แฝด แฝดสยาม ปานตะวัน ปานวาด
ทีมแพทย์ศิริราช เจ๋ง ผ่าตัดแยกแฝดสยามที่มีหัวใจ และตับติดกันสำเร็จ
ที่โรงพยาบาลศิริราช ศ.คลีนิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานในการจัดงานแถลงข่าว ศิริราชประสบความสำเร็จผ่าตัดแยกแฝดสยามที่มีหัวใจและตับติดกัน รอดชีวิตทั้งคู่เป็นครั้งแรกของโลก ร่วมกับ ทีมแพทย์สหสาขาวิชา ซึ่งประกอบด้วย ศัลยแพทย์ กุมารแพทย์ วิสัญญีแพทย์ อาทิ ศ.พญ.อังกาบ ปราการรัตน์ หัวหน้าภาควิชาวิสัญญีวิทยา รศ.นพ.สมชาย ศรียศชาติ ศัลยแพทย์หัวใจ ผศ.นพ.มนตรี กิจมณี ศัลยแพทย์ตกแต่ง ผศ.นพ.มงคล เลาหเพ็ญแสง หัวหน้าสาขาวิชากุมารศัลยแพทย์
ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า แฝดสยาม ปานวาด-ปานตะวัน ทิเย็นใจ เป็นแฝดสยาม เพศหญิง คู่ล่าสุดที่คลอดใน รพ.ศิริราช เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2549 เวลา 18.37 น. โดยการผ่าคลอดเมื่ออายุครรภ์ได้ 36 สัปดาห์ ทั้งคู่มี น้ำหนักแรกคลอด รวมกันประมาณ 3,570 กรัม มีลำตัวด้านหน้าติดกันตั้งแต่บริเวณทรวงอกลงมาถึงผนังหน้าท้อง จากการตรวจโดยละเอียดพบว่า มี ตับติดกัน เป็นบริเวณกว้างและยังมี หัวใจเชื่อมต่อกัน ด้วย หลังคลอดทารกทั้งคู่ได้รับการดูแลรักษาใน รพ.ศิริราชเป็นอย่างดี
ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า จากความผิดปกติดังกล่าว ทีมแพทย์จึงตัดสินใจ ผ่าตัดแยกร่าง เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2550 ในขณะที่ทารกทั้งคู่อายุได้ 8 เดือน น้ำหนักตัวรวมกัน 10.9 กิโลกรัม ซึ่งการผ่าตัดครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง หลังผ่าตัดทารกทั้งคู่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในห้อง ICU ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นก็หายใจเองได้ เริ่มฟื้นตัว กลับมาเป็นเด็กปกติ 2 คน ที่แยกร่างกายจากกัน ขณะนี้เป็นเวลาประมาณ 7 สัปดาห์หลังผ่าตัด ทารกทั้งคู่แข็งแรงดี ปัจจุบันปานตะวันมีน้ำหนักตะวัน 5,735 กรัม ปานวาด 4,900 กรัม และอยู่ในขั้นการฝึกพัฒนาการบางอย่างที่ช้าไปในช่วงที่ลำตัวติดกัน และจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ในอีกไม่นาน
จากการสืบค้นข้อมูลจากเวบไซต์และการตีพิมพ์ในวารสารทั่วโลกที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ยังไม่พบว่ามีการผ่าตัดเด็กแฝดที่ ตัวติดกัน หัวใจติดกัน ผนังหัวใจติดกัน และ ตับตินกัน แล้วรอดชีวิตทั้งคู่ ดังนั้นกรณีนี้น่าจะเป็น ครั้งแรกในโลก ที่ รพ.ศิริราช ผ่าตัดแยกแฝดสยามที่มีหัวใจติดกันและตับติดกันเป็นผลสำเร็จ โดยทีมแพทย์ และทีมพยาบาลทุก ๆ ด้านร่วมมือกัน ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้จะส่งตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ต่างประเทศแน่นอน ศ.คลินิก ปิยะสกล กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึง ค่าใช้จ่าย ในการผ่าตัด ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ตั้งแต่คลอด แฝดสยามคู่นี้ก็อยู่ใน รพ.ศิริราชมาโดยตลอด ดังนั้นค่าใช้จ่ายทั้งหมดตกประมาณ 1.5 ล้านบาท
ด้าน รศ.นพ.สมชาย ศรียศชาติ ศัลยแพทย์หัวใจ การผ่าแยกแฝดสยามปานวาด- ปานตะวัน เริ่มจากการตรวจร่างกายโดยละเอียดพบว่า บริเวณที่ติดกันเป็นรอยโหว่ขนาด 17 x 8 ซ.ม. จากการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) และการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูง (MRI) พบว่า ทารกคู่นี้นอกจากจะมีตับติดกันเป็นบริเวณกว้างแล้ว ยังมีหัวใจเชื่อมต่อกันด้วย โดยหัวใจห้องบนขวาของ แฝดพี่ (ปานตะวัน) เชื่อมกับหัวใจห้องบนซ้ายของ แฝดน้อง (ปานวาด) และมีเลือดจากปานตะวันไหลผ่านมายังปานวาดตลอดเวลา ทำให้คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาไม่แน่ใจว่าหัวใจทั้งสองดวงมีการทำงานโดยพึ่งพากันหรือไม่ และการแยกร่างโดยการตัดรอบเชื่อมต่อของหัวใจอาจเป็นอันตรายต่อฝาแฝดคนหนึ่งคนใดได้ จึงต้องทำการตรวจเพิ่มเติม โดยกุมารแพทย์ทำการสวนหัวใจด้วยสายสวนติดบัลลูนเพื่อเข้าไปปิดบริเวณรอยเชื่อมต่อของหัวใจ เสมือนเป็นการแยกหัวใจชั่วคราว ปรากฏว่าไม่เกิดผลเสียต่อทารกทั้งสองแต่อย่างใดจึงตัดสินใจทำการผ่าตัดแยกร่าง
รศ.นพ.สมชาย กล่าวต่อว่า การผ่าตัดแยกหัวใจนั้นต้องใช้ความพยายาม ความระมัดระวัง และต้องเตรียมการให้พร้อมที่สุด เนื่องจากพื้นที่หัวใจที่ติดกันสั้นมาก และเมื่อตัดส่วนที่เชื่อมกันออกไปทำให้มีพื้นที่เหลือให้เย็บปิดหัวใจน้อยมาก และหากที่คีบเส้นเลือดหลุดลื่นหลุด จะส่งผลให้เด็กเสียชีวิตได้ เนื่องจากเด็กตัวเล็กมาก ซึ่งหลังจาก แยกหัวใจ สำเร็จ ปานตะวันแฝดพี่ไม่มีปัญหาอะไร แต่ปานวาดซึ่งเป็นแฝดน้องนั้นหัวใจด้านบนมีช่องรั่วอยู่เล็กน้อย ไม่รุนแรงมาก ซึ่งช่องนี้ไม่สามารถปิดโดยใช้เครื่องมือได้ ต้องผ่าตัดปิดเท่านั้น และคาดว่าจะผ่าตัดปิดให้ได้เมื่อเด็กเติบโตมากกว่านี้ ซึ่งในช่วงที่ยังไม่ได้ผ่าตัดจะต้องให้ยารักษาไปก่อน
ตอนที่ผ่าตัดผมหายใจไม่ทั่วท้อง ทุกคนในห้องผ่าตัดก็คงเหมือนกัน พอผ่าตัดสำเร็จจึงมีเสียงเฮออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะหลุดจากภาวะความเครียด นพ.สมชายกล่าวและว่า การผ่าตัดในกรณีที่เด็กหัวใจติดกัน และมีการไหลเวียนของเลือดระหว่างทั้งสองหัวใจนั้นยากมาก เพราะหากเกิดความผิดพลาดอาจจะทำให้เด็กเสียชีวิตได้ทันที
ผศ.นพ.มงคล เลาหเพ็ญแสง หัวหน้าสาขากุมารศัลยศาสตร์ กล่าวว่า ลักษณะของฝาแฝดเกิดได้ 2 กรณี คือ จาก ไข่ มารดา 2 ฟอง สเปิริ์ม 2 ตัว ผสมกัน จะให้แฝดหน้าตาไม่เหมือนกัน เรียกว่า แฝดพี่น้อง กับอีกลักษณะเกิดจาก ไข่ใบเดียว สเปิร์มตัวเดียว ผสมกัน แต่เกิดความผิดปกติในช่วงการแบ่งตัว ทำให้แยกเป็นสอง หากแยกสมบูรณ์ก็จะให้แฝดเหมือน 2 คน ที่หน้าตาเหมือนกันทุกประการ เรียกว่า แฝดเหมือน แต่หากแยกไม่สมบูรณ์ก็จะได้แฝดตัวติดกัน ซึ่งในกรณีแฝดตัวติดกันจะพบได้น้อยมาก ประมาณ 1: 50,000 1: 100,000 ของการตั้งครรภ์ปกติ
ด้าน นางอุษา ทิเย็นใจ อายุ 29 ปี มารดาของ ปานวาด (น้องอ้อม) ปานตะวัน (น้องอุ้ม) กล่าวว่า พื้นเพตนเป็นคน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ แต่มาทำงานอยู่ที่บริษัทอาหารแช่แข็งแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ตอนตั้งครรภ์เป็นไทรอยด์ด้วย ได้ไปตรวจการตั้งครรภ์ที่คลินิกแห่งหนึ่ง หมอบอกว่าเป็น เด็กแฝด แต่ไม่มั่นใจว่าตัวเด็กจะติดกันหรือไม่ จึงได้แนะนำให้มาตรวจละเอียดที่ รพ.ศิริราช ซึ่งเมื่อรู้ผลว่าเด็กตัวติดกันตนร้องไห้มาตลอดทาง คิดไปต่าง ๆ นา ๆ กลัวสารพัด อย่างไรก็ตามเมื่อลูกคลอดออกมา ก็ยังมีความหวังเพราะหมอบอกว่าจะผ่าตัดแยกเด็กออกจากกันตอนอายุ 1 ขวบ แต่เนื่องจากปานตะวันไม่แข็งแรง ทำให้หมอตัดสินใจผ่าตัดก่อนกำหนดตอนอายุ 8 เดือนโดยก่อนผ่าตัดหมอบอกให้ทำใจ ว่าอาจจะมีเด็กคนใดคนหนึ่งอาจจะไม่รอด 12 ชั่วโมงแห่งการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ได้แต่ภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิขอให้ช่วยลูกด้วย พอรู้ว่าลูกปลอดภัยมาถึงวันนี้คิดว่าจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
นางอุษา กล่าวว่า ทางญาติพี่น้องไม่เคยมีใครมีลูกแฝดมาก่อนเลยสักคน แต่ก่อนท้องชอบกินกล้วยแฝด พอรู้ว่าท้องก็ยิ่งชอบกินกล้วยแฝดโดยเฉพาะกล้วยใบอวบ ๆ สวย ๆเพราะอยากได้ลูกแฝด แต่ไม่อยากได้ที่ตัวติดกัน เพราะเด็กอาจเป็นอันตราย เมื่อถามว่าคิดจะมีลูกอีกหรือไม่ นางอุษา กล่าวว่า ไม่เอาแล้ว พอแล้ว กลัวว่ามีลูกอีกแล้วจะได้ลูกแฝดตัวติดกัน
ในขณะที่ นายถาวร วิบุลกุล อายุ 24 ปี พ่อของแฝดทั้งสอง ชาว อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี กล่าวว่า ช่วงที่ผ่าตัดแยกลูกออกจากกันเป็นช่วงที่รู้สึกว่ารอนานที่สุดในชีวิต ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะลุ้นว่าลูกจะรอดหรือไม่ เมื่อรอดทั้งคู่ก็รู้สึกดีใจ และต้องขอบคุณแพทย์ทุกท่านที่ช่วยให้ลูกของตนมีชีวิตรอด ตั้งใจว่าจะเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด ซึ่งตอนนี้ตนทำงานที่โรงงานโรงหล่อเหล็กกล้า เป็นลูกจ้างรายวัน แต่หลังจากนี้รายได้น่าจะดีขึ้นเพราะทางโรงงานจะให้ทำงานรับเหมาเป็นชิ้นงาน ซึ่งจะได้เงินมากกว่าลูกจ้างรายวันก็น่าจะมีเงินพอมาเลี้ยงลูกทั้ง2คนได้
ชื่อลูกปานตะวันนั้นผมเป็นคนตั้งให้เอง ส่วนปานวาดคุณหมอที่ทำคลอดเป็นคนตั้งให้ เพราะตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก และก็ไม่ได้เตรียมชื่อลูกไว้ ส่วนนามสกุลก็ใช้ของแม่ไปก่อนนายถาวรกล่าว และว่า ก่อนที่จะผ่าตัดลูกแฝดก็ได้บนบานศาลกล่าวไปหลายที่ โดยได้บนต่อ พระบรมรูปสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก "พระบิดาแห่งการแพทย์ไทย" ที่อยู่ใน รพ.ศิริราช ด้วยไข่ 100 ฟอง รูปปั้นช้าง 2 เชือก บนหลวงพ่อที่วัดโสภณาราม ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้านด้วยพวงมาลัย 9 พวง และยังไปบนกับศาลพ่อปู่ ซึ่งเป็นศาลเจ้าแถวบ้านด้วยผลไม้ 9 ชนิดประทัด 1,000 นัด ซึ่งหลังจากนี้จะต้องไปแก้บนให้ครบทุกที่.
ก๊อปมาเต็ม ๆ อ่านเพิ่มเติมอีกได้ที่ เดลินิวส์
Create Date : 08 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 9 พฤษภาคม 2550 2:04:19 น. |
|
18 comments
|
Counter : 62002 Pageviews. |
|
|
แวะมาเยี่ยมยามเช้าคะ
ไปเยี่ยมกันอีกนะคะ