ชีวิต"แม่บ้าน" ง่ายจริงหรือ? จากคนเคยทำงานเกือบทุกวันเปลี่ยนมานั่งอยู่บ้าน ทำความสะอาด ทำกับข้าว ซักผ้า คุณคิดว่ามันเป็นง่ายเหรอ? สามวันแรกที่มาถึงที่นี่เหนื่อยกับการเปลี่ยนแปลงเวลา เอามากๆนอนก็เหมือนไม่ได้นอน ตอนกลางวันก็เหมือนจะอาเจียน อยากนอนซะงั้น
ภาระกิจแรกของแม่บ้านมือใหม่ คือการเดินสายพบญาติที่อยู่ต่างเมืองกัน (แหม!!ยังกะนางสาว"เดินสาย") ใช้เวลาเดินทางจากตอนเหนือของนิวเจอร์ซี่ไปยังตอนใต้ ประมาณชั่วโมงครึ่งเห็นจะได้ค่ะ นั่งรถไปคิดไป "เอ!!!ญาติเขาจะเข้าใจภาษากระเหรี่ยงหลงดอยอย่างตูไหม่หว่า" แต่เอาวะไม่พูดวันนี้วันหลังก็ได้พูดอยู่ดีนั่นแหล่ะ บ้านแรกที่เราจะไปคือบ้านของ "คิม" คิมคือพี่สาวอลันค่ะ
อลันบอกว่าคิมเป็นผู้หญิงที่มีความสุข ตัวอ้วนกลม รักการกิน(เอ๊ะ..เข้าทาง) ก้าวแรกที่เดินเข้าบ้านคิม เจอผู้ชายตัวใหญ่เข้ามากอด อ๊ะ!!มันไม่เคยแบบนี้เนอะ แขม่วของสงวนทันควัน (แหม!! คิดว่าใหญ่นะนั้นกอดสามทีก็ไม่โดนเลย) คำแรกที่ได้ยิน "Welcome to our family " ไม่รู้หรอกว่าลุงอ้วนนั่นนะใคร แต่มันรู้สึกดีเป็นบ้าเลยล่ะจากนั้นเขาก็เดินเขาไปในห้อง ออกมาพร้อมกับผู้หญิงตัวอ้วนกลม ผมยุ่งเหยิง (เฮ้ย!!มันจะเที่ยงแล้วนะป้ายังไม่ตื่นอีกเหรอเนี๊ย) หลังจากคิมล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็โผเข้ากอดน้องชายทันทีเหมือนไม่ได้เจอกันมาสักสามปี อิอิ จากนั้นก็ทันมาทางเรากอดอย่างเดียวไม่พอนะนั่น หอมแก้ม จุ๊บจ๊าบๆ"คิม"เป็นอย่างที่อลันบอกเลยค่ะ เป็นผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยความสุข หัวเราะได้ตลอดเวลา คิมมีลูกสาวสองคนชื่อเบนดี๊กับบริสนี่ ซึ่งทั้งสองคนนั้นก็มีลูกแล้วด้วยค่ะ ดิฉัน งง อยู่นิดหน่อยเพราะแก่กว่ายังทำลูกไม่เป็นอีกอะ (ใครรู้สอนหน่อยดิทำแบบไหนถึงได้ลูกเนี๊ย) พอลลี่เป็นลูกของบริสนี่สงสัยคงเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ เป็นใครว่ะหน้าตาแปลกๆเหมือนพม่าอพยพ เลยให้ความสนใจเป็นพิเศษทำท่าทาง เหมือนจะเข้ามา เอ๊ะ!! น่านเราได้โอกาสทันทีสวม วิญญาญนางงาม "รักเด็ก"
พวกเราหอบรูปทั้งหมดเกือบพันกว่าไปให้ดู ดูไปวิจารณ์เจ้าค่ะ คิมบอก Lin,You are hot girl อิอิ มิน่าละอลันติดหนึบ ก่อนจะกลับคิมเข้ามากอดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากๆๆ พร้อมกับพูดที่ว่า เธอดีใจมากๆที่ได้เรามาเป็นส่วนหนึ่ง ของครอบครัวที่ทำให้น้องชายเธอมีความสุขซึ่งเธอไม่เคย เห็นอลันเป็นแบบนี้มาก่อน ขอบคุณความสัมผัสแรกที่อบอุ่นของครอบครัวคิมค่ะ
จากบ้าน "คิม" เราไปต่อกันที่บ้านพ่ออลัน พ่อริชาร์ดเป็นคนตลกแต่ท่านทำงานหนักในช่วงหนึ่งของชีวิต ไม่เคยดูแลสุขภาพจนวันนี้ล้มป่วยและต้องรักษาตัวเป็นระยะ ได้แต่นั่งๆนอนๆอยู่บนโซฟา เดินได้แต่ก็ไม่ไกลนัก อลันสนิทกับพ่อมากสมัยที่ยังทำอะไรได้สองคนนี้ ไปล่าสัตว์ ตกปลาและหลายกิจกรรมโหดด้วยกันบ่อยมาก พ่ออยู่กับน้องสาวและน้องชาย อายุสามคนรวมกันน่าจะเกือบสองร้อยได้ หลังจากปรับตัวให้เข้ากับเวลาที่นี้ได้ "ชีวิตแม่บ้านมือใหม่" ก็เริ่มต้นขึ้น ใครจะคิดว่าผู้ญิงทำงานอย่างดิฉัน ที่ไม่เคยจะสนใจหรอกว่าผ้าปูที่นอนจะเรียบหรือป่าว เอาเป็นว่าบางครั้งหมกมันไว้ก็ยังเคยเลย กับการเริ่มต้นชีวิตใหม่เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตื่นพร้อมกับสามีตีห้าครึ่ง (ไม่ได้ตื่นมาทำการบ้านนะ) แค่มานั่งดื่มกาแฟเป็นสามีและส่งคุณเธอ ไปทำงานตอนหกโมงยี่สิบสองนาที พออลันสตาร์รถออกจากบ้านเท่านั้นแหละค่ะ นางมารขี้เกียจเข้าสิงห์ทันทีกลับไปกระโดดขึ้นเตียง หลับต่ออีกประมาณสองชั่วโมง (ตอนหลับอาจจะเผลอ "ตด"บ้างก็ได้นะ) เอ๊ะ!!! อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยเลย แปดโมงเช้าเป็นเวลาที่รู้สึกตัวบางวันก็เจ็ดโมงบ้าง แล้วแต่อารมณ์และทรงผม (ทรงผมเป็นเกี่ยวกันด้วยเหรอว่ะเนี๊ย) อย่างแรกกองทัพมันต้องเดินด้วยท้อง (นั่นเป็นคำพูดของคนมันจะอ้วนเนอะ) ง่ายๆก็ไข่กับขนมปังและก็น้ำส้มที่ซะมีสอนไว้ (ของง่ายๆอย่างนี้ยังต้องสอนแฮะ) วันจันทร์จะเป็นอะไรที่ยุ่งเอามากๆเพราะสะสมมาทั้งอาทิตย์ เก็บผ้ายัดใส่เครื่องเวลาที่รอผ้าเสร็จทำความสะอาด เครื่องครัวและห้องครัว ให้อยู่ในสภาพที่เหมือนยังไม่ได้ใช้ (โถ!!สงสารตัวเองชะมัดเป็นทาสในเรือนเบี้ยซะมี) ก็ไม่ยากอะไรมากหรอกค่ะ แค่ทำทุกครั้ง หลังทำกับข้าวเสร็จ (เฮ้ย..เรื่องมันเศร้าค่ะ) ซะมีดิฉันเข้าขั้นเจ้าระเบียบเจ้าค่ะ โอ๊ยยย!! อันนี้วางตรงนี้ไม่ได้นะที่รัก (เชอะมีหยอดคำหวานต่อท้ายนะ) เดี่ยวคนเห็นดูไม่งาม อันโน้นของประเภทเดียวกันต้องเก็บไว้ที่เดียวกัน สะดวก หาง่ายแต่ก็นั้นแหละ่ชีวิตแม่บ้านต้องทำ ไม่งั้นอาจโดนถีบกลับบ้านด่วน กว่าผ้าจะซักอบแห้ง มีเวลาอีกนิดหน่อยขัดส้วมค๊ะ..ขัดส้วม
อ้อ!!สิ่งที่ลืมไม่ได้ทุกวันนั่นคือต้องปูเตียงให้อยู่ในสภาพที่สวยงาม (แหม..ยังกับพนักงานทำความสะอาดโรงแรมเลยนะตู) ไม่อย่างงั้นจะถูกซะมีกระเซ้าเล็กน้อยก่อนขึ้นเตียงนอน ทำให้เสียอารมณ์"ทำการบ้าน" (มิน่าละลูกไม่มาสักที) ช่วงบ่ายๆมีเวลารีดผ้าอีกนิดหน่อย บางครั้งผ้าไม่เยอะก็เสร็จในวันเดียว บางครั้งผ้าเยอะมากๆเก็บไว้ทำวันอังคารต่อค่ะ บ่ายสองโมงครึ่งของทุกวันได้เวลาเตรียมอาหารกว่าซะมีจะกลับ ก็เกือบสองชั่วโมงเห็นจะได้ สนุกกับการทำอาหารค่ะ วันๆนั่งค้นสูตรโน่นสูตรไปลอกชาวบ้านเขาบ้าง ก็มีล่ะรวมทั้งหนังสือที่ซื้อมาจากกรุงเทพ ตั้งโต๊ะปุ๊บ ดิฉันรอจังหวะมองหน้าซะมีก่อนเลยค่ะ ลุ้นว่าอันนี้สามีจะชอบไหมเน้อ? อร่อยไหมว่ะ? เท่าที่ทำมาคุณซะมีไม่ชอบ "หมี่กระทิ" เจ้าค่ะ เหม็นกระทิกระป๋องมาก ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าสาวๆเขาใช้กระทิกระป๋องหรือว่าครั้นเองหว่า? (หรือว่าฝีมือดิฉันไม่เข้าขั้นเน้อ) หลังจากทานข้าวถ้าอาการดีหน่อยเราสองคน ก็ไปเดินออกกำลังกายค่ะ
หรือไม่ก็ดูหนัง เกมส์โชว์ ตามประสา พอถึงเวลาเข้านอน สิ่งที่ลืมไม่ได้คือกราบเท้าซะมีก่อนนอน ตามแบบฉบับกุลสตรีไทย เฮ้ย!! ไม่ใช่อย่างนั้นนี่มัน 2006 นะย่ะ แค่จูบลาซะมีก่อนนอนสามจุ๊บแล้วบอกรักก็แค่นั้น (เฮ้ย!!เลี่ยนเกินไปอาจทำให้คนอ่านอาเจียนได้นะค่ะ) จริงๆซะมีเป็นคนสวีทค่ะ แต่ภรรยาสยองต่างหากล่ะ นั่นแหล่ะค่ะชีวิตแม่บ้านต่างแดนที่ต้องทำทุกวัน วันพฤหัสกับศุกร์ จะเป็นอะไรที่ว่างมากๆ บางทีคิดถึงบ้าน คิดถึงเพื่อน ก็หาอะไรทำให้มันยุ่งๆเข้าไว้ นั่งเขียนไดอารี่บ้าง อ่านไดฯอของเพื่อนๆบ้าง หาสูตรทำกับข้าวบ้างเป็นอะไรที่แตกต่างจากชีวิตเดิมค่ะ แต่มีความสุขและอบอุ่นมากที่ได้อยู่กับอลัน ซะมีที่น่ารักของดิฉันค่ะ วันนี้วันที่ 5 เมษายน ได้รับเมลล์จากเพื่อนรักซึ่งเธอบอกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเราแต่เมื่อเธอ ได้อ่านไออารี่ที่เราส่งให้ เธอรู้สึกว่าได้รู้จักเรามากขึ้นในเมื่อเวลาที่ มันสายไปจนเราจากมาอยู่ไกลถึงที่นี่ เรารู้ว่าเพื่อนสาวของเราต้องติดตามไดอารี่อย่างแน่นอน และอยากบอกเธอว่าไม่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ ไม่ว่าเราจะมีเพื่อนใหม่อีกสักร้อยคนพันคนแต่ความเป็นเพื่อน สำหรับเราและเธอมีจะมีตลอดไปและ มันจะยิ่งผูกพันธ์มากขี้น แค่วันนี้ เพื่อนได้รับความเป็นตัวตนของเพื่อนเท่านั่นเอง รักเพื่อนฝน (และจุ๋ม+จั่น)
วันนี้หิมะตกทั้งวันค่ะ
|
คุณเคยทำงานที่UBC คุณทำงานที่นั้น4ปีโดยประมาณ คุณแต่งานเดือน กพ.2006 ดิฉันแต่งเดือนมีค.2007ค่ะ
ดิฉันทำงานก็เคยทำงานที่ยูบีซีแต่อยู่แผนกติดตามหนี้สิน อยู่ทีตึกขาวด้านหลังอาคารทิปโก้ค่ะสามีดิฉันอายุมากกว่าดิฉัน14ปีเค้า56ดิฉัน42ค่ะ
ดิฉันไม่แน่ใจว่าเคยเห็นคุณที่ ยูฯหรือเปล่าแต่บอกตามตรงว่าคุ้นหน้าคุณมากๆค่ะขอโทษค่ะดิฉันออกจากยูฯปี2003ค่ะ
ยินดีมากค่ะที่ได้รู้จักคุณ