| All Blog
|
กว่าจะได้มาเรียนป.โทที่เยอรมัน ตอน 3 ได้เวลาทำวีซ่าไปเรียนที่เยอรมันซะที!! ตอนที่แล้ว เขียนถึงการสมัครมหาวิทยาลัยแล้วนะคะ ทีนี้ พอเราได้ Zulassung หรือใบตอบรับจากมหาลัยตัวจริงแล้ว (มหาลัยของเรา Uni Siegen เน้นว่าตัวจริงคือตัวที่ส่งมาทางไปรษณีย์ ไม่ใช่ทางอีเมลนะคะ) จองคิววีซ่าแล้ว ก็มาเตรียมเอกสารทำวีซ่ากันค่ะ ตามเว็บสถานทูตเยอรมันเลยนะคะ เปิดเว็บสถานทูต คลิกไปที่หน้าวีซ่าเพื่อการศึกษา ก็จะมีเอกสารต่อไปนี้ค่ะ 1. พาสปอร์ต 2. รูปถ่ายใบโอเมตริก ตอนไปถ่ายรูปที่ร้าน ก็เอารูปตัวอย่างจากเว็บสถานทูตให้เค้าดูเลยค่ะ ส่วนใหญ่ดูแล้วเข้าใจ ถ่ายออกมาถูกต้อง 3. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า กรอกออนไลน์แล้วปริ้นก็ได้ หรือว่าปริ้นแล้วเอามากรอกเองก็ได้ค่ะ แต่ของเรา ปริ้นท์แล้วมากรอก เพราะบางช่อง เรางงว่าควรเขียนอะไร เช่น ที่อยู่ที่เยอรมัน เราไม่รู้จะใส่ว่าอะไร เพราะตอนนั้นเรายังไม่ได้ที่พัก เราก็เลยกรอกที่อยู่ของโฮสต์ที่เราเคยไปอยู่กับเค้า ซึ่งอยู่คนละเมืองกับมหาลัย ตรงนี้ทำให้เรามีปัญหานิดหน่อยตอนมาแจ้งเข้าอยู่ที่ศาลากลาง (เขต อำเภอ?? ภาษาเยอรมันเรียกว่า Rathaus ค่ะ) ในเมือง Siegen เจ้าหน้าที่บ่นว่า จะมาเรียนเมืองนี้ ก็ควรกรอกเมืองนี้สิ >> เราก็เลยคิดว่า ควรกรอกเป็นชื่อเมืองก็พอนะคะ หรือเว้นไว้ แล้วสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เราไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตอีกที แต่แนะนำให้กรอกเป็นเมืองเดียวกับที่เรียนนะคะ 4. ใบตอบรับเข้าเรียนตัวจริง ก็คือใบ Zulassung นั่นเอง 5. ใบจบและทรานสคริปต์ทุกระดับ เราเข้าใจว่าต้องยื่นทรานสคริปต์ของม.6 ด้วยมั้งนะคะ ถึงแม้ว่าจะไปเรียนป.โทก็ตาม (ถ้าเป็นภาษาไทย แปลเป็นเยอรมันด้วยนะคะ) 6. หลักฐานการเงิน มี 3 ตัวเลือกคือ 6.1 เปิดบัญชี Blocked account กับ Deutsche Bank ได้ยินหลายคนพูดมาว่า วุ่นวายมาก แถม Deutsche Bank ประสานงานไม่ค่อยดี แต่เดี๋ยวนี้มีตัวเลือกให้เปิดกับเอเย่น Fintiba ซึ่งเร็วกว่าด้วย Blocked account คือ บัญชีที่ถูกบล็อค แปลง่าย ๆ งี้แหละ แปลไทยเป็นไทยอีกที ก็คือว่า หลังเปิดบัญชี เราจะต้องโอนเงิน 720 ยูโร x 12 เดือน เข้าไปในบัญชีเลยทั้งก้อน แต่ว่าเราจะถูกบังคับให้กดตังได้แค่เดือนละไม่เกิน 720 ยูโร (เช็คจำนวนเงินต่อเดือนในเว็บสถานทูตอีกทีนะ) เงิน 720 ยูโรนี้ เป็นเงินที่ทางเยอรมันคำนวณมาแล้ว ว่าเราจะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขใน 1 เดือน ซึ่งจะมีค่าเช่าห้องส่วนใหญ่เดือนละประมาณ 200-350 ยูโร ค่ากินประมาณไม่เกิน 200 ยูโร ค่าประกันเดือนละ 90 ยูโร ค่าเสื้อผ้า ค่าเดินทาง ค่านู่นนี่ (เราคำนวณเองคร่าว ๆ นะ ห้องใหญ่ห้องเล็ก เมืองใหญ่เมืองเล็ก กินถูกกินแพง ก็ไปบวกลบเองน้า) เราเพิ่งมาอยู่ได้ 2 เดือน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ เดือนแรกเจอค่าเฟอร์นิเจอไปเกือบหมื่นละ ค่าประกันห้องอีก 2 หมื่น โฮะ ๆๆ 6.2 ขอใบ Verpflichtungserklärung จากคนเยอรมัน พอดีว่าเราเคยไปแลกเปลี่ยน มีโฮสต์ ก็เลยให้โฮสต์ไปทำใบนี้ให้ ถ้ามีใบนี้ เราไม่ต้องโชว์ตังใน Blocked account ตามข้อ 6.1 นะ 6.3 ให้คนอื่นรับรองสถานะทางการเงิน ไม่แน่ใจว่าต้องพ่อแม่มั้ยนะคะ พอดีเราไม่ได้ทำอันนี้ เห็นว่าค่อนข้างมีปัญหา (ฟังคนอื่นมานะคะ ไม่ได้ถามทางสถานทูต) 7. ใบ Zertifikat ระดับภาษา เราสอบ TestDaf เราก็ยื่นผลสอบไป ใครไปเรียนป.ตรี ก็ B1 นะคะ *อย่าลืมเตรียมเงินไปจ่ายค่าวีซ่าด้วยนะคะ เอกสารทุกอย่าง (ยกเว้นแบบฟอร์มขอวีซ่า เพราะต้องกรอก 2 ใบอยู่แล้ว อย่าลืมแนบรูปถ่ายทั้ง 2 ใบ) ถ่ายเอกสารทั้งหมด 2 ชุดนะคะ ตอนจัดเรียงเอกสาร ก็จัดเรียงตามลำดับนี้ได้เลย แยกเป็นชุด ๆ ไปนะคะ ไปถึงสถานทูตก็เข้าคิว รอเรียก สัมภาษณ์ไปตามลำดับ พอสัมภาษณ์เสร็จแล้ว ก็ไปจ่ายเงิน และจะได้ใบสีขาว (ของเราเค้าแม็คมากับพาสปอร์ต) เจ้าหน้าที่คืนพาสปอร์ตให้นะคะ ตอนที่เราออกมาจากสถานทูต แล้วเจอพาสฟอร์ต ตกใจมาก ใครไปทำอะไรแบบนี้ ตั้งสติก่อนนะคะ เราก็รอร้อรอ รอวีซ่า ซึ่งใช้เวลา 3 สัปดาห์และ 2 วัน ตรงนี้เป็นระบบของทางเค้า ก็คือ ถ้าเค้ายื่นเรื่องไปที่เยอรมัน แล้วเยอรมันไม่ปฏิเสธภายใน 3 สัปดาห์ 2 วันนี้ สถานทูตไทย จะออกวีซ่าให้เลย ของเรา เจ้าหน้าที่นัดวันที่ 27 เราก็ได้วันที่ 27 เป๊ะๆ ไม่มีได้ก่อนได้หลัง แต่ถ้าเมืองใหญ่ ต้องเผื่อเวลาล่าช้าด้วยนะคะ!! เอ้า ได้วีซ่าแล้ว ไปซื้อตั๋วเครื่องบินเลยค่า
|
LittleEntchen
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] สวัสดีค่ะ ชื่อ แอน นะคะ ตอนนี้เรียนปริญญาโทภาษาเยอรมันที่เมือง Siegen
Link |
|||||||||||||
ตอนแรกเข้าใจว่าเค้าจะเก็บพาสปอร์ตไปด้วย ที่จริงเค้าแจ้งตอนสัมภาษณ์เสร็จละ ว่าวันนัดรับ ให้เอาพาสปอร์ตกับใบประกันมายื่นด้วย แต่เราเบลอค่ะ ข้อมูลเต็มหัว งงไปหมด 
