|
|
|
|
|
|
...เมื่อเด็กแนวลูกสาวชาวนา ต้องจ่ายเงินค่าผ่านประตูเข้าไปดู "ควาย" ซะงั้น... (ภาค ๒)
อ่านเรื่อง ...เมื่อเด็กแนวลูกสาวชาวนา ต้องจ่ายเงินค่าผ่านประตูข้าไปดู "ควาย" ซะงั้น... (ภาค ๑) โปรดกดที่นี่
ภาพนี้เป็นหนึ่งในหน้าที่ของควาย นอกเหนือจากการไถนาซึ่งเป็นหน้าที่หลัก หน้าที่นี้ก็คือการเทียมเกวียน นั่นเอง
จากความทรงจำสมัยเด็กแนวยังเด็กมากๆ ที่บ้านจะไม่นิยมใช้ควายเทียมเกวียนเท่าไร เพราะควายมีหน้าที่หลักก็คือ ไถนา ย่ำข้าว (ตอนนวดข้าวอ้ะค่ะ) เป็นหลัก หน้าที่ลากไถ ลากผาลไถ ลากคราด ก็หนักหนาสาหัสแล้วอ้ะ
หน้าที่เทียมเกวียนที่หมู่บ้านเด็กแนว ก็เลยกลายเป็นหน้าที่ของวัว คุณวัวเธอจะดูบอบบางกว่าคุณควายมากๆ เลย หน้าตาผิวพรรณก็ผิดกัน
บางคนเลยบอก ควายเนี่ยเหมือนลูกชาย วัวเนี่ยเหมือนลูกสาว การดูแลเอาใจใส่ก็ต่างกันเล็กน้อย เหมือนการดูแลลูกๆ นั่นแหละ ประคบประหงมวัวมากหน่อย ควายมันแข็งแรงก็ปล่อยๆ มันไป อิอิ
เกวียนเนี่ย จริงๆ มีหลายแบบ แบบที่เห็นในรูปเนี่ย ที่บ้านเด็กแนวเขาเรียก เรือนล้อ เอาไว้สำหรับขนของต่างๆ ไปปลายนา ฮั่นแน่ นึกถึงกระท่อมปลายนา กับเสียงฟ้าร้องและฝนตกกันละเซ่
ต่ออีกนิด ข้างบนลืมพูดถึง เมื่อชาวไทยใช้ควายไถนา ใช้วัวเทียมเกวียน แล้วการเอาวัวซึ่งบอบบางกว่า มาไถนา เป็นคติมาจากไหนล่ะ
อันนี้เด็กแนวก็ไม่แน่ใจนะคะ บางทีอาจจะมาจากคตินิยมของชาติอื่นที่วัฒนธรรมแข็งแรงมากๆ อย่างทางอินตะระเดียก็ได้กระมัง อีนี้ นายจ๋า
แต่จริงๆ วัฒนธรรมการทำนาเนี่ย ก็ดูจะเป็นวัฒนธรรมคู่กับคน ไท (ไม่มี ย) มานานแสนนาน
มีคนบอกว่า ถ้าไปเที่ยวแถวๆ อัสสัม หรือสิบสองปันนา จะแยกหมู่บ้านคนไท ออกจากหมู่บ้านคนเชื้อชาติอื่นยังไง ให้ดูที่การทำนา ถ้ามีนาอยู่เนี่ย ออกจะมั่นใจได้ว่า น่าจะเป็นคนไทได้หลายเปอร์เซ็นต์มากกว่าจะเป็นคนชาติอื่นจ้า
เขียนยาวไปอีกละเด็กแนวอดคิดถึงอดีตอันรุ่งเรืองไม่ได้น่ะ
สำหรับภาพนี้ เหมาะกับเพลงนี้เลย เพลงเดียว
ไก่นาตาฟาง จีรพันธ์ วีระพงศ์
ฉันขี่ไอ้ทุยวิ่งลุยท้องนา (ฮึ้ย ฮึ้ย ฮึ้ยฮึ้ย) ฉันคนบ้านป่าหน้าตาเหมือนโจร แต่งตัวก็เชย หนักหนา ดูหน้าดูตาก็มีแต่โคลน ต่อให้ตะโกนเธอก็ไม่มา
เธอขี่รถเก๋งร้องเพลงฝรั่ง (ช่า ช่า ช่าช่า) ฉันจนทนนั่งแลหนังขายยา เจ้าจึงเปลี่ยนทาง หักเห ไปทุ่มไปเทซีเนรามา ลืมคนบ้านนาลืมหนังตลุง
คงนึกว่าตัวเธอเด่น เลยเห็นฉันเป็น คนโง่ ไปควงจิ๊กโก๋แล้วลืมลูกทุ่ง วันไหนถ้าลืมกินยา น้ำตาจะฟุ้ง อีสาวลูกทุ่งอย่าหยิ่งเกินไป
ไปเด่นไปดังก็ช่างของเธอ (ไป ไป ไปไป) ถึงเป็นด๊อกเตอร์ก็ไม่สนใจ หมดสิ้นความสาวเก่าลง หมอนวดก็คงไปเป็นไม่ได้ ก็เลยต้องไปเป็นไก่ตาฟาง
ฉันขี่ไอ้ทุยวิ่งลุยท้องนา (ฮึ้ย ฮึ้ย ฮึ้ยฮึ้ย) ฉันคนบ้านป่าหน้าตาเหมือนโจร แต่งตัวก็เชย หนักหนา ดูหน้าดูตาก็มีแต่โคลน ต่อให้ตะโกนเธอก็ไม่มา
เธอขี่รถเก๋งร้องเพลงฝรั่ง (ช่า ช่า ช่าช่า) ฉันจนทนนั่งแลหนังขายยา เจ้าจึงเปลี่ยนทาง หักเห ไปทุ่มไปเทซีเนรามา ลืมคนบ้านนาลืมหนังตลุง
คงนึกว่าตัว เธอเด่น เลยเห็นฉันเป็น คนโง่ ไปควงจิ๊กโก๋แล้วลืมลูกทุ่ง วันไหนถ้าลืม กินยา น้ำตาจะฟุ้ง อีสาวลูกทุ่งอย่าหยิ่งเกินไป
ไปเด่นไปดังก็ช่างของเธอ (ไป ไป ไปไป) ถึงเป็นด๊อกเตอร์ก็ไม่สนใจ หมดสิ้นความสาว เก่าลง หมอนวดก็คงไปเป็นไม่ได้ ก็เลยต้องไปเป็นไก่ตาฟาง...
ภาพนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการควบคุมควาย อาจไม่เหมาะกับพวกที่รักและสงสารควายจนเกินเหตุ เอ๊ย ไม่เหมาะสมกับนักสิทธิมนุษยชนสัตว์สักเท่าใดนัก แต่จำเป็นสำหรับชาวนาที่ต้องใช้ประโยชน์ใช้งานควายค่ะ
สิ่งที่จะทำต่อไปนี้ ภาษาที่บ้านเด็กแนวเรียก แทงดังควาย (ดัง แปลว่า จมูก) ภาษากลางเรียก สนตะพายควาย
หลักการคร่าวๆ ก็คือ แทงกระดูกอ่อนตรงที่เชื่อมรูจมูกสองข้างของควายให้เป็นรู เพื่อที่จะร้อยเชือกสนตะพายควาย ไว้สำหรับดึงบังคับทิศทางเมื่อขี่ควาย และเพื่อความสะดวกของการจูง
การแทงดังควาย หรือสนตะพายควาย จะทำก็เมื่อควายเติบโตมีอายุพอจะใช้งานได้ ควายที่ยังเป็นลูกแหง่ (ภาษากลางเรียก ลูกแหง่ ภาษาที่บ้านเรียก ลูกแอ) จะมีแค่เชือกผูกคอควาย สำหรับจูงไปผูกกินหญ้า กินฟางเท่านั้นค่ะ
เห็นไม้ท่อน กลมๆ ที่ผูกไว้บนเสาด้านซ้ายมือไหมคะ เขาเรียกอะไรจำไม่ได้ (ไม่เคยจำรายละเอียดเลยเด็กแนวเอ๊ย) แต่เจ้านี่แหละ ไว้สำหรับแทงที่ดังควาย ส่วนไม้แบนๆ คล้ายๆ พลั่วอันเล็กๆ นี้ ก็เหมือนค้อน เอาไว้ตอกๆ ค่ะ มีชื่อเฉพาะเช่นกัน แต่เด็กแนวไม่ได้จดอ้ะ มัวแต่จ้องจะกดชัตเตอร์
คราวนี้รู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าสำนวน สนตะพาย มาจากไหน
พอพูดถึงนา พูดถึงควาย แล้วก็คิดถึง เพลงลูกทุ่ง แฮะ ดูเป็นสูตรสำเร็จที่ติดอยู่ในใจและมโนสำนึกของลูกสาวชาวนาอย่างเราเลย
ภาพข้างบนนี้ทำให้คิดถึงเพลงนี้แฮะ
เขมรไล่ควาย สุรพล สมบัติเจริญ
เราชาวนา อยู่กับควาย พอหมดงานไถ เราจูงฝูงควายเข้าบ้าน พออาบน้ำควายสำราญ แล้วเสร็จจากงาน เบิกบาน ร้องเพลงรำวง
เราชาวนาสุขสบาย คืนค่ำเดือนหงาย เราขี่หลังควายร้องส่ง ทั้งฉิ่งทั้งกลอง ฆ้องวง ชะเท่งมง รำวง แสนเพลิดเพลินใจ
แม้นใครอิจฉา มันน่าหัวเราะ จะเยาะ พวกเรามิได้ ลมเย็นเย็น ร้องเขมรไล่ควาย แปลกใจ ควายมันไม่อาทร
เจอคนงอนค่อนว่าคน ว่าโง่เป็นควาย ไยไม่นึกอาย คำค่อน ควรชั่งยั้งใจไว้ก่อน โถแม่บังอร สิ้นงอน แล้วให้ขี่ควาย
แหะๆ ภาพในบล็อกวันนี้ขนาดไฟล์ค่อนข้างใหญ่ เดี๋ยวจะโหลดกันไม่ไหว
ขอไปต่ออีกภาคละกันนะคะ
อ่านเรื่อง ...เมื่อเด็กแนวลูกสาวชาวนา ต้องจ่ายเงินค่าผ่านประตูข้าไปดู "ควาย" ซะงั้น... (ภาค ๓) โปรดกดที่นี่
โปรดอย่ารอคอย แต่จงติดตามด้วยความระทึกในหฤทัยพลัน (ยืมสำนวนลุงเฐียร บก.บห. มติชนสุดสัปดาห์มาใช้อีกแว้ววววว)
สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อเวรา จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัฌชา จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อนีฆา จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปริหรันตุ จงมีแต่ความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ
ขอได้รับความขอบคุณจากแมวๆ พิคเจอร์เช่นเคยค่ะ
Create Date : 22 ธันวาคม 2548 |
Last Update : 22 ธันวาคม 2548 12:25:00 น. |
|
11 comments
|
Counter : 11093 Pageviews. |
|
|
|
โดย: HotDuckZ วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:10:18:01 น. |
|
|
|
โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:10:19:21 น. |
|
|
|
โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:10:32:29 น. |
|
|
|
โดย: หยิ๋งแป๋ม วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:10:51:36 น. |
|
|
|
โดย: กุมภีน วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:11:11:54 น. |
|
|
|
โดย: menzel วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:12:00:45 น. |
|
|
|
โดย: หนูชล วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:12:01:49 น. |
|
|
|
โดย: merf1970 วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:12:45:08 น. |
|
|
|
โดย: แครอทเค้ก วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:13:15:19 น. |
|
|
|
โดย: พรรณ (oraphana ) วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:13:52:47 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
สามภาคเข้าไปแล้ว เราต้องตามไปดู