|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยววัดลามะ และ พระราชวังต้องห้ามหน้าหนาว
บล็อกใหม่มาแล้วจ้า แต่ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณ ป้าเดซี่ ที่ช่วยพลแต่งบล็อกสะสวยถูกใจพลเป็นอย่างยิ่ง ใครที่เห็นแล้วชอบ พลก็ขอยกความดีทั้งหมด ทั้งบล็อกเลยให้ป้าเดซี่ พลไม่ได้ทำเองเด้อ 
จริง ๆ บล็อกนี้กะว่าจะพาไปเที่ยวพระราชวังต้องห้าม กับ กำแพงเมืองจีน ตอนหน้าร้อนแดดเปรี้ยง ๆ อย่างนี้สะหน่อย เพราะเมื่อประมาณอาทิตย์ก่อนโน้นนนน ได้พาเพื่อนไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน กับ พระราชวังต้องห้ามมา
แต่เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคบางประการ รูปภาพที่ถ่ายไว้ทั้งหมด หายไปในพริบตา พูดแล้วอยากจะร้องไห้จริง ๆ 
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนที่มาถึงปักกิ่งครั้งแรก ได้มีโอกาสไปเที่ยว วัดลามะ กับ พระราชวังต้องห้ามมา ดู ๆ ไป บรรยากาศก็สวยไปอีกแบบ ผู้คนแต่งตัวด้วยชุดกันหนาวสวยแปลกตา ใบไม้ก็เปลี่ยนสี 
เริ่มที่วัดลามะก่อน วัดลามะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แรกในปักกิ่งที่พลได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม เหตุก็เพราะโรงแรมที่พักนั้นอยู่ใกล้วัดลามะมาก เดินแค่ 5 นาที่ก็ถึงแล้ว (บ้านที่อยู่ตอนนี้ก็อยู่ใกล้ ๆ กับโรงแรมที่เคยพักนั่นแหละ )

มองจากด้านข้างชอบใจกำแพงเค้ามากเลยอะ ลองเปรียบเทียบขนาดตัวคนกะกำแพงดิ ว่ากำแพงทั้งใหญ่ และ สูง ขนาดไหน แล้วใจก็พาลนึกไปถึงเมนู พระกระโดดกำแพง  เกี่ยวกันปะ ใครรู้ที่มาที่ไปของอาหารที่ชื่อ พระกระโดดกำแพง วานเล่าให้ฟังทีเห๊อะจักเป็นพระคุณอย่างสูง ขอบคุณล่วงหน้าจ้า

รูปนี้เป็นทางเข้าวัด ประตูเค้านะสวยนะ แต่เสียดายว่าแถวนั้นเป็นที่จอดรถสะเยอะ ทั้งรถเล็ก และ รถใหญ่ ทัศนียภาพเลยไม่ค่อยสวยเท่าไร เมื่อของโบราณ ไปอยู่คู่กะเทคโนโลยี (อันนี้เป็นความเห็นเฉพาะส่วนตัวพลเองนะ) ก่อนเข้าก็ซื้อตั๋วสะก่อน ราคา 25 หยวน

พอเข้าไปในบริเวณวัด ใบไม้เปลี่ยนสีสวยแปลกตาสำหรับคนไม่เคยเห็นอย่างพลดี 


อันนี้ก็เป็นรูปภายในวัด (เสียดายว่าถ่ายมาเฉพาะใจชอบ เลยไม่ได้เก็บรายละเอียดที่ควรถ่ายมาด้วย แต่จริง ๆ ในวิหารเค้าก็ห้ามไม่ให้ถ่ายรูปนะ) ว่ากันว่า วัดลามะเนี่ย เป็นสักการสถานที่สวยงามที่สุดในปักกิ่ง เป็นวัดพุทธนอกทิเบตที่มีชื่อเสียงที่สุด ประกอบด้วยวิหารหลัก 5 หลัง และจะสูงใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ และยังมีรายละเอียดปลีกย่อยสวยงามชวนตะลึงตึง ๆ อีกต่างหาก แต่อย่างที่บอกว่าเค้าห้ามถ่ายรูปภายในวิหารนะจ๊ะ ถ่ายได้เฉพาะด้านนอก และ ลานต่าง ๆ ได้แค่นั้น (ใครอยากไหว้พระ ขอบอกว่าแถวหน้าประตูทางเข้าวัด และถนนข้าง ๆ มีร้านขายธูปห่อมากมายหลายร้าน เลือกซื้อกันได้ตามใจชอบ)
เคยมีพระจำพรรษาสูงสุดถึง 1500 รูป แต่ตอนนี้เค้าว่าเหลือแค่ 70 รูปแค่นั้นเอง และถึงแม้ว่าจะเป็นพระสายเดียวกะ องค์ดาไลลามะ แต่ในเมื่ออยู่ในปักกิ่ง ก็ถูกห้ามยุ่งเรื่องการเมืองทิเบตอย่างเด็ดขาด




รูปต่อไปเป็นวิหารหลังสุดท้ายในบรรดาวิหารทั้ง 5 หลัง วิหารหลังนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปสูง 25 เมตร ที่แกะสลักจากไม้จันทน์ต้นเดียว (ขอบอกว่าสูงและใหญ่จริง ๆ นะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปพระมาให้ดู ไม่แน่ใจว่าเค้าไม่ให้ถ่าย หรือ ไม่อยากถ่ายเองกันแน่ )

ต่อมาเป็นสิงโตขนาดเขื่อง ที่บ่งบอกให้รู้ว่าหมู่วิหารนี้ เคยเป็นตำหนักขององค์ชาย หย่งเจิ้ง ซึ่งต่อมาได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิในปี 1772 และพระองค์ก็ได้ทำตามราชประเพณีดั้งเดิม คือ หลังจากได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิแล้ว พระองค์ก็ได้พระราชทานตำหนักเดิมให้เป็นวัด


ต่อไปก็จะพาไปเที่ยว พระราชวังต้องห้าม (ภาษาจีนเรียก กู้กง) ค่าเข้าชมคนละ 60 หยวน ใครไปเที่ยวกันเองไม่ได้ไปกับทัวร์ แต่อยากมีไกด์บรรยายให้ฟังว่าอะไรยังไง ก็สามารถเช่าไกด์อัตโนมัตได้ หลายหลายภาษาให้เลือก แต่คนไทยอย่างเรา ภาษาไทยเค้าก็มีให้เช่าจ้า ราคาไกด์อัตโนมัติ 40 หยวน (แต่บางทีจะมีคนจีนหนุ่มบ้าง สาวบ้าง คงเป็นไกด์ผีนะแหละ นั่งรออยู่แถวหน้า ๆ พระราชวังต้องห้าม พอเห็นนักท่องเที่ยวก็จะเข้ามาเสนอความช่วยเหลือว่าตัวเองเป็นไกด์ สนใจไหม คราวหลังสุดไปกะเพื่อนเป็นหนุ่มตี๋เข้ามาเสนอว่าเป็นไกด์อาสาสมัคร แต่พวกเราไม่สนใจกัน เลยไม่รู้ว่าของเค้าดีหรือเปล่า )
พระราชวังต้องห้ามนี้ เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิจีน รวม 24 พระองค์คือ ราชวงศ์หมิง 14 พระองค์ ราชวงศ์ชิง 10 พระองค์ รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 491 ปี
ไม้ที่ใช้ในการก่อสร้างพระราชวังหลวงนั้นเป็นไม้คุณภาพดีชื่อ หนานมู่ จากมณฑลเสฉวน (คิดดูเห๊อะ ว่าเสฉวนเนี่ย อยู่ห่างจากปักกิ่งตั้ง 1500 กิโลเมตร คนสมัยก่อนนี่เก่งจริง ๆ เพราะต้องข่นส่งไม้ตั้ง 380000 ท่อน จากเสฉวนถึงปักกิ่ง คิดแล้วเหนื่อยแทนจริง ๆ )
และจากการใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้างนี่เอง ทำให้หลังสร้างพระราชวังเสร็จแค่ 100 วันก็เกิดเพลิงไหม้ จักรพรรดิในสมัยนั้น คือ จักรพรรดิ ฮ่อง ซี เห็นว่าเป็นลางร้าย จึงได้ตัดสินพระทัยย้ายกลับไปประทับที่เมือง หนานจิง จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ หลังจากนั้นจักรพรรดิองค์ใหม่จึงได้ย้ายกลับมาอยู่กรุงปักกิ่งดังเดิม และบูรณะพระราชวังใหม่อีกครั้ง แต่ต่อมาอีก 120 ปี ก็ได้เกิดฟ้าผ่า ทำให้พระราชวังเสียหายหนักอีกครั้ง
นอกจากไม้แล้ว วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างยังมีอิฐอีกจำนวนมากมาย ว่ากันว่ารวมอิฐทั้งน้อย และ ใหญ่ในพระราชวังต้องห้ามทั้งหมดแล้ว มีมากถึง 100 ล้านก้อนกันเลยทีเดียว
การก่อสร้างพระราชวังในครั้งนั้นใช้คนงานมากถึง 1 ล้านคน โดยมีสถาปนิก และ ช่างฝีมือเฉพาะด้านอีกกว่าแสนคน โดยมีระดับสุดยอดฝีมือ 3 คนคือ ลื่อ เสียง,เอียง ชิง และ ไคว่ เชียง
ส่วนในสุดอันเป็นเขตพระราชฐานชั้นใน ซึ่งเป็นที่ประทับของ ฮ่องเต้ และนางสนม ส่วนนี้ผู้ชายห้ามเข้าเด็ดขาด ยกเว้น ขันที บางตำราว่าไว้ว่า ในยุคแรก ๆ ของราชวงศ์หมิงนั้น มีขันทีอยู่ในวังหลวงถึงกว่า 25000 คน แล้วค่อย ๆ ลดจำนวนลงจนเหลือแค่ 1000 กว่าคนในตอนหลัง มีบันทึกไว้ว่า ขันที 1 คนจะทำหน้าที่ดูแลนางสนม 1 คน (โห จักรพรรดิจีนโบราณ ทำไมมีเมียเยอะงี้อะ)
บริเวณนั้น มีตำหนักที่ประทับของจักรพรรดิอยู่ตรงกลาง ตำหนักหลังนึงมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ของจีน คือ ตำหนักคุนหนิงกง ซึ่งเป็นตำหนักที่ใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีอภิเษกสมรสให้จักรพรรดิปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีนเมื่อปี ค.ศ.1922 (ตอนที่เห็นเนี่ย ยังเอาหน้าไปอัง ๆ มองไปข้างในเลย เพราะเค้าไม่ให้เข้าไปข้างใน แล้วก็นึกอยากจะเห็นตอนที่เค้าประกอบพิธีกันจริง ๆ สะงั้น)
พระราชวังใช้เวลาเตรียมการในการก่อสร้าง 10 ปี แต่ใช้เวลาทั้งสิ้นในการก่อสร้างเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น คิดเอาเห๊อะ ว่าคนจีนเก่งแค่ไหนอะ พูดมากแล้วมาดูรูปกันดีกว่า เริ่มจากด้านหน้ากันก่อนเลย


เข้ามาถึงชั้นแรกแล้ว แถมเห็นความตลกของต้นไม้ที่มีแต่ผล ไม่มีใบด้วย แต่ไม่รู้ว่าต้นอะไรนะ


ต่อมาเป็นทางเข้าดั้งเดิมของวังหลง ภาษาจีนเรียก อู่เหมิน เป็นที่จักรพรรดิตรวจทัพ และทำพิธีเซ่นไหว้รับตรุษจีน (ที่ขายตั๋วอยู่ข้าง ๆ อู่เหมินนี่แหละ)


พอซื้อตั๋วเสร็จก็เข้าไปข้างในกันได้แล้ว แต่ก่อนเข้าขอโชว์ไกด์อัตโนมัตกันหน่อย คุณคำรณ เค้าใช้ไกด์ภาษาฝรั่งเศส หน้าตาก็อย่างที่เห็น เอาไว้ห้อยคอ มีหูฟังข้างนึง






ระหว่างที่เดิน ๆ ไปเนี่ย ไกด์อัตโนมัตเค้าก็จะบรรยายไปเรื่อย ๆ ว่าตำหนักนี้เอาไว้ทำอะไร ใครได้ใช้บ้าง บลา ๆ ๆ ๆ ว่ากันไป ไปเจอประตูยักษ์ใหญ่เข้า แต่จำไม่ได้แล้วว่าอยู่ตำหนักไหนแถวไหน



แล้วก็มาถึงนี่กัน Hall of Supreame Harmony เป็นพระที่นั่งที่ใหญ่ที่สุดภายในมีบัลลังก์มังกรทำจากไม้หอม จักรพรรดิจีนทรงประทับว่าราชการทั้งสิ้น 24 พระองค์


อันนี้เป็นพระราชตำหนักรับรอง ก่อนออกนั่งพระราชบังลังก์จริง

แล้วเราก็เดินต่อไปข้างหลังกัน


แล้วก็มาถึงส่วนที่เป็นเขตอุทยานที่อยู่ทางท้าย ๆ ของพระราชวังกันบ้าง ตอนนั้นพลรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสวยอะ มีแต่ก้อนหินแปลก ๆ แล้วก็ตำหนักเล็ก ๆ น้อย ๆ แถมมีร้านค้าขายของที่ระลึกเกี่ยวกะพระราชวังต้องห้ามอยู่ด้วย ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร เลยถ่ายรูปมาแค่เล็กน้อย แต่เค้าว่ากันว่า สวน หรือ อุทยานแห่งนี้เกิดจากการขุดสระน้ำและแม่น้ำทองคำในเขตพระราชวัง ซึ่งมีปริมาณมากมายมากอง ๆ กันไว้จนเป็นภูเขาจำลองในอุทยาน และมีการตกแต่งด้วยเก๋งจีน และก้อนหิน (ไอ้ที่พลคิดว่ามันไม่สวยนะแหละ) ต้นไม้หลักของที่นี่คือ ต้นสน แต่ละต้นก็เก่าแก่ทั้งนั้น


มาถึงท้ายสุดแล้ว เราก็ต้องกลับไปคืนไกด์อัตโนมัตกัน ถ้าไม่คืนเราก็ได้ไกด์กลับบ้านไป แต่ไม่ได้เงินค่ามัดจำคืน ครั้นจะเอาไกด์กลับบ้านด้วย ก็กระไรอยู่ เพราะไกด์เธอบรรยายแต่เรื่องในพระราชวังต้องห้าม ไปถึงบ้านเธอคงเป็นน้องใบ้แน่แท้ ตัดสินใจ ไปเอาเงินมัดจำคืนดีกว่า (จริง ๆ อาจจะคืนได้ที่ประตูทางด้านหลัง แต่ไม่รู้ไง ส่วนค่ามัดจำนี่ ไม่แน่ใจว่าเท่าไร แต่ก็เยอะอยู่นา) ระหว่างทางก็ดูโน่นนี่นั่นไป สวย ๆ แต่เหนื่อยมาก เดินจากด้านหน้าพระราชวัง กว่าจะถึงทางท้ายพระราชวัง ไกลน่าดูชมสำหรับไทยดำอย่างพล


ออกมาข้างนอก เจอทหารตั้งแถวพอดี ไม่รู้เตรียมตัวไปไหนกัน(ทางด้านหน้าเนี่ย ถ้าไปถูกเวลาจริง ๆ เค้าจะมีระบำน้ำพุประกอบดนตรีให้ดูด้วย คราวหลังสุดที่ไป โชคดีว่าเพื่อนไปเข้าห้องน้ำด้านหน้าพระราชวัง พลรออยู่ข้างนอกเลยได้เห็นพอดี สวยเหมือนกันแหละ แต่ไม่รู้ว่ามีทุกวันหรือเปล่า และ มีกี่รอบต่อวันนะ)

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับจักรพรรดิองค์สุดท้าย
จักรพรรดิปูยี ขึ้นครองราชย์ในปี 1908 ขณะมีพระชนมายุเพียงแค่ 3 ชันษาเท่านั้น แต่รัชกาลก็สิ้นสุดในระยะเวลาอันสั้น เพราะเกิดการปฎิวัติ จักรพรรดิหนุ่มยังคงประทับในพระราชวังต้องห้ามจนถูกรัฐบาลคอมมิวนิสต์ขับออกไปในปี 1924 และถูกจับขังคุกในเวลาต่อมา จนกระทั่ง เหมาเจ๋อตง ได้นิรโทษกรรมให้ในปี 1959 และหลังจากทำงานเป็นคนสวนอยู่ 7 ปี ก็สิ้นพระชนม์ในปี 1967
Create Date : 18 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 19 สิงหาคม 2552 15:59:46 น. |
|
68 comments
|
Counter : 2105 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:21:16:56 น. |
|
|
|
โดย: grippini วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:23:13:48 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:0:30:58 น. |
|
|
|
โดย: พี่เอ๋ IP: 125.24.189.227 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:6:11:29 น. |
|
|
|
โดย: naydin วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:9:45:47 น. |
|
|
|
โดย: Khun_Pitta วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:12:18:13 น. |
|
|
|
โดย: Khun_Pitta วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:12:24:24 น. |
|
|
|
โดย: มล (เดินทางรอบโลก ) วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:12:52:42 น. |
|
|
|
โดย: หลิน IP: 118.172.151.142 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:13:58:50 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:15:27:39 น. |
|
|
|
โดย: ขาวอวบ IP: 202.91.23.4 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:18:41:55 น. |
|
|
|
โดย: เพื่อนสาวสุดสวย IP: 203.209.103.73 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:20:35:16 น. |
|
|
|
โดย: A'Jim วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:21:26:11 น. |
|
|
|
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:11:58:33 น. |
|
|
|
โดย: phavinee_p IP: 117.47.5.149 วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:12:28:40 น. |
|
|
|
โดย: มล (เดินทางรอบโลก ) วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:13:29:50 น. |
|
|
|
โดย: นะโม (ทานะ ) วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:15:34:13 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:11:31:04 น. |
|
|
|
โดย: Khun_Pitta วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:20:04:17 น. |
|
|
|
โดย: Mega-Batt วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:20:28:19 น. |
|
|
|
โดย: anchesa วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:23:03:20 น. |
|
|
|
โดย: A'Jim วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:10:03:22 น. |
|
|
|
โดย: MeJayya วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:15:22:41 น. |
|
|
|
โดย: อีชีส (ladycake ) วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:17:45:57 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:7:14:41 น. |
|
|
|
โดย: มล (เดินทางรอบโลก ) วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:13:43:10 น. |
|
|
|
โดย: kearaly IP: 85.167.237.59 วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:17:56:22 น. |
|
|
|
โดย: มล (เดินทางรอบโลก ) วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:19:15:55 น. |
|
|
|
โดย: Mega-Batt วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:20:17:30 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:20:26:27 น. |
|
|
|
โดย: อีชีส (ladycake ) วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:21:59:37 น. |
|
|
|
โดย: มล (เดินทางรอบโลก ) วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:10:45:06 น. |
|
|
|
โดย: 弗雷德利克 - เฝรดเดริก IP: 118.172.1.99 วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:14:41:10 น. |
|
|
|
โดย: มล (เดินทางรอบโลก ) วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:23:36:00 น. |
|
|
|
โดย: anchesa วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:19:46:19 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:19:50:51 น. |
|
|
|
โดย: anchesa วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:12:28:55 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:1:41:05 น. |
|
|
|
โดย: pan IP: 78.101.75.147 วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:16:32:44 น. |
|
|
|
โดย: A'Jim วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:19:42:24 น. |
|
|
|
โดย: hiansoon วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:3:39:22 น. |
|
|
|
โดย: เจมส์ IP: 118.173.239.54 วันที่: 8 กันยายน 2552 เวลา:13:58:45 น. |
|
|
|
โดย: เด็กห้อง 311 IP: 123.119.74.150 วันที่: 16 กันยายน 2552 เวลา:19:15:18 น. |
|
|
|
โดย: หนูมด (antzcute ) วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:20:30:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|