แอล กลูตาไธโอน (glutathione) กันเซลล์เสื่อม ได้จริงหรือ
ผลิตภัณฑ์ เสริม ผิวขาวใส ต้านอนุมูลอิสระ- กันเซลล์เสื่อม ได้จริงหรือ?
คนเราเกิดมาแน่นอนว่า 100 เปอร์เซ็นต์ อยากสวย อยากหล่อเหมือนดารา ดังนั้นจึงไม่แปลกหากคนที่ไม่พอใจในรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณของตัวเอง จะหันไปพึ่งหมอ พึ่งยาทา ยากิน ยาฉีด ตลอดจนเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สารพัดชนิด จนหลายคนตกเป็นเหยื่อของการโฆษณา ล่าสุดที่เห็นได้ชัดเจน คือ กรณีคลินิกเสริมความงามนำสารกลูตาไธโอนมาฉีดให้กับลูกค้า โดยอ้างว่าทำให้ผิวขาวเรืองแสง จากข่าวที่เกิดขึ้น รศ.พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตสิน สาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ชีวิตวัยเด็กเป็นวัยสนุกสนาน ผิวขาวเนียนสดใส หลังจบการศึกษาเริ่มทำงานมีรายได้ความเสื่อมของผิวหนังก็เข้ามาเยือน ด้วยกระแสของสังคมที่ว่าภาพลักษณ์มีความสำคัญกว่าความดี ทำให้ทั้งชายและหญิงใส่ใจกับสุขภาพผิวและกลัวความเสื่อม การพิจารณาความเปลี่ยนแปลงของผิวหนังโดยเฉพาะใบหน้าจึงกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ขณะเดียวกันสื่อทุกประเภทต่างโหมโฆษณาผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยเกินความจริง จนเกิดความตื่นกลัว?ทำให้ผู้บริโภคคิดปรุงแต่งล่วงหน้าไปไกลและตกเป็นเหยื่อ?มีการใช้เครื่องสำอางป้องกันและบำรุงผิวกันอย่างฟุ่มเฟือยทั้งๆ?ที่ไม่สามารถป้องกันการเสื่อมของผิวหนังได้จริงแต่กลับก่อให้เกิดปัญหาสิวและฝ้าเพิ่มขึ้น การโฆษณาครีมทาผิวในปัจจุบัน มีการกล่าวอ้างว่าช่วยให้ผิวมีรัศมีแผ่ออก มอมเมาโดยใช้คนในวงมายาบิดเบือนข้อแท้จริง คนไทยเป็นคนเชื่อง่ายจึงหลงใหลว่าเป็นเรื่องจริง ยิ่งทำให้หลายคนหลงผิด คงถึงเวลาที่ดาราซึ่งเป็นคนของประชาชนจะต้องถูกตรวจสอบจริยธรรมเหมือนเช่นอาชีพแพทย์ในปัจจุบันบ้าง ความจริงแล้วผิวหนังจะมีความแตกต่างกันตามเชื้อชาติ เพศ และวัย แต่ผู้คนกลัวความเสื่อมซึ่งบ่งถึงความตาย มีการศึกษากลไกการเสื่อมกันอย่างกว้างขวางแต่ก็ยังมีข้อถกเถียงว่าเกิดจากสาเหตุใด ความเสื่อมอาจเป็นวิวัฒนาการของธรรม ชาติโดยพันธุกรรมกำหนดอายุขัยของเซลล์แต่ละชนิด หรือความเสื่อมอาจเกิดจากความผิดพลาดของหน่วยพันธุกรรม เพราะพบว่าหน่วยพันธุกรรมทีโลเมอเรส (telomerase) ซึ่งควบคุมการสร้างเซลล์จะมีขนาดสั้นลงตามวัยที่สูงขึ้น คำสั่งการสร้างส่วนประกอบของเซลล์จึงผิดไปมีการสะสมของเนื้อเยื่อซึ่งผิดปกติเพิ่มมากขึ้น ถ้าความเสื่อมเกิดจากกลไกหน่วยพันธุกรรมข้างต้นก็คงไม่สามารถชะลอการเสื่อมได้ แต่มีอีกทฤษฎีที่กล่าวว่าความเสื่อมเกิดจากอนุมูลอิสระภายในเซลล์เพิ่มมากขึ้นอนุมูลอิสระคือ โมเลกุลซึ่งมีประจุหรือพลังงานทำลายเซลล์ ถ้าทฤษฎีนี้เป็นเรื่องจริงวิธีการต่อต้านความเสื่อมจะง่ายขึ้น กระแสการใช้สารต่อต้านอนุมูลอิสระป้องกันการเสื่อมกำลังแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีข้อสรุปว่าอนุมูลอิสระเป็นเหตุแห่งการเสื่อมโดยตรงจริง สารต่อต้านอนุมูลอิสระมี 2 ประเภท คือ สารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งสร้างได้เองภายในร่างกาย คือ ซูเปอร์ออกไซด์ไดสมูสเทส กลูทาไธโอน และโคเอนไซม์ 10 สารเหล่านี้มีอยู่เพียงพอภายในเซลล์ตามธรรมชาติ ปัจจุบันมีการสังเคราะห์สารเหล่านี้มาผสมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือครีมต่อต้านริ้วรอย แต่ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ว่า ได้ผลจริง สารกลุ่มนี้เป็นโปรตีน เมื่อรับประทานจะถูกย่อยสลาย และขนาดโมเลกุลไม่สามารถซึมผ่านทางผิวหนัง จึงมีการพัฒนาเป็นยาฉีด เช่น ที่กำลังเป็นข่าว ประโยชน์กับผิวหนังคงไม่มี แต่อาจมีอันตรายจากการแพ้หรือการติดเชื้อ ส่วนคนที่ฉีดไปแล้วก็ไม่ต้องตกใจ หรือเป็นทุกข์ เพราะไม่มีการสะสมจนทำให้เกิดอันตรายในระยะยาว สารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งได้รับจากภายนอก สารที่สำคัญ คือ วิตามิน ซี และวิตามิน อี ในภาวะปกติวิตามินทั้งสองมีเพียงพอในอาหาร แต่เมื่อได้รับข้อมูลว่าวิตามินทั้งสองช่วยลดอนุมูลอิสระได้ หลายท่านจึงรับประทานเสริมเกินความจำเป็น?ครีมผสมวิตามินซีและวิตามินอีก็เป็นที่นิยมผสมในทุกผลิตภัณฑ์ และจากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากพืชหลายชนิดลดอนุมูลอิสระได้ สารเหล่านี้จึงถูกนำมาผสมในผลิต ภัณฑ์เสริมอาหารและครีมลดหรือป้องกันริ้วรอยหลากหลายตำรับให้ผู้บริโภคได้ลองใช้ไปอีกนานจนกว่าจะยอมรับว่าความเสื่อม คือ?ธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงผิวชนิดเม็ดรับประทานกำลังเป็นที่นิยมของผู้สนใจในภาพลักษณ์ มีผลิตภัณฑ์เต็มตลาดให้เลือก จากฉลากข้างกล่อง พบว่า สารที่ผสมส่วนใหญ่คล้ายกัน เช่น โปรตีนจากปลาทะเลน้ำลึก คงจะหวังผลว่าคอลลาเจนในปลาอาจจะช่วยทดแทนใยคอลลาเจนซึ่งกำลังเสื่อม แต่โปรตีนจากปลาคงไม่สามารถเข้าชั้นผิวหนังโดยตรงได้จริง เปลือกสนมาริไทม์ ซึ่งกล่าวอ้างว่ามาจากประเทศฝรั่งเศส คงเป็นสารช่วยลดอนุมูลอิสระ การผสมสารสกัดจากเม็ดองุ่น สารสกัดโปรตีนจากถั่วเหลือง หรือนมสด สารคิวเทน (Q10) วิตามิน ซี วิตามิน อี วิตามิน บี แร่ธาตุสารพัด ชนิด ก็คงหวังว่าจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผสมสารพัดสารที่กำลังอยู่ในกระแสนิยม คือ ผสมสารสกัดจากรก บางคนก็เอาไปกล่าวอ้างผิด ๆ เพื่อหลอกลวงผู้บริโภคว่ารกเกี่ยวข้องกับสเต็มเซลล์ สารสกัดจากรกคงมีโปรตีนซึ่งคงไม่ดูดซึมผ่านผิวหนัง และถ้าจะคิดให้ละเอียดว่ารกที่ใช้ทานี้มีลักษณะเช่นไร ก่อนสกัดไม่รู้รกของใครก็คงจะทำให้มีสติว่ากำลังถูกหลอกคงจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ อีกชนิดคือการฉีดทอง ในอดีตมีการใช้รักษาโรคปวดข้อ แต่ก็มีอันตรายทำให้เกิดการแพ้ได้ ส่วนการนำมาฉีดเพื่อความงามเคยได้ยินมาเหมือนกัน แต่คิดว่าเป็นเพียงแค่การโฆษณา ไม่คิดว่าจะได้ผลจริง และอาจทำให้เกิดการแพ้ เพราะแม้สร้อยทองที่คนสวมใส่ยังแพ้ได้ ผู้บริโภคควรหยุดคิดก่อนซื้อกลับมาถามตัวเองว่าอนุมูลอิสระที่มากเกินกว่าที่ร่างกายจะกำจัดมาจากไหน จะป้องกันไม่ให้มีมากได้หรือไม่ หรือถ้าการสร้างอนุมูลอิสระลดลงจะช่วยให้ปัญหาริ้วรอยลดลงได้หรือไม่ ก็คงเกิดปัญญาขึ้นระดับหนึ่งว่า อนุมูลอิสระภายในร่างกายเกิดจากขบวนการสันดาปของเซลล์ทุกเซลล์ เมื่อรับประทานอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิดผ่านเข้าในลำไส้อาหารจะย่อยเป็นโมเลกุล สารอาหารขนาดเล็กดูดซึมเข้าในกระแสโลหิตผ่านเข้าไปภายในเซลล์ มีขบวนการสันดาปโมเลกุลดังกล่าวภายในเซลล์ เพื่อเปลี่ยนโมเลกุลเหล่านี้เป็นสารประกอบที่เซลล์นั้นต้องการ พลังงานเหลือจากการสันดาปภายในเซลล์เป็นอนุมูลอิสระอาจมีอันตรายต่อเซลล์ ในภาวะปกติร่างกายมีระบบต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพช่วยกำจัดอนุมูลอิสระส่วนเกินนี้ออก เซลล์จึงอยู่ในสภาพสมดุล ถ้าไม่ต้องการให้มีการสร้างอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นควรที่จะรับประทานอาหารในปริมาณพอเหมาะ มีสารอาหารครบถ้วน การรับประทานอาหารเกินพอ ร่างกายต้องมีการสันดาปมากขึ้น อนุมูลอิสระจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ส่วนการออกกำลังกายจะมีผลให้เซลล์ต้องทำงานเพิ่มขึ้น จึงทำให้ปริมาณอนุมูลอิสระสูงขึ้นด้วย ดังนั้นการออกกำลังกายต้องทำแต่พอควร การออกกำลังกายมากก็มีผลทำให้เซลล์เสื่อมได้ อากาศและมลภาวะจากอากาศภายนอกก็ทำให้เซลล์เสื่อมได้ เช่น พลังงานจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดจะทำให้ผิวแก่ก่อนวัย การสูบบุหรี่ทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนของเซลล์ผิวหนังลดลง จึงเกิดความเสื่อมของผิวก่อนวัยในคนสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เซลล์ต้องทำงานเพิ่มขึ้นอนุมูลอิสระก็จะมากขึ้น และมีปัจจัยที่สำคัญอีกประการ คือ อารมณ์ ความเครียดก็กระตุ้นให้เซลล์ทำงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นถ้าอนุมูลอิสระอยู่ในภาวะสมดุลก็ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเซลล์. credit : //www.dailynews.co.th
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2551 13:43:47 น. |
Counter : 59866 Pageviews. |
|
|
|