Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
15 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๓๘ เสร็จศึก

ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง
ตอนที่ ๓๘ เสร็จศึก

พ่อแม่พี่น้องที่เคารพครับ ครานั้นขุนแผนกับพลายงาม เมื่อช่วยกันขู่พระเจ้าเชียงใหม่จนอยู่หมัดแล้ว ก็สั่งให้เจ้าเชียงอินทร์ให้สัตย์ปฏิญาณทันที

เจ้าเชียงใหม่ได้ฟังจึงตอบถ้อย
อันคำข้อยเว้าแล้วบ่ถอยหลัง
ทุกสิ่งสิ้นสารพัดเป็นสัจจัง
ชาติกษัตริย์ตรัสดังว่าช้างงา

ถ้าขืนคอหดเหี้ยนเหมือนเศียรเต่า
ขอให้เราสิ้นชีวังสังขาร์
แล้วทนทุกข์ท่วมหัวชั่วกัลปา
ในมหาโลกันตร์แต่วันตาย

จะเชื่อคำข้าเฝ้าเหล่าลูกเมีย
ยุให้เสียสุจริตอย่าคิดหมาย
จะถือสัตย์ให้ตลอดจนวอดวาย
ขอให้ท่านสองนายจงวางใจ ฯ


สองพ่อลูกได้ฟังดังนั้นก็ค่อยสบายใจ คืนพระแสงให้ แล้วก็บอกว่าจะช่วยเพ็ดทูลสมเด็จพระพันวษาให้ลดหย่อนผ่อนโทษให้ แล้วจึงเดินออกจากปรางค์ปราสาทของพระเจ้าเชียงใหม่อย่างสง่าผ่าเผย แต่ก็ไม่ก่อนที่จะกระซิบพวกภูติพรายให้ช่วยดูแลด้วย

..
...
ลงจากปรางค์ย่างเยื้องชำเลืองกราย
กระซิบสั่งโหงพรายกุมารทอง

เอ็งจงอยู่ดูปรางค์อย่าห่างไกล
ประจำเจ้าเชียงใหม่อยู่ในห้อง
สะกดตามทุกรอยคอยสอดมอง
เธอจะตรองอย่างไรก็ให้รู้

ลูกเมียมาตะบอยอ้อยอิ่ง
เธอตรงไว้ไม่ประวิงให้นิ่งอยู่
ถ้าเชื่อเมียเสียสัตย์เป็นศัตรู
เอ็งจงรีบไปบอกกูอย่านอนใจ

สั่งพลางทางแก้สะกดคน
ล่องหนออกทางช่องลูกดาลไข
ขุนแผนพลายงามตามกันไป
ถึงกองทัพไทยมิได้ช้า ฯ


เข้าไปถึงก็เดินยิ้มเข้าไปหาเหล่านายไพร่ที่มาชุมพลฟังคำตอบอยู่ พอเหล่าพหลพลโยธารู้ข่าวว่าเจ้าเมืองเชียงใหม่ยอมแพ้ ยอมขึ้นเป็นข้าขอบขัณฑสีมาต่อกรุงศรีอยุธยาก็พากันดีใจ ไชโยโห่ฮิ้วกันยกใหญ่ทีเดียว

ข้างฝ่ายพระเจ้ากรุงเชียงใหม่ก็รักษาคำสัตย์ สั่งให้เปิดประตูรับกองทัพไทยและเวียงจันทน์เข้าเมืองมาแต่โดยดี ไม่มีบิดพริ้ว

ครานั้นขุนแผนแสนสนิท
เรืองฤทธิ์แรงราวกับราชสีห์
เห็นเพี้ยกวานคลานมาอัญชลี
เชิญเข้าไปอยู่ที่ทำเนียบใน

ชวนเจ้าพลายท้ายน้ำกึงกำกง
กับอาสาจัตุรงค์ทั้งนายไพร่
แล้วขุนแผนนำหน้าคลาไคล
ขึ้นนั่งในคานหามมาสามนาย

กำกงขี่ม้ามาข้างหลัง
สะพรั่งพร้อมโยธามาทั้งหลาย
ครั้นถึงที่ทำเนียบเขาเรียบราย
ทั้งไพร่นายก็เข้าพักสำนักใน

ออกสะพรั่งนั่งนอนสลอนหลาม
อยู่กันตามตำแหน่งผู่น้อยใหญ่
วิเสทแต่งเครื่องเทียบเพียบไป
เลี้ยงกองทัพไทยทุกเพลา ฯ


แล้วขุนแผนก็มีใบบอกมายังกรุงศรีอยุธยาว่า บัดนี้ งานพระราชการสงครามได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ประทับตรา หนุมาน เป็นสำคัญ แล้วใช้ให้นายปานขวานฟ้า กับ นายมั่น เป็นม้าเร็วมายังท้องพระโรงรัตนาโดยทันที ในใบบอกนั้น มีใจความดังนี้ขอรับ

ในบอกว่าขุนแผนแสนสงคราม
กับนายพลายงามคนขยัน
อาสาบาทบงสุ์พระทรงธรรม์
คุมพหลพลขันธ์ไปชิงชัย

ได้เร่งรัดจัตุรงค์ทวยหาญ
ยกขึ้นไปถึงชานเมืองเชียงใหม่
ให้หยุดทัพยับยั้งตั้งซุ่มไว้
แล้วปลอมตัวเข้าไปในพารา

เวลาค่ำลอบเข้าในคุกใหญ่
แก้ไขไทยมาได้ถ้วนหน้า
ช่วยกันฆ่าคนปล้นช้างม้า
แล้วกลับมาที่ตั้งยั้งโยธี

ครั้นรุ่งเช้าลาวยกมาห้าทัพ
ไพร่พลคนคับทั้งไพรศรี
ข้าพเจ้าขับพลเข้าราวี
ต่อตีรบรุมตะลุมบอน

ฆ่านายตายลงในที่รบ
ไพร่ก็หลบหนีหายกระจายว่อน
ทั้งห้าทัพกลับถอยเข้านคร
ปิดประตูลงกลอนไว้ทุกชั้น

แล้วรักษาหน้าที่ใบเสมา
ตรวจตราเข้มงวดกวดขัน
กองไฟไว้สว่างเหมือนกลางวัน
คอยป้องกันตั้งรับกองทัพไทย

ในคืนนั้นข้าพเจ้ากับพลายงาม
ลอบตามขึ้นปราสาทเจ้าเชียงใหม่
พบกำลังนอนหลับจับตัวไว้
แล้วปลุกขึ้นตกใจอยู่ลนลาน

กลัวตายขอถวายองค์สร้อยทอง
กับพวกพ้องประยูรญาติราชฐาน
ทั้งธิดาเมียมิ่งแลศฤงคาร
ไว้ใต้เบื้องบทมาลย์พระทรงฤทธิ์

ส่วนตัวนั้นก็ถ่อมยอมเป็นข้า
ถวายราชบรรณาจนดับจิต
ขอแต่อย่าให้ตายวายชีวิต
ให้ความสัตย์สุจริตทุกสิ่งอัน

เห็นรับเป็นสัจจังพอฟังได้
จึงงดไว้ไม่ฆ่าให้อาสัญ
ข้าพเจ้าตรึกตราปรึกษากัน
ให้นายปานกับนายมั่นถือบอกมา

ให้ความทราบบาทบงสุ์พระทรงฤทธิ์
ถ้าพลั้งผิดได้โปรดเหนือเกศา
ยังยับยั้งฟังพระราชบัญชา
จะทรงพระกรุณาประการใด ฯ


ฝ่ายสมเด็จพระพันวษา พอทรงทราบความเช่นนั้น ก็ทรงดีพระทัยเป็นอันมาก มีพระราชโองการขึ้นไปทันทีว่า ให้ขุนแผนลำเลียงอพยพผู้คนลงมาจากเชียงใหม่ แต่เจ้าเชียงอินทร์นั้น ทรงโปรดให้ไว้ชีวิต เพียงแต่ให้กวาดต้อนสนมกำนัลในพระราชฐานมาให้สิ้นเท่านั้น

ส่วนพระราชธิดาสร้อยทองนั้น ให้จัดเรือกัญญาไปรับให้โอ่อ่าสมศักดิ์ศรี รวมทั้งขุนแผนผู้เป็นผู้นำทัพในครั้งนี้ด้วย

จงจัดเรือประเทียบให้เรียบร้อย
ขึ้นไปคอยรับนางให้ถึงท่า
เรือรับอ้ายขุนแผนแสนศักดา
ก็เอาเรือกัญญาไปสองลำ

ทั้งพ่อลูกความดีมีหนักหนา
ให้มันขี่เรือกัญญามาให้ขำ
ให้ลือเลื่องเฟื่องฟุ้งทุกคุ้งน้ำ
ว่าไปทำเชียงใหม่ได้บ้านเมือง ฯ


ขุนแผนพอได้รับพระราชโองการดังนั้น ก็ใช้พลายงามให้ไปบอกความกับพระเจ้าเชียงใหม่ในทันที

พระเจ้าเชียงใหม่ก็เสียดายอาลัยกรุงยิ่งนัก ดังที่พ่อแม่พี่น้องจะได้ทราบจากบทอาลัยเมือง ดังต่อไปนี้ขอรับ

ครั้นได้ฤกษ์ให้เลิกโยธาทัพ
คั่งคับพสุธาโกลาลั่น
พวกทหารขานโห่ขึ้นพร้อมกัน
ยิงปืนครื้นครั่นสนั่นไป

องค์พระเจ้าเชียงใหม่มเหสี
กับสนมนารีทั้งน้อยใหญ่
ขึ้นช้างพร้อมกันด้วยทันใด
สั่งให้ท้าวหนูอยู่เฝ้าวัง

ออกช้างทางประตูบูรพทิศ
เจ้าเชียงอินทร์ผินพิศมาเบื้องหลัง
แลเห็นปรางค์มาศราชวัง
พระเนตรหลั่งชลนัยน์อาลัยลา

โอ้เสียดายปราสาทราชฐาน
ได้อยู่มาช้านานแต่ปู่ย่า
คงย่อยยับเยือกเย็นเป็นป่าช้า
จะรกร้างโรยราลงทุกวัน

พระปรัศว์ทัดเทียมเทวสถาน
ปรางค์มาศดังวิมานเมืองสวรรค์
โอ้แต่นี้ลี้ลับไปฉับพลัน
สารพันจะผุพังเป็นรังแร้ง

แสนเสียดายมิ่งไม้ในสวนขวา
ทั้งสระแก้วประทุมาจะเหือดแห้ง
ท้องพระโรงก็จะร้างเป็นกลางแปลง
ที่นั่งโถงโรงแสงจะทรุดโทรม

นิจจาเอ๋ยเคยออกที่นั่งเย็น
จะรกเป็นแฝกพงดงผักโหม
เรือนสนมทุกตำหนักจะหักโทรม
ทั้งเสาโคมสี่คันจะอันตราย

โอ้เสียดายโรงรถคชสาร
ทั้งโรงพาชีชาญจะฉิบหาย
ป้อมกำแพงก็จะล้มถล่มทลาย
กระจัดกระจายทั่วสิ้นทั้งถิ่นเมือง

เสียดายเอ๋ยเคยเล่นสนามจันทร์
นับวันก็จะลุ่มเป็นคลองเหมือง
ที่ท่าวังจะเป็นหาดน้ำขาดเคือง
ดินหล้าฟ้าจะเหลืองทั้งเมืองลาว ฯ


นี้ก็ถึงทีทหารไทยจะได้แก้แค้นบ้างแล้วแหละขอรับ ความจริงแล้วพอเล่านิทานมาถึงตอนนี้ กระผมก็ให้สงสารเจ้าเมืองเชียงใหม่และไพร่ฟ้าประชากรอยู่บ้างเหมือนกันแหละขอรับ...แต่ก็จะทำอย่างไรได้...กรรมใดใครก่อ...

ครั้นยกออกนอกเวียงเมืองเชียงใหม่
พวกไทยกองทัพก็ขับต้อน
พวกลาวครัวกลัวราบบ้างหาบคอน
อุ้มลูกอ่อนจูงลูกแก่ออกแซ่ทาง

บ้างแก่เฒ่าง่อยเปลี้ยบ้างเสียขา
เอาเปลหามกันมาอยู่ยุ่งย่าง
ที่ลางพวกผู้ดีไม่มีช้าง
เอาวัวควายใส่ต่างบรรทุกไป

ตารักตามาทั้งตาสาย
ถือหวายต้อนมาไม่ปราศัย
ใครบิดเบือนเชือนลัดพลัดออกไป
เอาหวายไล่ลุกล้มวิ่งซมซาน

ตารักร้องว่าเอาอ้ายเฒ่าถี
อีพวกนี้ชาวตลาดมักจาดจ้าน
กูกับอ้ายหลอไปขอทาน
มันเอาคานไล่เฆี่ยนหลังเจียนพัง

กูจำหน้ามันไว้ได้สิ้นเสร็จ
คราวนี้จะแก้เผ็ดมันเสียมั่ง
กูจะเฆี่ยนให้ร้องก้องดงรัง
เอาเขากับหนังไปให้นายฯ


ดูความเปรียบท่านสิขอรับ ในการสงครามนั้น ผู้ชนะคือคนและผู้แพ้ก็คือ ควาย เราดี ๆ นี่เองแหละขอรับ

คราวนี้ลองมาดูความลำบากลำบนของพวกเชลยบ้างสิขอรับ นี่เป็นครั้งแรก ที่มิใช่ เสภา ซึ่งกระผมจะได้ยกมาจากฉบับหลวงให้ท่านได้อ่านกันในตอนหน้า ขอรับ.

##############################







Create Date : 15 มีนาคม 2551
Last Update : 16 มีนาคม 2551 11:05:17 น. 3 comments
Counter : 538 Pageviews.

 
ตอนหน้าก็อวสานแล้วนะคะ..

ใช่ปะ?

พรุ่งนี้ลงเกาะนะพี่.. ประมาณอาทิตย์หนึ่ง ถ้าได้ใช้เน็ตจะโผล่มาทักทาย แต่ถ้าไม่ .. ก็ว่ากันอีกที



โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:20:41:49 น.  

 


แวะมาอ่านงานครับผม

เขียนดีมากเลยครับ


โดย: ห่วงใย วันที่: 16 มีนาคม 2551 เวลา:6:43:22 น.  

 
คุณ ห่วงใย

ขอบพระคุณยิ่ง
ขอรับ.


โดย: พจนารถ๓๒๒ IP: 58.9.195.179 วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:19:56:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พจนารถ๓๒๒
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พจนารถ๓๒๒'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.