Group Blog
 
 
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 

สุขสันต์วันคริสต์มาส

25 ธันวาคม วันคริสต์มาส


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

 
ถึงช่วงปลายปีทีไร ชาวไทยเราก็มีเรื่องฉลองอีกแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่หรือวันคริสต์มาสที่กำลังจะเข้ามาถึง
แม้ว่าวันคริสต์มาสนี่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับคนไทยที่นับถือศาสนา
พุทธสักเท่าไร แต่พี่ไทยซะอย่าง ฉลองได้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว
แต่ก่อนที่จะไปฉลองกัน ลองมารู้จักกับวันคริสต์มาสก่อนดีไหม



ตำนานวันคริสต์มาส

          คำว่า "คริสต์มาส" เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า" ซึ่งพบครั้งแรกในเอกสารโบราณที่เป็นภาษาอังกฤษในปี ค.ศ. 1038 และในปัจจุบันคำนี้ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas

เทศกาล
Christmas หรือ X’Mas ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งวันที่ 25
ธันวาคมนั้นเป็นวันประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์
โดย
พระองค์ประสูติที่เมืองเบ็ธเลเฮ็มและเติบโตที่เมืองนาซาเรท
ซึ่งปัจจุบันคือประเทศอิสราเอล ตามหลักฐานในพระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ว่า
พระเยซูเจ้าประสูติในสมัยที่จักรพรรดิซีซาร์ ออกุสตุส แห่งจักรวรรดิโรมัน
ซึ่งทรงสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยฝ่ายคีรีนิอัส
เจ้าเมืองซีเรียก็รับนโยบายไปปฏิบัติให้มีการจดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้ง
อาณาเขต แต่ในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร

          
ด้านนักประวัติศาสตร์ก็มีความเห็นที่ต่างออกไปโดยได้วิเคราะห์ว่า
เดิมทีวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิเอาเรเลียนแห่งโรมัน
กำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยะเทพ ตั้งแต่ปี ค.ศ.274
ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า
เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย
เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์
แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน
รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริย
เทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูซึ่งเปรียบเสมือนความสว่างของโลก
และเหมือนดวงจันทร์เป็นความสว่างในตอนกลางคืนแทน
หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนาตั้งแต่ปี ค.ศ. 64-313
จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ปี ค.ศ.330
ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย


         
เทศกาลคริสต์มาสจึงเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู
และเป็นการฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์โลก โดยส่งบุตรชาย คือ "พระเยซู"
ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยไถ่บาป
และช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากการทำชั่วนั่นเอง
ดังนั้นในวันนี้ถือเป็นวันที่มีความหมายสำคัญชาวคริสต์ทั่วโลก
และมีการส่งบัตรอวยพร ให้ของขวัญ แก่กันและกัน
รวมทั้งประดับประดาตกแต่งบ้านเรือนด้วยแสงไฟ และต้นคริสต์มาสอย่างสวยงาม







องค์ประกอบในงานคริสต์มาส

 ซานตาครอส


เป็นสิ่งแรกๆ ที่คนจะนึกถึงในฐานะสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาส
ซึ่งว่ากันว่าซานตาคลอสคนแรก คือ นักบุญ (เซนต์) นิโคลัส
ผู้เป็นสังฆราชแห่งเมืองไมรา มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 4
และเหตุที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นซานตาครอสคนแรก
มาจากวันหนึ่งที่ท่านปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านของเด็กหญิงยากจนคนหนึ่ง
แล้วทิ้งถุงเงินลงไปทางปล่องไฟ
บังเอิญถุงเงินหล่นไปทางถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้ข้างเตาผิงพอดี




          นักบุญนิโคลัส
นั้นเป็นนักบุญที่ชาวฮอลแลนด์นับถือว่าเป็นนักบุญผู้อุปถัมภ์ของเด็กๆ
เมื่อชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่งอพยพไปอยู่ในสหรัฐฯ
ก็ยังรักษาประเพณีการฉลองนักบุญ นิโคลาส ในวันที่ 5 ธันวาคม เอาไว้
ซึ่งหมายถึงนักบุญนี้จะมาเยี่ยมเด็กๆ และเอาของขวัญมาให้เด็กอื่นๆ
ที่ไม่ใช่ลูกหลานของชาวฮอลแลนด์ที่อพยพมา
ประเพณีนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จักและแพร่หลายในอเมริกา
โดยมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง คือ ชื่อนักบุญนิโคลัสก็เปลี่ยนเป็น ซานตาคลอส
และแทนที่จะเป็นสังฆราชก็กลายเป็นชายแก่ที่อ้วนและใส่ชุดสีแดง
อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีเลื่อนเป็นยานพาหนะที่มีกวางเรนเดียร์ลาก
และจะมาเยี่ยมเด็กทุกคนในโลกนี้ในโอกาสคริสต์มาส
โดยลงมาทางปล่องไฟของบ้านเพื่อเอาของขวัญมาให้เด็กเหล่านั้นตามความประพฤติ
ของเขา

         
ถึงแม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียงตำนานที่เกิดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสก็
ตาม
แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่รวมเอาวิญญาณและความหมายของคริสต์มาสไว้อย่างมากมาย
อาทิ ความปิติยินดีชื่นชม ความโอบอ้อมอารี ความรัก และความเป็นกันเอง

 ถุงเท้า

         
จากที่นักบุญนิโคลัสได้ปีนขึ้นไปบนปล่องไฟของบ้านเด็กหญิงยากจน
เพื่อที่จะมอบเหรียญเงินให้เป็นของขวัญ
แต่เหรียญนั้นกลับตกไปอยู่ในถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้หน้าเตาผิง
พอรุ่งเช้าเด็กหญิงตื่นมาเจอเหรียญเงินในถุงเท้าจึงดีใจมาก
และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ผู้คนมากมายต่างพากันแขวนถุงเท้าคริสต์มาส
ไว้ เพื่อหวังจะได้รับของขวัญเช่นเดียวกันบ้าง






 ต้นคริสต์มาส


 
นอกจากนี้อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือ ต้นคริสต์มาส
ซึ่งต้นคริสต์มาสก็คือต้นสนที่นำมาประดับประดาด้วยลูกแอปเปิ้ลและขนมปัง
เพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท
และก็ได้มีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยจนมาถึงการประดับด้วยดวงไฟหลาก
สีสัน ขนม และของขวัญ อย่างในทุกวันนี้
การตกแต่งแบบนี้ต้องย้อนไปในศตวรรษที่ 8 เมื่อเซนต์บอนิเฟส
มิชชันนารีชาวอังกฤษที่เดินทางไปประกาศเรื่องพระเจ้าในเยอรมนี
ได้ช่วยเด็กที่กำลังจะถูกฆ่าเป็นเครื่องสังเวยบูชาที่ใต้ต้นโอ๊ก

         
โดยเมื่อโค่นต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยู่ที่โคนต้นโอ๊ก
ท่านจึงขุดให้คนที่ร่วมพิธีกรรมเหล่านั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต
และตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์ ต่อมา มาร์ติน ลูเธอร์
ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ตัดต้นสนไปตั้งในบ้านในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1540
หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 19
ต้นคริสต์มาสจึงเริ่มแพร่ไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลก
และอีกเหตุผลที่ใช้ต้นสนก็เพราะว่ามันหาง่าย

         
ในสมัยโบราณนั้นต้นคริสต์มาส หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์
ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า
โดยตามพระคัมภีร์นั้นได้เปรียบพระเยซูเจ้าเสมือนเป็นต้นไม้แห่งชีวิต
ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เขียวเสมอในทุกฤดูกาล สื่อถึงนิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า
อีกทั้งความสว่างของพระองค์ยังเหมือนแสงเทียนที่ส่องสว่างในความมืด
และรวมถึงความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเยซูประทานให้
เพราะต้นไม้นั้นเป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัวในเทศกาลคริสต์มาส




 ต้นฮอลลี่



ต้นฮอลลี่ เป็นต้นไม้พุ่มเตี้ย และเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาส
เชื่อกันว่า สีเขียวของต้นฮอลลี่มีความหมายถึง การมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์
และมีความสัมพันธ์กับพระเยซู
โดยผลสีแดงของต้นฮอลลี่นั้นหมายถึงหยดเลือดของพระเยซูที่ไหลลงบนไม้กางเขน
ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความรักที่มีต่อพระเจ้า
ใบไม้ที่มีหนามของต้นฮอลลี่เป็นสิ่งที่เตือนพวกเราถึงมงกุฏหนามที่พวกชาว
ทหารโรมันได้นำมาวางไว้บนศีรษะของพระเยซูคริสต์





 ดอกไม้คริสต์มาส หรือ Poinsettia


ตำนาน
ของดอก Poinsettia ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของวันคริสต์มาส
มาจากเรื่องราวของเด็กหญิงจนๆ คนหนึ่ง
ที่ต้องการหาของขวัญไปมอบให้พระแม่มารีในวันคริสต์มาสอีฟ
แต่เนื่องจากเธอไม่มีสิ่งของใดๆ ติดตัว จึงเดินทางไปตัวเปล่า
และระหว่างทางเธอได้พบกับนางฟ้าที่บอกให้เธอเก็บเมล็ดพืชไว้
ต่อมาเมล็ดพืชนั้นกลับเจริญเติบโตเปลี่ยนเป็นดอกไม้สีเลือดหมูสดใส
ซึ่งก็คือดอก Poinsettia ตั้งแต่นั้นดอก Poinsettia
ก็ได้รับความนิยมใช้ประดับประดาบ้านในงานคริสต์มาส

 ดอกคริสต์มาส Christmas Rose

มี
ต้นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ ลักษณะเป็นดอกสีขาว และมักออกดอกในช่วงฤดูหนาว
ตำนานของดอกคริสต์มาสนี้มีอยู่ว่า ในช่วงที่พระเยซูประสูติ มีผู้รอบรู้ 3
คน กับคนเลี้ยงแกะเดินทางมาพบพระเยซู ระหว่างทางพวกเขาพบกับ มาเดลอน
เด็กหญิงที่เลี้ยงแกะคนหนึ่ง
เมื่อเธอทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาเพื่อมอบของขวัญให้พระเยซู
มาเดลอนก็เสียใจที่ไม่มีของขวัญใดไปมอบให้พระเยซูบ้าง
ก่อนที่นางฟ้าที่เฝ้ามองเธออยู่จะเกิดความเห็นใจจึงร่ายมนตร์เสกดอกไม้สีขาว
น่ารักและมีสีชมพูอยู่ตรงปลายกลีบให้เธอ และดอกไม้นั้นคือ
ดอกคริสต์มาสนั่นเอง



 เพลงวันคริสต์มาส

      
เพลงคริสต์มาสเริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 แต่งโดยพระสงฆ์และฆราวาส
มีเนื้อร้องเป็นภาษาลาติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า
เน้นถึงความหมายของการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12
ได้มีการแต่งในท่วงทำนองที่ร่าเริงสนุกสนานมากขึ้น เริ่มจากประเทศอิตาลี
โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้สนับสนุน
ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่

          เพลงคริสตมาสแบบใหม่นี้
เป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้าน เพราะมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า
และเน้นถึงความชื่นชมยินดีในโอกาสคริสต์มาส
เพลงเหล่านี้มีทั้งที่เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง
เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274)
และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste
Fideles ในภาษาลาติน
เพลงคริสต์มาสที่นิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19
จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่
เพลง Silent Night, Holy Night

         
ความเป็นมาของเพลงนี้มาจากวันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818
คุณพ่อโจเซฟ โมห์ (Joseph Mohr) เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ (Oberndorf)
ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวัดเสีย
ทำให้วงขับร้องไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้
จึงมีการแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ นำไปให้เพื่อนชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ (Franz
Gruber) ใส่ทำนองในคืนวันที่ 24 นั่นเอง และเล่นเพลง Silent Night
เป็นครั้งแรก โดยมีการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง
ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก

 คำอวยพรวันคริสต์มาส

ในวันคริสต์มาสเรามักจะใช้คำอวยพรให้แก่กันและกันว่า Merry X'mas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า "สันติสุขและความสงบทางใจ"
คำนี้จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรขอให้เขาได้รับสันติสุขและความสงบทางใจ
และได้จัดให้มีการฉลองเพื่อระลึกถึงการบังเกิดของพระเยซู
ที่เขายกย่องเหมือนกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสากลโลก ผู้ทรงเกียรติเลอเลิศ
ประเพณีนี้ได้เริ่มมาจากรุงโรมในศตวรรษที่ 4 และค่อยๆ เผยแพร่ไปทุกทวีป




 สีประจำวันคริสต์มาส

สีที่เกี่ยวข้องในวันคริสต์มาสประกอบด้วย

สีแดง :
เป็นสีของผลฮอลลี่ หรือซานตาครอส เป็นสีของเดือนธันวาคม
ที่แสดงถึงความตื่นเต้น และหากเป็นสัญลักษณ์ตามศาสนา สีแดงจะหมายถึง ไฟ,
เลือด และความโอบอ้อมอารี

สีเขียว :
เป็นสีของต้นไม้ สัญลักษณ์ของธรรมชาตื
หมายถึงความอ่อนเยาว์และความหวังที่จะมีชีวิตเป็นนิรันดร์
เปรียบได้กับว่าเทศกาลคริสต์มาสคือเทศกาลแห่งความหวัง

สีขาว :
เป็นสีของหิมะ และเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา คือแสงสว่าง ความบริสุทธิ์
ความสุข และความรุ่งเรือง สีขาวนี้จะปรากฎบนเสื้อคลุมนางฟ้า,
เคราและชายเสื้อของซานตาครอส

สีทอง : เป็นสีของเทียนและดวงดาว เป็นสัญลักษณ์ของแสงอาทิตย์และความสว่างไสว


 การทำมิสซาเที่ยงคืน


การถวายมิสซานี้เกิดขึ้นหลังจากพระสันตะปาปาจูลีอัสที่ 1
ได้ประกาศให้วันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส)
ในปีนั้นเองพระองค์และสัตบุรุษ ได้พากันเดินสวดภาวนา
และขับร้องไปยังตำบลเบธเลเฮม และไปยังถ้ำที่พระเยซูเจ้าประสูติ
เมื่อไปถึงตรงกับเวลาเที่ยงคืนพอดี พระสันตะปาปาทรงถวายบูชามิซซา ณ ที่นั้น
เมื่อเดินทางกลับมาที่พักได้เวลาตี 3 พระองค์ก็ถวายมิสซาอีกครั้ง และ
สัตบุรุษเหล่านั้นก็พากันกลับ
แต่ยังมีสัตบุรุษหลายคนไม่ได้ร่วมขบวนไปด้วยในตอนแรก
พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3
เพื่อสัตบุรุษเหล่านั้น
ด้วยเหตุนี้เองพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตในพระสงฆ์ถวายบูชามิสซาได้ 3 ครั้ง
ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืน ในวันคริสต์มาส
และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ในโอกาสวันคริสต์มาส

 เทียนและพวงมาลัย


พวง
มาลัยนั้นเป็นสัญลักษณ์ที่คนสมัยก่อนใช้หมายถึงชัยชนะ
แต่สำหรับการแขวนพวงมาลัยในวันคริสต์มาสนั้น
หมายถึงการที่พระองค์มาบังเกิดในโลก
และทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างครบบริบูรณ์ตามแผนการณ์ของพระเป็นเจ้า
ซึ่งธรรมเนียมนี้
เกิดจากกลุ่มคริสตชนกลุ่มหนึ่งในประเทศเยอรมันได้เอากิ่งไม้มาประกอบเป็นวง
กลมคล้ายพวงมาลัย แล้วเอาเทียน 4 เล่ม วางไว้บนพวงมาลัยนั้น
ในตอนกลางคืนของวันอาทิตย์แรกของเทศกาลเพื่อเตรียมรับเสด็จ
ทุกคนในครอบครัวจะจุดเทียนหนึ่งเล่ม สวดภาวนา
และร้องเพลงคริสต์มาสร่วมกันเป็นเวลา 4 อาทิตย์ก่อนถึงวันคริสต์มาส
ประเพณีเป็นที่นิยมอยางมากในประเทศอเมริกา
ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยนำเทียน 1
เล่มนั้นมาจุดไว้ตรงกลางพวงมาลัยสีเขียว และนำไปแขวนไว้ที่หน้าต่าง
เพื่อเป็นการเตือนให้คนที่เดินผ่านไปมาได้รู้ว่าใกล้ถึงวันคริสต์มาสแล้ว
ส่วนเหตุผลที่พวงมาลัยมีสีเขียวนั้น
เป็นเพราะมีการเชื่อกันว่าสีเขียวจะช่วยป้องกันบ้านเรือนจากพวกพลังอันชั่ว
ร้ายได้


 ระฆังวันคริสต์มาส






         
เสียงระฆังในวันคริสต์มาสคือการเฉลิมฉลองให้กับการประสูติของพระพุทธเจ้า
โดยมีตำนานเล่าว่า
มีการตีระฆังช่วงก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันคริสต์มาสเพื่อลดพลังความมืด
และบ่งบอกถึงความตายของปีศาจ
ก่อนที่พระเยซูผู้ที่จะมาช่วยไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์จะถือกำเนิดขึ้น
และระฆังนี้มีเสียงดังกังวาลนานนับชั่วโมง
ก่อนที่ในเวลาเที่ยงคืนเสียงระฆังนี้จะกลับกลายมาเป็นเสียงแห่งความสุข




 ดาว

          ดาว ในความหมายของชาวคริสต์เตียน หมายถึงการแสดงออกที่ดีของพระเยซูคริสต์ ที่บัญญัติไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลว่า "The bright and morning star" มีความหมายพิเศษเหมือนกับว่า ดวงดาวเหล่านั้นได้แบ่งที่อยู่กับสรวงสวรรค์ ไม่ว่าจะมีกำแพงอะไรขวางกั้นระหว่างพื้นผิวโลกด้วยก็ตาม

 เครื่องประดับและแอปเปิ้ล

         
ในบางแห่งเชื่อว่า ลำต้นของแอปเปิ้ล มองดูคล้ายกับต้นไม้ในสรวงสวรรค์
จึงมีการนำเอาแอปเปิ้ลมาประดับตามต้นไม้ในวันคริสต์มาส
ส่วนเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ
ที่ตกแต่งต้นคริสต์มาสนั้นเป็นงานศิลปะที่จำลองจากผลไม้
และที่มีสีสันสดใสนั้นเพื่อให้เกิดความรื่นเริงในบ้าน
อีกทั้งแสงระยิบระยับที่สะท้อนไปมา ยังดูสวยงามคล้ายแสงเทียนและแสงไฟ




 ของขวัญวันคริสต์มาส



          การแลกเปลี่ยนของขวัญในวันคริสต์มาสนั้น
เริ่มต้นจากเมือง Saturnalia ในช่วงยุคโรมัน
ต่อมาชาวคริสต์รับประเพณีนี้เข้ามา ด้วยความเชื่อว่า
การให้ของขวัญนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับของขวัญประเภททอง,
ยางสนที่มีกลิ่นหอม และ ยางไม้หอม
ซึ่งพวกนักเวทย์จากตะวันออกที่เดินทางมาคารวะพระเยซูคริสต์
นำมาให้ตอนที่ท่านประสูติ


ทั้งหมดนั้นก็คือการเฉลิมฉลองให้กับพระเยซู
ที่เกิดมาเพื่อชำระบาปให้แก่ชาวคริสต์ทั้งหลาย และเป็นเทศกาลที่นำความสุข
สนุกสนาน มาสู่หมู่มวลมนุษย์









ประวัติ
วัน คริสต์มาส วันปีใหม่ กลอนปีใหม่ การ์ดปีใหม่ การ์ดคริสต์มาส
ของขวัญปีใหม่ อวยพรปีใหม่ คำอวยพรวันคริสต์มาส ฟัง เพลงวันคริสต์มาส
เพลงปีใหม่ Glitter การ์ตูน Dookdik น่ารัก ๆ มากมาย คลิกที่นี่เลยค่ะ









Free TextEditor




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2554
18 comments
Last Update : 24 ธันวาคม 2554 7:26:01 น.
Counter : 8147 Pageviews.

 

เจิมจ้า....ขอบคุณที่ไปทักทายกันนะคะ
Merry X'Mas ค่ะ
ขอให้มีแต่ความสุข พบแต่สิ่งดี ๆ นะคะ
เอาขนมหวานมาเสิร์ฟ ชีวิตจะได้มีแต่ความหวานชื่นค่ะ

 

โดย: เนินน้ำ 24 ธันวาคม 2554 8:51:14 น.  

 

สุขสันต์วันคริสมาสคร่าาาา
มีความสุขมากๆนะคร๊าาาา

 

โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน 24 ธันวาคม 2554 9:14:40 น.  

 



สุขสันต์วันคริสต์มาสคร๊า
มีความสุขมากๆ นะค่ะ

 

โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 24 ธันวาคม 2554 10:15:50 น.  

 


ขอบคุณนะคะ ที่แวะไปฝากเม้นท์ไว้ที่บ้านคร้า
มีความสุขมากมากนะคะ

 

โดย: Nissan_n 24 ธันวาคม 2554 10:16:08 น.  

 

 

สุขสดชื่นวันคริสต์มาส นะคะคุณบีม




More Merry Christmas Comments

 

โดย: กิ่งฟ้า 24 ธันวาคม 2554 10:31:38 น.  

 

merry x-mas na ka
We often make good wishes for the New Year
with the words
MAY YOU BE HAPPY
In fact , happy alone without suffering is very hard to get
So, I would like to change my wishing words that
May you be strong in your heart to accept
both happiness and sorrows

 

โดย: คุณน้องนนนี่ 24 ธันวาคม 2554 12:28:32 น.  

 




 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 24 ธันวาคม 2554 13:53:49 น.  

 



ขอบคุณมากเลยค่ะ ได้รู้ความหมายและสัญลักษณ์หลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน
อีกไม่กี่ชั่วโมงระฆังคริสต์มาสก็จะดังแล้ว
... สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ

 

โดย: PhueJa 24 ธันวาคม 2554 19:38:51 น.  

 

สวัสดีค่ะ5555วันนี้สู้หนาวคงสบายมาก
เพราะมีทั้งผ้าห่มสองผืนคนขายแกว่า
ต่อให้แค่5องศายังสู้ได้สบายมาก
อิอิ เลยแพงหน่อยแต่คุ้มหนาวค่ะ
อีกทั้งมี่ปิดหน้าต่างประตูแล้วพันด้วย
เอ้ยไม่ใช่!!ติดด้วยกิ๊ปค่ะ(คนแก่เขาสอนมาค่ะ อิอิ)
X’mas ค่ะขอพระเจ้าปกป้องคุณนะคะ




ภาพเขียนสีโบราณ
กังวานครวญสวนทิพย์ยะเยือกหนาว
เกสรแก้วแพรวพราย

ผีเสื้อฉลุลาย
ด้วยผ่านเวียนห้วงน้ำกาลไกล
บอกเล่าละครวาร

กวีนิพนธ์เขียน
ณ มุมหนึ่งที่วาดปรารถนา
เภตรากาลสรรพสิ่ง

วันรุ่งคริสต์มาส
ให้พานพบโชคเสน่หา
ทุกสิ่งเหมือนอาทร

ระฆังกังสดาล
โชติช่วงหวังหวานแห่งดวงดาว
ผ่านกาลภิรมย์มา..


 

โดย: ญามี่ 24 ธันวาคม 2554 21:34:32 น.  

 

แวะมาทักทายช่วงค่ำๆครับ.* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .* .*

 

โดย: BadBoy (taweeporn2011 ) 24 ธันวาคม 2554 21:43:22 น.  

 

สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่ไปอวยพรวันคริสมาสค่ะ

พิมก็ขอให้เจ้าของบ้านมีความสุขในทุก ๆ วัน

มีความสุขตลอดไปนะคะ

 

โดย: pimtida 25 ธันวาคม 2554 2:45:38 น.  

 

 

โดย: Sao'Padlung 25 ธันวาคม 2554 4:18:54 น.  

 

สิ่งใดดี ขอให้ดียิ่งขึ้น
สิ่งใดไม่ดีไม่ชอบ ขอให้อย่าแผ้วพานนะครับ

Merry Christmas สุขสันติ์วันคริสต์มาส ครับ


 

โดย: yyswim 25 ธันวาคม 2554 8:42:35 น.  

 

สวัสดีครับ

คงยากจะสรรหารายละเอียดของคริสมาสให้ได้มากมายขนาดนี้นะครับ อยากให้พรอันประเสริฐทุกประการจงเกิดแก่เจ้าของบล็อกผู้เพียรพยายามสร้างเรื่องราวประวัติที่ดีงามนี้ด้วยนะครับ

สุขสันต์วันคริสมาสและตลอดไปจ๊ะ



คริสต์มาสเป็นอีกวันหนึ่งบนโลกใบนี้ที่หมายถึงความอบอุ่นของครอบครัว เด็กได้รับของขวัญต่างตื่นเต้นดีใจ ผู้ใหญ่ก็สดชื่นผ่องใสถ้วนหน้า เช่นเดียวกับวันตรุษจีน สงกรานต์ ฯ เพื่อครอบครัว จุดเริ่มต้นสังคมเล็ก ๆสังคมแรกของชีวิตเราที่ต้องมั่นคงที่สุด

 

โดย: find me pr 25 ธันวาคม 2554 11:11:18 น.  

 

ขอบคุณที่เข้าไปชมบล๊อคนะจ๊ะ
แล้วก้อสุขสันวันคริสมาสด้วยน๊ะ

 

โดย: bb_wonder 25 ธันวาคม 2554 17:20:08 น.  

 



ขอให้สุขสันต์ในเทศกาลแห่งความสุขและตลอดไปครับ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมกันด้วยครับ

 

โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) 25 ธันวาคม 2554 19:47:06 น.  

 



เทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่


ปอยถือโอกาสอวยพรให้คุณและครอบครัวมีความสุข


สุขภาพแข็งแรง สุขสมหวังในทุกสิ่งนะค่ะ








นำอาหารมาฉลองวันคริสต์มาสแล้วคร๊า
หม่ำๆ ได้เลยนะค่ะ หลังจากได้ศึกษาข้อมูลวันคริสต์มาสแล้วนะเออ

สุขสดชื่นตลอดวันนะค่ะ

 

โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ 26 ธันวาคม 2554 9:08:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


bbmit
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




I'm just an ordinary guy,

but full of truth and sincerity.


เป็นเพียงคนเดินดิน ที่มีเพียงความจริงใจ

แม้ไม่เลิศเลอเหมือนใคร แต่ว่าใจมั่นคง

Friends' blogs
[Add bbmit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.