|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ค่าฝุ่น 2.5 สูงม้ากกก แต่หลายคนก็ยังไม่ใส่แมสก์กัน
ช่วงระยะเวลานี้ของทุกปี พื้นที่ภาคเหนือตอนบนจะประสบปัญหาฝุ่นควันหนาทึบ ค่าฝุ่น 2.5 สูงอยู่ในระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก ค่าฝุ่นสูงจนติดอันดับ 1 ของโลกเป็นประจำ
เราเองถ้าอยู่บ้านก็จะปิดบ้าน ขังตัวเองอยู่ในบ้าน เปิดเครื่องฟอกอากาศ เราใช้เครื่องฟอกอากาศสเปคสูง เปิดพร้อมกัน 2 ตัว ให้มันช่วยกันทำงาน
สเปคสูงของเราคือใช้เครื่องฟอกอากาศสำหรับห้อง 30-60 ตารางเมตร แต่เราเปิดใช้ในห้องพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตร ที่ต้องใช้สองตัวเพราะต้องการให้ค่าฝุ่นอยู่ในระดับต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมันก็ได้ผลตามที่เราต้องการ
ถ้าจำเป็นต้องออกนอกบ้าน เราจะใส่แมสก์ยี่ห้อที่ระบุว่าช่วยกรองฝุ่น 2.5 และใส่ซ้อนกันสองชั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยกรองได้มากน้อยเพียงใด ถ้าจะให้ใส่หน้ากาก N95 ซึ่งรับรองว่ากันฝุ่น 2.5 ได้แน่นอน แต่เราใส่ไม่ได้ เพราะใส่แล้วอึดอัดมาก หายใจไม่ออก
ข้อมูลทางการแพทย์ก็ระบุว่าฝุ่นนี้อันตรายต่อทุกอวัยวะของร่างกาย ทำให้ป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้ และเชียงใหม่บ้านเรามีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปอดสูงที่สุดในประเทศไทย
แต่ ๆๆๆๆๆๆๆๆ เราเห็นหลายคนไม่ใส่แมสก์กัน ใช้ชีวิตกันชิล ๆ คิดว่าบางคนคงใส่แล้วรู้สึกอึดอัด บางคนคงไม่ตระหนักว่ามันอันตรายถึงชีวิต เพราะมันไม่ได้สูดเข้าไปปุ๊บแล้วป่วยทันที แต่มันจะค่อย ๆ สะสมในร่างกาย พวกเขาเลยไม่สนใจที่จะใส่แมสก์กัน
ในบางคนที่ร่างกายไวต่อฝุ่นนี้ ก็อาจจะมีไอ ผื่น เลือดกำเดาไหล แสบตา แสบคอ หายใจติดขัด ฯลฯ แต่สำหรับเราไม่มีอาการอะไรเลย ยังคงหายใจโล่งเหมือนปรกติ แต่เราก็ไม่ประมาท ก็เซฟตัวเองเท่าที่จะทำได้
เราจะรู้สึกแค่ตอนตื่นนอน คือในห้องนอนเปิดเครื่องฟอกอากาศไว้ อากาศคุณภาพดี พอเปิดประตูห้องนอน จะรู้สึกได้ทันทีว่ามีกลิ่นควัน แต่อยู่ไปสักพักก็ชิน
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เราก็ต้องอยู่กับฝุ่นนี้ต่อไป ทำได้แค่เซฟตัวเองให้ดีเท่าที่ทำได้
หยิบภาพมาจากเพจเชียงใหม่ค่ะ
Create Date : 09 เมษายน 2567 |
Last Update : 9 เมษายน 2567 20:23:03 น. |
|
0 comments
|
Counter : 50 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|