เช่า ตั้งเรียงรายอยู่บนยอดเขาแต่เสียดายค่ะเรามาช่วงที่ไม่มีอะไรเลย หิมะก็ละลายหมดแล้วหญ้าก็ยังไม่เขียวแต่อยากมาเยือนที่นี่อีกครั้งตอนหน้าหนาวค่ะ









www.wintergreenresort.com


อาหารเช้าของทุกคนเต็มไปด้วยเนื้อ,นม,ไข่ เด็กบ้านนอกอย่างดิฉันไม่รู้จะสั่งอะไรดีเห็นหน้าตาสลัดเอเชียน่ากินแฮะ เลยเมนูนั้นซะเลย เฮ้ย!!ใครสั่งใครสอนให้กินสลัดตอนเช้าไม่รู้ (แต่อร่อยแฮะ) แต่มันอยู่ท้องไม่นานค่ะสักพักใครตัวมารในท้องเริ่มร้องเรียกอาหาร


14 APR 2006


วันนี้ไม่มีกิจกรรมน่าสนใจเพราะฝนดันตกทั้งวัน แถมวันนี้โดนน้องชายตัวดีของอลันใช้ไปขนฟางหญ้ามาโรยรอบสระน้ำ เพื่อให้มันขึ้นใหม่ตอนซัมเมอร์บ้านไมเคิลอยู่ในหุบเขาเหมือนกัน ถ้านั่งบนชานหลังบ้านเห็นวิวภูเขาสวยดีค่ะ


15 APR 2006


วันนี้พวกเรามีนัดทานอาหารเย็นกัน ที่จริง Easter คือวันอาทิตย์ที่ 16 แต่อลันมีงานเช้าวันจันทร์จึงไม่สามารถอยู่ได้ถึงวันอาทิตย์ เลยเปลี่ยนโปรแกรมมาเป็นเย็นวันเสาร์เพื่อเราสองคน ทุกคนที่นี่น่ารักมาก และต้อนรับเราเป็นอย่างดีรู้สึกอบอุ่น วันนี้ทุกคนในครอบครัวรวมทั้งเพื่อนสนิทของแม่อลันสองคนซึ่งรู้จักกันมานานมาก สมัยที่อลันยังเป็นเด็กตอนนี้คนหนึ่ง 84 อีกคน 82








แต่ทั้งสองคนยังซิ่งรถได้คล่องปรือมากกว่าเราซะอีก/แม่อลันเล่าเรื่องเราสองคน และส่งรูปให้ดูตอนที่เรายังอยู่เมืองไทยท่านก็เลยอยากมาเจอพวกเรา


เรามีนัดทานข้าวกันบ่ายสามโมง อาหารบางอย่างแม่ย่าทำไว้ตั้งแต่เมื่อวาน และบางอย่างลูกสะใภ้คนอื่นๆทำมาให้รวมกัน (แต่สำหรับสะใภ้อย่างดิฉันกินอย่างเดียวค่ะ) อลันชอบปล่อยข่าวว่าเรากินอาหารอเมกันไม่ได้ ทุกคนพยายามหาเบอร์โทรร้านอาหารไทยใกล้เคียง(น่ารักเนอะ) แต่เราบอกว่าเราอยากลองทานอาหารอเมกันดูไม่ต้องโทรหรอก(ได้ก็ดี อิอิ) ที่จริงเป็นคนไม่ชอบพวกอาหาร Fast food แต่อาหาร Home make อร่อยมากค่ะ ฟาดไปซะพุงกางเลยละค่ะ


 






ระบบครอบครัวช่วยตัวเองนะค่ะ


กินเสร็จก็เปิดประเด็นสนทนาระหว่างครอบครัว ไอ้เราสะใภ้เจียมเจี่ยม นั่งอ้าปากฟังอย่างเดียวค่ะอยากคุยเหมือนกันแหล่ะไม่รู้จะคุยเรื่องไรดี บางทีขี้เกียจฟัง(เอ้า..พูดความจริงอีก)ก็ออกไปนั่งดูหนังกับเด็กๆ










ด้านหลังบ้านที่นั่งคุยกัน




 



เอ..พันธุ์เราจะออกมาแบบนี้ไหมเน้อออ?


หลังจากทานข้าวพวกผู้ใหญ่จะมีกิจกรรมให้พวกเด็กๆ แต่งคุกกี้ เพ้นพ์ไข่ แล้วผู้ใหญ่ก็จะเตรียมตระกร้าขนมของขวัญให้เด็กๆในเย็นเช้า






ทริปนี้ไม่ค่อยได้ออกไปไหนค่ะเพราะเป็นช่วงอีทเตอร์ อลันบอกว่าคราวหน้าถ้ามาจะพาไปตั้งแคมป์ไปทะเล(ถ้าไม่พาไปอืม...น่าดู อิอิ) แต่อยู่กับครอบครัวก็อบอุ่นดีค่ะเพียงแต่ว่ามันยังใหม่สำหรับตัวเอง บางครั้งเห็นครอบครัวมาอยู่พร้อมหน้าทำให้คิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวเรา มันแค่เป็นจิตใต้สำนึกลึกๆที่รู้แบบนั้นวันนี้เราเลยเราเลยทำตัวเหลวไหล เข้าห้องนอนก่อนใครเพื่อนตั้งแต่สองทุ่มนอนไม่หลับหรอกค่ะ เพียงแต่คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อ,แม่,พี่น้องนอนน้ำตาไหล ทั้งๆที่ตอนอยู่กรุงเทพฯ ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ได้แต่บอกอลันว่าทุกอย่างใหม่สำหรับเราให้เราปรับตัวสักพักคงดีขึ้น อลันบอกว่าครอบครัวเขาก็เหมือนครอบครัวเรา และทุกคนรักเราเหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมันก็จริงเนอะ แต่จริงๆลึกๆแล้วมันไม่เหมือนครอบครัวทางสายเลือดหรอกค่ะ อีกอย่างเรามาไกลญาติพี่น้องอาจจะทำให้เป็นโรค Homesick แต่คิดว่าสักพักอาการเหล่านี้คงจะดีขึ้นค่ะเพราะทุกคนที่นี่รักและเป็นห่วงเรา


มุมแม่บ้าน


เห็นสาวๆไกลบ้านหลายๆคนเขาชอบอาหารกัน ดิฉันก็เลยเอาฝีมืออันน้อยนิดมาอวดกับเขาบ้างเผื่อว่าจะมีโรงแรมดัง มาเชิญไปเป็นแม่ครัวหัวเด็ดบ้าง,อิอิ (เวอร์ซะปานนั้นล่ะค่ะ)



ไข่ยัดใส้



แกงจืดผักกาดดองซี่โครงหมู



ผัดไก่ถั่วฝักยาว



กุ้งอบวุ้นเส้น


อย่าบอกน๊าว่าอาหารบ้านดิฉันน่ากินฟังจนเบื่อแล้วล่ะค่ะ อิอิ


(หลงตัวเองซะไม่มีละตู)


 


 




Create Date : 03 มิถุนายน 2549
Last Update : 21 สิงหาคม 2549 22:41:16 น. 0 comments
Counter : 1068 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BeamerFamily
Location :
new jersey United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พวกเราครอบครัว Beamer เพิ่งเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่นานมานี้เอง อยากถ่ายทอดเรื่องราวและบันทึกความทรงจำที่ดีผ่านโลกไซเบอร์แห่งนี้
บันทึก ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2549
  • Click for New Egypt, New Jersey Forecast
    Group Blog
     
     
    มิถุนายน 2549
     123
    45678910
    11121314151617
    18192021222324
    252627282930 
     
    3 มิถุนายน 2549
     
    All Blogs
     
    Friends' blogs
    [Add BeamerFamily's blog to your web]
    Links
     

    MY VIP Friend

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.