สหายไม่จำเป็นว่าเป็นคนดีแค่ไหนหรือไม่ดีเพียงไร ขอแค่เป็นสหายที่นับเป็นสหายต่อกันก็ย่อมเกื้อกูลกันไม่มากก็น้อย
Group Blog
 
All Blogs
 
เริ่มต้นลดความอ้วนขั้นที่1

เอาล่ะครับหวังว่าทุกท่านคงจะได้อ่านในบทก่อนหน้ากันมาแล้ว
และคงจะทำความเข้าใจกับสิ่งสำคัญต่างๆกันมาพอสมควร
คราวนี้ถ้าคุณพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลย


โปรแกรมขั้นแรกนี้ผมออกแบบมาเพื่อให้เกิดผลอำนวยเอื้อต่อกันให้ก้าวสู่แต่ละขั้นอย่างมีพลัง
ในโปรแกรมนี้จะพยายามฝึกให้เริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุดเพื่อการปรับสภาพที่ดีที่สุดนะครับ


เริ่มแรกนี้เรามาว่ากันถึงเรื่องการกินครับ


จุดแรกที่เราจะต้องทำนั่นก็คือขอให้คุณ จงสังเกตุพฤติกรรมการกินของตัวเอง
ว่าโดยปรกติแล้วตัวเองนั้นเดิมที่กินในรูปแบบใด


พยายามจดจำมันให้ได้ เพราะนั่นคือการกินที่เป็นสาเหตุให้คุณอ้วนอยู่อย่างที่เป็นมา


ขอให้ทำความเข้าใจกับสิ่งนี้ให้ดีนะครับ


ผมจะแบ่งการกินเอาไว้เป็น4ระดับ


เริ่มจากระดับที่4
ระดับที่4คือระดับที่คุณกินอยู่เป็นประจำและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
ขอให้ใช้ตัวเองเป็นที่ตั้งอย่าเอาไปเทียบกับคนอื่นเพราะคนเรานั้นอัตตราเผาผลาญต่างกันและกิจกรรมต่างกัน มวลร่างกายต่างกัน
ซึ่งระดับที่4 คือระดับที่คุณจะจำให้ขึ้นใจว่ากินแบบนี้ล่ะน้ำหนักตัวฉันขึ้น
จงจดจำลักษณะของอาหารและปริมาณให้ได้และแทนค่ามันในใจให้ขึ้นใจว่ามันคือระดับที่4


ต่อมาคือระดับที่3
นั่นคือระดับที่กินเข้าไปแล้วน้ำหนักอยู่ตัวไม่ลดมากไม่เพิ่มมาก
ซึ่งคุณจะรู้จักมันได้ก็ต่อเมื่อเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และรอดูผลครับ
ซึ่งในขั้นแรกอาจต้องอาศัยจากการคาดคะเน หรือการทดลองลดสัดส่วนลงนิดหน่อย


ระดับที่2
คือระดับที่กินเข้าไปแล้วไขมันในตัวลดลง ให้ผลดีขึ้น ลดน้ำหนักเริ่มได้ร่างกายอาจน้ำหนักไม่ลดลงแต่ดูดีขึ้นสมส่วนขึ้น


ระดับที่1
คือระดับที่ค่อนข้างแน่ใจมากว่ากินแล้วหุ่นดีขึ้นมาก หรือน้ำหนักลดลงเห็นผล
จัดว่าให้คะแนนเต็มกับวินัยของตัวเอง


ซึ่งในบทต่อๆไปผมจะเจาะลึกให้ฟังถึงเรื่องคุณภาพของอาหาร
และจะพยายามหลีกเลี่ยงศัพท์ทางวิทยาศาสตร์โภชนาการ ให้มากที่สุด เพื่อความเข้าใจง่ายๆแบบบ้านๆ


แต่ตอนนี้ผมจะลองจัดภาพอย่างง่ายๆให้ฟังก่อนนะครับ
สมมุติว่าปรกติในมื้อนึงคุณกินข้าวขาหมู2จาน โค้ก1ขวด
นั่นคือระดับที่4
แต่ถ้าคุณกินข้าวขาหมูแยกหนังออกไป ตักข้าวออกนิดนึง และกินน้ำเปล่าแทนโค้ก
นั่นคือระดับที่3
แต่ถ้าคุณกินข้าวแบบแบ่งข้าวเพิ่มออกไปอีกนิดหน่อย ลดน้ำราดลง แยกหนังออกจากขาหมูและสั่งที่เป็นเนื้อล้วนๆ
และไม่กินโค้ก
นี่คือระดับที่2


แต่ถ้าเปลี่ยนจากข้าวขาหมูเป็นข้าวลดปริมาณลงครึ่งนึง เติมผักเข้าไป และกินอาหารประเภท
เนื้อสัตว์ต้มหรือย่างไม่ติดมัน ไม่ทอดไม่ผัด
แบบนี้เรียกว่าระดับที่1


หลักการนี้ค่อนข้างระบุตายตัวได้ยาก
แต่เอาง่ายๆเป็นว่า ปรกติคุณเคยกินอาหารแบบไหน ลองปรับปรุงปริมาณและคุณภาพดู
ให้ได้4ระดับ ไว้ให้คะแนนตัวเอง
ถ้ากินไปนานๆแล้วรุ้สึกว่าลดลงแบบนี้มันไม่ใช่ระดับนี้ก็จัดใหม่ตามประสบการณ์ในภายหลังได้ครับ
ใช้หลักดูด้วยสายตานี่ล่ะครับชีวิตสะดวกสบายดีมากแล้วไม่จำเป็นต้องไปใช้ตราชั่งหรือดัชนีชี้วัดเชิงลึกใดๆ


ผมขอให้คุณทดสอบฝึกวินัยตัวเองสัก2สัปดาห์
ใช้สมุดจด ที่ผมได้บอกไปเมื่อบทที่แล้วให้เป็นประโยชน์
จดไปว่าตัวเองกินอะไรเวลาไหน แล้วให้คะแนนตัวเองลงไปว่ากินที่ระดับใด
สิ่งนี้มันจะช่วยให้คุณเริ่มมีแบบแผนและเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง
รวมทั้งมีข้อมูลไว้ใช้ประโยชน์ในอีกหลายลักษณะซึ่งผมจะว่ากันในบทหน้า
แต่ขอให้บันทึกไปก่อนนะครับ


ถ้าสัปดาห์แรกของคุณทำได้ดีเช่นจากที่ตัวเองเคยกิน3มื้อ ที่ระดับ 4 
ทั้ง3มื้อ แต่หากคุณทำมื้อเย็นได้ที่ระดับ 3 หรือระดับ2
นั่นมันจะหมายถึงว่าคุณเริ่มใช้ได้แล้วเริ่มเรียนรุ้ที่จะรักวินัยแล้ว


และอีกอย่างนึงที่คุณควรจะต้องทำนั่นก็คือ
หยิบนาฬิกาที่ผมบอกให้เตรียมไว้จากบทที่แล้วออกมา
ขอให้คุณยึดถือวินัยไว้1อย่างคือ
หลังทานอาหารภายใน2ชั่วโมง  ขอให้คุณควรมีการเดินเกิดขึ้น 7ถึง10นาที
เชื่อหรือไม่ว่าวิถีชีวิตผู้คนทุกวันนี้เคลื่อนไหวร่างกายน้อยมากครับ
บางคนนั่งอยุ่แต่กลับรถ นั่งที่ทำงาน นั่งเล่นเกม นั่งดูหนัง
นอนดูทีวี จะเดินแต่ละทีก็นานๆทีเดินห้างบ้าง เดินไปที่นัดหมายบ้าง
เดินแบบเอื่อยๆย้ายก้นไปมาแบบสะเปะสะปะ
บางทีถ้าคุณคิดไตร่ตรองให้ดีๆจะตกใจมากว่า ชีวิตแทบไม่ค่อยได้เดินเลย!
คุณรู้ไหมว่าแครอลี่ของอาหารที่คนในสังคมทั่วไปกินกันนั้น
นักกีฬา หรือแม้แต่สัตว์ป่านั้นที่ต้องใช้กำลังกันมากในแต่ละวันนั้น
 สามารถเอาไปใช้กันได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
แต่ในขณะที่คุณกำลังกินจุและขี้เกียจแบบนี้ มันจะไปเหลืออะไรล่ะครับ


ดังนั้นขอให้เดิน7ถึง10นาทีหลังทานอาหารไปแล้วภายใน2ชั่วโมง จะเดินหลังจากทานอาหารผ่านไปแล้ว15นาทีก็ได้
แต่ขอให้ทำทุกมื้อ  ซึ่งผมขอให้คุณจงให้ความสำคัญในขั้นแรกเริ่มนี้ด้วยการ มองหาทำเลเดินดีๆที่สะดวกจะเดินไว้ก่อนเลย จะเป็นพื้นที่เพียงแค่ 15เมตรก็เดินไป เช่นเดินกลับไปกลับมาในห้อง หรือรั้วบ้าน
หรือทางเดินที่ทำงาน
และเมื่อเดินแล้วให้บันทึกลงไปด้วยว่าเดินได้กี่นาที
รวมทั้งไม่เว้นแม้แต่การเดินที่ไม่ได้อยุ่ในโปรแกรม เช่นเดินห้าง หรือเดินไปธุระ
ก็ให้บันทึกไว้ด้วย เรียกได้ว่าเมื่อคุณต้องเดิน ก็ให้กดนาฬิกาจับเวลาเอาไว้เลย
สะสมจำนวลเส้นทางแบบพวกสะสมเส้นทางบิน แบบนั้นเลยครับ
หรือแม้กระทั่งถ้าคุณต้องทำกิจกรรมไม่ว่าจะจัดของ ล้างจานหรือทำงานบ้าน ก็ให้บันทึกเอาไว้ด้วย
และเมื่อคุณนำบันทึกมาดูรวมทั้งเวลารวมที่เดินได้ในแต่ละวันมาดู คุณจะรู้สึกดีเลยทีเดียว


ถ้าจะให้ดีถ้าทำได้คุณควรเซทระดับไว้ในใจ ว่าวันนึงฉันออกแรงเท่านี้ ฉันจะให้คะแนนตัวเองระดับนี้
เช่น1คะแนน2คะแนน3คะแนนก็ว่ากันไป
แต่ต้องจำให้ได้ว่าแบบไหนมันกี่คะแนนของฉันที่ฉันกำหนดไว้และรุ้สึกได้ก็พอ
มันจะทำให้ระบบของคุณมีแบบแผนขึ้น และรู้ว่าควรเพิ่มควรลดอะไรในแต่ละวัน


เริ่มแรกของโปรแกรมนี้เป็นเรื่องที่ง่ายและหมูมากๆ
คุณอย่าพึ่งไปวิ่งรอบสวนสาธารณะอย่าพึ่งทำเต็มระบบฟิสเนท คุณอย่าพึ่งลดอาหารอะไรมากมาย
อย่าพึ่งไปเข้าโปรแกรมสูตรอาหารต่างๆ
ผมให้โอกาสคุณในขั้นแรกเริ่มนี้ด้วยการกินอะไรง่ายๆอย่างที่เคยกินไปก่อน
ปรับนั่นนิดนี่หน่อยก็พอ
จงค่อยๆทำจากง่ายไปหายาก ทำทีละอย่างทีละขั้นอย่าพึ่งกดดันรุมเร้าตัวเองมากไป
เพราะนี่คือการพิสุจน์ตัวเองว่า ง่ายๆแค่นี้คุณจะทำได้หรือไม่
ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ ก็อย่าพึ่งไปหวังว่าตัวเองจะผ่านการฝึกในโปรแกรมที่เข้มกว่านี้ได้ครับ
แต่ถ้าคุณยอมใจเย็นอย่าพึ่งไปหักโหมลัดขั้นตอน
แล้วคุณสามารถสำเร็จในขั้นต้นนี้มันจะเป็นผลดีมากเลยทีเดียวเพราะนั่นหมายถึงว่าร่างกายของคุณได้
ปรับสภาพและสร้างความเตรียมพร้อมในขั้นหนึ่งแล้ว



สิ่งสำคัญของบทนี้คือ ผมขอร้องคุณว่าอย่าหักโหมเด็ดขาดและอย่าอดอาหารในมื้อใดๆเด็ดขาด เพราะขั้นตอนนี้มันคือการปรับสภาพที่สำคัญ
คุณไม่ควรจะขาดสารอาหารเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในโปรแกรมข้างหน้าจะมีเรื่องของการออกกำลังกายและการกินที่ปรับเปลี่ยนไปมากกว่านี้มาเกี่ยวข้อง
อย่าให้ร่างกายของเราต้องเจอกับภาวะกระทันหัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอดอาหารเป็นสิ่งที่ห้ามทำอย่างเด็ดขาดมีเหตุผลมากมายที่ไม่ควรทำและผมจะกล่าวถึงในบทต่อๆไป แต่ในช่วงนี้จงทำสิ่งเหล่านี้ให้ได้ติดต่อกัน 2สัปดาห์ ขอให้คุณตั้งใจทำในกรอบขั้นต้นเหล่านี้ให้ดีที่สุดเพื่อผลระยะยาว สู้เขานะครับผมเป็นกำลังใจให้
แล้วเราจะมาว่ากันในขั้นที่เข้มขึ้นไปกว่านี้ในบทหน้าครับ



 







Free TextEditor


Create Date : 22 ตุลาคม 2552
Last Update : 22 ตุลาคม 2552 22:25:34 น. 1 comments
Counter : 424 Pageviews.

 
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องค่อยๆปรับ ค่อยๆเปลี่ยน แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจ และปฏิบัติตาม...


โดย: ยายหนูAK วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:8:45:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตึ๋งนิวเครียร์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ตึ๋งนิวเครียร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.