Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
พระสุรินทฦๅไชยฯ (ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง) ตอนที่ ๑๒ จำพราก

ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง

ตอนที่ ๑๒ จำพราก



    พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ จากเมื่อตอนที่แล้ว กระผมได้เล่าความถึงการแต่งงานของพลายแก้วกับแม่พิมพิลาไลย ก็เป็นอันว่าพระเอกของเราได้มีความสุขสมปรารถนา ทั้งทางพฤตินัยและนิติประเพณีแล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหาใด ๆ ในชีวิตอีก ถ้าไม่เพียงแต่ว่า เจ้าเชียงอินทร์ ผู้เป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ ซึ่งในสมัยของวรรณคดีเรื่องนี้นั้น มิได้เป็นข้าขัณฑสีมาของกรุงศรีอยุธยา เกิดโกรธเจ้าเมืองเชียงทอง ที่ส่งเครื่องบรรณาการไปขออยู่ใต้ร่มโพธิสมภาร ของ สมเด็จพระพันวษา แห่งกรุงศรีอยุธยาเข้า จึงสั่งให้ทหารจัดทัพไปตีเมืองเชียงทองมาไว้ในอาณาจักร ฉะนั้น ใบบอกจากเมือง เถิน ระแหง กำแพงเพชร จึงถูกส่งเข้ามายังกรุงศรีอยุธยาในทันใด

อสมเด็จพระพันวษา เจ้าชีวิตแห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อได้ข่าว ก็ทรงพระพิโรธยิ่งนัก เพราะการกระทำของเจ้าเชียงใหม่ในครั้งนี้ มันราวกับเป็นการเหยียบพระนาสิกโดยตรง จึงทรงปรารภว่า

    "จำจะยกพหลมนตรี ตีเอาเชียงทองนั้นคืนมา"

    แต่ครั้นพอตรัสหาผู้อาสาเป็นแม่ทัพก็กลับไม่มีผู้ใดกล้า จึงทรงหวลคะนึงถึง ขุนไกรพลพ่าย แต่ก็ได้ถึงแก่ความตายไปเสียหลายปีแล้ว พอหันไปทอดพระเนตรเห็นนายขุนช้าง ซึ่งเวลานั้นเป็นมหาดเล็กเฝ้าแหนอยู่ใกล้เบื้องพระยุคลบาท จึงทรงรำลึกได้ว่า นายขุนช้างนั้นเป็นเพื่อนกับครอบครัวของขุนไกรพลพ่าย สมเด็จพระพันวษาจึงได้ตรัสถามนายขุนช้างว่า รู้จักญาติของขุนไกร บ้างหรือไม่

    ครั้นนายขุนช้างผู้ผูกพยาบาทพลายแก้ว ในเรื่องแย่งคนรักไปแต่งงาน ได้ฟังพระราชดำรัสดังนั้น จึงได้โอกาสเพ็ดทูลเจ้าชีวิตไป ด้วยความคิดที่จะแก้แค้น ดังนี้ขอรับ

    ครานั้นขุนช้างมหาดเล็ก
    เฝ้าแหนมาแต่เด็กพิดทูลคล่อง
    คิดไปสมใจที่นึกปอง
    หมายจะครองเจ้าพิมพิลาไลย

    จะทูลส่อพลายแก้วให้ไปทัพ
    แล้วจะกลับไปเกี้ยวเจ้าพิมใหม่
    คิดแล้วทูลพลันทันใด
    ชีวิตอยู่ใต้พระบาทา

    อันบุตรขุนไกรที่วอดวาย
    ชื่อว่านายพลายแก้วแกล้วกล้า
    ได้เมียอยู่สุพรรณภารา
    แต่มารดาเพื่อนอยู่กาญจน์บุรี

    อันฤทธากล้าหาญชาญชัย
    เลี้ยงภูติพรายได้เป็นถ้วนถี่
    อายุประมาณสิบเจ็ดปี
    ขอจงทราบธุลีพระบาทา ฯ

    ฝ่ายสมเด็จพระพันวษา ท่านก็ไม่ทรงทราบความนัย แห่งเพลิงพยาบาทของนายขุนช้างที่มีต่อพลายแก้ว ถ้าเรียกภาษาชาวบ้านเราก็ว่า ไม่รู้อิโหน่อิเหน่นี่แหละขอรับ ก็จึงทรงโปรดให้นายขุนช้างนำพระตำรวจหลวง ไปเกณฑ์พลายแก้วมาจากบ้าน ที่จังหวัดสุพรรณบุรีในทันใด

    ครั้นพอเมื่อขบวนเกณฑ์ทัพ ซึ่งนำโดยนายขุนช้างตัวแสบ บุกเข้าไปแจ้งความยังบ้านของพลายแก้วแล้ว ทุก ๆ คนที่บ้านนั้นก็พากันข้อนอก ไหวหวั่นไปเสียทั้งนั้น แต่ก็ด้วยคนละเหตุผลกัน

    แม่ยายศรีประจันนั้นก็เป็นห่วงพลายแก้ว จะไปรบกับเขาอย่างไรกัน ถึงจะเป็นลูกของขุนไกรพลพ่ายทหารใหญ่ก็ตามทีเถิด แต่ศึกสงครามนั้นก็น่ากลัวนัก พูดง่ายๆ อีกทีหนึ่งก็คือกลัวว่าลูกสาวจะเป็นหม้ายเท่านั้นเอง

    ในขณะที่แม่พิมพิลาไลย ภรรยาสามวันของพ่อพลายแก้ว กลับนึกถึงการพลัดพรากจากสามีเป็นเรื่องใหญ่ โดยแทบจะมิได้คำนึงถึง การเสี่ยงอันตรายในการสงครามของสามีเลย แต่นั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่า แม่พิมนั้นรู้ฝีมือในเชิงวิชาอาถรรพณ์ของพลายแก้ว ด้วยเจอเข้ากับตัวเองมาแล้ว ก็อาจเป็นได้

    แต่กระผมผู้เล่านิทานนี้ กลับไปชอบใจความรับผิดชอบแบบ "ทหารเสือศรีอยุธยา" ของพลายแก้ว ที่ถอดแบบมาจากบิดา ดังคำพูดของพลายแก้วเอง ที่กล่าวไว้ ในฉบับหลวงดังนี้ .. ขอรับ

    เจ้าพลายเห็นเมียละเหี่ยไห้
    อาลัยเมียรักเป็นหนักหนา
    แข็งใจจำเป็นเจรจา
    จะเดือดด่าร้องไห้ไปไยมี

    อันซึ่งราชการงานทัพ
    สำหรับมาแต่ครั้งบิดาพี่
    ถ้าเรายกขึ้นไปคงได้ดี
    ตีได้เชียงทองสำเร็จการ ฯ

    เป็นอันว่าพลายแก้วเองนั้น ถึงจะอาลัยอาวรณ์ภรรยา อยู่มากมายก่ายกองก็ตาม แต่ ด้วยหน้าที่ชีวิตรับผิดชอบ คือคำตอบที่รบอยู่มิรู้สิ้น ราวกับเนื้อเพลงจากยอดดอยนั่นแหละขอรับ จึงทำให้พลายแก้วต้องตามเจ้าหน้าที่กรมพระตำรวจหลวง กลับไปกรุงศรีอยุธยา

    ครั้นถึง ท่านจางวางหกเหล่า เจ้ากรมเก่าของขุนไกรพลพ่าย ก็รีบพาพลายแก้วเข้าเฝ้าถวายตัว สมเด็จพระพันวษาก็ทรงถามว่า แน่ใจหรือที่จะอาสาไปทัพนี้ พลายแก้วก็สนองพระราชโองการนั้นว่า

    พลายแก้วรับสั่งบังคมทูล
    ขอเดชะนเรนทร์สูรโปรดเกศา
    ชีวิตอยู่ใต้พระบาทา
    ขออาสาพระองค์ผู้ทรงชัย

    ตีทัพเชียงอินทร์แลเชียงทอง
    ให้สมพระทัยปองให้จงได้
    ถ้าข้าพระพุทธเจ้ามิบรรลัย
    ก็มิได้ย่อท้อต่อณรงค์ ฯ

    แต่พอขอพระราชานุญาตกลับบ้านไปหาเมียก็ละเหี่ยละห้อย ไอ้ที่จะต้องไปรบนั้นก็ไม่กระไรหรอก เพราะเชื่อในฝีมือของตัวอยู่ แต่ที่จะต้องเป็นห่วงภรรยานี้สิ ความรู้สึกก็ค่อนข้างแย่ ข้างฝ่ายแม่พิมพิลาไลยก็ช่างกระไรเลย แทนที่จะให้กำลังใจสามี ก็กลับคร่ำครวญเสียมากมาย

    อย่างไรก็ตาม สำนวนกลอนในฉบับหลวงตรงนี้ เป็นความงามขนาดที่บูรพาจารย์ทางดนตรีไทย ท่านชอบใจถึงกับเอาไปบรรจุไว้ในเพลง ดังต่อไปนี้ขอรับ

    โอ้พ่อพลายสายสวาทของน้องเอ๋ย
    ไม่เคยเลยจะห่างเหสเน่หา
    มานอนหอด้วยน้องสองเวลา
    พ่อเคยพาพิมพูดพิไรวอน

    นั่นนี่ซี้ซิกสัพยอก
    ยั่วหยอกมิให้ใคร่ไปไกลหมอน
    แขนซ้ายเคยให้เมียหนุนนอน
    เห็นเมียร้อนพ่อก็พัดกระพือลม

    พูดพลอดกอดจูบมิใคร่นอน
    ช้อนคางเมียเชยแล้วเสยผม
    พอรุ่งรางสางสายไม่วายชม
    แสนภิรมย์รักน้องไม่นอนไกล

    ไม่พลิกกายบ่ายหน้าออกไปจาก
    จะออกปากว่าเหนื่อยนิดหามีไม่
    แนบนางข้างเดียวด้วยเจือใจ
    พ่อไปใครจะกอดให้พิมนอน

    จะกินข้าวนั่งเคล้าอยู่คอยท่า
    ให้พิมมานั่งกินด้วยกันก่อน
    ครั้นเมียไม่กินพร้อมพ่อยอมวอน
    ปั้นป้อนปลอบปลื้มประโลมใจ

    เห็นเขาเป็นผัวเมียกันมาหนัก
    จะรักเหมือนพ่อรักพิมหามีไม่
    พ่อมาต้องเด็ดรักหักไป
    ทำไมจะได้ของรักไปเชยชม ฯ

    แต่ก็ด้วยศักดิ์ศรีแห่งลูกทหารใหญ่กรุงศรีอยุธยา รวมทั้งศักดิ์ศรีแห่งวิชาการที่ได้ร่ำเรียนมา ทำให้พลายแก้วต้องตัดใจ ปลดแขนออกจากมือ และปลดใจออกจากน้ำตาของเมีย ไปรับพระราชการสงครามที่เชียงทองจนได้ โดยฝากเมียไว้กับแม่ยายศรีประจัน ดังนี้ขอรับกระผม

    ลูกเป็นห่วงด้วยเจ้าพิมพิลาไลย
    เมื่อไรจะเสร็จสงครามกลับ
    เนื้อแท้วาสนาลูกอาภัพ
    นับได้สามวันมาอยู่เรือน

    พรุ่งนี้ เช้าตรู่จะจู่จาก
    ได้ยากระทมทุกข์ไปในเถื่อน
    อย่านับวันมั่นแล้วจะนับเดือน
    ใครจะเพื่อนเจ้าพิมพิลาไลย

    คิดคิดแล้วแค้นขุนช้างนัก
    มันรักเจ้าพิมมาแต่ไหนไหน
    มันหมายจะเชยชมให้สมใจ
    จึงแคะไค้ค่อนทูลพระทรงธรรม์

    ด้วยหมายว่าไปแล้วก็คงตาย
    แยบคายลิ้นลมมันคมสัน
    คอยจะชิงเอาเจ้าพิมนิ่มนวลจันทร์
    แม่นมั่นลูกคิดไม่ผิดใจ

     ฯลฯ

    อันตัวเจ้าพิมพิลาไลย
    ดังดวงใจของลูกอย่าลืมหลง
    รักษาป้องกันให้มั่นคง
    กว่าจะได้กลับลงมาพารา ฯ

    น้อยหรือความอาภัพของพลายแก้ว พอแต่งงานได้แล้วเพียงสามวันท่านก็มีหมายเกณฑ์ให้ไปรบเสียแล้ว แต่เรื่องทั้งหมดนี้ก็เริ่มต้นจากการเพ็ดทูลของขุนช้าง ผู้มีความริษยา โดยอาศัยเจ้าเหนือหัวเป็นเครื่องมือ ในการบ่อนทำลายเพื่อนน้ำมิตรนั้นเอง

    และสังหรณ์ของพลายแก้ว ที่อุตส่าห์สั่งเสียฝากเมียไว้กับแม่ยายนั้นก็กลับเป็นความจริงขึ้นมาเสียด้วย !

    พบกันคราวหน้าตามเคย ขอรับกระผม.


##############################

...
...






Create Date : 14 ธันวาคม 2550
Last Update : 14 ธันวาคม 2550 10:30:58 น. 0 comments
Counter : 1057 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พจนารถ๓๒๒
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พจนารถ๓๒๒'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.