สหายไม่จำเป็นว่าเป็นคนดีแค่ไหนหรือไม่ดีเพียงไร ขอแค่เป็นสหายที่นับเป็นสหายต่อกันก็ย่อมเกื้อกูลกันไม่มากก็น้อย
Group Blog
 
All Blogs
 
การหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากการออกกำลัง ตอน จงปรับแก้ทัศนคติในการเลือกใช้

Free TextEditor







สำหรับบทความ ในตอน อาการบาดเจ็บ
นี้จะแบ่งเป็นหลายชุด
ซึ่งจะมาว่ากันถึงเรื่องการบาดเจ็บ ของร่างกายที่เกิดจากการฝึก
ที่คุณควรทำความเข้าใจกับมันให้ลึกซึ้ง

คำว่าการบาดเจ็บ
บางคนอาจรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องทำความเข้าใจอะไรมากเลย
และอาจบอกว่า บาดเจ็บก็คือบาดเจ็บ
อย่างเช่น พวกกีฬาแข่งรถ รถล้มบาดเจ็บ กีฬาชกมวยโดนชกบาดเจ็บ
พวกอุบัติเหตุเหล่านั้น
ก็แค่เพียงระวัง ไม่ประมาท สิ!

แต่สิ่งที่คุณควรรู้ต่อไปนี้ก็คือว่า สำหรับวงการ
ออกกำลังชนิดประเภทฝึกซ้อมฝึกฝนร่างกายนั้น  แท้ที่จริงแล้ว มีจุดอุบัติเหตุ ที่เปรียบเหมือนเงาร้ายภัยมืดคืบคลานซุ่มดักอยู่มากมาย โดยที่คุณไม่รู้ตัว

ไม่ว่าจะเป็น เวทเทรนนิ่ง เพาะกาย ฟิสเนท แอร์โรบิค หรือฝึกซ้อมกีฬา

ใดๆ นั้นก็แล้วแต่
เรื่องของการบาดเจ็บถือเป็นเรื่องที่มีความลึกซึ้งมาก
และต้องทำความเข้าใจกันพอสมควรเลยทีเดียว

แม้แต่ การศึกษาเข้าใจเรื่องการหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บนั้น
ยังเป็นเรื่องที่หลายคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กับเหตุปัจจัยต่างๆซึ่ง
มีสิ่งผิดพลาดจากความไม่คาดคิดมากมายที่พร้อมเกิดขึ้นได้ โดยที่คุณไม่ทันคาดคิดเลยด้วยซ้ำ
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ใช้สติยังไม่พอแต่ยังต้องมีความรู้ประกอบอีกด้วยครับ

ดังนั้นเราจะมาทำความเข้าใจต่อเรื่องเหล่านี้กันนะครับ


เริ่มจาก
ผมขอแบ่ง ประเภทสาเหตุของภาวะที่จะส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บออกเป็น3สาเหตุดังนี้

สาเหตุที่1  บาดเจ็บจากการออกกำลังกายผิดท่า

เราต้องมองดูว่าอะไรคือสาเหตุทำให้คนเรามักออกกำลังกายด้วยท่าผิดๆเสี่ยงๆ
และผมก็ค้นพบสาเหตุใหญ่ๆ นั่นก็คือคุณต้องปรับแก้ที่ทัศนคติและ
ปัญญาในการเลือกใช้หรือทำตาม ก่อนครับ
เพราะผมพบเห็นหลายคนมาก ที่มีทัศนคติที่ผิดๆ ในการเลือกหาสิ่งที่นำมาทำตาม หรือนำมาเป็นความรู้ยึดไว้กับตนเอง


สำหรับสาเหตุนี้เป็นสาเหตุยอดฮิตเลยครับ
ขอยกตัวอย่างในวงการฟิสเนท
อย่างเช่น บางคนเวลาเข้าไปในฟิสเนท
เกิดอาการเขิลๆอายๆเก้อๆกังๆ ยกแบบไม่รักษาท่าทาง
บางคนไม่มีความรู้และก็ไม่กล้าที่จะถามใคร
ยกไปตามที่คาดเดาเอาเอง
หรืออาศัยแอบดูคนรอบข้าง แล้วก็ทำไปอย่างขาดความรู้

ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงครับ
เพราะ ท่าออกกำลัง ที่ใช้กันนั้นมันมีอะไรหลายๆอย่าง
หลายเหตุผล
กว่าที่คุณเห็น

หากคุณมองการออกกำลังประเภทต่างๆแล้ว
ไปคิดว่ามันก็แค่คือการขยับร่างกาย
โดยเป็นการออกกำลังใช้แรงไปก็เท่านั้น
จะออกแบบไหนก็ได้ขอแค่ให้ได้

ใช้แรงก็พอ
ความเข้าใจแบบนี้เป็นความเข้าใจที่เสี่ยงมาก
ถ้าคุณคิดว่ามันมีแค่นั้นและคิดจะไปทำชุ่ยๆ
โดยเฉพาะกับการออกกำลังบางประเภท ที่ต้องใช้หลักการอย่างเช่น

ประเภทเวทเทรนนิ่ง ล่ะก็ คิดผิดมหันต์

คุณอย่าลืมนะว่า การออกกำลังกายแบบเข้าโปรแกรมการฝึกต่อเนื่องนั้น
คุณต้องทำมันต่อเนื่องซ้ำๆหลายวันเป็นเดือนหรือเป็นปี
แม้คุณอาจจะรอดจากการบาดเจ็บรุนแรงในคราเดียวได้

แต่คุณอาจจะไม่รอดจากการสะสมความสึกกร่อนของร่างกาย
ไปทีละนิดอันเนื่อง

มาจากการออกกำลังผิดท่า ผิดแบบ ผิดโปรแกรม
ในขณะที่คุณอาจผิวปาก สบายใจ รู้สึกว่าร่างกายไม่เป็นอะไร
และรู้สึกกับตัวเองว่า ร่างกายฉันดีรับการฝึกแบบนี้ได้ ไม่เห็นต้องไป

ซีเรียสเลยกับการฝึกออกท่าให้ถูกต้อง

ในขณะที่คุณคิดเช่นนี้อยู่  ภัยเงียบมันกำลังคืบคลานมาหาคุณ
และเมื่อมันส่งผลตอบสนองในวันใด
วันนั้นคุณจะเสียใจ   
ผมอยากบอกให้คุณรู้ว่า อาการบาดเจ็บอันเนื่องมาจากการสึกกร่อน
สะสมเรื้อรังมายาวนาน นั้นน่ากลัวยิ่งกว่า
อาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหลายๆแบบเสียอีก

คุณลองนึกภาพไม้ที่เกิดรอยร้าว จากอุบัติเหตุถูกกระแทก
กับลองนึกภาพไม้ผุ แทบเป็นผงดูสิครับ
อันไหนมันน่ากลัวกว่ากันและแก้ไขได้ยากกว่ากัน

มีนักกีฬาที่มีชื่อเสียงหลายคนที่ต้องเลิกหนทางนี้ไปเพราะสาเหตุนี้มาแล้วมากมาย
แม้ว่าเขาจะโปร จนสามารถเป็นนักกีฬาที่โด่งดังเก่งกาจ
แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจภัยเงียบ จากการฝึกซ้อมที่ผิดๆเกินพอดี


ยิ่งสำหรับบางท่านที่ไม่มีผู้ฝึกสอน
และคิดจะไปมองดูทำตามผู้อื่นนั้น
ในแต่ละวันที่คุณได้เข้าไปในสถานที่ออกกำลังกาย
หากถ้าคุณไปเห็นคนที่ใช้ท่าที่ถูกต้องเหมาะสม เป็นแบบอย่างก็ดีไป
แต่หากว่าคุณดันไปเจอคนที่ออกแนวมั่วๆนี่ คุณอาจบาดเจ็บได้ง่ายๆ
หรือไปเจอคนที่เล่นแบบระดับสูง
ซึ่งเขาเหล่านั้นมีร่างกายที่ฝึกฝนมาดีและออกกำลังระดับขั้นสูงได้
ร่างกายของเขาได้รับการบำรุงมาอย่างดีและเคยชินกับสภาพการฝึกหนักได้
สามารถใช้เทคนิคท่าที่เสี่ยงได้
แล้วจู่ๆคุณมาเห็นคุณก็เอะอะไปทำตามเขา แบบนี้คุณเสี่ยงแน่
หรือคุณอาจไปเจอเขาเข้ามาสอนคุณผิดๆ โดยจะให้คุณทำตามเขา
ไม่ว่าจะเพราะเขาอยากอวดคุณเขาอยากนั่งดูคุณ ทำท่าทางไม่ไหว
ให้เขารุ้สึกว่าตัวเขาเองยอดเยี่ยม
หรือไม่ว่าจะเพราะเขาเป็นนักกีฬา ที่ได้รับการฝึกฝนจากโค้ชมา
เขาอาจเก่งในการฝึกฝน
แต่เขาไม่มีความรู้อย่างลึกซึ้งของหลักการเหตุผลที่โค้ชให้เขาฝึก
เขาไม่มีความรู้ในด้านเทรน แล้วจู่ๆคุณให้เขามาสอนคุณ
เขาก็จะให้คุณทำตามแบบเขา ทำในสิ่งที่ยังไม่เหมาะกับขั้นของคุณ
ทำในสิ่งที่เขาไม่มีความรู้ความสามารถที่จะวิจัยตัวคุณ

หรือแม้กระทั่งว่าเขากำลังเป็นนักกีฬาที่เก่งแต่ซ่อนอาการบาดเจ็บเรื้อรัง

เอาไว้ และมันยังไม่ถึงเวลาที่แผลร้ายจะเผยโฉมออกมา
และเขามาสอนให้คุณออกไปตามแบบเขา
แล้วล่ะก็
ผลเสียสะสมร้ายแรงต่อสุขภาพของชีวิตคุณก็
พร้อมจะเกิดขึ้นกับคุณอย่างน่ากลัวแน่ๆครับ

ดังนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีความรู้ความเข้าใจในการใช้ท่าทางที่ถูกต้อง

เสียก่อน และที่สำคัญ มันต้องเหมาะกับคุณสมบัติรอบด้านของคุณด้วย

ดังนั้นเราจงมาปูพื้นฐานที่ถูกต้องเพื่ออนาคต ของร่างกายที่มีพลานามัยที่

แข็งแรงอย่างแท้จริงยั่งยืนกันเถอะครับ

ในบทอื่นๆในเวปบล๊อคของผมก็พยายามที่จะเน้นให้คุณได้เข้าใจถึงแก่นแท้
หัวใจของการฝึกฝน คือ
ต้องวิจัยตัวเองให้เป็นและออกแบบการฝึกให้เข้ากับตัวเองที่สุด
นั่นจึงจะเกิดประสิทธิภาพครับ

เอาล่ะครับเมื่อเราแก้ไขทัศนคติในการเลือกความรู้แล้ว

ในบทต่อไปเราจะมาพูดกันต่อถึงการ ใช้ท่าการออกกำลังให้ถูกต้องกันต่อครับ









Create Date : 06 ตุลาคม 2553
Last Update : 6 ตุลาคม 2553 7:53:12 น. 1 comments
Counter : 1391 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: TREE AND LOVE วันที่: 6 ตุลาคม 2553 เวลา:18:27:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตึ๋งนิวเครียร์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ตึ๋งนิวเครียร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.