• หน้าแรก
• แนะนำหนัง
• อาวุธ
• โลกกีฬา
• ฟิสเนท+เพาะกาย+ฝึกฝนร่างกาย
• มุมมองดำเนินชีวิต
• สภาพสังคม
• my life
• ความรัก
• คำรำพันของผม
• โลกดนตรี

ชวนดู The Expendables Free TextEditor ขออนุญาตินำกระทู้ที่ผมเคยตั้งไว้เก็บเข้า เวปบล๊อคครับ .......................... ด้วยความตื้นตันใจสุดซึ้งจริงๆ เหมือนกับว่าฟ้าได้มอบของขวัญล้ำค่าให้ผม ผมขอตอบแทนหนังเรื่องนี้ด้วยการเขียนเชียร์สุดกำลัง ที่ว่าตื้นตันใจก็เพราะ ทีแรกนั้นผมไม่ได้ติดตามเลยว่าจะมีหนังเรื่องนี้มาฉาย และในก่อนหน้าที่จะได้พบหนังเรื่องนี้1วัน ผมได้ไปพบและตกหลุมรักมีดเล่มนึงเป็นมีดที่สวยมาก ซึ่งอยู่ในร้านมีดเดียวกันกับที่ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ได้เคยมาสั่งตีมีดไว้ที่นี่ โดยที่ในการตีมีดนั้นซิลเวสเตอร์ถึงกับยอมเนื้อตัวมอมแมม คอยง่วนกับการตีมีดเลยทีเดียว ซึ่งครั้งนั้นอยู่ในช่วงที่เข้ามาถ่ายทำเรื่องแรมโบ้ในเมืองไทย ถ่ายทำเรื่องนี้นานพอสมควร ผมเองได้มีโอกาสพบเห็นซิลเวสเตอร์บ่อยมาก ผมได้เห็นเขาทั้งจากที่ถนนที่ถ่ายทำ และจากฟิสเนท ที่เขาเข้ามาใช้บริการ แต่ในครั้งนั้น มันน่าแค้นใจตรงที่ผมมัวแต่อยู่ในช่วงปัญหาชีวิต ไม่สนโลก ไม่มีโอกาสที่จะสนใจใยดี หาทางทักหาทางคุยหรือขอลายเซนต์ใดๆ วันเวลาผ่านไป ผมไปตกหลุมรักมีดในร้านเดียวกันกับเขา ระหว่างที่ซื้อมีดมาแล้วเอามีดมาลูบมาคลำที่บ้าน พอนึกขึ้นได้ว่า ซื้อมีดร้านเดียวกัน ใจก็เลยนึกไปถึง สไล ซิลเวสเตอร์ ผมคิดว่าสำหรับ ผู้ชายคนนี้ ผมผูกพัณธ์กับผลงานของเขามาตั้งแต่ผมยังเด็กเห็นผลงานเขามามากมาย โดยเฉพาะ หนังเรื่องร๊อคกี้ ที่ชอบมากที่สุด ร๊อคกี้เป็นอะไรที่มหากาฟมาก แม้จะเป็นหนังที่มีบทพูดเยอะ แต่ก็เข้าถึงจิตวิญญาณวงการมวยจริงๆ มากกว่าหนังที่มีเพียงขายฉากต่อยทั่วๆไป คนดูทั่วไปอาจไม่เห็นอรรถรสนึงที่หนังเรื่องนี้ มีไว้ให้ แต่สำหรับคนในวงการมวยด้วยกันจะมองเห็นและจับใจกับมัน และยิ่งได้ติดตาม มาแต่ภาคแรก มาจนภาคท้ายสุด ในฉากที่เห็น พ่อหม้ายเมียตาย ต้องอยู่อย่างเหงาๆ ซิลเวสเตอร์ถ่ายทอดอารมณ์นั้นได้กินใจสมจริงมาก มันทำให้คนที่เคยติดตามภาคเก่าๆ ผ่านเวลามานับสิบกว่าปี รู้สึกสะท้อนใจ ไปกับพระเอก ในยามบทที่พระเอกนั่งนึกถึงอดีต ผู้ชมที่เติบโตมาด้วยกันก็จะรู้สึกไปด้วยกันว่า อดีตนั้นช่างยาวนานและมีอะไรมากมายจริงๆ ตั้งแต่ภาคแรกที่ ร๊อคกี้เป็นหนุ่มห้าว ไปจนถึงภาคสุดท้าย ที่เป็นคนวุฒิภาวะสูง และที่ผมทึ่งเขาอย่างมากในตัวดาราคนนี้ คือ เขาเป็นผู้ชายอายุ60กว่า ที่มีรูปร่างยอดเยี่ยมสุดๆ ผมเชื่อว่ามีคนหนุ่มแน่นหลายล้านคนในโลกที่ไม่กล้า ที่จะสู้กับเขาตัวต่อตัว ไม่กล้าที่จะสู้กับคนชราวัยหกสิบกว่าเช่นเขา เป็นเปอร์เซนต์อันน้อยนิดที่จะมีคนที่อายุ60กว่าทำได้ถึงขนาดนี้ สม บรูณ์ความแกร่งได้ถึงขนาดนั้น ถ้าผมอายุขนาดนั้นแล้วสมบรูณ์ในสภาพนั้นได้ มันก็ช่างนับเป็นบุญสุดใฝ่ฝันของผู้ชายเกือบทั้งโลกแล้วจริงๆ ผมจำได้ว่าคืนที่ลูบไล้มีดสั้นเล่มโปรดใจก็คิดว่า ถ้าได้มีหนังที่จับ สตอลโลน อาโนลด์ บรู๊ซวิลลิช มาเล่นร่วมกัน ได้เห็น คนเหล็ก แรมโบ้ ไดฮาดร์ มาลุยร่วมกันคงจะมันส์สุดยอดแน่ๆ โอ้วส์มันคงเป็นได้แค่ฝันไป ผมคิดแบบนั้นจริงๆในคืนนั้น และก็เชื่อว่าคนอื่นๆก็คงเคยฝันทำนองนี้เช่นกัน วันถัดมาผมเข้าไปจ่ายค่าโทรศัพท์ที่ห้าง ต้องสะดุดยืนตะลึงเมื่อเห็นป้ายโฆษณาหนังเรื่องนี้ ป้ายๆนี้มันตั้งอยู่ตรงบันไดเลื่อน อยู่ใกล้ๆกับป้ายหนังไทยหนังรัก และใกล้ๆกับป้ายหนังเกาหลี ป้ายหนังเรื่องนี้ ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากวัยรุ่นเท่าไหร่ แต่ป้ายนี้มันมีค่ามหาศาล มีค่าสุดยอดยิ่งกว่าป้ายหนังแอ๊คชั่นทั่วไป มันคือป้าย ดัก จิตใจมนุษย์เผ่าพัณธ์นึง ที่มนุษย์เผ่าพัณธ์นั้น จะรับรู้พลังนี้ได้ อย่างสะกดใจ ผมเองก็เป็นหนึ่งในเผ่านั้น สำหรับคนที่อยู่ในโลกแบบอย่างผม และผมก็เชื่อว่าสำหรับคนหลายคนที่มีโลกบางประการ คล้ายกันหรือพอไปกันได้กับโลกแบบของผม ผมเชื่อว่าเขาเหล่านั้นต้องรุ้สึกแบบเดียวกัน คือยืนอึ้ง ! อึ้งกับรายชื่อนักแสดง ผมยืนตื้นตันจริงๆ ไม่คิดไม่ฝัน ความรุ้สึกเหมือนสวรรค์เสก เสกให้ทันทีทั้งที่เมื่อวานยังนอนฝันอยู่หยกๆ ผมต้องกลายเป็นคนทำตัวบ้าบอ ยืนตาค้าง ก้มๆเงยๆจดจ้อง วุ่นวายกับป้ายนั่น อย่างไม่อายใครที่เดินผ่านไปมา อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้เหมือนถูกหวยรางวัลที่1 และเหมือนกับถูกแจ๊คพอทเข้าไปอีก เพราะดันมีดาราขวัญใจผมมาร่วมเพียบอีกหลายคน โดยเฉพาะ เจ๊ทลี และ มิคกี้รูค สำหรับมิคกี้รูคนี่สุดพิเศษหน่อย เพราะช่างเป็นคนแก่ที่ เคี้ยวไม้จิ้มไฟได้เท่ห์สุดๆในโลก เป็นมนุษย์ที่อมไม้จิ้มไฟได้เท่ ที่สุดแล้วจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆเหมือนฝันไป ใจคิดว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรหรือป่าว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคย มีหนังเรื่องไหนที่พวกนี้จะมารวมกันได้ และไม่เคยคิดเลยว่า พวกนี้จะมารวมกันได้ แถมรวมเป็นกระจุกซะขนาดนี้ นี่ผมต้องเกิดอีกกี่ชาติถึงจะได้มีโอกาสเห็นปรากฏการณ์แบบนี้อีก อยากจะตะโกนดังๆให้สะใจ ผมก็รีบขึ้นไปชั้นโรงหนัง ซื้อตั๋วหนังทันที หลังจากที่ดูแล้ว บอกได้เลยว่า ถ้าคุณคิดจะหา ความเข้มของเนื้อเรื่อง ความระทึกหักมุม เขียนบทแน่น ตามหลักการที่นักดูหนัง หลายคนได้ชอบกำหนดเอาไว้ นั้น คงหาอะไรแบบนั้นไม่ได้มากในหนังเรื่องนี้ ถ้าคุณเป็นคนชอบดูหนังแนวเนื้อเรื่องแนวบท หนังเรื่องนี้คงไม่ถูกใจคุณสักเท่าไหร่ ถ้าคุณเป็นคอหนังแอ๊คชั่นรุ่นใหม่ อายุน้อยคงจะมองหนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ๊คชั่นทั่วๆไป บทเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากเลย เป็นเพียงทหารรับจ้างที่มาปฏิบัติภาระกิจ สู้กันไปมาเท่านั้น ดูผิวเผินแล้วก็แค่หนังเอามันส์ แต่คำว่าเอามันส์นี่มีใครบ้างที่จะทำให้มันส์ได้สะใจ หนังเรื่องนี้ อาจไม่ต้องลุ้นไม่ต้องหักมุขหักมุมมากนัก เพราะสำหรับเรื่องนี้นั้นพวกพระเอกเก่งกันเหลือเกินอยู่ยงคงกระพันกันทุกตัว แฮปปี้เอนด์ดิ้ง แต่ผมเองก็ชอบนะแบบนี้ เพราะผมเบื่อหนังแอ๊คชั่นมุขเดิมๆเต็มทนแล้วเหมือนกัน ประเภทที่ว่า นางเอกตาย พระเอกตาย เพื่อนพระเอกตาย ผู้ร่วมทีมตาย พระเอกโกรธแค้นลุยแหลก หรือมุขที่ประเภทไปจัดการภาระกิจที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน หาตัวบงการ มีทรยศบ่อนไส้หักหลัง วางยา มุขอะไรแบบนี้มันชักจะเลี่ยนมากแล้ว ต้องเขียนบทให้ มีรันทด ถูกจับทรมาน หรือสู้ไม่ได้ต้องไปฝึกวิชามาใหม่ อะไรเทือกนี้ ผมเดาทางได้หมด ถึงมันจะทำให้หนังดูเข้มข้น แต่พูดตามจริงคือหนังสารพัดเรื่องเริ่มใช้มุขเหล่านี้เป็นสูตรสำเร็จไปกันหมดแล้ว ในเมื่อมันเกร่อก็อย่าไปใช้มันเลยดีกว่า เอากันแบบตื้นๆซัดกันแบบตรงๆบ้างสักเรื่องเหอะ ผมเคยคิดแบบนี้มาตั้งนานแล้ว นานๆทีได้มาดูหนังไม่ต้องเดาทาง เพราะมันเก่งกันแต่แรกเริ่มจนจบ เรียกได้ว่าเก่งทุกคนจนผู้ร้ายคิดหนักไม่รู้จะเลือกสู้กับใคร แต่ละคน โชว์เท่กันสุดๆ ถ้า จะมีบทแบบพวก หนังเรื่องอื่นๆประเภทที่ พวกผู้ร่วมทีมทำตัวเป็นภาระของพระเอก หรือแม้แต่ตัวประกอบในทีมพระเอกจะโดนตัวโกงกำจัดได้ง่ายๆ แบบมุข ดราก้อนบอล ที่ชอบเอาพวกพระเอกมาให้ตัวโกงเคี้ยว เพื่อข่มขวัญคนดู ว่าขนาดเพื่อนพระเอกที่ว่าเก่งๆยังจอด มุขอะไรแบบนี้ อย่าหวังสำหรับในเรื่องนี้มันไม่มีหรอก เพราะว่าพวกพระเอกมันเก่งทุกคน ผมว่าทำหนังออกมาแบบนี้ก็ เก๋าดีเหมือนกัน และมักจะมีคำแนะนำทั่วๆไปสำหรับคนที่จะดูหนังเรื่องนี้นั่นก็คือ อย่าคาดหวังอย่างอื่นมากนักนอกจากดูเอามันส์อย่างเดียวสำหรับเรื่องนี้ เพราะหนังเรื่องนี้เน้นแอ๊คชั่นกันสุดๆ คือมีความพยายามที่จะบอกว่า หนังเรื่องนี้ขายความมันส์เท่านั้นอย่างอื่นไม่มี แต่ผมขอยืนยันว่าไม่ใช่ ผมเชื่อว่าคนทำหนังเรื่องนี้เขารู้ดีว่าจุดขายของเขาอยู่ที่ไหน นอกจากหนังจะมีจุดขาย ให้คนหนังแอ๊คชั่นทั่วไปแล้ว หนังยังมีจุดขายพิเศษที่ทำให้ คนดังต่อไปนี้ต้องหาทางดูหนังเรื่องนี้อีกด้วย 1 จุดขายให้คน คลั่งดารากลุ่มนี้ ถ้าคุณคลุกคลีกับดาราเหล่านี้ มาท่ามกลางในชีวิตของคุณ ถ้าคุณมีความชื่นชม ชอบในดาราเหล่านี้เป็นพิเศษกันมานานแสนนาน คุณจะมีความรู้สึกพิเศษ รู้สึกอินกับฉากต่างๆในเรื่องนี้ มากกว่าคนทั่วๆไป อย่างเช่น แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีการแหกตาผม คือทำให้ผมเข้าใจผิดคิดว่าบรู๊ซวิลลิสกับอาโนลด์จะแสดงทั้งเรื่อง คิดว่า มิคกี้รูค จะออก รบ แต่แท้จริง ไม่ใช่ก็ตาม แม้ว่าหนังเรื่องนี้ต้องทำการกระจายบทให้แต่ละคน จนอาจทำให้ฮีโร่ของบางคนไม่เด่นได้สะใจ แต่ไม่เป็นไร แค่นี้ก็มากพอแล้วสำหรับผม ผมเพียงแค่ได้เห็นคนเหล่านี้ มายืนร่วมกัน ประชันฟอมร์ใส่กัน วางบุคลิคใส่กันสุดๆ ในบทสั้นๆ ผมเองก็สุดจะอิ่มเอมใจ และที่สำคัญ คิดอีกด้านนึง หนังที่เอาคนดังสุดยอดมาเป็นตัวประกอบให้ เพ่นพ่าน มันคือของแจ๋วมิใช่หรือ คนที่คลั่งไคล้ดาราเหล่านี้ ย่อมมีความรู้สึกวูบวาบเป็นพิเศษ เหมือนกับอะไรที่รอคอยมานาน เหมือนได้เห็นแมนยูมายืนประจัญกับลิเวอร์พูล เหมือนได้เห็นแชมป์มวยWBAมายืนประจัญกับWBCเหมือนได้เห็นบรรยากาศของคำว่าสุดท้ายก็ต้องดวล คุณจะได้เห็นการวางมาด ดวลกันสุดๆแบบต่างคนต่างไม่ยอม ผม เคยคิดมานานแล้ว ว่ามาดของดาราคนนึง เวลามาอยู่ท่ามกลางมาด ของดาราอีกคนนึงจะเป็นยังไง จะมีใครที่จะออกอาการประหม่าหรือด้อยกว่าหรือไม่ ผมคิดว่า หนังเรื่องนี้ น่าจะทำให้คอหนังหลายๆคนหรือไม่ว่าจะเป็นคนดูหนังทั่วๆไปในเมืองไทย หรือแม้แต่แฟนดาราไทย ดาราเกาหลี หรือคนที่ไม่คุ้นเคยกับดาราพวกนี้ คงจะ งง กันเหมือนกันว่ามีไรดีนะหนังเรื่องนี้ แต่เชื่อเถอะ ว่ามันขึ้นอันดับ1 เมกาได้แน่ และมันก็ขึ้นแล้ว ด้วยผลจากการรวมดาราที่คลั่งไคล้ 2 จุดขายให้คนชอบมีด จุดขายต่อมาสำหรับเรื่องนี้ ผมบอกได้เลยว่า เมื่อหนังเรื่องนี้ลาโรงไป หนังเรื่องนี้จะเป็นอีกเรื่องนึงที่กล่าวขวัญกันมาก สำหรับคนในวงการมีด เพราะหนังเรื่องนี้ เฮีย สตอลโลนแกบ้ามีดเป็นพิเศษอยู่แล้ว เราจึงได้เห็นฉากเกี่ยวกับมีดกันมากมายสะใจ และได้เห็นมีดรุ่นสวยๆกันมากมายหลายด้าม หนังเรื่องนี้ จะถูกนำไปเก็บเข้าทำเนียบเดียวกับ หนังเรื่อง เดอะฮันเตอร์หนังที่คนเล่นมีดหรือคนที่พึ่งจะหัดเล่นมีด ต้องหามาดู อย่างแน่นอน ซึ่งนี่ก็เป็นการรู้สึกเหมือนถูกหวยเบิ้ล3ชั้นของผมที่ได้ดูหนังที่บ้ามีดได้สะใจเข้าไปอีก 3 งานนี้พวกแฟนกีฬาพัณธ์เอ๊กส์ สายฮาดร์คอร์ ต้องชอบที่จะดูหนังเรื่องนี้ เพราะเหมือนผู้กำกับจะรู้ทัน ต่อมกิเลศ ของคนวงการนี้ หนังเรื่องนี้มี แรนดี้ คาทัวร์ ตำนานสุดยอดมวยแบบMMA ขวัญใจวงการ ก็ ร่วมอยู่ในทีมนี้ด้วย มันมีบางฉาก ที่กล้องทำการซูมภาพแรนดี้คาทัวร์ได้เท่ห์สุดๆ ซึ่งหากคนที่ไม่รู้จักเขาก็อาจจะงง ว่าทำไมหลายครั้ง ถึงไปเน้นภาพที่ตาคนนี้ ซะเท่ขนาดนั้น แต่คุณไม่รู้หรอกว่า ฉากนั้นล่ะที่จะมีคนในวงการหมัดมวย กำลังกำหมัด ทำหน้าสะใจ ร้องว่าสุโค่ยเท่มากฮีโร่ข้า และนอกจากนั้นยังมี สุดยอดดารามหาชน ของวงการมวยปล้ำ อย่าง สโตนโคลด์ สตีฟ ออสติน แสดงเป็นฝ่ายร้ายอีกต่างหาก สองวงการ ที่ผู้คนอยากให้อัดกันในโลกจริง ผู้กำกับจึงจัดให้สมฝันกันในหนัง ในบทหนังเราจะได้เห็นฉากที่ ทีแรกสตีฟออส ติน ทำทีว่าจะซัดกันกับ ลุง ดอล์ฟ ลันด์เกรน ยอดฮีโร่แห่งฮีแมน และ2คนไม่ใช่คนซะแล้ว ถ้าซัดกันก็คงถูกคู่พลังถึกจริงๆ แต่ก็ไม่ และต่อมาหันไปซัดกับ สตอลโลน อัดกันมันส์หยดชนิดกะเอาให้ตายกันไปข้างนึง จนฉากนี้สตอโลนเจออุบัติเหตุในการถ่ายทำจน กระดูกต้นคอแตกกันเลยทีเดียว แต่ ผู้กำกับเหมือนจะรู้ทันกิเลศ ของแฟนวงการต่อสู้นี้ดี สุดท้ายบทหนัง จึงจัดให้ สตีฟออสติน รอดโผล่ไป จ๊ะเอ๋ เจอกับ แรนดี้คาทัวร์ เข้าจนได้ คราวนี้ก็เป็นเรื่องเลยสิครับ ถึงใจพระเดชพระคุณแฟนๆกันเลยทีเดียว ได้ดูมวยยักษ์ คู่ในฝัน ปะทะกัน เฉยเลยเฮ้ ผมอยากจะโยนป๊อบคอน ฉลองให้ว่อนโรงหนัง สรุป เลยว่าถ้าคุณ ชอบดารากลุ่มนี้เป็นพิเศษในดวงใจ จดจำบุคลิคมาดมุขสารพัดของแต่ละคนได้จนขึ้นใจ ถ้าคุณบ้ามีด ถ้าคุณบ้ามวยปล้ำ บ้ามวยmma และเป็นคนชอบของแถมมากมาย อย่างเช่นได้ดู Jason Statham ดารารุ่นใหม่ จอมลุย อยู่ในทีมด้วยอีกต่างหาก สำหรับตาหมอนี่ มันทำผมหัวเราะน้ำตาไหลกับหน้าปกหนัง ที่เอาสายไฟจี้ลิ้นตัวเอง ทำหน้าบ้าๆ ผมเคยคิดว่าไอ้หมอนี่มันบ้าดีจริงๆฟ่ะ ได้เห็นคนนี้มาร่วมในหนังเรื่องนี้ ยิ่งเพิ่มอรรถรสกันเข้าไปอีก ถ้าตอนเด็กๆคุณ ชอบ เล่นตัวตุ่นการ์ตูน เอามาสู้กันอะโช๊ะๆ ชอบดูแอ๊คชั่นมากๆ กรอภาพย้อนหลังดูคิวบู๊ท่าเตะ ท่าต่อย ท่ายิง ท่าฟัน ย้อนภาพกลับไปกลับมาบ่อยๆ และไม่ยอมที่จะเสียสมองมานั่งดูเวลาเจอฉากรักฉากจีบกัน หรือฉากที่ ทำเป็นจะใส่เนื้อเรื่องให้มันครบเครื่องของหนัง คุณก็มักจะ กดข้ามเพราะคุณขี้เกียจดู จะรอดูฉากมันส์สถานเดียว ถ้าคุณมีอะไรทำนองนี้ ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดูหนังเรื่องนี้มันส์ขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในหนังเรื่องนี้ฉากต่อสู้นั้นท่วงท่าต่างๆ จะ อิงแนวทางหลักการทหารกันเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเบื่อหนังที่เล่นท่าแหวกแนวเช่นกระเรียนถลาปีก กระโดดฉีกขาตีลังกาตลบ18ชั้นแล้วเตะ แบบในหนังเรื่องอื่นๆหลายๆเรื่องที่ชักทำมากันเกร่อ ลองเปลี่ยนรสชาติมาดูแนวนี้บ้างคุณจะได้ดูคิวบู๊ ที่อิงหลักการทหาร หลักการใช้มีด ด้วยท่วงท่าที่สมจริงขึ้น เป็นแบบเป็นแผนศึกษากันมาดีเลยทีเดียว ส่วนเรื่องยิงแม่น ขว้างแม่น กระโดดหลบกระสุน อันนี้โม้ ไม่นับ และยิ่งถ้าคุณชอบแบบแอคชั่นดิบๆซาดิสนิดๆ ประเภทเห็นเลือดกระฉูดไรทำนองนี้ หนังเรื่องนี้ก็น่าจะเหมาะสมกับรสนิยมของคุณมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าคุณบ้ามีด รับรองว่าดูเรื่องนี้จบคงได้มีเสียเงินหาซื้อมีดเล่มใหม่กันอีกหลายด้าม จึงขอแนะนำอรรถรสรสชาติที่มีในหนังเรื่องนี้ให้ฟัง เผื่อเอาไว้ว่ามันถูกใจเป็นรสนิยมของคุณ น่าเสียดายนักที่หนังเรื่องนี้น่าจะมี แวนแดมป์ กับซิลกัล เวสลีย์ สไนป์ส มาร่วมเล่นด้วย แต่ผมก็เชื่อว่า มันต้องมีภาคต่อแน่นอน หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ลุ้นทีมบอลเลยทีเดียวว่าจะนำดารานักเตะโลกตัวไหนมาเสริมทีม มีอีกหลายคนที่ผมอยากให้ สไล ไปชวนมาร่วมทีม อย่างเช่น เฉินหลง เมลกิ๊ปสัน แบรดพิท แมทเดมอน เป็นต้น ขอให้มีภาคสองอีกผมจะรอชม   Create Date : 09 ตุลาคม 2553     Last Update : 9 ตุลาคม 2553 5:09:54 น. Counter : 878 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ชวนดูหนังเรื่องThe.Last.Airbender The.Last.Airbender ทำในสิ่งตื้นๆแต่ให้ล้ำลึกภายใน ภาพยนตร์เรื่องนี้ นับเป็นหนังที่มีพลังที่เรียกว่าพลังแห่งการผสมผสาน และมีมุมมองที่หลากหลาย คุณสามารถเห็นสิ่งที่ธรรมดาสิ้นดีได้ ในหนังเรื่องนี้ และคุณก็สามารถที่จะมองเห็นในสิ่งที่ไม่ธรรมดาได้ก็ในหนังเรื่องนี้ คุณสามารถเห็นสิ่งที่ซ้ำซากจำเจได้ คุณสามารถเห็นสิ่งที่แปลกใหม่ เพลินตาได้ มันคล้ายกระจกของจิตใจ คุณสามารถที่จะมองว่ามันห่วยแตกสิ้นดีได้ แต่ในขณะเดียวกัน หากคุณมองด้วยอีกแง่มุมนึงอีกมุมมองนึงอีกทัศนคตินึง คุณจะกลับเห็นแง่มุมยอดเยี่ยมอัศจรรย์ของหนังเรื่องนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้บรรจุ แนวทางการสร้างเอาไว้ให้คนหลายมุมมองได้แลเห็น มันมีบางอย่างที่ซ่อนเอาไว้ในหนังเรื่องนี้ หากคุณเปิดใจเพื่อจะมองหาสิ่งนั้น คุณก็จะพบว่าเรื่องนี้มีสิ่งนั้นที่น่าตื่นตา บรรจงใส่เอาไว้อย่างตั้งใจ ราวกับน้ำปลาขวดนึง ที่มนุษย์ต่างดาวอาจไม่ทราบว่า มีจุดๆนึงของโลกที่เรียกว่าประเทศไทย นั้นนิยมมัน ผมบอกได้เลยว่า เรื่องนี้มันคือของหายาก สำหรับผู้ใฝ่หาเสป๊คประเภทนึงในจิตใจ คาดว่าหลายๆคนคงได้เคยเห็นโฆษณา เกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านตามาพอสมควร หนังเรื่องนี้นำมาจากซีรีส์การตูนเรื่องดัง ที่หากใครได้ชมโฆษณาของหนังเรื่องนี้ ก็คงจะรู้สึกว่าเป็นความมันส์แบบทั่วๆไป  ดูผิวเผิน หนังเรื่องนี้ก็ดูจะเป็น หนังประเภท อภินิหาร แฟนตาซี แอ๊คชั่นทั่วๆไปเรื่องนึง ที่คาดหวังว่ามันคงจะมีความมันส์ ด้วยความที่เป็นหนังแนวนี้อย่างน้อย คงจะให้ความตื่นเต้นผจญภัยตามแบบฉบับของหนังแนวนี้แน่นอน โดยหากได้เห็นจากโฆษณาแล้วอาจยังไม่ได้คาดหวังสิ่งใดมากไปจากนี้ ถ้าดูกันตามโฆษณาแล้ว ในโฆษณาก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก ก็ทำเหมือนกับหนังทั่วๆไป ที่โชว์ฉาก เด็ด ฉากแอ๊คชั่นท่าสวย อลังการเอฟเฟ๊ค ชวนให้ดูเอามันส์ แค่นั้นเอง ผมเองก็คิดแบบนี้ในยามแรกพบ และพอผมได้มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้  เมื่อดูไปแรกๆแบบลวกๆ  บอกได้เลยว่าผมรู้สึกธรรมดามากๆ รู้สึกดูเป็นหนังแก้เหงาเรื่องนึงที่แอ๊คชั่นไปพลางๆเท่านั้น รู้สึกว่าเป็นหนังที่สรรหานั่นนี้ตามสไตล์อภินิหารที่ต้องมีปัจจัยนั้นปัจจัยนี้มาประกอบกัน ก็เท่านั้น ดูไปมันเหมือนหนังทั่วๆไปที่อยากจะเป็นแนวแฟนตาซี สร้างพอทเรื่องสร้างตัวระครนั้นตัวระครนี้ขึ้นมา ไปตามหาของ ไปฝึกวิชา อะไรประมาณนั้น ก็แค่นั้น ผมดูมันไปอย่างเฉยเมยจริงๆในทีแรก ยิ่งถ้าใครคาดหวัง มาจากที่เคยอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ หรือยิ่งถ้าใครคาดหวังจากท่าที ของหนังเรื่องนี้ก่อนจะเข้าฉายทำนองว่าเป็นหนังฟอมร์ยอดเยี่ยม แล้วมาเจออะไรๆแบบนี้ในหนังแล้วล่ะก็ อาจรู้สึกผิดหวังนิดๆ เมื่อยามแรกพบหนังเรื่องนี้ แต่แท้ที่จริงแล้วขณะนั้นผมกำลังหารู้ไม่ว่า มันเปรียบไปเหมือน อาหารชั้นเลิศที่ดูไม่น่ารับประทาน แต่พอราดซอสในกลางเรื่อง จึงทำให้เข้าใจถึงเหตุที่ต้องมีวัตถุดิบ ที่ดูไม่น่ากินเหล่านั้นในทีแรก และพอทานร่วมกับซอสนั้น เข้าใจ  ค่านิยมของอาหารจานนั้น ก็พลันบังเกิดรสชาติที่ยอดเยี่ยมเรียบง่ายจับใจขึ้นมา หนังเรื่องนี้เป็นหนังดูง่ายที่สนุกมาก เต็มที่ไปเลย ไม่ต้องพึ่งพอทเรื่องสไตล์แบบที่ต้องเน้น ความซับซ้อนของหลักการเนื้อหา  แบบแฮรี่พอทเตอร์ ไม่ต้องพึ่ง พอทเรื่องแบบแหลมคม เข้มข้นแบบเดอะลอทออฟเดอะริง แต่หนังเรื่องนี้ใช้ปัจจัย แนวทางอื่นๆในการพอทเรื่องเป็นตัวชูโรง ในที่สุดเมื่อผมได้ดูหนังเรื่องนี้เต็มๆไปสักพักแบบเปิดใจ และแบบทำความเข้าใจกับอรรถรสของมัน ผมต้องเปลี่ยนความรุ้สึกใหม่และ บอกเลยว่ามีสิ่งใหม่ๆเจ๋งๆมากมายที่ทำให้รู้สึกไม่จำเจ ต่อหนังเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้มันช่างเหมือนกีฬากอฟ   ที่หากใครไม่มาคลุกคลีไม่ทำความเข้าใจ แล้ว มันก็คือกีฬาอันแสนน่าเบื่อของคนทั่วไป แต่ถ้าค้นพบหัวใจของมัน คุณจะเพลินไป อย่างไม่หยุดยั้ง แล้วอะไรเล่ามันคืออรรถรส ที่ผมพบเจอในหนังเรื่องนี้ อย่างแรกเลยก็คือ แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมาแนวอภินิหารแฟนตาซี แต่บรรยากาศของหนัง มันเป็นบรรยากาศที่ออกแนวลูกผสม ลูกผสมแนวใหม่ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกได้รสชาติสไตล์ใหม่ อาจจะมีหนังหลายเรื่องที่กล่าวถึงอัศวิน ปีศาจ พ่อมด นักดาบ นักเวทย์ มังกรอะไรเทือกนี้ และแต่ละเรื่องก็เน้นที่เนื้อเรื่องที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับThe Last Airbender หนังเรื่องนี้ ให้บรรยากาศของโลกแบบใหม่กันไปอีกโลกนึงเลย ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็ลองนึกถึงหนังเรื่องAvatar ที่มีฉากแหวกแนวไม่ซ้ำแบบใคร คุณคงได้ตื่นตาตื่นใจกับโลกแบบใหม่ ในหนังเรื่องAvatarที่ไม่มีหนังเรื่องไหนเคยเสนอโลกแบบนี้ กันไปแล้ว นั่นล่ะผมกำลังจะบอกว่าถ้าคุณดูหนังเรื่องนี้อีก คุณก็จะได้พบบรรยากาศแบบใหม่เข้าไปอีกโลกนึงกันเลย ตามเนื้อเรื่องแล้ว โลกแห่งนี้มีชนอยู่4เผ่าคือดินน้ำลมไฟ จุดสังเกตุแต่ละเผ่าคือ เผ่าไฟจะประกอบไปด้วยชาวอาหรับเป็นส่วนใหญ่ เผ่าดินเต็มไปด้วยชาวเอเชีย เผ่าน้ำชาวยุโรบ และเผ่าลม จะเป็นบรรดานักบวช และมีท่ามวยออกไปทางแนวคล้ายเส้าหลิน มีทั้งวิถีแบบโลกยุคเก่าและโลกยุคใหม่ผสมกัน มีทั้งสัตว์แปลกประหลาด มีทั้งเครื่องจักกลไกล อันมีบรรยากาศและแนวคิดของโลกแบบนี้คล้าย โลกของไฟนอลแฟนตาซี แต่ต่างกันตรงที่ วิถีคิด วิถีพูด บรรยากาศท้องฟ้าสายลมและวิถี อารยธรรมที่ไม่ใช่โลกแบบเดียวกัน กลิ่นอายของหนังเรื่องนี้ จะผสมผสานไปด้วยสารพัดอารยธรรม ที่กลมกลืนกันแบบสุดๆ แม้กระทั่งในเรื่องของปรัชญาและจิตวิญญาณ ผมบอกได้เลยว่าคุณต้องมีความเปิดใจสักเล็กน้อยที่จะรับส่วนผสมใหม่ๆ เพราะหากคาดหวังอรรถรสจากหนังเรื่องนี้ให้ไปโดนเสป๊คเดิมๆ มันก็อาจจะรู้สึก ขัดๆไปสักนิด เพราะด้วยความไม่เข้าใจกับอรรถรสนั่นเอง อันเนื่องจากมันเป็นส่วนผสมแนวใหม่ ประการต่อมาที่เป็นจุดแจ๋วสำหรับหนังเรื่องนี้ก็คือ มุมกล้อง   ขอให้สังเกตุความมันส์ของมุมกล้องให้ดีๆ ผมต้องบอกว่าทำออกมาได้รู้สึกเข้าท่าดีมาก  การออกแบบ มุมกล้อง เหมือนตั้งใจทำออกมา ให้เป็นมุมกล้องแบบ มุมกล้องเกม มุมกล้องที่เกมหลายๆเกมมากมายชอบใช้มุมกล้องลักษณะเหล่านี้ เกมที่เวลาทำฉากไตเติ้ล ฉากเนื้อเรื่อง  หรือฉากปลดปล่อยท่าไม้ตาย ถ้าคุณดูหนังเรื่องนี้คุณจะได้อารมณ์ กลิ่นอายของเกมเมอร์มาแทรกในส่วนผสมเป็นอย่างมาก   ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกมคุณจะรู้สึกได้เลย ว่าหนังเรื่องนี้ ใช้มุมกล้องที่คุณโครตจะคุ้นเคย โดยเฉพาะสำหรับฉากประเภท ที่ตัวระครกำลังจะปล่อยท่าไม้ตายด้วยแล้ว มุมกล้องยิ่งทำกันแบบอลังการสไตล์เกมเมอร์   ยิ่งถ้าเป็นท่วงท่าประเภทรวบรวมพลัง หมุนๆซูมๆควงๆ แล้วแผ่กระจาย ด้วยแล้ว มันช่างดูแล้วสะใจเต็มอารมณ์ เท่ ไปอีกแบบ ยิ่งคุณดูเท่าไหร่คุณจะรู้สึกเหมือนดูหนังไปด้วย เล่นเกมไปด้วยยังไงยังงั้นเลย ผมว่า มันเป็นมุมกล้องที่ ผู้กำกับหนังคงมีวัฒนธรรมแบบคนสร้างเกมถึงจะทำออกมาได้ดี   ถ้าไปให้พวกผู้กำกับหนังกำกับมุมกล้อง ที่ไม่เคยคร่ำหวอดในวงการเกม ต่อให้ผู้กำกับนั้นจะเคยสร้างหนังชื่อดังยิ่งใหญ่มาเพียงไหนก็ไม่อาจจะสร้างมุมกล้องสไตล์แบบนี้ได้แน่นอน ผมคิดเหลือเกินว่า ผู้ออกแบบถ่ายทำมุมกล้องนั้นต้องบ้าเกมมาก่อนหรือป่าวนี่ ผมก็ไม่ได้ถือว่าการทำแบบนี้จะถือเป็นสิ่งดีเลิศกว่าหนังเรื่องใดๆ หรอกนะครับ แต่ผมจะบอกว่า ถ้าคุณมีอารมณ์อยากดูหนังที่มีมุมกล้องแบบเกมเมอร์ คุณไปดูเรื่องนี้เลยรับรอง ถูกสเป๊ค! ทีนี้ขอกล่าวถึงเนื้อเรื่องกันบ้าง เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้จัดว่าดีพอสมควร แม้จะไม่ได้มีความซับซ้อนหักมุข หรือเขียนบทได้คมกริบ แม้ว่าโครงสร้างของเนื้อเรื่องจะไม่ได้เน้นที่ ความแน่น แต่การลำดับเรื่องนี่สิครับ การบรรยายเรื่องนี่สิครับ นั่นล่ะคือทีเด็ด จนอยากจะอุทานว่าพ่อเจ้าประคุณเอ๋ย คนทำหนังเรื่องนี้มันช่างเล่าเรื่องได้เก่งจริงๆ ราวกับว่า ถ้าคุณมีเรื่องเล่าอะไรก็ตาม  ที่คุณเอาไปเล่าที่ไหน ใครก็ไม่สนใจฟัง แต่ถ้าคุณเอาเรื่องเดียวกันนี้ไปให้คนทำหนังเรื่องนี้ เป็นผู้เล่า เจ้าตาผู้กำกับคนนี้มันจะสามารถเล่า เรื่องของคุณได้มีรสชาติขึ้นมาอีกเป็นกอง เหมือนเอารถไปโมดิฟาย คือผมจะบอกว่าตาคนนี้เค้ามีพรสวรรค์ในการเล่าเรื่องจริงๆ ซึ่งคนทำหนังเรื่องอื่นๆคนอื่นๆ อาจต้องคอยพึ่งโครงสร้างเนื้อเรื่องที่มันดีมากแต่แรกแล้วในตัวเรื่อง แต่คนทำหนังเรื่องThe Last Airbenderนี้ เค้าสามารถเล่าเนื้อเรื่องธรรมดาๆแต่เล่าให้ออกมากลายเป็นเรื่องน่าติดตาม และสามารถเขียนบทปลีกย่อยต่างๆเพิ่มเข้าไปได้กันอย่างน่าทึ่ง สุดๆไปเลยจริงๆ   ชนิดคิดกันเล่นๆเลยว่า หนังไทยวรรณคดีหลายๆเรื่องถ้าไปอยู่ในหน้าที่การเล่าการลำดับบท ของตาคนนี้ล่ะก็รับรองไม่ธรรมดา และพออยากรู้ว่าเขาเป็นใคร ก็ลองไปสืบดูก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน ผู้กำกับและมือเขียนบท ที่คนในวงการขนานนามกันว่าเป็นระดับปรมาจารย์ในการเล่าเรื่อง ทำหนังน่าดู อย่างเรื่องThe Sixth Sense อ๋อมิน่าเล่า หนังจากซีรีส์การ์ตูนเรื่องนี้ถึงได้ออกมาดี และประการสุดท้ายที่ผมขอเสนอให้ คอเกมเมอร์สมควรไปดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่งก็คือ คุณจำได้ไหมเวลาคุณเล่นเกมประเภทเก็บเรเวล เก็บสกิล เกมออนไลน์ คุณจะมีความรู้สึกลำดับจิตใจโดยไม่รู้ตัว มีบางอย่างสั่งสมในความรู้สึก ของคุณ ซึ่งความรุ้สึกนั้นจะมีก็แต่คนในวงการเกมเท่านั้นที่จะรับทราบมัน คุณจำได้ไหม กว่าจะฝึกวิชาได้แต่ละท่า คุณต้องนั่งฝันนอนฝันไประหว่างที่ได้เห็นคนอื่นโชว์สกิลให้ดูผ่านตาให้คุณอิจฉาเล่นจนคุณอยากจะมีสกิลนั้นไวๆ ความรู้สึกมันเป็นยังไง? อีกทั้งความรู้สึกตอนสตาทร์เกมใหม่ๆ เป็นระดับตัวระครที่มีสกิลแรกเริ่มเป็นโนวิช มันช่างเห่อดีใช่ไหม  กดใช้ท่าไป และชื่นชมไป พอเรเวลอัพ พอมีสกิลใหม่ได้สกิลใหม่มา มันช่างตื่นตาและเห่อกันเข้าไปอีก กดใช้ท่าสุดยอดพลางนั่งดูไปอย่างชื่นชม และแต่ละเกม มันก็ฉลาดมาก คือค่อยๆชักจูงเรา ให้มีความลุ้นคนึงหาท่าใหม่ๆเรเวลใหม่ๆเพลินอยู่กับมันได้เสมอ ใจจดจ่อกับจะเอาสกิลนั้น ต่อให้ต้องนั่งทำอะไรจับเจ่าปั๊มเรเวลก็ยินดีทำ นั่นล่ะครับ หนังเรื่องนี้แอบใส่จิตวิญญาณของหนังแบบใหม่มาให้คุณ เพราะหนังเรื่องนี้ มันเน้นอรรถรสมากเกี่ยวกับเรื่องของสกิล ท่าไม้ตาย มันจะลำดับเรื่องแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ลำดับความสามารถของตัวระคร มาสูตรเดียวกับมุข การสร้างเกม มันจะพูดถึงโครงสร้าง ในการสั่งสมประสิทธิภาพของท่าไม้ตาย การจัดปัจจัยต่างๆเพื่อให้ได้มาซึ่งสกิลนั้น นั่นล่ะคือจุดเด่นชัดของหนังเรื่องนี้ พอตัวระครได้สกิลใหม่ๆมา คุณแทบจะอยากยุให้ตัวระครใช้มันอีก ใช้มันอีกเรื่อยๆ ถ้ามีจอย หรือมีคีย์บอดร์กดเองได้กดไปแล้ว และคุณจะยิ่งลุ้น เมื่อมีการปูทางถึงสกิลต่อไป หรือคุณรู้ว่าพระเอกจะต้องไปหาอีกสกิลให้ครบ คุณจะยิ่งเกิดกิเลศอยากรู้อยากเห็น แบบว่าสกิลที่พึ่งได้มามันเจ๋งขนาดนี้แล้วอีกสกิลมันจะเจ๋งขนาดไหนกันนะตามแบบฉบับค่านิยมและอารมณ์ของนักเล่นเกม หนังเรื่องนี้ให้ความสำคัญกับ อรรถรสด้านสกิลและฝึกวิชามากๆ ไม่ทำชุ่ยๆไม่ทำสั่วๆ ทำตามตำราของพวกคลั่งสกิลเป๊ะๆ หนังเรื่องอื่นบางเรื่องอาจเน้นไปที่ประเด็นของบทชีวิต บทความรัก บทปรัชญา และมีการใช้ท่าไม้ตายท่าต่อสู้ต่างๆ เป็นแค่องค์ประกอบ ให้หนังดูแอ๊คชั่นเพียงเท่านั้น แม้พระเอกจะมีสกิลอะไรก็ดูเหมือนว่าตัวหนังจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องท่ามากนัก ไม่ได้เน้นอะไรมากกับประเด็นนี้ หนังบางเรื่องกล่าวถึงแบบข้ามๆลัดๆ พระเอกฝึกๆเก่งๆตอนหลังมีพลังมีท่าไม้ตายออกมา  ก็แค่นั้น แต่หนังเรื่องนี้ให้คุณยิ่งกว่านั้น นั่นคือคุณจะได้อารมณ์เข้มข้นผูกพัณธ์ไปกับสกิลประเภทต่างๆในหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังภาคเดียวจบ แต่เป็นหนังแบบมีภาคต่อ ซึ่งแน่นอนคุณย่อมได้รับอรรถรสแบบโลกของเกมที่สะสมเรเวล ท่าไม้ตายหรือสกิลท่านึงพระเอกใช้เวลาสะสมเกือบ1ภาค ดังนั้นในยามภาคท้ายๆไกลออกไปนั้น คุณจะยิ่งมันส์ในยามมีบทต่อสู้ที่คุณจะคอยยุในใจให้พระเอกใช้ท่านั้นสิท่านี้สิ แบบที่สั่งสมอารมณ์ร่วมกันมา ซึ่งสำหรับคอหนังที่มีเสป๊คอื่นๆแตกต่างไป หรือหากคุณเป็นคนดูหนังที่กำลังใช้การชี้วัด แบบมาตตรฐานนิยมกันอยู่ และอาจไม่ใช่คนชอบเล่นเกมแบบถึงกึ๋นล่ะก็ บทของหนังเรื่องนี้ กับฉากการต่อสู้ของหนังเรื่องนี้ คุณก็อาจรู้สึกธรรมดาสามัญทั่วๆไปไม่มีไรมาก แต่ผมก็เชื่อว่าถึงแม้คุณจะไม่ใช่เกมเมอร์ แต่ก็ยังมีคนหลายประเภทหลายวงการรสนิยม ที่จะโดนกับหนังเรื่องนี้ และผมก็เชื่อว่าจะมีคนบางกลุ่มไม่ชอบเรื่องนี้เข้าอย่างแรง ซึ่งแน่นอนคุณย่อมมองไม่เห็น เครื่องปรุงที่เขาทำเอาไว้รอคนที่ชอบกินชามแบบนี้และเสาะหามานาน กระโจนเข้ามาดื่มด่ำให้สุขสมใจ Free TextEditor   Create Date : 06 ตุลาคม 2553     Last Update : 6 ตุลาคม 2553 8:43:02 น. Counter : 2757 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ชวนดูหนังเรื่องซอมบี้แลนด์ZombieLand Free TextEditor ที่จริงแล้วตัวผมเองก็นับว่าเป็นแฟนตัวยงของหนังประเภทซอมบี้เลยทีเดียว เมื่อผมได้ดูเรื่องนี้จบลง บอกได้เลยว่า คอหนังซอมบี้ต้องห้ามพลาด เด็ดขาด! หนังเรื่องนี้เอาจุดเด่นของสไตล์ซอมบี้ ขนมากันได้อย่างเอกลักษณ์ที่ชัดๆมากมาย หลายสิ่งหลายอย่างในหนังเรื่องนี้ดูกระทัดรัดลงตัวเป็นอย่างดียิ่ง เนื้อเรื่อง เป็นเรื่องราวของประเทศอเมริกา ที่ล่มสลายอย่างเบ็ดเสร็จแม้แต่ทำเนียบขาวก็ไม่เหลือ ด้วยเพราะฝูงซอมบี้ที่กระจายกันไปแล้วอย่างสายเกินไปที่จะแก้ไข ฝูงซอมบี้กระจายตัวเกินกว่า90% จนประชากรที่ไม่ใช่ซอมบี้ นั้นคือสิ่งที่หาดูได้ยากกันไปแล้ว หนังเรื่องนี้กล่าวถึงคนสี่คน ที่มีบุคลิคแตกต่างกันไป แต่จัดเป็นประเภท ที่มองแล้วชวนให้เห็นด้วยว่า คนแบบในกลุ่มนี้ล่ะที่มีโอกาสสูงที่จะรอดจากฝูงซอมบี้ ชายคนแรกคือ เด็กหนุ่มตัวเล็กผอมบาง ที่มีบุคลิคขาดความมั่นใจทำสิ่งใดคล้ายคนเก้อกังไม่ได้เรื่อง แต่เพราะความไม่มั่นใจนี้แหละ ที่ทำให้ชายคนนี้ขี้ระแวงระวังจนต้องทำอะไรให้รัดกุมยิ่งกว่าคนปรกติ มันเลยนำพาจังหวะชีวิตของเขาได้อย่างน่ามั่นใจเหลือล้น เขาอาศัยการตั้งกฏเกณท์ และชอบท่องจำพูดย้ำทบทวน และหยิบจดอยู่เสมอๆ และวินัยสูงต่อกฏอันเคร่งครัดที่ตัวเองตั้งเอาไว้ อย่างเช่นการตรวจเบาะหลังทุกครั้งก่อนขึ้นรถ การนั่งสุขาโดยไม่หย่อนเท้าเอาไว้... เขาอาศัยกฏเหล่านั้นเอาตัวรอดเสมอมา เหนืออื่นใด ความเคร่งครัดของเขาทำให้เขาศรัทธาในกฏต่างๆที่ตัวเองเชื่อ ทั้งๆที่บางไอเดียนั้นแสนจะตื้นสิ้นดี แต่เขาก็มุ่งเน้นต่อสิ่งนั้น อย่างเช่นการออกกำลัง เพื่อการ ใส่เกียร์หมาเร็ว มีชัยไปกว่าครึ่ง ด้วยรูปร่างที่ปราดเปรียว ทำให้เขากินนิ่มหลายต่อหลายครั้ง ในการรับมือกับการวิ่งไล่ของเหล่าซอมบี้ มาได้เสมอ ส่วนชายคนที่สอง อีกคนนึง เป็นชายฉกรรจ์กลางคน ผู้ชายร่างใหญ่หน้าโหดแต่มีจิตใจละเอียดอ่อน ละมุนละไมต่อสิ่งเล็กน้อยรอบตัวที่เขารัก รักโลกส่วนตัวอันสุนทรี อย่างสูง แถมเป็นโลกที่ค่อนข้างคิกขุในหลายๆเรื่องอีกต่างหาก ชายผู้พอใจกับชีวิตที่เขาวางไว้และรู้สึกว่า อยู่ร่วมกับมันได้แล้ว ได้มีโลกที่ชมชอบศิลปิน และได้อยู่ใกล้เลี้ยงดูแก้วตาดวงใจอุ้มไปอุ้มมา กอดหอมทั้งวี่ทั้งวัน และยังได้กินขนมรสที่ชื่นชอบ คลั่งไคล้สุดๆจนเรียกได้ว่าบ้ากันไปเลย มันคือวิมานอันโปรดปรานที่ทำให้เขาดื่มด่ำเคลิบเคลิ้มกับชีวิตที่อยู่ในจุดพอใจมาตลอด แต่เมื่อฝูงซอมบี้ ทำลายโลกเหล่านั้นไป อีกทั้งสังหารสุดยอดดวงใจของเขา ชายผู้นี้กลับกลายเป็น ไอ้โครตโหดได้อย่างทันที และเป็นความโหดที่เรียบง่ายคือโหดแบบตรงตัว เมื่อผู้คนพากันหวาดกลัว ขวัญกระเจิงต่อซอมบี้ แต่สำหรับเขาซอมบี้มันคือสิ่งที่เขาอยากเจออยากอัด เป็นอย่างมาก คือคนที่เกลียดรังเกียจหมั่นไส้อยากอัดซอมบี้เป็นกิจวัตร และพกความโหดแบบคนไม่มีอะไรเหลือ พร้อมที่ จะฆ่า และตื๊บ พวกซอมบี้ผู้ทำลายสวรรค์ของเขา ด้วยไอเดีย ลีลาและสรรพวุธ ที่คนข้างเคียงต้องตะลึง ว่าไอ้หมอนี่มันโหดโครตๆ ไปกับภารกิจสำคัญยิ่งที่ยังหลงเหลือของเขา คือการออกตามหาขนมยี่ห้อโปรด มากินให้หนำใจก่อนที่ มันจะบูดเน่าเสียเพราะบ้านเมืองที่ล่มสลายนั้นจะทำให้ขนมขึ้นรากันหมด ส่วนอีกสองคนที่เหลือนั่นคือสองสาวพี่น้อง จอมแสบ แสบชนิดที่ผู้ชมต้องยอมรับเลยว่าแสบจริงๆ แสบได้อย่างเหลือเชื่อ และเหนือเมฆ บอกได้เลยว่า เมื่อถึงบทที่ตัวระครไอ้โหดพูดขึ้นมาว่า อยากจะฆ่าอีนังคนน้องแล้วจากนั้นตูจะฆ่าอีนังคนพี่ รับรองได้ว่าคุณจะรู้สึกหมั่นเขี้ยวและเห็นด้วยทันที อย่างทั้งขำและทั้งแค้น เป็นหนังซอมบี้ ที่รับรองได้ว่าจะสร้างอารมณ์เพลิดเพลินใจให้คุณได้เป็นอย่างดี เนื้อหาของหนังไม่ใช่หนังฟอมร์ใหญ่อะไรนัก แม้เหตุการณ์จะเกิดอย่างรุนแรง ล้างโลก แต่บรรยากาศของหนังมุ่งเน้นไปที่ การใช้ชีวิตในมุมง่ายๆอย่างไร ในยามที่มีซอมบี้อยู่เต็มเมือง อย่างเช่นการขับรถไปฮอลีวูท เพื่อหวังจะเจอซอมบี้ดารา! หรือการเสาะหาขนมยี่ห้อโปรดมากินให้ได้ก่อนที่มันจะเน่าเสียไปหมดเมือง หรือการไประเริงในสวนสนุก การพังร้านหรู นี่คือสิ่งที่หนังเรื่องนี้มีอยู่ หนังเรื่องนี้เน้นไปที่บทเนื้อหาของเรื่องเบาๆ หลายเรื่องที่เพลิดเพลินใจ และความเพลิดเพลินนั้นรู้สึกอิ่มเอมในอารมณ์ ในแบบกระทัดรัดอีกด้วย การวางโครงเรื่อง วางบท และการทำสไตล์ของเนื้อเรื่อง แบบเรียบง่าย ดูไปคล้ายกับดูหนังฟอมร์เล็ก เนื้อเรื่องสบายๆ ทั่วๆไป แทบจะพอๆกับละครฝรั่งชุด ที่ทำเป็นตอนๆฉายตอนบ่ายในทีวี หรือหนังไทยเบาๆก็ยังได้ แต่มันเด็ดตรงที่ว่า  การสร้างฉาก การถ่ายทำ ไปจนถึงมุมกล้อง มันไม่ฟอมร์เล็กน่ะสิครับ นับว่า ทำออกมาได้เจ๋งเอาเรื่องเลยทีเดียว กลายเป็นการถ่ายทำระดับใหญ่ ที่รองรับอารมณ์ เก๋าๆออกมาอย่างเยี่ยมยอด ฉากหลายฉาก สามารถเอาไปใส่กับเนื้อเรื่องของหนังฟอมร์ยักษ์ได้เลยทีเดียว หากหนังเรื่องนี้ใช้ฉากเหล่านี้ไปกับบทซีเรียส ตื่นเต้นกดดันสูง หรือใช้ไปกับฉากแอ๊คชั่นล้างผลาญ  ฉากที่สร้างมาเหล่านั้นรับบทของหนังฟอมร์ใหญ่ได้สบายๆ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ กลับกระหน่ำทุ่มทุนออกแบบฉาก งามๆ ออกมาเพื่อเนื้อเรื่องบางจังหวะที่แสดงมุขเบาสมอง ทั้งๆที่มันออกมาแค่ในช่วงสั้นๆ แต่ช่วงสั้นหรือมุขเบาเหล่านั้น กลับมีฉากดีๆทำออกมารองรับได้อย่างหน้าตาเฉย ผมเองเคยชมภาพยนตร์ประเภทล้อเลียน หรือภาพยนตร์ประเภทเน้นติงต๊องมาหลายเรื่อง โดยมากแล้ว การถ่ายทำก็ไม่ลงทุนจัดฉากออกมาเป็นเรื่องเป็นราวเพียงแค่ เพื่อให้สนองมุขติงต๊อง มากเท่าไหร่นัก  ส่วนมากจะจัดฉากที่เอาแค่พอไปได้ แล้วที่เหลือให้ความขำความยียวนของเนื้อเรื่องเป็นตัวชู แต่สำหรับหนังซอมบี้ เรื่องนี้ไม่เป็นแบบนั้น เพราะเล่นเอากันให้สมจริงกันไปเลยทีเดียว! คุณจะได้ชมการทุ่มทุนทำฉากดีๆ ที่ทำออกมาเพื่อรองรับมุขสั้นๆ เป็นระยะๆ มีคำถามอยู่ว่า  ในโลกเรานี้มีของเรียบง่ายอยู่หลายสิ่ง แต่จะมีสักกี่คนที่จะทำสิ่งเรียบง่ายเหล่านั้น ให้ระเบิดอารมณ์ได้พรั่งพรู ทำสิ่งเรียบง่ายเบสิคเหล่านั้น ให้แน่นที่สุด ชัดเจนที่สุด และสะใจที่สุด ผมบอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้มีให้คุณ ความง่ายแต่เอากันให้เหมือนให้ใช่และให้เจ๋ง ผมเองเคยเห็นหนังฟอมร์ใหญ่หลายเรื่องที่ พิถีพิถันตั้งใจสร้างงานออกมาได้ละเอียดลึก ซับซ้อนและหวือหวาในอารมณ์ มีการใส่ใจรายละเอียดโครงสร้าง ตบแต่งนั่น  จัดใส่นี่ไว้อย่างมากมาย เป็นชิ้นงานที่สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันบรรจง ออกมาเป็นหนังฟอมร์ใหญ่ที่ดีหลายเรื่อง แต่สำหรับหนังซอมบี้เรื่องนี้ มันคือการบิ๊วอารมณ์ แบบธรรมชาติ ความไหลลื่นของเรื่อง ที่เป็นไปตามสัญชาติญาณไอเดียสุขของสามัญชน ผมเชื่อได้เลยว่าคนทำหนัง ได้ทำออกมาอย่างปลดปล่อยใจ สำแดงสิ่งที่เป็นออกมา ปล่อยมันเป็นไปตามอริยาบทที่ไอเดียในสมองจะส่งมาให้ ง่ายๆตามธรรมชาติปล่อยเป็นชุด อย่างไรลองหามาชมกันให้ได้รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง แต่ผมขอเตือนก่อนว่าหนังเรื่องนี้อย่าคาดเดามุข เป็นอันขาด มุขซ้ำซากสำหรับหนังเรื่องอื่นๆมักไม่ค่อยมีในเรื่องนี้ รวมทั้งไม่ได้เป็นการจงใจหักมุข แบบเพื่ออยากได้ความแตกต่าง แต่มันเป็นมุขที่เป็นไปตามสภาพใกล้เคียงความเป็นจริงเป็นอย่างยิ่ง หวังว่าคอหนังซอมบี้จะไม่พลาดสำหรับเรื่องนี้   Create Date : 02 ธันวาคม 2552     Last Update : 2 ธันวาคม 2552 4:05:56 น. Counter : 5138 Pageviews.   10 comment Share Tweet

ชวนดูหนังใหม่สุดสนุกเรื่องThe Boat That Rocked Free TextEditor นี่คือหนัง สนุกสุดยอดเรื่องนึงแห่งปีเลยทีเดียว อรรถรสในหนังเรื่องนี้แทบจะครบรส ไม่ว่าความสนุก ตลก ประทับใจ แต่สำหรับเรื่องศีลธรรม   อาจหาได้ยากสักหน่อยในหนังเรื่องนี้ หากคุณเป็นพวกชอบแหกกฏ หรือเป็นพวกไม่อยากอะไรมากกับชีวิต ขอแค่ได้มันส์สุดๆกับสิ่งที่ตัวเองรัก ได้ปล่อยคืนวันแต่ละวันพ้นผ่านไปกับกลุ่มควัน หรือเอนตัวฟังเพลงเคลิบเคลิ้มไปกับจิตใจล่องลอย ผมขอบอกว่า หนังเรื่องนี้ล่ะ มันถ่ายทอด สารพัดอารมณ์ในโลกแบบนั้นได้อย่างถึงกึ๋น ยิ่งถ้าในอดีตคุณเคยมีวิถีที่มีกลิ่นทำนอง คล้ายแบบนั้น  มันจะทำให้คุณได้ระลึกถึงช่วงชีวิตที่เคยสมสู่กับอรรถรสของคืนวันน้อยๆเหล่านั้น และหนังเรื่องนี้ก็จะแสดงให้ดูถึงว่ามันสามารถ ไปต่อได้ถึงคนรุ่นใหญ่ ว่าใช้ชีวิตไปต่อกันอย่างไร ที่ไม่ทิ้งและยังคงเดิมในแนวทางเหล่านั้น หนังเรื่องนี้ว่ากันถึงเรื่องของเหล่า ดีเจในสถานีวิทยุอิสระบนเรือลำยักษ์ลอยทะเลลำนึง ที่อยู่ในยุคที่มีการควบคุมสื่อ ควบคุมแนวเพลง ในช่วงปี1966 อันเป็นยุคเฟื่องฟูของร๊อคแอนโรล แต่กลับถูกกระแสต่อต้านและบังคับจากรัฐบาล อังกฤษ ทำให้สถานีวิทยุ แนวร๊อคและป๊อบแทบจะไม่ได้เกิด มีเพียง สถานีบนเรือลำนี้ เท่านั้น ที่อาศัยการซอกแซกทางกฏหมาย เปิดสถานีกระจายคลื่น  จากกลางทะเล ส่งตรงมาถึงประชากรชาวอังกฤษ ที่คลั่งไคล้ติดตามสถานีนี้ถึง25ล้านคน จนเป็นที่ขัดใจต่อรัฐบาล ที่ต้องการหาทางเอาผิดและโค่นล้มสถานีนี้ให้จงได้ เป็นเรื่องราว ของเหล่าผู้ยืนหยัดในวงการของตน และยังต้องคอยเผชิญกับการหาทางทำลาย จากรัฐบาล ไม่ว่าปัญหาหรืออุปสรรคอะไรจะเกิดขึ้น เหล่าดีเจ จอมเก๋าบนเรือใหญ่เหล่านั้นแทบไม่เคยหวั่นเกรง เป็นเรื่องราวที่ รัฐบาลอังกฤษเจองานยากเข้าแล้ว เพราะนี่ไม่ใช่หนังชีวิตที่ คุณจะได้เห็นเหล่าตัวระครจะพากัน สู้กับอุปสรรคกันแบบ หน้าทนขมขื่น ให้คนดูซาบซึ้งกินใจ  นั่นไม่มีในหนังเรื่องนี้แม้แต่น้อย คนพวกนี้สู้แน่ แต่สู้อย่างมีสไตล์ ดีเจเหล่านี้ หน้าตาแทบไม่รู้ร้อน หน้าชื่นตาบาน ไม่หวั่นกับสารพัดการขู่จาก สถานการณ์ใดๆ แม้ว่าอันตรายถึงชีวิตจะมาเยือนคอหอย ดีเจพวกนี้ก็ยังคง สามารถจุดบุหรี่ และสบถ ด้วยคำพูดเท่ห์ๆให้สะใจชีวิต พร้อมกับทำตัวงี่เง่า ให้เป็นที่ตลกโปกฮาต่อผู้ชม แม้ว่าปัญหาจะถาโถมเข้ามามากเข้มข้น แต่ความดื้อรั้น ไม่มียอม นั่นคือสิ่งที่พวกเขามีให้แทบทุกครั้ง จะเรียกว่ามี ความกล้าหาญเต็มเปี่ยมก็ไม่ถูกนัก แต่โลกของคนพวกนี้ ไม่คลุกคลีกับความกลัวมากนักต่างหาก โลกของร๊อคแอนโรล สุดเก๋า ที่อาศัยความศรัทธาต่อฮีโร่ เป็นที่ตั้งของความกล้าบ้าบิ่น โลกของเสรีชน ที่ฝักใฝ่ ชีวิตเรียบง่าย ไม่มีห่วงไม่มีบ่วง ที่จะมาอาลัยต่อสิ่งใดๆมากนัก โลกของคนที่ไม่เอากระแสสังคมมาครอบงำหัวเกินไป และสนใจแต่โลกส่วนตัวของตัวเอง รักสนุกเดียงสายันแก่ มองเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก มองเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ โลกที่ได้เสเพล ลืมโลก ไม่ซีเรียสกับความรับผิดชอบอะไรนัก นั่นเป็นชีวิตมันส์ๆ ของกลุ่มคนคอเดียวกันต่างสไตล์ที่มาจอยกัน บนเรือลำยักษ์ ให้ผู้ชมได้ผ่อนคลาย เหมือนได้ทัวร์เรือสำราญ เพลินใจแน่นอนสำหรับเรื่องนี้ ชีวิตบนเรืออาจไม่ได้มีภารกิจตื่นเต้นอะไรบ่อยนัก จะมีก็แต่ เพียงจุดสำคัญบางช่วงเวลาของเรื่องเท่านั้น แต่ที่เหลือแทบเป็นเรื่องสามัญบนเรือแทบทั้งสิ้น การใช้ชีวิตแบบที่เรียกกันว่ากิน ขี้ ปี้ นอน ใช้ชีวิตแบบไปวันๆ วันๆ และวันๆ สูบบุหรี่ พี้ยา กระดกเบียร์ นอนตื่นสาย นั่งฟังเพลง คุยกัน เล่นกัน หาเรื่องงี่เง่าทำ หาเรื่องเล็กมาขยายความ ให้ได้อรรถรสสุดยอดขึ้น ล้วนเป็นวิถีชีวิตประจำวัน ที่หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า เรื่องสามัญนี่ล่ะ เด็ดดวงนัก และยิ่งถ้าผู้ชมรายใดเคยเสพรสชาติชีวิตแบบนั้นมาก่อน จะยิ่งเข้าใจความสุดยอดของมันได้ดี ผมเชื่อว่าอย่างนั้น และสำหรับรูปแบบการจัดรายการแบบใส่อารมณ์เต็มๆ ตามแนว ของดีเจแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไปนั้น ขอบอกว่าแต่ละคน นั้นเจ๋งมากๆในแนวทางของตัวเอง บางทีหนังเรื่องนี้อาจ เป็นแนวทางให้ดีเจรุ่นใหม่ๆได้บ้าง ในยุคที่ดีเจเมืองไทยแทบจะตัน กับสไตล์ใหม่ๆ ในยุคที่ดีเจเมืองไทย แทบจะเหมือนจบโรงเรียนบุคลิคน้ำเสียงสไตล์มาจากที่เดียวกัน!   สำหรับคอหนังทั้งหลายไม่ว่าคุณจะ อยู่ในประเภทรสนิยมไหน ชอบหนังแนวอะไร มี อุดมคติชื่นชอบหนังในลักษณะแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นชอบดูตัวดาราขวัญใจ หรือ ชอบความอลังการ ชอบความสมจริง ชอบจินตนาการสุดขั้ว หรือชอบความเข้มข้น ชอบการดำเนินเรื่อง ชอบความปะติดปะต่อของเรื่อง หรือ เอากันถึงขั้น กรรมการศาสตร์กันไปเลยเชียว ที่ผมเกริ่นมาเพราะกำลังจะบอกว่า หนังเรื่องนี้อาจไม่ได้เจ๋งในหลักที่ว่ามาเหล่านั้นสักเท่าไหร่นักหรอก แต่ความเจ๋งสำหรับเรื่องนี้มันคือความเท่ห์ เท่ห์เข้าขั้นมหาประลัย ใช่ ผมขอยืนยันถึงเรื่องความเท่ห์สำหรับหนังเรื่องนี้ แต่เกือบทั้งหมด มันเป็นความเท่ห์ในแบบความ เก๋า เก๋าจริงๆ จะว่าไปไอ้เรื่อง ความเท่ห์นี้มันเป็นคำง่ายๆ แต่ความเท่ห์ของบางสังคมบางวงการ บางโลกนั้น อาจไม่ง่ายที่จะเข้าใจได้ หากประสบการณ์ชีวิตของคุณยัง น้อยนักในเรื่องของโลกนั้นๆมันก็ยากที่จะเข้าใจ มันก็เหมือนวงสังคมที่ชอบหนังเกาหลี ไปงงกับสังคมที่ชอบหนังเคาบอย หรือวงสังคมเพลง เคป๊อบ ไปงงงวยกับพวกที่ไปคอนเสริต์เพลงแจ๊ส บางท่านที่ไปดูหนังเรื่องนี้อาจจะไม่เก๊ทในฟิลลิ่ง โดยเฉพาะฟิลลิ่งที่ออกมาจากการกระทำพื้นๆ อันมีแต่คนในโลกเหล่านั้นจะมองออกเข้าใจรู้สึก และรู้สึกง่ายๆได้อย่างอัติโนมัติในจิตใต้สำนึก แต่ยังไงเสียหนังเรื่องนี้ก็จัดว่าเป็นหนังดูง่ายเบาสมอง แม้บางจุดไม่เข้าใจลึกซึ้งอะไร แต่เอาแค่เพียงผิวเผิน  มันก็ทำมีให้มากพอที่จะทำให้คุณยิ้มได้มากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมุมมองใดก็ตาม หนังเรื่องนี้มีความฮาครบรส ไปจนถึงความทะลึ่ง สุดเฟี้ยว มีมุขขำๆ พร้อมท่าทางตลกชวนฮาไว้เพียบ และทีเด็ดของหนังเรื่องนี้ นั่นคือการนำเสนอแง่มุมในการทำเท่ห์ให้สาวหลงใหล ของผู้คนต่างสไตล์ในเรือลำนี้ และคุณอาจตะลึงกับ เสน่ห์จากบุคลิคบางประเภทที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักในหมู่วัยใสเมืองไทย หลายๆบุคลิคจากตัวระครในเรื่องนี้ ที่เท่ห์กันซะเหลือเกิน โดยเฉพาะในหนังเรื่องนี้จะสอนให้คุณได้เห็นว่า  ความอ้วนพริ้วสยบหล่อใสแบบอยู่หมัดนั้นมีจริง! ชนิดที่คุณต้องพยักหน้าอืมๆยอมรับในใจ ว่ามันเจ๋งมันดูรัศมีข่มกันได้ซะอย่างงั้นจริงๆ คุณจะได้เห็นการแสดงความรักเหนียวแน่นกันในหมู่พวกพ้อง แต่ในยามเรื่องสตรี ก็ชั่วช้าหักหลังได้อย่างแสบสุดทรวง จากสมาชิกในเรือลำนี้ที่หักเหลี่ยมโหดกันไปมา รวมทั้งความ ซาบซึ้งใจ และเนื้อเรื่องที่ชวนผูกพัณธ์ไปกับเหล่าตัวระครทั้งหลาย ที่แทบทั้งเรื่องอยู่กันแต่ในเรือ ซึ่งมันก็ทำให้คนดูผูกพัณธ์ไปกับเรือลำนั้นแน่นอน และบ่อยครั้งในขณะที่คุณกำลังซาบซึ้ง อยู่นั้น ก็มักจะมีการหักมุมอารมณ์ ด้วยมุขสัปดน หรือมุขงี่เง่าต่างนาๆ หนังเรื่องนี้ ขายสไตล์ล้วนๆ ความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่องอย่าไปถามถึงมากเกินไป เพราะสำหรับหนังเรื่องนี้มีจุดไม้ตาย คือ  ขายสไตล์! เป็นตัวชูโรง ใครที่มีรสนิยมของวงสังคมที่มีต่อมรับรู้ อรรถรสของสไตล์แบบนี้ ผมรับประกันได้ว่า คุณต้องร้องในใจ ว่าโอ้วว อันนี้มันใช่เลยมันเจ๋งว่ะ และอีกใจความสำคัญสุดๆกันไปเลย นั่นคือโลกแห่งดนตรี หนังเรื่องนี้ ให้ความอาตร์ติส มากๆกับโลกของดนตรี หนังเรื่องนี้มีเพลงให้ฟังมากมาย และงัดสารพัด ตัวอย่างสีหน้าท่าทางของผู้คนในหนัง ที่จะมาชี้ การบิ๊วอารมณ์ มาระเบิดต่อมดนตรีในจิตใจของคนได้อย่างสุดๆให้ได้รับชมกันเป็นขวัญตา สำหรับผู้ที่ยังห่างไกลกับโลกแห่งเสียงเพลง ไปกับโลกในยุคสมัยอดีตที่มีเพียงวิทยุ รุ่นเก่ากึ๊ก กับผู้ฟังต่างทิศต่างสังคมที่พากันใจจดจ่อรอฟังกันทุกวันคืน โลกที่ไม่มีเกมคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเทอร์เนท ไม่มีสิ่งลูกเล่นสูงเท่าเทียมกับยุคสมัยปัจจุบัน แต่ผู้คนในหนังเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า การบริหารกลไกลสุขให้สุดยอดในจิตใจนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัตถุ หรือเทคโนโลยีสักเท่าใดนักเลย การเสพกิเลศในโลกแห่งนี้ มีหลายหนทางเรียบง่ายมากที่จะทำให้คุณได้มีรสชาติชีวิตอย่างสุดๆ ลองไปดูเถอะเรื่องนี้แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง   Create Date : 07 กันยายน 2552     Last Update : 7 กันยายน 2552 19:57:57 น. Counter : 1424 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ชวนดูหนัง เรื่อง Seven Pounds 7ศรัทธา ผมบอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ มีความถ่ายทอดบางสิ่งบางอย่างที่ดีมาก ให้กลุ่มคนในวงวิถีชีวิตรูปแบบนึงได้ รับรสมันได้ หลายส่วนเป็นเรื่องยากที่คน ทั่วๆไปยากจะรับทราบเข้าใจ หนังเรื่องนี้พอตเรื่องมันอาจดูเหมือนเป็นสิ่งยกง่ายพูดง่าย คิดขึ้นง่าย และดูเผินๆเหมือนประกอบเรื่องแบบง่ายๆ เช่น หากใครสักคนนึงคิดอยากสร้างให้พระเอกเป็นคนดีเหลือแสน ตัดแขนแบ่งขา บริจาคหัวใจ หรืออะไรก็ตามแต่ มันอาจเป็นแว่บพื้นฐานที่จะคิดกันขึ้นได้ในหัว มันช่างดูเผินๆเหมือน เป็นการเขียนบทที่หยิบจับหาเหตุนู่นนี่ มาแบบไม่ดูลุ่มลึกอะไรเลย ให้กับพระเอกของหนัง แต่แท้ที่จริงแล้ว ความไม่ธรรมดามันอยู่ตรงที่ คุณจะถ่ายทอดอย่างไรได้สมจริงที่สุดกับคนที่ต้องรับภาวะเช่นนั้น ความสมจริงนี่ล่ะตัวสำคัญตัวดีเลย หนังเรื่องนี้กำลังทำเรื่องยากตรงที่ ไม่ถ่ายทอดเรื่องราวที่คนสามัญทั่วๆไปสัมผัสกันได้ แต่กลับ มีสัดส่วนของอารมณ์ที่ ต้องเป็นคนที่เข้าใจดีถึงเรื่องลึกในสิ่งเหล่านั้นถึงจะเข้าใจ หรือเป็นคนที่มีวุฒิประสบการณ์ที่พอเข้าใจในมิติเหล่านั้น บางทีการเป็นคอหนังที่ดูหนังผ่านมาหลายร้อยเรื่อง อาจไม่เพียงพอสำหรับความเข้าใจในหนังเรื่องนี้ หนังร้อยเรื่องสอนร้อยประสบการณ์ แต่สำหรับสิ่งที่ต้องเจอกับตัวเองตรงๆถึงจะเข้าใจนั้น หนังกี่หมื่นเรื่องก็ช่วยให้คุณเข้าใจมันไม่ได้ โลกเรามันมีเรื่องตั้งมากมาย ที่ภาษากำหนดบ่งบอกถึงมันไม่ได้ และจำต้องใช้ความรู้สึกใช้เซ้นส์ ใช้วุฒิภาวะ ใช้ความซับซ้อนในสมองในจิตใต้สำนึก หยั่งรู้ถึง สิ่งเหล่านั้น และกว่าจะได้มาซึ่งความหยั่งรู้เหล่านั้น คุณจำเป็นต้องพบเจอประสบการณ์มากมายด้วยตัวเอง อาการสำนึกเสียใจกล่าวโทษตนเองมันคืออาการทางจิตชนิดนึง แม้ว่าพระเอกจะประยุกต์มันให้ส่งผลดีงามต่อผู้คน แต่โรคร้ายภายในใจเหล่านั้น ยากที่ใครจะเข้าใจ หนังเรื่องนี้มีรายละเอียดลึกๆทางกริยา ทางบรรยากาศ และ ทางสภาวะการณ์ที่ใส่ไว้อย่างลงตัวแต่มองออกยาก ว่านั่นมันใช่เลย อาการของพระเอกที่คอยเก็บกด คอยกดดัน สะท้อนความหนาวเฉียบความข่มกลั้น ความสั่งให้ตัวเองต้องตาย ความไม่สนใจฟังเสียงกระซิบใดๆก็ตามที่แอบส่งออกจากจิตใจลึกๆ ที่บางทีก็ไม่อยากตาย ในจิตใจ ล้วนไม่ฟังทั้งสิ้น แต่ก็ซ่อนไม่มิดในแววตา ที่อยากสัมผัสสุขบนโลกนี้อยู่แต่ก็คอยห้ามใจไม่ให้คิด ทุกย่างก้าวของตัวเขามีแต่ความตัดใจบังคับตัวเองทันทีทันใดแทบทั้งนั้น รวมทั้งอาการเสียใจสุดซึ้งต่อสิ่งที่เขารู้สึกผิด ความทุรนทุรายอยากจะไถ่ความเจ็บในจิตใจ อยากเร่งรีบหยิบจับ กระทำการเลือกคนอย่างแม้จะเหมือนเลือกอย่างดี แต่ก็ไม่ละเอียดดีถึงขีดสุด เขากระทำการเลือกผู้คนที่จะไถ่บาปอย่าง เร่งรีบตั้งความคาดหวังลุ้นให้คนที่เล็งไว้เป็นคนดีจริงๆสักที มันจะได้จบๆไปเร็วๆ จบชีวิตที่ต้องนอนฝันร้าย ต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็นไปสักที เขากระทำการเลือกแบบ ค่อนข้างมีความรวบรัดเออเอง ปะปนอยู่บ้าง หนังเรื่องนี้อาจไม่ทำให้คุณปลื้ม ในความดีของคนแต่ละรายที่เขาเลือกสักเท่าไหร่ พระเอกคนนี้ไม่ได้เลือกอย่างชาญฉลาด แต่เขาเลือกไปอย่างคนที่จิตใจไม่เต็มและกระวนกระวายใจ แต่อย่างน้อยเขาก็เลือกอย่างให้มันผ่านขั้นพื้นฐาน ของความดีนั่นคือสิ่งที่ชายคนนี้พอใจ แต่อะไรน่ะหรือที่จะสะกดอารมณ์คุณได้ในหนังเรื่องนี้ การฆ่าตัวตายของเขา มันไม่ใช่สิ่งที่ควรชื่นชมหรือสนับสนุน แต่ละวิธีของเขามันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่สุดหรือดีที่สุด และ7คนที่เขาเลือกก็อาจไม่ใช่คนดีโดยแท้จริงสมบรูณ์ แต่หนังเรื่องนี้สะท้อน คำว่า ความมุ่งมั่น จริงจัง อย่างแรง สะท้อน พลังของชายคนนึงที่ อาจไม่หวังเรื่องผลของการไถ่บาป อาจไม่เชื่อในเรื่องของศรัทธา แต่แววตาของเขาบอกได้เลยว่า เขาทรมานเหลือล้นกับแผลในใจ จนควานจับไปหมดในทุกวิธี อะไรก็ได้ขอให้มันดีขึ้น และตายดีกว่าอยู่ สำหรับเขา แต่ขอตายอย่างแบ่งปัน มันคือหนังที่แสดงให้เห็นผู้แพ้ ที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่นั่นคือผู้แพ้ที่ดีงามมีศีลธรรมในจิตใจอย่างเปี่ยมล้น เป็นผู้แพ้ที่สวยงามที่สุดในบรรดาผู้แพ้ด้วยกัน และยังแสดงให้เห็นถึงการใช้จิตใจแบบลูกผู้ชายเข้าสะกดความกลัวความเจ็บ แววตาในยามเขาเจ็บ อะไรเล่าที่สะกดความเจ็บเขาได้ สะกดความไม่กล้าที่จะตายให้เขาได้ นั่นคือความสำนึก อันมีผลมาจากความรัก ความรักทำให้คนกล้าหาญ ต่อความเจ็บความตาย น่าเสียดายที่มันคือความรักที่ส่งต่อมาด้วยความสำนึกเสียใจสูญเสีย หนังเรื่องนี้วางการแสดงออกทาง พฤติกรรมดีมาก สมจริงมาก และโดยบุคลิคจิตนิสัยของตัวระคร มันก็เชื่อมโยงให้เห็นสอดคล้องถึงคนที่จะทำเรื่องบางเรื่องได้จริง มันเป็นหนังที่ดูค่อนข้างยากนิดนึงแต่ รู้สึกง่ายๆ มันเป็นหนังที่ถ้าไม่ตั้งคำถาม และใช้ความรู้สึกไปตามธรรมชาติ มันช่างทะลวงลึกในบางมุมของจิตใจที่เป็นมุมที่ไม่ค่อยถูกทะลวง หากหัวใจคนมีช่องความเศร้า หลายสิบชนิด รูที่หนังเรื่องนี้ทะลวงไปมันคือรูห่างเหินการสัมผัส เพราะวิถีปรกติของผู้คนแทบไม่ค่อยได้เศร้ากับมุมเหล่านี้ มันจึงเป็นความเศร้าที่มีรสชาติไม่ค่อยคุ้นเคย สิ่งนึงที่ผมบอกได้เลยกับหนังเรื่องนี้ คือสักวันเมื่อท่านผู้ชมผ่านพ้นช่วงวัย ไปเก็บประสบการณ์ชีวิตไปให้ย้อนกลับมาดูอีกครั้งอาจเข้าใจหลายสิ่งในมุม ที่ต่างไปจากที่เคยรู้สึก ความรุ้สึกของการเบื่อชีวิตแท้จริงมันรสชาติแบบไหน ความรู้สึกของการซึ้งแล้วถึงสิ่งมีค่าที่ผู้คนแทบมองไม่เห็น ความรู้สึกเดียวดายต่อสู้อย่างล้นเหลือกับสิ่งที่ตนรับทราบและเชิดชูอย่างลำพังในสังคม ความรู้สึกทั้งหมดเหล่านี้ รอให้คุณเข้าใจในหนังเรื่องนี้ได้ในสักวัน   Create Date : 31 สิงหาคม 2552     Last Update : 9 ตุลาคม 2553 5:15:33 น. Counter : 774 Pageviews.   4 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang