เหตุและผลของเวลา เปลี่ยนแปลงโลกให้เป็นไป..แล้วนับประสาอะไร...กับใจคน
 
ตอนที่ 1 : เปิดเรื่อง

ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกะทัดรัด ผนังโดยรอบถูกตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์รูปดวงดาราสีขาวนวลจุดเล็กๆให้เปล่งประกายโดยรอบ ผนังด้านบนหัวเตียงนอนมีดวงจันทราดวงใหญ่เหลืองอร่ามสุกใสอยู่ด้านบน โดยพื้นหลังของวอลเปเปอร์รอบห้องเป็นสีน้ำเงินเข้มแต่งแต้มเป็นท้องฟ้าจำลอง กระจกห้องถูกปิดด้วยผ้าม่านสีน้ำเงินบดบังแสงจากดวงอาทิตย์ที่คอยสาดส่องเข้ามาในยามเช้าและยามสาย

พื้นห้องนุ่มเพราะถูกบุด้วยพรมสีน้ำเงินอย่างดี โทนสีภายในห้องนี้และเฉดสีของสิ่งของต่างๆที่อยู่ในห้อง ล้วนแล้วแต่เป็นสีน้ำเงินมืด ดั่งราตรีที่จมดิ่งอยู่ภายใต้ท้องทะเลลึก...บรรยากาศในห้องยามนี้ อบอวลไปด้วยควันสีขาวฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง พร้อมเสียงงึมงำคล้ายเสียงสวดมนต์

“เยเชซามี โดโรรี่ เยเคเค อาเฟกาโน่ .....” ร่างบางภายใต้เสื้อโค้ทสีดำ กำลังร่ายเทียนวนไปมารอบอ่างแก้วขนาดย่อมที่ตั้งไว้กลางห้องอย่างตั้งใจ

“ยัยพริก!!!!!!” เสียงแผดแหลมดังขึ้นพร้อมประตูไม้เนื้อดีที่เปิดผ่างออก ขัดการกระทำของร่างบางนั้นอย่างได้ผลชะงักนัก เพราะร่างนั้นสะดุ้งเฮือกและรีบละมือออกจากเทียนที่ร่ายวนไปมาอย่างลนลาน

“อะไรเนี๊ยะ....ฉันทำพิธีอยู่นะ อย่ามากวนใจฉันได้ไหม”

“แกเลิกบ้าสักที อะไรเนี๊ยะ เหม็นกลิ่นกำยานชะมัดเลย” หญิงสาวผู้บุกรุกเข้ามาทำลายพิธีที่เจ้าของห้องคิดว่าศักดิ์สิทธ์ เริ่มทำหน้าเหยเกพลางยกมือขึ้นโบกไปมาขับไล่กลิ่นกำยานที่คละคลุ้งไปทั่วห้อง

“พี่พีช ถ้ามันเหม็นก็อย่าเข้ามาซิวะ”

“ก็ไม่ได้อยากจะเข้าห้องคนบ้าหรอก แต่แม่ใช้ให้ไปซื้อผัก นี่เงินกับรายการ” เธอว่าทั้งๆที่มือก็ยังโบกไปมาปัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และมืออีกข้างก็วางเงินและแผ่นกระดาษลงกับโต๊ะเครื่องแป้งที่มีลูกแก้วใสลูกใหญ่ตรงกลางลูกมีประจุไฟฟ้าแล่นปะทะกันเป็นประกายไฟสีฟ้าอ่อนเปรี๊ยะๆ วางตั้งอยู่กลางโต๊ะแทนที่เครื่องสำอางต่างๆที่หญิงสาวส่วนใหญ่พึงมี

“ไปซื้อเองเดะ ฉันทำพิธีอยู่ไม่เห็นเหรอ”

“พิธีบ้าบอ แกหน่ะสิ ไปเลยนะ ไม่งั้นจะอดข้าวเย็น เร็วๆเลย”เธอว่า ก่อนจะหมุนตัวสะบัดผมลอนยาวสีน้ำตาลอ่อนเดินจากไป

“แกจะต้องโชคร้ายนังพี่พีช มาดูถูกพิธีของฉัน โอม.....”

“หยุดเลย ยัยพริก แกแช่งฉันเป็นปีแล้วนะ เมื่อไหร่แกจะเลิกบ้าแม่มดหมอผีซะที แล้วนี่ อะไร ยังจะนั่งท่องคาถาติงต๊องต่ออยู่อีกเหรอ ลุกเดี๋ยวนี้นะ ไปซื้อของซะ เพราะฉันจะไม่เสียเวลานั่งแช่งแกคืน” ร่างบางที่เกิดเปลี่ยนใจหมุนตัวกลับมาดูน้องสาวแหวขึ้นก่อนจะคว้าตุ๊กตาบนหัวเตียงขว้างใส่เด็กสาวผู้สวมโค้ทสีดำที่นั่งสวดงึมงัมอยู่กลางห้องให้ลุกฮือขึ้นเพื่อหลบหลีก “ฉันจะทำเลย นี่ๆ”

“อ๊ายยยย พี่พีช อย่าขว้างน้องยุกยิกของเค้านะ”

“ก็ไปสิ เร็วๆ ดับเทียนเหม็นๆนั่นด้วยนะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องแม่ ว่าแกจะเผาบ้าน” แผดเสียงแหลมใส่ผู้เป็นน้องเป็นที่เรียบร้อยเธอก็หมุนตัวเดินกลับไปอีกรอบ ครั้งนี้เธอจากไปพร้อมปิดประตูห้องดังโครมทิ้งท้ายเสียด้วย


ฉันรีบเก็บ น้องยุกยิก ตุ๊กตาหมาน้อยสุดหวงของฉันขึ้นมา ลูบหัวก่อนจะวางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม หลังจากที่โดนนังพี่บ้าขว้างลงมานอนแอ้งแม้งกับพื้น

“ฉันจะแก้แค้นให้แกเองนะ ยุกยิก” ฉันว่าและรีบทรุดนั่งขัดสมาธิหน้าอ่างแก้วก่อนจะหยิบเทียนหอมขึ้นมาเพื่อสวดมนต์ดำสาปแช่งนังพี่ใจร้าย

“โอม....”

“ยัยพริก!!!!” เสียงนังปีศาจพีช ตวาดแทรกขึ้นมา ทำฉันสะดุ้งตัวโอน ทำเทียนหล่นลงไปในอ่างแก้ว

“โอ้ว.....นังปีศาจๆ ให้ตายเถอะ ยุกยิก เอาไว้ฉันจะฝึกเวทมนต์ให้แข็งแกร่งกว่านี้ แล้วฉันจะแก้แค้นให้นะ ตอนนี้แม่มดน้อยอย่างฉันยังสู้ฤทธิ์นังปีศาจไม่ไหว” ฉันเดินไปหยิบเงิน และกระดาษโน้ตเล็กๆ บนโต๊ะเครื่องแป้งของฉันขึ้นมาด้วยความจำใจ ทำไมฉันจะต้องเป็นคนไปซื้อของด้วยนะ นังพี่พีชบ้า ตัวเองอยู่บ้านเฉยๆ นั่งเล่นแต่คอมพิวเตอร์ทั้งวัน ทำไมไม่ไปฟระ ต้องมาเดือดร้อนฉันที่กำลังทำพิธียุ่งๆอยู่ให้ต้องผละออกไปซื้อของเนี๊ยะ แม่ก็ลำเอียง ใช้แต่ฉัน เห๊อะ...ลำเอียงขนาดไหนก็ดูชื่อสิ พี่ชื่อ พีช ฝรั่งจ๋าเชียว น้องชื่อ พริก โหยยยย.....อินเตอร์สุดๆ


เดินจากบ้านมาถึงตลาดใช้เวลา 10 นาที ด้วยตลาดอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่นัก ตลาดที่นี่เป็นตลาดสด และค่อนข้างใหญ่ ภายในสะอาด จัดเป็นสัดส่วน พื้นปูด้วยซีเมนต์ และไม่เปียกแฉะ ทำให้เดินเลือกดูของได้อย่างสบายใจ
ฉันก้มดูโน้ตที่แม่จดให้ พบแต่รายการผัก และผัก และผัก

“อะไรเนี๊ยะ!!!!” เผลออุทานลั่น ทำไมมีแต่ผักฟระ

“อ่านไม่ออกเหรอ พริก ให้ป้าอ่านให้ไหม อยู่ ป.6 แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังอ่านหนังสือไม่เป็นอีกละ มะๆ ป้าจะดูให้” ป้าแม่ค้าที่อยู่ใกล้ๆ ถามขึ้นพลางกวักมือเรียก

“ไม่ใช่นะป้า พริกอยู่ ม.5 แล้ว โธ่...เอาแครอท” ทำไมชอบมองว่าฉันเป็นเด็กประถมกันจังเนี๊ยะ...สูง 155 ดูยังไงก็เด็กมหาลัย อะโธ่......

“อูย...ทำไมโตเร็วจัง ดูเหมือนเมื่อวานจะยังวิ่งเล่นซ่อนหาอยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอ” คุณป้าแม่ค้าทัก มือก็หยิบแครอทชั่งกิโลก่อนจะใส่ถุง......เหอๆ เมื่อวานสมัยไหนแล้วละนั่น

“เอาแครอทสดๆนะป้า เอาที่น้องมายด์เขาแจกมาให้อะ” ฉันแซวเล่น ก่อนจะหยิบผักอื่นๆ เพิ่มอีก เพื่อให้ป้าแม่ค้าใส่ถุงให้

จ่ายเงินและรับผักพร้อมรอยยิ้มอวดฟันหลอของป้าแม่ค้าใจดีมา ก่อนจะเดินไปในตลาดต่อ เพื่อหา บล็อคโคลี่อีก 1 อย่างตามที่แม่เขียนไว้ในโน้ต

ด้วยมัวแต่มองสอดส่ายสายตามองหาผักที่เหลือจึงไม่ได้มองตรงไปข้างหน้า ทำให้ปะทะเข้ากับร่างของบุคคลที่ยืนอยู่เบื้องหน้าอย่างจัง

“ขอโทษค่า” ฉันกล่าวขอโทษ และเงยมองร่างสูงของผู้ชายที่ฉันเดินชน เขาสูงมาก และไม่รู้ว่าฉันจะสูงได้เท่าไหล่เขาไหม ผิวขาว ใบหน้าคมเกลี้ยงเกลาล้อมกรอบไปด้วยผมสีทองที่ตัดเป็นทรงยอดฮิตด้านบนสไลด์สั้นชี้ตรงและยาวไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงบริเวณท้ายทอยที่ผมไว้ยาวเกลี่ยลำคอ จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมสีน้ำผึ้งรับกับสีผมกำลังปรายตามองดุมาที่ฉัน

“เดินยังไง ให้ชนกับคนที่ยืนอยู่นิ่งๆ” ริมฝีปากได้รูปของคนตรงหน้ากำลังกล่าวว่าฉัน

“ก็เดินมาเรื่อยๆ” นายนั่นแหละ ยืนยังไงให้ฉันชน

“แล้วชนคนอื่นเขาได้ยังไงละ ระวังหน่อยสิ” เขาขึ้นเสียงเอ็ดฉัน...แค่นี้ก็ต้องดุด้วย.. ตอนโดนฉันชนตัวเองยังยืนนิ่งเป็นเสาไฟ แล้วจะมาเดือดร้อนอะไรเนี๊ยะ

“อะไรละ ก็ขอโทษแล้วไง แล้วนี่ นาย....เหยียบกระดาษโน้ตของฉัน” ฉันชี้มือลงไปที่เท้าของเขา

เขาก้มลงมองตามนิ้วที่ชี้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉัน และแสยะยิ้มให้ ใช่แล้ว เขาแสยะยิ้มให้ ยิ้มเจ้าเล่ห์จากใบหน้าหล่อเหลา ก่อนจะงัดนิสัยชั่วร้ายออกมาจากท่าทางดูดี ด้วยการใช้เท้าเขี่ยกระดาษโน้ต ผลักมาทางฉัน

“เก็บไปสิ ยัยเตี้ย!!!”

ฮ้า.........เตี้ย เตี้ย เตี้ย เตี้ย เสียงเอคโค่ จากไอ้ซาตานหัวฟักทองตรงหน้าดังกระหึ่มเซอราวด์ไปทั่วโสตประสาทของฉัน

หน๊อย...แก ไอ้หัวฟักทอง ดูถูกกันเกินไปแล้ว แกต่างหากละ ที่สูงแข่งกับเปรต แล้วมาว่าฉันเตี้ย อภัยให้ไม่ได้แล้ว

“ไอ้เปรต...แกมาว่าฉันทำไม คอยดูนะ มีเรื่องกับแม่มดแกจะต้องโชคร้าย” ฉันชี้หน้าด่าไอ้เปรตหัวฟักทองหน้าหล่อ ที่ยืนมองฉันด้วยสายตาดูถูก

“เตี้ยแล้วยังบ้าอีกเหรอ” อ๊ากกก....ไอ้หัวฟักทองมันว่าฉัน...แก..แก..แก

“สะ โล โก โย นะ รา ซิ โอ โม โม ฉิปหายๆ” ฉันร่ายมนต์และกำมือดีดนิ้วทั้ง 5 เพื่อสะบัดมนต์ดำใส่ไอ้หัวฟักทองที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงหน้า หึหึ....แกถูกมนต์ดำของฉันแล้ว ตะลึงตึงตึงไปเลยอะเดะ.....แกจะต้องโชคร้าย โทษฐานที่มาว่าฉันเตี้ย โดยไม่พิจารณาตัวเองว่าแกนั่นแหละสูงเกินไป

“ฮ่าๆ ทำอะไรหน่ะ ยัยเตี้ย โดนว่าแค่นี้ ประสาทรับประทานไปเลยเหรอ ไปศรีธัญญา หรือไม่ก็กลับบ้านไปหายาทานซะนะ ยัยบ้า ฮ่าๆ ประสาท”

“หึหึ....ปากดีไปเถอะ แกถูกเวทมนต์อภิมหาซวยแล้ว แกจะต้องโชคร้าย คอยดูนะ”

“ฮ่าๆๆ มนต์ดำเลยเหรอ ฮ่าๆๆ ประสาท เธอมันบ้าจริงๆด้วย” ไอ้หัวฟักทองยังคงหัวเราะไม่หยุด

“นี่! อย่ามาดูถูกเวทมนต์ของฉันนะ นายถูกฉันสาปแล้ว จะต้องเจอโชคร้าย โชคร้าย”

“ไหนละ โชคร้าย ยัยเตี้ย ไปบ้าห่างๆฉันเลยนะ เชื้อบ้าเธอเริ่มกระเด็นมาใกล้ฉันแล้ว” ไอ้หัวฟักทองทำท่าปัดเชื้อบ้าออกจากแขนเสื้ออย่างรังเกียจ

โฮ.........ไอ้คนชั่ว ว่าฉันเตี้ยไม่พอ ยังมาทำท่าราวกับว่าฉันเป็นตัวน่ารังเกียจอีก

“สะ โล โก โย นะ รา ซิ โอ โม โม ฉิปหายๆ” ฉันร่ายมนต์อีกรอบ ก่อนจะคว้าผักบุ้งกองโตที่แม่ค้ายังไม่ได้แบ่งออกมาขายเป็นมัดเล็กๆ อุ้มขึ้นมาและฟาดลงไปบนไหล่ไอ้เปรตฟักทอง

“โอ๊ย! อะไรเนี๊ยะ ยัยเตี้ย” ไอ้หัวฟักทองร้องโวยลั่น ผู้คนเริ่มแตกตื่นขึ้น แม่ค้าที่โดนฉันฉกผักบุ้งก็ร้องโวยขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้มีผลที่จะหยุดการกระทำของฉันได้

ฉันยังคงฟาดไอ้หัวฟักทองด้วยผักบุ้งไม่ยั้ง ก่อนจะคว้ามะเขือเทศสุกมาบีบให้เละคามือและปาใส่หัวไอ้หัวฟักทองโว้ว...ผมหัวฟักทองผสมมันบดนั้นถูกย้อมมะเขือเทศแล้ว ฮ่าๆ

“โอ๊ย...อ๊ากกกกกกกก ยัยบ้า เธอทำอะไรหน่ะ หยุดนะ ยัยเตี้ย”

มันเจ็บตัวขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังพ่นคำด่าฉันออกมาไม่หยุด พลางขยับเท้าเข้ามาหมายจะเอาเรื่องฉัน แต่ฉันก็อุ้มผักบุ้งกองโตขึ้นมาอีกครั้งฟาดมันใส่อกเขาและออกแรงผลักผักบุ้งกองโตกดไปกับอกเขาทำให้เขาล้มลง

“ป้าคะ เก็บตังที่ผู้ชายคนนี้เลยคะ เขาบอกว่า ขอซื้อผักบุ้งทั้งหมดที่กอดไว้นั่นแหละ อ่อ บนหัวนั่น เขาก็ขอซื้อหล่ะ" ฉันวิ่งออกมาพลางตะโกนร้องบอกป้าแม่ค้าเจ้าของผัก

“หยุดนะ ยัยบ้า ยัยตัวแสบ กลับมาเดี๋ยวนี้นะยัยเตี้ย!!!!!”

เสียงเอคโค่ว่า เตี้ย เตี้ย เตี้ย จากไอ้หัวฟักทองยังคงดังไล่ตามหลังเรียกฉันที่ใส่เกียร์หมาออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต


ในที่สุดฉันก็กลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย เห็นไหมละ มนต์ของฉัน เจ๋งขนาดไหน นี่แค่ร่ายไป 2 ครั้ง ไอ้หน้าหล่อหัวฟักทองนั่นยังโชคร้ายขนาดนี้ ถ้าฉันร่ายเพิ่มเข้าไปอีก ไอ้หัวฟักทองนั่นอาจถึงฆาตได้เชียวนะ ฮ่าๆ

“อะไร ยัยพริก มายืนยิ้มอยู่หน้าบ้าน แกนี่นับวันยิ่งเพี้ยนหนักไปเรื่อยๆแล้วนะ สมองมันหยุดพัฒนาตามความสูงใช่ไหม” พี่พีชที่เปิดประตูออกมาพบฉันเอ่ยทักขึ้น

“ทำไมปากคอเราะร้ายแบบนี้เนี๊ยะ พี่พีช แต่งตัวสวยแบบนี้จะออกไปเที่ยวนอกบ้านใช่ไหม ดีละ โอม....ซาฮารานา อิลลิน่า เกตา ซ๊วย ซ้วย ซวย ฮ่าๆ เที่ยวไม่หนุกแน่”

“หึหึ.....แกยังบ้า อยากเป็นแม่มดไม่หายอีกเหรอ แล้วผักที่แม่ให้ซื้อมา มีไหน”

“หา.....ผัก ผัก ผัก” ฉันเริ่มหันรีหันขวางเหลียวมองรอบตัว จริงด้วย ผักที่ฉันซื้อมา มันหายไปไหน ว๊ากกกก.... ฉันต้องเผลอขว้างมันใส่ไอ้หล่อนั่นไปพร้อมกับผักบุ้งกองโตแน่ๆเลย

“อะไรนะ.....มนต์เมื่อกี้นี้หน่ะ ร่ายใหม่อีกทีสิ” นังพี่พีชพูดเยาะ ก่อนจะหัวเราะรวนและเดินลิ่วออกนอกรั้วบ้านไป
ทิ้งให้ฉันยืนเหงื่อแตกซกอยู่หน้าบ้าน

“พริก มารึยังหน่ะ เร็วๆหน่อย แม่ตั้งหม้อไว้แล้วนะ” เสียงแม่เรียกดังมากจากในห้องครัว

“เชราดา มีนา บุ้งกี๋ นะ นะ เม ตะ ตา แคล้วคลาดๆ”






Create Date : 09 เมษายน 2549
Last Update : 9 เมษายน 2549 23:30:04 น. 0 comments
Counter : 257 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

ปลาเอ๋อ
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เหตุและผลของเวลา เปลี่ยนแปลงโลกให้เป็นไป..แล้วนับประสาอะไร...กับใจคน...
[Add ปลาเอ๋อ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com