|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๗ สิกขา
ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง ตอนที่ ๗ สิกขา
พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักขอรับ มาพบกันคราวนี้ กระผมผู้เล่านิทานข้างกองฟาง จักได้ตัดภาพเณรแก้วที่กำลังเรียนวิชากับท่านอาจารย์คงอย่างขะมักเขม้น มากล่าวถึงนายขุนช้างอีกครั้ง ซึ่งเมื่อตะแกมาขอแม่พิม จนโดนด่าไปแล้วครั้งหนึ่งยังไม่เข็ด และก็ไม่ยอมละความพยายามเดิม แต่คราวนี้ก็ไม่ทราบว่าด้วยเงินตราหรือเหตุใด ที่ทำให้แม่ศรีประจันนั้นใจอ่อน จึงได้ต้อนรับขับสู้นายขุนช้างเป็นอย่างดี ราวกับว่าจะยกลูกสาวให้เขาในวินาทีนั้น และเรียกแม่พิมพิลาไลยให้ออกมาคุยด้วย
ผลก็คือความในฉบับหลวง ที่กระผมกำลังจะยกมาขับเสภา ให้พ่อแม่พี่น้องฟังนี้แหละครับ
จึงแกล้งเรียกข้าด่าประจาน แน่อ้ายผลหัวล้านไปไหนเหวย ยกยศยิ่งใหญ่กระไรเลย ดอกเตยหรือจะปลอมพยอมไพร
จองหองเอาเงินมาอวดอึง แม่......ตูหาปรารถนาไม่ ขี้เกียจการงานนี่สุดใจ น้ำขอดโอ่งไหไม่นำพา
อ้ายเจ้าชู้ลอมปอมกระหม่อมบาง ลอยชายลากหางเกี่ยวเกี้ยวหมา ชิชะแป้งจันทน์น้ำมันทา หย่งหน้าสองแคมเหมือนหางเปีย
หมามันจะเกิดชิงหมาเกิด เอ.ไปตายเสียเถิดอ้ายห้าเบี้ย หน้าตาเช่นนี้จะมีเมีย อ้ายมะม่วงหมาเลียไม่เจียมใจ ฯ นายขุนช้างก็ได้แต่ไหว้ลาแม่ศรีประจันกลับบ้านไปอีก ด้วยความชอกช้ำ ที่หนักกว่าครั้งที่แล้ว แต่ก็แปลกที่ว่าคราวนี้ แม่ศรีประจันกลับโกรธลูกสาวและลงโทษเสียเป็นอันมาก ขนาดโยงเฆี่ยนกันนั่นแหละ ขอรับกระผม แม่สายทองก็เป็นห่วงน้องเสียแทบแย่ แต่ก็ไม่มีปัญญาจะเข้าไปขวาง เพราะตนนั้นเป็นเพียงพี่เลี้ยงมิใช่พี่ตัว จึงได้แต่เข้าไปซับน้ำตา และให้คำปรึกษาเมื่อแม่พิมเข้ามาในห้องแล้ว สรุปว่าคงจะต้องพาแม่พิม ไปปรึกษากับพ่อเณรพลายแก้ว ให้มันรู้แล้วไปเสียที เมื่อตกลงกันว่าจะเอาอย่างนั้น ด้วยความรักน้องแม่สายทองก็แข็งใจ พาแม่พิมไปที่วัดป่าเลไลย ทั้ง ๆ ที่ตนเองยังมีคดีอยู่ แต่เมื่อไปถึงก็ได้ทราบความว่าเณรแก้วนั้น ย้ายสำนักไปอยู่กับท่านอาจารย์คงที่วัดแคเสียแล้ว จึงพากันไปวัดแคโดยหมายจะได้พบพ่อจำเลยตัวดี พอแม่พิมพบหน้าพ่อเณรที่วัดแคเข้าจริง ๆ แล้ว ก็ตัดพ้อต่อว่าพรั่งพรูดังสายน้ำไหล จนกระผมผู้เล่านิทานข้างกองฟางนี้เล่าไม่ทัน ต้องขอให้ฉบับหลวงท่านว่าความทั้งนั้น ให้พ่อแม่พี่น้องฟังแทน ดังนี้ขอรับ ครานั้นจึงโฉมนวลนางพิม เห็นเณรเข้ายิ้มออกมาได้ กับสายทองต่างขึ้นไปทันใด นั่งใกล้แล้วก็ว่าไปทันที
ชะใจกระไรพ่อเณรหนอ มาลวงล่อแล้วก็ละอาลัยหนี ฉันหมายใจอยู่ว่าพ่อเณรดี พาทีไว้แต่หลังนั้นอย่างไร
สารพันสัญญาไว้ทุกสิ่ง ตัวเป็นหญิงจะทำกระไรได้ ว่าจะขอแล้วก็รอยังไม่ไป จนความใหญ่ไขว่ขวางขึ้นกลางคัน
อ้ายขุนช้างขอแม่แกยกให้ ขัดใจเจียนน้องจะอาสัญ ไม่ยินยอมพร้อมใจที่ให้ปัน แกตีรันจนหลังจะพังไป
แม่เลี้ยงมาแต่เล็กคุ้มใหญ่แล้ว ไม้เปรียะยังหาแผ้วเป็นแนวไม่ ครั้งนี้แม่ไม่มีความอาลัย ฉันขอบใจอยู่ว่าใจพ่อเณรดี
หมายใจว่าที่ไหนจะทิ้งสัตย์ สารพัดพูดไว้กับพิมนี่ ว่าอย่างไรก็ว่าอย่าช้าที เดี๋ยวนี้ก็จะว่าให้สาใจ ฯ ว่าแล้วก็หันหลังให้ดูรอยหวาย ผลที่ได้รับจากการขัดใจแม่ มาเป็นหลักฐาน ประกอบการตัดพ้อต่อว่าพ่อเณรตัวดีของเรา รอยไหม้จากฝีหวายที่โผล่พ้นสไบของแม่พิม ประกอบกับคำบอกเล่านั้น ทำให้เณรแก้วใจหาย ตอบความคนรักไปโดยสำนวนอันงดงาม ที่ปรากฏอยู่ในฉบับหลวงว่าดังนี้ขอรับ
เณรแก้วเห็นพิมเจ้ามัวหมอง ปลอบประคองมือเช็ดน้ำตาให้ เอออ้ายช้างชาติชั่วตัวจัญไร มาทำให้น้องข้าต้องด่าตี
น้อยฤาร้อยไม้เป็นริ้วริ้ว เออนี่ผูกมือหิ้วเจียวฤานี่ จึงยับย่อยเป็นรอยทั่วอินทรีย์ ฟ้าผี่นิ้วน่อยพลอยเป็นแนว
สงสารพิมนิ่มเนื้อนี่เหลืออก น้ำตาไหลตกเป็นแถวแถว สุดจิตสุดคิดสุดฤทธิ์แล้ว น้องแก้วแม่อย่าปรารมภ์ใจ
เงยหน้าขึ้นเถิดเจ้าพิมเพื่อน แก้มเปื้อนมาจะเช็ดน้ำตาให้ อย่าโศกนักเลยเจ้าจะเศร้าไป ดวงใจพี่ไม่ลืมคำสัญญา ฯ พอว่าความมาถึงตรงนี้แล้ว กระผมก็อดมิได้ที่จะขออนุญาตคุยนอกเรื่องสักนิดหนึ่ง คือกระผมได้ทราบมาว่า ในบทสุดท้ายของกลอนตอนที่กระผมเล่ามาให้พ่อแม่พี่น้องฟังนี้ คุณครู เนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์ กวีซีไรท์คนแรกของประเทศไทย ได้เคยยกเอาไว้เป็นตัวอย่าง อยู่ครั้งหนึ่งว่า เป็นกลอนที่ไม่มี สัมผัสใน เลย มีแต่เพียง สัมผัสใจ เท่านั้น
เงยหน้าขึ้นเถิดเจ้าพิมเพื่อน แก้มเปื้อนมาจะเช็ดน้ำตาให้ ไม่ทราบว่าท่านผู้ฟังนิทานข้างกองฟางของกระผมนี้จะ สัมผัสใจ อย่างที่คุณครู เนาวรัตน์ ฯ กล่าวถึงในเสภาวรรคนั้นหรือไม่ สัมผัสใจที่กระผมขออนุญาตยกมากล่าวถึงนั้นก็คือการสื่อสารผ่านจาก ใจ ของผู้แต่งถึง ใจ ของผู้อ่านโดยตรง มิได้เกี่ยวข้องกับความเพริศพริ้งของสัมผัสนอกสัมผัสใน หรือกระบวนสำนวนกลอนใด ๆ เลย แต่ในความหมายของสัมผัสใจนั้น ผู้แต่งกับผู้อ่านสามารถที่จะนำใจ มาเชื่อมโยงสื่อสารกันได้โดยตรง โดยมิได้ผ่านกระบวนการทางวรรณกรรม หรือวรรณคดีใด ๆ ทั้งสิ้น ท่านว่าของท่านไว้ถึงขนาดนั้นเชียวแหละขอรับ
ความจริงนั้นเอง ที่เป็นความงาม
เรามาเข้าเรื่องกันเถิดนะขอรับ เมื่อสักครู่นี้ แม่พิมพิลาไลก็น้ำตาแห้งไปแล้ว เนื่องจากถูกป้ายแก้มด้วยความอาทร จากนั้นแม่พิมจึงอ้อนพ่อเณรแก้วจนกระทั่งใจอ่อน ตกปากรับคำไปดังที่ฉบับหลวงท่านว่าไว้ดังนี้ ขอรับกระผม
ค่ำวันนี้พี่จะลาอาจารย์สึก เวลาดึกจะเข้าไปให้ถึงบ้าน กราบลาถ้าหากท่านทัดทาน ก็จะหนีสมภารไปหาพิม ฯ
ความร้อนที่กระผมได้เคยเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟังมาแล้ว ขณะนี้ดูจะเพิ่มอุณหภูมิขึ้นอีกมากทีเดียวแหละขอรับ
และในค่ำวันนั้น เณรแก้วก็ได้ไปลาสิกขากับท่านอาจารย์คงจนได้ ถึงแม้ว่าจะถูกทัดทานไว้ก็ตามท แต่ในที่สุด นอกจากที่ท่านอาจารย์คงจะอนุญาต ให้เณรแก้วสึกได้แล้ว ก็ยังกรุณาที่จะทำนายทายทักชะตาชีวิตในอนาคตไว้ ดังที่ฉบับหลวงท่านกล่าวความไว้ว่า
สมภารฟังหลานเห็นเหลือห้าม หยิบกระดานดูยามตามดิถี คูณหารดูตามคัมภีร์มี เอาวันคืนเดือนปีของเณรพลาย
บวกกันเข้าดูก็รู้แท้ เห็นแน่ดังอินทรเนตรหมาย ชะตาดีที่ทหารเจียวหลานชาย แกก็ทายว่าเจ้าแก้วนี้ปดกู
คิดว่าทุกข์อย่างไรออกวายวุ่น มิรู้ว่าเจ้าประคุณข้าเล่นชู้ เอ็งจำไว้ในคำของตาดู สึกไปจะได้อยู่สมดังใจ
สู่ขอหอห้องทำทุนสิน อยู่กินแต่หาถึงเท่าใดไม่ จะพลัดพรากจำจากกำจัดไกล มันจะมีผัวใหม่มันทิ้งมึง
เมื่อายุยี่สิบห้าเบญจเพส จะมีเหตุด้วยเคราะห์เข้ามาถึง ต้องจองจำโซ่ตรวนเขาตรากตรึง อายุสี่สิบมึงจะได้ดี ฯ
ถ้าพ่อแม่พี่น้องจะได้กรุณาติดตาม ฟังนิทานข้างกองฟางของกระผมนี้ต่อไป ก็คงจะเห็นด้วยกับกระผมว่า ท่านอาจารย์คงท่านนี้ ท่านดูหมอแม่นเหลือประมาณ เพราะในเวลาต่อมานั้นพลายแก้วจะได้เผชิญวิบากกรรม ตามคำทำนายของท่านอาจารย์คงทุกอย่าง และยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่ง ที่พระสุรินทรฦาไชยมไหศูรย์ภักดี ก็ได้รับพระราชทานเมื่ออายุสี่สิบปีพอดี
แต่ในเวลานี้ เป็นอันว่าพลายแก้วก็ได้ลาสิกขาสมใจ ส่วนจะไปแผลงฤทธิ์แสดงความปั่นป่วนให้กับใคร เมื่อไร อย่างไรนั้น พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักของกระผม ก็คงจะต้องมาล้อมวงรอฟังอยู่ที่ข้างกองฟางนี้ ต่อไปในครั้งหน้าขอรับ.
############################## วารสารสุรสิงหนาท.........กันยายน ๒๕๔๐ นิตยสารโล่เงิน..............กันยายน ๒๕๔๔
|
|
|
Create Date : 07 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 7 ตุลาคม 2550 19:17:51 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1127 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.187.146 วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:18:10:48 น. |
|
|
|
โดย: imahnook IP: 117.47.78.126 วันที่: 26 มิถุนายน 2551 เวลา:20:54:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ..
เอาไว้ว่างจะมาฟังนิทานนะคะ
วันนี้ขอตัวไปดูละครก่อนละคะ
ปล.อันที่จริงตามดูภาพถ่ายตัวเองคะ