มรกตนาคสวาท : แมวๆ พิคเจอร์

ขอได้รับความขอบคุณจากแมวๆ พิคเจอร์เช่นเคยค่ะ
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 ตุลาคม 2548
 
 

...อยุธยาในความทรงจำ -- ปีกลายไปทริปหมีที่อยุธยา กับกลุ่มผู้ใช้กล้องมินอลต้าเป็นครั้งแรกค่ะ...






เพื่อนๆ เคยไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไหมคะ...





จะบอกว่า แม้ว่าที่นี่จะเป็นเขตวัดเก่า โบราณสถานไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา

แต่ด้วยความที่เคยอ่านพระประวัติของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง) มาก่อน ที่เขาว่ากันว่า ท่านถูกพระราชอาญาให้เฆี่ยนจนตาย พร้อมกับพระสนมของพระราชบิดาท่าน ด้วยอาญาข้อที่ว่า ลักลอบเป็นชู้กัน

ว่ากันว่า เขาเฆี่ยนให้ท่านยอมรับให้ได้ว่าเป็นชู้กันหรือไม่ แต่ท่านไม่ยอมรับจนกระทั่งตายคาไม้ที่เฆี่ยนนั้นเอง เช่นเดียวกับพระสนม...







แรกๆ ฟัง เราก็คิดในใจว่า อืมมม ท่านใจแข็งดีจริงๆ เลยเนาะ ก็ไม่รับซะอย่าง ใครจะว่าได้ว่าท่านผิด


แต่พอโตมา ได้มีโอกาสนั่งถกกับครู และเพื่อนๆ ในประเด็นที่ว่าเจ้าฟ้ากุ้ง เป็นชู้กับพระสนมของพระราชบิดาจริงหรือ เพราะแท้จริงแล้ว ในพระประวัติของท่าน ก็แวดล้อมด้วยพระสุรางค์นางสนมเพียบพร้อมอยู่แล้ว หรือว่าทั้งหมดเป็นการใส่ร้ายกัน ตามธรรมดาของการช่วงชิงพระราชอำนาจกันในสมัยก่อน...

ครูก็ให้แนวคิดตอนหนึ่งขึ้นมาว่า คุณคิดว่า ความรักอมตะ คืออะไร ...

สมมุติว่าเจ้าฟ้ากุ้ง ทรงรักใคร่สิเนหากับพระสนมจริง แต่ไม่ได้ทรงลักลอบเป็นชู้จริงๆ คือ มอบรักนั้นไว้ให้เป็นยอดดวงใจ เพราะนั่นคือพระสนมของพ่อแท้ๆ ล่ะ

มันก็สอดคล้องกับที่มีคนสันนิษฐานว่า การรับโทษครั้งนี้ เจ้าฟ้ากุ้งท่านยอมเดินเข้าไปรับโทษได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ว่ากันตามจริง ท่านก็ทรงสามารถจะหลีกหลบได้อยู่แล้วด้วยซ้ำ ...


อืมมมม ไม่รู้สิคะ ความรู้สึกถึง "รักแท้" มันพลุ่งน่ะค่ะ

พอมีโอกาสไปเยือนวัดไชยวัฒนารามทุกครั้ง ก็เลยจะหาโอกาสไปยืนหน้าพระเจดีย์ที่เล่ากันว่า บรรจุพระอัฐิของพระองค์ อยู่ข้างๆ เจดีย์ที่บรรจุอัฐิของพระสนม (องค์หนึ่งพังไปแล้ว และไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า องค์ที่ล้มพัง คือองค์ที่บรรจุอัฐิของใครด้วย


แต่ดูสิคะ ผลสำโรงที่ร่วงบริเวณเจดีย์ดังกล่าว ก็หล่นร่วงเป็นรูปหัวใจราวกับจะบอกว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ความรักยังคงอยู่เสมอ รอบๆ บริเวณนั้น อืมมมมม







เฮ่ออออออออ ไม่รู้สิคะ ทุกครั้งที่ไปวัดไชยวัฒนาราม จะรู้สึกถึง "ความรัก" ที่อยู่รอบๆ ตัวทุกทีไป


แม้ว่ามันจะเป็นแค่ "จินตนาการ" บนพื้นฐานความรับรู้ของเราก็ตาม แต่เราก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

วัดนี้ให้ความรู้สึก โรแมนติก และ เศร้า ค่ะ






หยุดเรื่องเศร้าๆ มาเล่าเพิ่มเติมดีกว่า ว่าวันนั้นไปไหนมาบ้าง


ตอนเช้า เขาพาไปที่นี่ วัดหลวงพ่อมงคลบพิตร ค่ะ






ได้เข้าไปกราบพระหลวงพ่อโตในวัดด้วยค่ะ

จากนั้นก็เดินไปในเขตโบราณสถานสำคัญอีกที คือที่นี่ค่ะ
วัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่พระเจดีย์สามองค์นี้ค่ะ ว่ากันว่าพระเจดีย์ทั้งสามองค์ เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์ สามพระองค์สมัยต้นกรุงศรีอยุธยาค่ะ

เมื่อก่อน มีพระพุทธรูปลุกยืนองค์หนึ่ง สูงประมาณ ตึก ๔ ชั้น ชื่อ พระศรีสรรเพ็ชญ์ หล่อด้วยทองคำทั้งองค์ ประดิษฐานที่วัดนี้ค่ะ แต่เมื่อเสียกรุงครั้งที่สอง วัดนี้ก็โดนเผา และหลอมทองคำที่พระศรีสรรเพ็ชญ์ ไปทั้งหมด

Y__________________Y


ใจคนอยุธยาที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งกระนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ


Y___________________Y


ตอนที่ไปเยือนครั้งนั้นเพิ่งหัดถ่ายภาพแนวนี้ไม่นาน เลยเลือกได้แต่ภาพที่ชัดที่สุดภาพนี้ภาพเดียว แง้วๆ แถมใช้เลนส์ไวด์ เลยภาพออกมาบิดๆ เบี้ยวๆ ขออภัยผู้ชมด้วยนะคะ








ว่ากันตามจริงแล้ว เวลาไปเยือนโบราณสถานต่างๆ เหล่านี้แล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกๆ มันเศร้าลึกอยู่ข้างใน บอกไม่ถูก


เสียดายที่ตัวเองเกิดไม่ทันยุครุ่งเรืองครั้งนั้น แล้วก็ได้ปลง ว่าโลกนี้ไม่มีอะไรอยู่ยั้งยืนยง ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าจะทางดีขึ้นหรือเลวร้ายลง


ภาพซากปรักหักพังข้างล่างนี้ทำให้คิดถึง นิราศพระบาท ของสุนทรภู่ บทที่บอกว่า

"โอ้เวียงวังที่สร้างยังร้างรัก เสียดายนักนึกน่าน้ำตากระเด็น"







อย่างไรก็ดีวันเวลาเก่าๆ ก็ผ่านไปแล้ว วัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ในปัจจุบัน ยังคงเป็นสถานศึกษาสำหรับผู้มาเยือน ให้ระลึกถึงความผิดพลาดในครั้งอดีต แล้วเก็บจารจำไว้เตือนใจตัวเองว่า คราใดที่เราประมาท แตกความสามัคคีกัน เมื่อนั้น หายนวิบัติจักเกิดขึ้นเยี่ยงนี้


เณรน้อยกลุ่มนี้ มาทัศนศึกษาในวันเดียวกับที่เราไปทริปครั้งนั้นค่ะ







ส่วนรูปนี้ หมาน้อย มานอนผึ่งแดดสายๆ ปลายเดือนเมษายนอย่างสบายอกสบายใจ.. ซะงั้น






แล้วเราก็ออกจากวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์มาด้วยอารมณ์เศร้าลึกในใจเหมือนทุกครั้งที่ไปเยือน






สถานที่อีกที่ที่ผู้นำทริปพาไปเยือนก็คือ พระราชวังบางปะอินค่ะ


มีใครเคยไปที่นี่บ้างไหมคะ






ถ้าใครยังไม่เคยไปแล้วมีแผนจะไปเยือนที่นี่ ต้องรับทราบกฎข้อหนึ่งนะคะว่าที่นี่เป็นเขตพระราชฐาน ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่จะเข้าไป จึงต้องแต่งกายสุภาพ ไม่ใส่แขนกุด สายเดี่ยว ขาสั้น หรือโป๊จนน่าเกลียด ผู้ชายก็ควรใส่กางเกงขายาว และเสื้อแบบสุภาพ เช่นกัน แต่ที่เคยไป รู้สึกว่า จะใส่รองเท้าแตะได้ค่ะ



จำได้ว่าวันนั้นไม่ได้ถ่ายภาพมากนัก เพราะเมื่อไปถึงที่นี่ตอนบ่าย ฝนก็ตกหนักค่ะ ได้ภาพมาฝากกันแค่สองภาพ เท่านี้ค่ะ


ภาพสุดท้ายที่ถ่ายก่อนฝนตกหนักค่ะ






แล้วจากพระราชวังบางประอิน เราก็เดินทางต่อไปรอถ่ายพระอาทิตย์ตกที่วัดไชยวัฒนารามข้างต้นค่ะ


อิอิ เขียนย้อนไปย้อนมาก็เป็นนะเรา เขาจะงงกันไหมเนี่ย








แอบเอาภาพเก็บตกมาโพสต์ด้วยดีกว่าไหมเนี่ย อิอิ



ภาพนี้ภาพแรกเน้อ วันนั้นเพิ่งได้ขาตั้งกล้องมาใช้ ด้วยความอนุเคราะห์ของน้าโมโมทาโร่ แห่งห้องกล้อง ที่นำเอาขาตั้งที่ไม่ได้ใช้แล้ว มาให้ใช้แทน ขอบคุณน้าอีกครั้งค่ะ

แล้วก็เสื้อตัวที่ใส่นี้ ที่เห็นขาวๆ จริงๆ คือ ได้รับแจกบนรถ คนเอามาแจกบอกให้ใส่ เพื่อจะถ่ายรูปหมู่

พอดีกับว่าเราใส่เสื้อแขนกุดไป อาจจะเข้าพระราชวังบางปะอินไม่ได้ ก็เลยใส่เสื้อตัวนี้ทับตลอดงานค่ะ



แทนที่จะตั้งขาตั้งกล้องให้สุด เราก็ตั้งแค่นี้พอ แล้วคุกเข่าเอา







รอถ่ายภาพอย่างเดียวมันก็น่าเบื่อเนาะ ต้องเอ็นเตอร์เทน เพื่อนๆ ร่วมทริปซะหน่อย


ระหว่างนั่งรอพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมโบราณสถาน เรามาเล่นกับพระอาทิตย์ดีกว่า


สามภาพต่อไปนี้ น้าโมโมฯ เจ้าของขาตั้งกล้อง (มีแฟนแล้ว สวยด้วย อิอิ เดี๋ยวมีคนเข้าใจผิด) ฟังโปรเจคเราแล้ว น้าแกเลยยินยอมเป็นช่างภาพให้ แบบเต็มใจมั่งไม่เต็มใจมั่งค่ะ


อิอิ ภาพแรก ... อิอิ ดูแล้วคิดถึงอะไรเอ่ย...







แล้วภาพนี้ล่ะ ...ขอเทิดทูนเอาไว้เหนือเกล้า...







และภาพสุดท้าย... พลังดราก้อนบอลสะท้านฟ้า อิอิ...







อิอิ พอถ่ายทำสามภาพนี้เสร็จ เพื่อนๆ ที่นั่งรอถ่ายพระอาทิตย์อยู่ด้วยกัน ส่ายหน้า แล้วก็หัวเราะกันน่าดูเลยค่ะ
ทำเอาเกือบลืมถ่ายช็อตพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมพระปรางค์ซะงั้น

แหมๆ ก็เดินทางด้วยกันมาทั้งวันแล้ว เพิ่งรู้กันเหรอเนี่ย ว่าไปกับคนเพี้ยนๆ เอ๊ะ หรือว่า รู้แล้ว แต่ไม่แน่ใจก็ไม่รู้นะ



วันนี้แค่นี้ดีกว่าเนาะ เป็นอีกหนึ่งมายาหลังเลนส์ ที่อยากบันทึกไว้ในความทรงจำ ในวันนี้ค่ะ



ภาพนี้น้านนท์แอทเอ็มคอทเป็นคนบันทึกไว้ค่ะ






ขอได้รับความขอบคุณจากแมวๆ พิคเจอร์สำหรับทุกๆ ท่านที่ผ่านมาเช่นเคยค่ะ











 

Create Date : 17 ตุลาคม 2548
13 comments
Last Update : 17 ตุลาคม 2548 19:18:58 น.
Counter : 3060 Pageviews.

 

อ่านและดูรูปแล้วเหมือนได้กลับไปเยือนอีกครั้งเลย ครั้งนั้นไปก็ไปไหว้ไหว้ไหว้แล้วก็ไหว้ อย่างเดียว

รูปที่ถ่ายเล่นกับพระอาทิตย์รูปแรก ดูแล้วเหมือน เฆขลา ล่อแก้วเลย ฮิๆ

 

โดย: merf1970 17 ตุลาคม 2548 12:39:24 น.  

 

ภาพสวยมากครับ

 

โดย: ชายคา 17 ตุลาคม 2548 12:53:31 น.  

 

ภาพสวยเหมือนเคยค่ะคุณแอน ... แต่แอบขำภาพเก็บตกน๊า

 

โดย: JewNid 17 ตุลาคม 2548 14:48:32 น.  

 

อิอิ


เข้ามาขำพลังดรากอนบอลครับ อิอิ

 

โดย: ตะเกียงลาน 17 ตุลาคม 2548 15:42:40 น.  

 

ตกลงคุณแอนเป็นคนเช่นนี้เองหรอฮะ..

 

โดย: ลุงแปลก IP: 193.138.113.22 17 ตุลาคม 2548 16:07:17 น.  

 

ภาพสวยเช่นเคยค่าคุณแอน ^^




...

 

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 17 ตุลาคม 2548 17:30:40 น.  

 

เข้ามาแอบดูอะไรที่เจริญหูเจริญตามั่ง....

 

โดย: p เสื้อเหลือง IP: 58.147.49.36 17 ตุลาคม 2548 18:52:15 น.  

 

อ่ะโห..

รูปงามขนาดๆ

 

โดย: SSTR IP: 58.8.21.112 17 ตุลาคม 2548 20:50:56 น.  

 

วันนี้ได้ครบรสเลยค่ะ คุณแอน ตั้งแต่เศร้า ซึ้ง จนมาถึง เรื่องฮาๆ

 

โดย: Black Tulip 17 ตุลาคม 2548 21:18:33 น.  

 

^^

 

โดย: panumas05 17 ตุลาคม 2548 22:27:55 น.  

 

รูปฉมัยฉาวๆ

 

โดย: tenz 18 ตุลาคม 2548 9:40:41 น.  

 

ปัญหาของผมเวลาไปถ่ายโบราณสถานก็คือ คน - คนหัวดำๆ เสื้อ ร่ม ถุงหลากสีเดินกันขวักไขว่ไปหมด บางทีจะกดชัตเตอร์อยู่แล้วยังเดินผ่านแถมเข้าไปในวิวที่จะถ่ายพอดี ไม่พอ เดินแบบชมนกชมไม้เหมือนเราไม่มีตัวตน รอหน่อยไม่ได้หรือไงฟะ สรุป เวลาไปที่แบบนั้นเลยไม่หวังจะได้ภาพดีๆ ต้องไปตอนที่คนอื่นไม่ไปกันเช่นเช้ามากๆหรือมืดไปเลย

 

โดย: แป๊กก 19 ตุลาคม 2548 7:09:18 น.  

 

จขกท น่ารักเนอะ

 

โดย: มังกรพิษลึก IP: 80.242.237.78 29 พฤษภาคม 2550 11:04:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

มรกตนาคสวาท
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




มายาแห่งมาหยา

ยินดีต้อนรับ...

สู่

บล็อกคนชอบถ่ายรูปฝีมือธรรมดาๆ
หน้าตาไม่ดี นิสัยไม่ดี
งานเยอะ ไม่มีเวลาพูดเล่นกับใคร
ไม่ประสงค์จะสนิทสนมกับคนแปลกหน้า




ผีเสื้อ
ชรัส เฟื่องอารมณ์



.....ผีเสื้อตัวน้อยน้อย
บินล่องลอยกลางพนาไพร
โผผินร่อนบินระเริงใจ
คลุกเคล้าดอกไม้ใจชื่นบาน



แสงแดดยามสายสาย
งามพร่างพรายต้องสายธาร
ฉาบทองเมื่อมองแสนตระการ
ผีเสื้อสุขสราญนะเจ้าเอย



***...ท้องฟ้าสีอำพัน
ผีเสื้อสุขสันต์มากเหลือ
เจ้าไม่คิดไม่ต้องหวัง
ดอกไม้ยังกูลเกื้อ
แสงแดดจุนเจือชีวี...



...อยากจะเป็นผีเสื้อตัวน้อย
บินล่องลอยเสรี
สีสันดุจอัญมณี
สุขใดหรือจะมีเช่นผีเสื้อ



***...ท้องฟ้าสีอำพัน
ผีเสื้อสุขสันต์มากเหลือ
เจ้าไม่คิดไม่ต้องหวัง
ดอกไม้ยังกูลเกื้อ
แสงแดดจุนเจือชีวี...



...อยากจะเป็นผีเสื้อตัวน้อย
บินล่องลอยเสรี
สีสันดุจอัญมณี
สุขใดหรือจะมีเช่นผีเสื้อ

... สุขใดหรือจะมีเช่นผีเสื้อ...




เพลงผีเสื้อ




งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ที่มาของข้อความ:เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา







New Comments
[Add มรกตนาคสวาท's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com