www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

A bend in the road (บนทางสายรัก) / Nicholas sparks


....ก่อนจะอ่านหนังสือเล่มนี้จบผมสังเกตตัวเองและได้คำตอบแล้วว่า เพราะอะไรเวลาใครถามว่าผมชอบอ่านหนังสือแบบไหน นิยายของนิโคลาส สปาร์ค เป็นคำตอบหนึ่งในนั้น เพราะตอนที่ผมนั่งอ่านคนเดียวในที่สาธารณะผมยิ้มอย่างมีความสุขและน้ำตาซึมอย่างซาบซึ้งได้โดยไม่รู้ตัวแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางผู้คน

.....3เล่มก่อนหน้านี่คือ The notebook / A walk to remember / The rescue เป็นลำดับที่ผมเริ่มอ่านและติดตามมา ทั้งสามเรื่องผมพบว่ามีโครงสร้างของเรื่องคล้ายๆกันคือ ช่วงแรกถึงช่วงกลางจะเป็นช่วงที่ทำให้เราลุ้นและแอบยิ้มในพบกันและรักกันของตัวเอก และเมื่อถึงจุดที่ทั้งสองรักกัน หนังสือก็จะพาเราเข้าไปสู่ครึ่งหลังที่ปัญหา อุปสรรค และปมในอดีตกลับมาพัวพัน หลอกหลอนให้ความรักต้องสั่นคลอน และ ก็จะพาเราไปสู่บทสรุปสุดท้าย

.....จุดเด่นที่ผมพบจากทั้งสามเรื่องคือ

**นิโคลาส สปาร์คเก่งในการใส่ปมเบื้องลึกในจิตใจของตัวเอก และใช้ปมนั้นเป็นตัวดำเนินเรื่องราว ไม่เพียงแต่ใส่ปมเท่านั้นเค้ายังเข้าใจอย่างพอสมควร (เช่นตัวเอกในThe rescue ที่เคยมีความเป็นผู้แพ้ ช่วยใครไม่ได้ ความรู้สึกผิดในวัยเด็ก และมาชดเชยในวัยผู้ใหญ่ด้วยความเป็นผู้ช่วยเหลืออย่างไม่คิดถึงชีวิตตัวเอง โดยอาจมีความจินตนาการวาดฝัน(rescue fantasy)ว่ามันอาจเป็นการย้อนกลับไปแก้ไขอดีต)

**ภาษาพูดหรือเขียนที่อ่านแล้วไม่ได้สละสลวยเกินจริง แต่เป็นคำพูดที่เราๆอาจเคยใช้กันมาก่อนเวลาจีบสาวหรือจีบหนุ่ม

**มีการใส่ความคิดของตัวละครเข้ามาแทรกเวลาตัวละครทำหรือพูดอะไรออกมา (คิดถึงเหมือนตัวพระเอกในหนังเรื่องwimbledon ที่มีฉากความคิดพูดได้เวลาจะแข่งขัน)

**เวลาบีบคั้นอารมณ์ไม่ต้องใช้คำพูดคำบรรยายอะไรที่มากมาย แต่เรื่องราวที่ค่อยๆหว่านมาตั้งแต่ตอนต้นโดยคนอ่านไม่รู้ตัวจะทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปโดยอัตโนมัติ และมันก็ได้ผลกับผมทุกครั้งไป

**************
เรื่องราวของ

ไมลส์....ตกหลุมรักกับมิสซี่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยและตั้งแต่ตอนนั้นความรักของเค้าทั้งสองคนไม่เคยแยกทางจากกัน ทั้งคู่มั่นคงมาตลอดและแต่งงานมีลูกด้วยกัน เค้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยนายอำเภอ มีชีวิตที่เปี่ยมสุข

มิสซี่....ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ ใจดี ผมสีน้ำตาลเข้ม หัวเราะง่าย ไม่ว่าใครก็ตกหลุมรักเธอได้เพียงพบเธอครั้งแรก เธอรับรักกับไมลส์และทั้งคู่มีลูกด้วยกัน1คนคือโจนาห์

2ปีก่อน....หลังจากมิสซี่น้อยใจและทะเลาะกับไมลส์ด้วยเรื่องเล็กน้อย เธอออกไปวิ่งและไม่ได้กลับมาอีกเลย

2ปีที่ผ่านมา....ไมลส์เฝ้าตามหาว่าใคร คือ คนฆ่ามิสซี่และ จมปลักอยู่กับความทุกข์ความรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลาแต่เค้ายังมีโจนาห์ และยังเป็นพ่อที่ดีสำหรับลูกอยู่ตลอดมา

ปัจจุบัน....

ซาราห์ ...ผู้หญิงที่ผิดหวังมาจากชีวิตคู่ที่เคยวาดฝันไว้ เธอเป็นคนน่ารัก เฉลียวฉลาด และกล้าคิดกล้าแสดงออกทำให้เค้าพบว่าเค้าได้ตกหลุมรักขึ้นมาอีกครั้ง

คนที่เป็นต้นเหตุการตายของมิสซี่....ยังคงมีชีวิตอยู่และเฝ้าดูชีวิตทุกชีวิตที่เป็นผลจากเค้า

ไมลส์....เค้าพร้อมที่จะมีความรักอีกครั้งได้หรือยัง หรือความแค้นและความผิดในใจจะฉุดเขาไว้ไม่ไห้พบความรักอีกครั้งหนึ่ง
************

....ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่นิโคลาส สปาร์ค วางโครงหลายอย่างไว้คล้ายๆกับ The rescue ไม่ว่าจะเป็นบทตัวละครที่มีลักษณะคล้ายกัน หรือ การใส่ปมในจิตใจที่เป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวเหมือนกัน

สิ่งที่ชอบ

1.ปมของตัวละครและเรื่องราวที่เป็นธีมของเรื่อง

*ความรู้สึกผิด ความรู้สึกมีส่วนต้องรับผิดชอบ* -- ทำให้ไมลส์ไม่อาจหลุดพ้นจากกับดักในใจขอบตัวเองได้และคอยวิ่งหาอะไรซักอย่างที่พร้อมจะเป็นตัวที่ปลดปล่อยตัวเองออกจากความรู้สึกผิดนี้ และ เราก็จะได้พบว่าในท้ายที่สุดไม่ได้มีเพียงแต่ไมลส์ที่อยู่ในความรู้สึกนี้เพียงคนเดียว

*ความแค้น* -- เป็นเหมือนไฟที่เผาใจตัวละครอย่างไมลส์ตลอดเวลา แต่เราก็จะได้เห็นว่าคนที่ไม่ยอมดับไฟนั้นคือตัวของเค้าเอง

*ความรัก* -- ทั้งความรักที่ซาร่าห์มีให้กับไมลส์ และ ไมลส์มีให้กับซาร่าห์ โจนาห์มีให้กับพ่อ ไมลส์มีให้กับลูก เป็นเหมือนตาข่ายที่แน่นหนาที่ประคองทั้ง3ชีวิตให้อยู่ในโครงสร้างของครอบครัวเดียวกัน และเราจะได้เห็นว่ามันคือวัคซีนอันหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับครอบครัวนี้

2.ตัวละคร
*ตัวละครหลัก* -- ถึงแม้ว่ามิสซี่จะตายไปแล้ว แต่ผมอ่านผมก็มองเห็นภาพผู้หญิงที่เป็นทั้งภรรยาที่รักและแม่ของลูกที่ดีได้เหมือนเธอยังมีชีวิตอยู่ /ผมเห็นภาพซาราห์ที่มีเสน่ห์ เฉลียวฉลาด เก็บความทุกข์ไว้แต่ไม่แสดงออก และไม่ยากที่ใครก็ตามจะตกหลุมรัก / ไมลส์ ผู้ชายที่เหมือนแข็งกร้าวและไม่ยอมใครแต่ก็อ่อนไหวและเป็นทั้งพ่อและคนรักที่อบอุ่น/ และตัวละคร "ผม" ที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับการเล่าเรื่องและทำให้โทนของนิยายค่อนไปในทางของลึกลับสืบสวนอยู่เป็นระยะๆ

*ตัวละครอื่นๆ* -- ยังคงมีเอกลักษณ์และน่าสนใจ ไม่ใช่ชวนให้พลิกอ่านไปให้หมดๆ ทั้งตัวละครแม่ของซาร่าห์(รักลูก/จู้จี้/Overinvolvement/overprotective) หรือชาร์ลีเพื่อนของไมลส์(มีน้ำใจ/ยืดหยุ่นแต่เด็ดขาด) ทุกตัวละครมีความลึกที่อาจจะไม่มากแต่ก็ไม่บางเบาเหมือนใส่เข้ามาเพื่อให้เต็มเรื่อง

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.ส่วนท้ายของเรื่อง...ผมรู้สึกว่ามันเริ่มออกไปทางสืบสวนและลึกลับไปอยู่ช่วงหนึ่งและทำให้อารมณ์มันไม่ต่อเนื่องกับช่วงต้น โดยเฉพาะในช่วงที่จะเฉลยว่าใครเป็นคนฆ่ามิสซี่

สรุป......ประทับใจอีกเช่นเคยครับ จนอดไม่ได้ที่อยากจะมาเขียนและเล่าให้ฟัง ถึงแม้ว่าจะไม่ถนัดในเรื่องของหนังสือเท่าไหร่นัก แต่อยากให้เพื่อนๆที่ชื่นชอบหรือยังไม่มีโอกาสได้อ่านงานของนิโคลาส สปาร์คได้ลองหามาอ่านกัน รวมทั้งขอชื่นชมคนแปลที่สามารถแปลออกมาได้ดีเยี่ยมเหมือนกับท่านอื่นๆที่ได้แปลนิยายของนิโคลาส สปาร์คออกมา

.....สำหรับผมเอง วันนี้กำลังจะออกไปซื้อTheWeddingและกลับไปอ่าน ค่ำคืนที่โรดังเต้ ต่ออย่างมีความสุขครับ

ปล...ปีนี้เป็นปีที่ผมโชคดีกับการอ่านตั้งแต่ต้นปีเพราะอ่านหนังสือที่ดองไว้สองเล่มก็ประทับใจทั้งสองเล่ม เล่มแรกคือ Can you keep a secret?ที่น่ารักแบบยั่วเย้า น่าหยิกหยอกตัวนางเอกของเรื่อง และอ่านแบบยิ้มเหมือนคนบ้าจนจบเล่ม(ชอบคาแรคเตอร์ของนางเอกคนนี้เหลือเกินและมากกว่าสาวนักชัอปหลายเท่า)



Create Date : 24 มกราคม 2548
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2548 22:31:16 น. 6 comments
Counter : 1644 Pageviews.

 
เรายังไม่ได้อ่านในส่วนของเรื่องราวนะค่ะ เพราะกะจะรออ่านก่อนแล้วค่อยอ่าน แต่คงอีกนานนนนน เพราะช่วงนี้ยุ่งจริงๆ แต่มา comment เพราะเคยดูหนังที่สร้างจากนวนิยาย ของ Nicolas Sparks เราได้มีโอกาสดูเรื่อง The Notebook และ A walk to remember เราก็ชอบหนังทั้งสองเรื่องนะค่ะ
โดยเฉพาะ The Notebook ชอบภาพในหนังมากๆ เลย (ว้า! กลายเป็น comments เกี่ยวกับหนังไปซะแล้ว) แต่ส่วนใหญ่ ในหนังสือต้นฉบับจะสนุกกว่าหนัง หลังจากได้มีประสบการณ์กับการดูหนังเรื่อง Harry Porter ทุกภาค และ Diary Bridge Jones แล้ว เราชอบเวอร์ชันหนังสือมากกว่า (อาจจะเป็นการลำเอียงนิดหน่อย เพราะเราชอบอ่านหนังสือก็เป็นได้)

แต่ที่เราอ่าน เราจะอ่านเวอร์ชันภาษาไทยนะค่ะ เคยพยายามจะอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Can you keep a secret? เป็น English version แต่ไม่สำเร็จค่ะ ท้อแท้ซะก่อน เลย ไปซื้อภาษาไทยมาอ่าน ให้หายอยากอีกเล่น เรื่องนี้ก็สนุกดีค่ะ แต่เราชอบสาวนักช็อปฯ มากกว่าอยู่ดีนะค่ะ


โดย: พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว วันที่: 25 มกราคม 2548 เวลา:20:29:57 น.  

 
ขยันอ่านจังเลย
เราได้อ่านthe notebook เมื่อหลายปีก่อนอ่านแล้วน้ำตาซึมเลย
แต่หนังสือของคุณสปาร์คนี่น้ำเน่ามาก เลยไม่ค่อยอยากติดตามอ่านเท่าไหร่
เราเพิ่งอ่านหนังสือของ Amy Tan ไปทั้งสองเล่ม เรื่อง Kitchen God's Wife กับ Chinese Bone's Daughter ประทับใจมาก แต่ยังไม่เคยอ่าน Joy Luck Club น่ะ
ถ้ามีหนังสืออะไรน่าสนใจก็แนะนำกันบ้างน่ะ


โดย: Te necesito IP: 203.150.217.119 วันที่: 25 มกราคม 2548 เวลา:23:32:40 น.  

 
สงสัยจะต้องหามาอ่านบ้างแล้วค่ะ

มีคนที่ชอบเรื่องนี้มากๆคนนึงเคยมาแนะนำแล้วว่าเค้าชอบมากๆเลย(เป็นผู้ชายด้วย) ค่อนข้างจะเชื่อนะคะ ถ้าผู้ชายเป็นคนแนะนำหนังสือหรือหนังแนวนี้ ^^ แล้วคุณก็นับเป็นคนที่สองที่แนะนำด้วย

คงหามาอ่านเร็วๆนี้(ถ้าว่าง) ตอนนี้อยากอ่านหรือดูหนังที่ให้กำลังใจ+บอกว่าโลกนี้มันสวยงามน่ะค่ะ (รึป่าวนะ?)

เพราะคงเป็นสิ่งที่เราขาดมากที่สุดในตอนนี้ละมั้ง


โดย: To me,You're perfect. (Korean_Girl ) วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:5:37:35 น.  

 
ตามมาอ่านจากหลังไมค์ค่ะ
(เข้าใจโฆษณาดีจัง)
คุณเขียนเรื่องหนังและหนังสือได้ดีมากๆเลย
เราพยายามจะรีวิวหนังสือที่เคยอ่านๆ
แต่ลงท้ายก็รีวิวเหมือนเล่าให้เพื่อนฟังทุกทีเลย
แถมจำเรื่องย่อไม่ค่อยได้อีกตะหาก
ชอบผลงานของนิโคลัสเหมือนกันค่ะ
อ่านทีไรมันซึ้งๆอยู่ในใจบอกไม่ถูก
(ร้องไห้ทุกทีเลยด้วย ฮืออ)
ขออนุญาตแอดบล็อกด้วยนะคะ
จะมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆ ตามประสา
คนชอบอ่านชอบดูเหมือนกันค่ะ

แวะมาเยี่ยมกันบ้างนะคะ


โดย: s.o.s วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:17:31:59 น.  

 
ถ้าใครได้อ่าน Notebook มาแล้วละก็ ขอแนะนำให้อ่าน The Wedding ต่อ เรื่องนี้ Happy Ending ค่ะ Rodante รำลึก ก็น่าสนใจนะคะ
อยากอ่าน Message in the bottle ไม่ทราบตีพิมพ์ภาษาไทยรึเปล่าหาไม่เจอเลย ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ


โดย: ขาจร IP: 203.155.76.129 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:5:27:47 น.  

 
เราอ่านหนังสือของนิโคลาส สปาร์ค เกือบจะทุกเล่มแล้วค่ะ ตอนนี้เหลือแค่ Dear John กับเล่มใหม่จำชื่อไม่ได้เท่านั้น เราชอบทุกเล่มแต่เล่มที่สุด ๆ จริง ๆ เอาใจเราไปเลยทั้งดวงคือ Message in a Bottle ค่ะ นั่งร้องไห้เหมือนตัวเองเป็นหนึ่งในตัวละครในเรื่อง เราซื้อหนังสือเล่มนี้ให้แฟนเราอ่านด้วย ซึ่งแฟนเราเป็นคนไม่ชอบอ่านนิยายเขาจะอ่านพวกประวัติบุคคลอะไปประมาณนั้น แต่พอเราชื่อเล่มนี้ให้ เขาอ่านแล้วบอกว่าไม่สงสัยเลยทำไมเราถึงชอบมากและเขาดีใจที่เราซื้อหนังสือเล่มนี้ให้เขาอ่าน เขาชอบมาก

ถ้าอยากพูดคุยเรื่องหนังสือ ไปที่ blog เราได้นะ //irisalicious.blogspot.com ค่ะ เราเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก


โดย: ปุ๊ก IP: 58.10.167.252 วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:8:56:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
 
มกราคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 มกราคม 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.