อยากห้ามความรัก โถมันห้ามยากนะคุณ ปล่อยให้ผมว้าวุ่น รักคุณต่อไปเถิดหนา
Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
6 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
ความรัก.....กับการสูญเสีย

ผมได้นำเอาสิ่งที่ Steve Jobs กล่าวปาฐกถาไว้เมื่อปีที่แล้วมาลงไป 2 บท และนี่เป็นบทสุดท้าย หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยคับ

ความรักกับการสูญเสีย

ผมโชคดี - ผมค้นพบสิ่งที่ผมรักที่จะทำได้เร็ว ผมและ Waznick (ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple) ได้เริ่มต้นที่โรงรถของบ้านพ่อแม่เมื่อผมอายุได้ 20 ปี เราทำงานอย่างหนักและ 10 ปีหลังจากนั้น บริษัท Apple เติบโตจากโรงรถที่มีพนักงานแค่ 2 คน ไปสู่บริษัทที่มีพนักงานกว่า 4,000 คนและมูลค่ากว่า 2,000 ล้านเหรียญ ด้วยประดิษฐกรรมที่ดีที่สุดของเรา McIntosh หนึ่งปีก่อนที่ผมจะมีอายุครบ 30

แล้วผมก็ถูกไล่ออก

คุณจะถูกไล่ออกจากบริษัทที่คุณเป็นผู้สร้างมันมากับมือได้อย่างไร?

เมื่อ Apple เติบโตขึ้น ผมคิดว่าน่าจะหา CEO ที่มีประสบการณ์ด้านบริหารมาช่วยกันสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน เวลานั้นผมยังเด็กมาก อายุยังไม่เต็ม 30 ดีด้วยซ้ำ ผมอยากเห็น McIntosh เป็นสินค้าคอนซูมเมอร์ โปรดักท์ที่ทุกคนสามารถมีไว้ประจำบ้าน เฉกเช่น รถโฟล์ค หรือทีวีโซนี่ ดังนั้น จอห์น สกัลลี่ (ในเวลานั้นดำรงตำแหน่ง เป็น President ของเป๊ปซี่) จึงถูกผมเชื้อเชิญให้เข้ามาร่วมงานในฐานะ Co-CEO ด้วยอมตะวาจาที่ว่า

"คุณจะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดของชีวิตกับการขายน้ำหวาน หรือโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโลกร่วมกับเรา"

ในปีแรกๆทุกอย่างเป็นไปด้วยดี อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเมื่ออนาคตที่เราสองคนมองเห็นเริ่มแตกต่างกัน จนในที่สุดกลายเป็นความบาดหมางและคณะกรรมการของบริษัทก็อยู่ข้างเขา ผมถูกไล่ออกในวัยต้นๆ 30 และสาธารณะชนได้รับรู้ถึงปัญหาของเราอย่างกว้างขวาง สิ่งที่ผมทุ่มเทมาตลอดทั้งชีวิตในวัยหนุ่มได้มลายและถูกกัดกร่อนทำลาย

ผมช๊อคและตกอยู่ในสภาพที่ไม่รู้จะไปทางไหนตลอด 2-3 เดือนหลังจากนั้น คนทั้งบางรับรู้ถึงความล้มเหลวและผมเคยคิดที่จะหนีไปจาก Silicon Valley และไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีกเลย ทว่าผมก็ไม่ได้ทำมันและบางสิ่งบางอย่างเริ่มปรากฏขึ้นในใจอย่างช้าๆ

"ผมยังรักในสิ่งที่ผมเคยทำ"

ผมถูกเด้งแต่ผมยังคงตกหลุมรักมันอยู่ ผมกลับมาสู้และการถูกไล่ออกจากบริษัทที่ผมสร้างมากับมือ กลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับผม
ความหนักอึ้ง, ความกดดันและภาระของความสำเร็จที่แบกไว้ ถูกแทนที่ด้วยความโล่งเบาและช่วยให้ผมเริ่มใหม่ได้ง่ายขึ้น
มันปลดพันธนาการและโซ่ตรวนทั้งหลายทั้งมวลให้ผมเข้าสู่ช่วงเวลาที่สร้างสรรค์ที่สุดอีกครั้งหนึ่งแห่งชีวิต
หลังจากนั้นผมสร้างบริษัท NeXT และ Pixar บริษัทสตูดิโอ-อนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จแห่งหนึ่งของโลกขึ้นมา และในท้ายที่สุด เมื่อเหตุการณ์กลับผลิกผันอีกครั้งเมื่อผู้บริหาร Apple ได้กลับมาวิงวอนให้ผมกลับไปช่วยฟื้นฟูด้วยการซื้อกิจการ NeXT Computer เพื่อให้ผมได้กลับเข้าสู่อาณาจักรที่ผมสร้างมันมาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามระหว่างนั้นมีเหตุการณ์อีกอย่างคือผมได้ตกหลุมรักผู้หญิงที่น่าทึ่งคนหนึ่งซึ่งในเวลาต่อมาเธอกลายมาเป็นคู่ชีวิตผม "Laurence" และเรามีชีวิตครอบครัวที่แสนวิเศษร่วมกัน

ผมแน่ใจได้ว่า เหตุการณ์ดีๆในชีวิตเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย หากผมไม่ได้ถูกให้ออกจาก Apple

มันเป็นยาขมรสชาดไม่เอาไหน แต่ผมมั่นใจว่าคนไข้ต้องการมัน

บางครั้งชีวิตก็เหมือนคนที่ถูกฟาดด้วยก้อนอิฐอย่างแรงจนหัวคะมำ

แต่จงอย่าสูญเสียความเชื่อมั่น สิ่งเดียวที่ช่วยปกป้องคุณให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ก็คือ "คุณต้องรักในสิ่งที่คุณทำ"
คุณต้องหาสิ่งที่คุณรักให้เจอ.................................
มันจริงเสมอทั้งเรื่องงาน และเรื่องความรัก

งานกินเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตคุณ และวิธีเดียวที่คุณจะพึงพอใจกับมันอย่างแท้จริง
คือ "ทำในสิ่งที่คุณรักและรักในสิ่งที่คุณทำ"
ถ้าวันนี้ยังไม่เจอ.......มองหาต่อไป อย่าได้ท้อถอย ด้วยทุกอณูแห่งหัวใจ
และสัญชาติญาณ คุณจะรู้เมื่อคุณเจอมัน
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ในทุกๆวินาที มันจะมีแต่ดีขึ้นและ.....ดีขึ้น


เรียบเรียงและคัดย่อจากบทความนิตยสารไทคูน






Create Date : 06 เมษายน 2549
Last Update : 6 เมษายน 2549 20:09:03 น. 11 comments
Counter : 338 Pageviews.

 
"ทำในสิ่งที่คุณรักและรักในสิ่งที่คุณทำ " ใช่เลยคำๆ


โดย: ชาจัง (สุรัสวดี ) วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:20:12:57 น.  

 
มีความสุขกับสิ่งที่ทำ อะไรที่ทำผลมันก็ออกมาดีครับ ไม่ว่าจะยากลำบากหรือมีอุปสรรคมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อรักแล้วก็ต้องพยายามที่จะทำให้"สิ่งที่ตัวเองรัก"มันออกมาดีที่สุด เท่าที่คนรักงานคนนึงจะทำได้ บทความวันนี้อ่านแล้วตรงใจดีครับ


โดย: Markabyte วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:20:27:55 น.  

 
อื้อหือ! บทความนี้โดนใจมั่กๆ!

ขอบคุณมั่กๆ! ที่เอามาแบ่งปันกันนะคุณหากผมรักฯ

เพิ่งรู้นะเนี่ยะ ว่าเขาโดนอะไรแบบนี้ด้วย O_O! โอ้โฮ...เหมือนถูกฟาดด้วยก้อนอิฐจริงๆ อ่ะแหล่ะ >.<

เขาว่ากันว่า อุปสรรค, ความเจ็บปวด, ความเศร้า เป็นแรงผลักดันให้เราทำอะไรได้ดีกว่าสถานการณ์ปกติธรรมดา
(ถ้าคนๆ นั้นฉลาดจะมองให้ถูกมุม) และเป็นเหมือนสิ่งที่จะเจียระไนให้หินกลายเป็นเพชร

เคยได้ยินคนในพันทิพนี่แหล่ะบอกว่า...เวลาปกติ...ก็เขียน ก็ทำอะไรได้แบบธรรมดาทั่วไป...แต่พออกหักปั๊บ...เขียนอะไรๆ ก็ลึกซึ้งกินใจไปหมด กลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงขึ้นมาเลย...เรียกว่าเป็นช่วงนาทีทองของชีวิตขึ้นมาทันที

เราว่า อืม เนอะ สงสัยจะจริง...คีตกวีที่แต่งบทเพลงไพเราะประทับใจหลายต่อหลายคน...ก็มีชีวิตที่รันทดสุดๆ ...พวกบีโธเฟ่น, โมสาร์ต, โชแปงไรงี้ คีตกวีบางคนชีวิตสุขสบาย...ก็ไม่ดังเท่าพวกที่ชีวิตรันทด (เพลงก็ไม่กินใจเท่า)

และเราคิดว่าปัจจัยข้อนี้..เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้ประเทศเกาหลีพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด (จนเราตะลึงตึ๊งตึง ทึ่งแล้วทึ่งอีก)...เพลงเกาหลีก็ไพเราะ ประทับลงไปในใจทะลุไปถึงม้าม ละครของเขาดูแล้วกินใจไปสามปี คิดว่าเพราะประวัติศาสตร์ชาติเขาสุดแสนจะเศร้าเรยอ่ะ เหมือนประเทศนี้โดนฟาดด้วยก้อนอิฐซ้ำแล้วซ้ำเล่า..T^T

แต่จริงเลยอ่ะ "ทำในสิ่งที่คุณรักและรักในสิ่งที่คุณทำ"
เพราะว่าเขารักในสิ่งนั้น เขาจึงยังคงทำมันต่อไป และมีวันนี้จนได้
สิ่งที่รักนี่ใครเจอแล้วก็ดีไป ใครยังไม่เจอก็ต้องพยายามต่อไป อะไรๆ ก็ทนความพยายามไม่ได้หรอกนิ ^^


โดย: ลมหายใจเป็นพลัง (ล ม ห า ย ใ จ ...อุ่ น อุ่ น ) วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:20:48:58 น.  

 
จงอย่าสูญเสียความเชื่อมั่น สิ่งเดียวที่ช่วยปกป้องคุณให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ก็คือ "คุณต้องรักในสิ่งที่คุณทำ"

โอเคค่ะตอนนี้เรากำลังทำในสิ่งที่เรา "รัก"อยู่นะคะ อิอิ


โดย: อพันตรี IP: 203.113.45.197 วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:20:52:52 น.  

 

อ่านแล้วรู้สึกดีนะคะ กะลังเศร้าอยู่เลย อะไรมันจะเกิดก็ไม่รู้เนาะ ทำให้มันดีที่สุดก็ดีเอง ... พูดง่ายแต่ทำยากจัง


โดย: ai ค่ะ (MAGICofMAYA ) วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:20:55:51 น.  

 
มังคุดยังหาสิ่งที่อยากทำไม่เจอเลย

อาจารย์คนนึงบอกว่า

สิ่งที่เราทำได้ดี ให้ทำเป็นอาชีพ
สิ่งที่เราชอบ ให้ทำเป็นงานอดิเรก
เพราะถ้าเราเบื่องานเมื่อเรา
เราก็ยังมีงานอดิเรกให้หันไปหาได้


โดย: mungkood วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:21:22:34 น.  

 
จงอย่าสูญเสียความเชื่อมั่น....

มันเป็นอะไรที่ดีนะ...แต่เราจะเรียกกลับมาได้มันต้องใช้เวลานะ...จ๊ะ..เป็นเนื้อหาที่ดีค่ะ...นับถือค่ะ..



โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:22:03:17 น.  

 
ทุกอย่างที่จะทำต้องเกิดจากแรงศรัทธา อืม อ่านแล้วได้อะไรเพิ่มตั้งเยอะครับ


โดย: หมูน้อยตาดำๆ IP: 203.144.157.251 วันที่: 7 เมษายน 2549 เวลา:9:22:43 น.  

 
ศรัทธาสร้างโลกได้ครับ


โดย: pippojuve IP: 203.144.157.251 วันที่: 7 เมษายน 2549 เวลา:9:24:45 น.  

 
เข้ามา...อาย...อย่างแท้จริงค่ะ
ปูนนี้แล้ว ยังไม่ได้เริ่มทำสิ่งที่ตัวเองรักซักกะที
ไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดี


โดย: เสือจ้ะ วันที่: 7 เมษายน 2549 เวลา:14:48:35 น.  

 
: )

ตอนนี้ก็กำลังทำในสิ่งที่รักอยู่ค่ะ
แต่ก็เกิดมีปัญหาเหมือนกันนะ
เพราะบางทีพอมันกลายเป็นงานไปแล้ว
มันก็มีปัจจัยหลายๆ อย่างมาบีบ มาตีกรอบ
ให้เราไม่ได้ทำอย่างที่อยากทำจริงๆ

อ่านความเห็นคุณมังคุลแล้ว
เป็นอะไรที่ใหม่มาก!
และแอบเห็นด้วยจริงๆ

"สิ่งที่เราทำได้ดี ให้ทำเป็นอาชีพ
สิ่งที่เราชอบ ให้ทำเป็นงานอดิเรก"

ตอนนี้เลยเขียนคอลัมน์เป็นอาชีพ
เขียนนิยายเป็นงานอดิเรกซะ

: D แฮ่

ไม่งั้นคงแย่ไปเหมือนกัน


โดย: อูเคียว วันที่: 9 เมษายน 2549 เวลา:11:45:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หากผมรักคุณจะผิดมากไหม
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนบางคนอยากมีเงินเท่าทะเล
เขาจึงมีความทุกข์เท่าทะเล......
เพียงเพราะต้องดิ้นรน........
หาเงินให้เท่ากับทะเล

คนบางคนอยากมีเพียงเบ็ดสักคัน
เพียงเพื่อหาปลาตัวนึง....จากทะเล
กลับไปเป็นอาหารเย็น
และมีความสุขกับ....การนอนนับดาว
ยามค่ำคืนบนชายหาดที่สงบเงียบ

Friends' blogs
[Add หากผมรักคุณจะผิดมากไหม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.